Psych.
Topic 40 : Borderline Personality Disorder : F60.3
🧠 โรคบุคลิกภาพไม่แน่นอน (F60.3)
- “อารมณ์แปรปรวน — รักแรง เกลียดแรง กลัวถูกทิ้ง” โรคทางใจ ที่หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองเป็น...แต่ทรมานมาก
1️⃣
ความหมายของโรคนี้
- โรคบุคลิกภาพไม่แน่นอน (Borderline Personality Disorder: BPD) คือ ภาวะที่มีอารมณ์แปรปรวนรุนแรง กลัวถูกทอดทิ้ง ความสัมพันธ์ขึ้นๆ ลงๆ มักทำร้ายตัวเอง หรือคิดฆ่าตัวตาย
2️⃣
พยาธิสภาพ
- สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความเครียดทำงานผิดปกติ
- สมองหลั่งสารสื่อประสาท (เซโรโทนิน) ต่ำกว่าปกติ
3️⃣
มักเริ่มเป็นช่วงอายุ?
- เริ่มแสดงอาการชัดเจนช่วง วัยรุ่น - วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (อายุ 18-30 ปี)
- พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
4️⃣
ปัจจัยเสี่ยง
- ประสบการณ์วัยเด็กที่เจ็บปวด: ถูกทอดทิ้ง ละเลย ถูกทำร้าย
- พันธุกรรม: มีคนในครอบครัวป่วย
- ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ในครอบครัว
5️⃣
อาการที่พบบ่อย
- ⚡ อารมณ์เหวี่ยงง่าย โมโห เสียใจ รวดเร็ว
- ⚡ กลัวถูกทิ้งแบบรุนแรงแม้ไม่มีเหตุผล
- ⚡ ความสัมพันธ์เปลี่ยนเร็ว จาก “รักสุดใจ” เป็น “เกลียดสุดขีด”
- ⚡ รู้สึกว่างเปล่า ไม่มีค่า
- ⚡ ทำร้ายตัวเอง หรือคิดฆ่าตัวตายบ่อยๆ
6️⃣
แนวทางการรักษา
- 💊 ยาควบคุมอารมณ์ ลดซึมเศร้า ลดความกังวล
- 🗣️ จิตบำบัด (DBT) เพื่อฝึกจัดการอารมณ์และความคิด
- 🏥 พบแพทย์สม่ำเสมอ ป้องกันอาการรุนแรง
7️⃣
การพยาบาล
- 👂 รับฟังด้วยใจ ไม่ตัดสิน
- 🧘♀️ สอนเทคนิคผ่อนคลาย ลดอารมณ์รุนแรง
- 🩺 ประเมินความเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเอง
- 📌 ดูแลความปลอดภัยในทุกสถานการณ์
8️⃣
การดูแลสำหรับคนรอบข้าง
- ❤️ อย่าด่าว่า — ฟังด้วยใจ
- 🚫 อย่าทำให้รู้สึกถูกทอดทิ้ง
- 🌟 พูดให้กำลังใจ เตือนให้ไปพบแพทย์
- 🏡 สร้างความมั่นคงทางใจให้เขารู้ว่า “คุณไม่หายไปไหน”
……………………………………………………
✅ วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคบุคลิกภาพไม่แน่นอน
(F60.3)
- F60.3F1 เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย (Risk for Self-harm or Suicide)
- F60.3F2 มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายตนเองซ้ำๆ (Self-injury Behavior)
- F60.3F3 ควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้ เสี่ยงต่อความรุนแรงต่อผู้อื่นและตนเอง (Risk for Violence Related to Uncontrolled Anger)
- F60.3F4 มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลอย่างรุนแรงร่วมด้วย (Depressed Mood with Severe Anxiety)
- F60.3F5 แบบแผนการเผชิญปัญหาไม่เหมาะสม ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ (Ineffective Coping Related to Emotional Dysregulation)
- F60.3F6มีรูปแบบความสัมพันธ์กับผู้อื่นแบบไม่มั่นคง สลับระหว่างรักและเกลียดอย่างรวดเร็ว (Disturbed Personal Relationships Pattern)
- F60.3F7 รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ไม่มีความหมายในชีวิต (Chronic Low Self-esteem)
- F60.3F8 ขาดทักษะในการจัดการความเครียดและการควบคุมอารมณ์ (Deficient Emotional Regulation Skills)
- F60.3F9 ขาดความรู้เกี่ยวกับโรค การรักษา และการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง (Deficient Knowledge Regarding Illness, Treatment, and Self-care)
- F60.3F10 เสี่ยงต่อการขาดความต่อเนื่องในการรักษาหลังจำหน่าย (Risk for Non-adherence to Treatment After Discharge)
………………………….
F60.3F1 เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย
(Risk for Self-harm or Suicide)
🔍 Assessment (การประเมิน)
- ผู้ป่วยพูดว่า “อยากตาย”, “ไม่มีใครรัก”, “ไม่อยากอยู่แล้ว”
- แสดงความกลัวว่าจะถูกทอดทิ้ง ถูกปฏิเสธ
O:
- สีหน้าเศร้า ซึม ร้องไห้บ่อย
- มีรอยบาดแผลจากการกรีดแขนหรือทำร้ายตัวเอง
- เก็บตัว ไม่พูด ไม่ร่วมกิจกรรม
- พูดถึงแผนการทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย
- พฤติกรรมกระวนกระวาย เครียด วิตกกังวล
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยปลอดภัย ไม่ทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย
- สามารถบอกความรู้สึกและปัญหาอย่างสร้างสรรค์
- เรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์และลดความคิดทำร้ายตนเอง
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองตลอดระยะเวลาการดูแล
- บอกความรู้สึกและความต้องการได้อย่างเหมาะสม
- มีแผนจัดการอารมณ์และขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดความเครียด
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F1I-1: ประเมินความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองทุกวันและเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์
- F60.3F1I-2: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เก็บของมีคมหรือสิ่งที่อาจใช้ทำร้ายตนเอง
- F60.3F1I-3: ดูแลใกล้ชิดในช่วงที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ปล่อยให้อยู่ลำพัง
- F60.3F1I-4: สนับสนุนให้ระบายความรู้สึกโดยไม่มีการตัดสิน เช่น การพูดคุย เขียน ระบายสี
- F60.3F1I-5: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น หายใจช้าๆ การนั่งสมาธิ การนวดตนเอง
- F60.3F1I-6: ให้ความรู้เกี่ยวกับโรค ความคิดทำร้ายตนเองเป็นเพียงอารมณ์ชั่วคราว ไม่ถาวร
- F60.3F1I-7: กระตุ้นให้ผู้ป่วยระบุบุคคลที่ไว้ใจ เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือเจ้าหน้าที่ เพื่อขอความช่วยเหลือ
- F60.3F1I-8: ประสานทีมสหสาขาวิชาชีพ เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา เพื่อดูแลต่อเนื่อง
- F60.3F1I-9: วางแผนดูแลต่อเนื่องหลังจำหน่าย เช่น นัดพบแพทย์ นัดบำบัด
- F60.3F1I-10: ให้ข้อมูลเบอร์โทรฉุกเฉิน เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F1R-1: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองระหว่างอยู่ในความดูแล
- F60.3F1R-2: ผู้ป่วยสามารถบอกอารมณ์ ความรู้สึก และขอความช่วยเหลือได้
- F60.3F1R-3: ผู้ป่วยใช้วิธีผ่อนคลายและจัดการความเครียดแทนการทำร้ายตัวเอง
- F60.3F1R-4: ผู้ป่วยมีแผนดูแลตัวเองหลังจำหน่ายและรับรู้ถึงแหล่งช่วยเหลือ
…………………………………….
F60.3F2 มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายตนเองซ้ำๆ
(Self-injury Behavior)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “การกรีดแขนทำให้รู้สึกดีขึ้น”
- “รู้สึกเจ็บตัว ดีกว่าเจ็บในใจ”
- บ่นว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
O:
- มีรอยแผลที่แขน ขา หรือส่วนอื่นของร่างกาย
- พบเครื่องมือที่ใช้ทำร้ายตัวเอง เช่น มีด ใบมีด กรรไกร
- สีหน้าเศร้า ซึม เครียด กระวนกระวาย
- มีพฤติกรรมเก็บตัว หรือแยกตัวจากกลุ่ม
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยลดหรือหยุดพฤติกรรมทำร้ายร่างกายตนเอง
- แสดงออกทางอารมณ์ด้วยวิธีที่ปลอดภัยและเหมาะสม
- มีทักษะจัดการอารมณ์โดยไม่ต้องทำร้ายตนเอง
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายตนเองระหว่างการรักษา
- ผู้ป่วยบอกได้ถึงอารมณ์ที่กระตุ้นให้ทำร้ายตัวเอง
- เลือกใช้วิธีระบายอารมณ์เชิงบวกแทนพฤติกรรมทำร้ายตนเอง
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F2I-1: ประเมินสภาพร่างกาย รอยแผล หรืออาการบาดเจ็บทุกวัน
- F60.3F2I-2: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เก็บของมีคม หรือสิ่งที่เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง
- F60.3F2I-3: สังเกตพฤติกรรมและอารมณ์ที่นำไปสู่การทำร้ายตนเอง
- F60.3F2I-4: อยู่ใกล้ชิดในช่วงที่อารมณ์แปรปรวนหรือเสี่ยงสูง
- F60.3F2I-5: สอนทักษะจัดการอารมณ์ เช่น หายใจลึก การใช้ลูกบอลบีบมือ การวาดรูป หรือเขียนไดอารี่
- F60.3F2I-6: ส่งเสริมให้ระบุความรู้สึกและอธิบายความต้องการอย่างเปิดเผย
- F60.3F2I-7: กระตุ้นให้สร้างความสัมพันธ์กับคนที่ไว้ใจ เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือเจ้าหน้าที่
- F60.3F2I-8: ให้คำแนะนำในการเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน หรือกลุ่มบำบัดพฤติกรรม
- F60.3F2I-9: วางแผนต่อเนื่องหลังจำหน่าย เช่น นัดพบจิตแพทย์ นักจิตวิทยา
- F60.3F2I-10: ให้ข้อมูลช่องทางช่วยเหลือ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F2R-1: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองระหว่างอยู่ในการดูแล
- F60.3F2R-2: ผู้ป่วยสามารถอธิบายอารมณ์ ความเครียด หรือปัจจัยที่กระตุ้นพฤติกรรมได้
- F60.3F2R-3: ผู้ป่วยใช้วิธีจัดการอารมณ์อย่างปลอดภัย เช่น การระบายอารมณ์ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์
- F60.3F2R-4: ผู้ป่วยระบุบุคคลหรือแหล่งช่วยเหลือที่สามารถติดต่อได้เมื่อรู้สึกเครียด
- F60.3F2R-5: ผู้ป่วยร่วมมือในการวางแผนดูแลต่อเนื่องหลังจำหน่าย
…………………………………………
F60.3F3 — ควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้
เสี่ยงต่อความรุนแรงต่อผู้อื่นและตนเอง (Risk for Violence Related to
Uncontrolled Anger)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “โกรธง่ายมาก ควบคุมตัวเองไม่ได้”
- “อยากทำร้ายคนอื่น” หรือ “รู้สึกโมโหจนทนไม่ไหว”
- บ่นว่าถูกกระตุ้นง่ายจากคำพูดหรือพฤติกรรมของผู้อื่น
O:
- สีหน้าโกรธ เสียงดัง ตะโกน ดุด่า
- ทุบตี ขว้างปาสิ่งของ หรือทำร้ายสิ่งแวดล้อม
- กระวนกระวาย เดินไปมา กำมือแน่น
- มีประวัติทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นเมื่ออารมณ์รุนแรง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยไม่แสดงพฤติกรรมรุนแรงต่อผู้อื่นและตนเอง
- ผู้ป่วยสามารถรับรู้อารมณ์โกรธและใช้วิธีจัดการอย่างเหมาะสม
- ลดความถี่และความรุนแรงของการระเบิดอารมณ์
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมรุนแรงตลอดระยะเวลาการดูแล
- ผู้ป่วยแสดงออกอารมณ์โกรธด้วยวิธีที่ปลอดภัย
- ใช้ทักษะผ่อนคลายเมื่อตนเองเริ่มรู้สึกโกรธหรือถูกกระตุ้น
- มีแผนจัดการอารมณ์ที่ผู้ป่วยยอมรับและใช้ได้จริง
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F3I-1: ประเมินสัญญาณเตือนก่อนเกิดความรุนแรง เช่น เสียงดัง กำมือ เดินเร็ว
- F60.3F3I-2: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เก็บของแข็ง ของมีคม หรือสิ่งที่อาจใช้ทำร้าย
- F60.3F3I-3: ให้แยกผู้ป่วยออกจากสิ่งเร้าหรือสถานการณ์ที่กระตุ้นความโกรธ
- F60.3F3I-4: อยู่ดูแลใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการโต้เถียงหรือใช้น้ำเสียงข่ม
- F60.3F3I-5: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึกๆ การนับเลขถอยหลัง การกำมือและคลายมือ
- F60.3F3I-6: ชวนผู้ป่วยพูดถึงอารมณ์ของตนเองและเหตุการณ์ที่ทำให้โกรธ
- F60.3F3I-7: เสริมแรงเชิงบวกทุกครั้งที่ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ได้
- F60.3F3I-8: สอนผู้ป่วยเลือกวิธีจัดการความโกรธ เช่น เขียน ระบายสี เดินช้าๆ ฟังเพลง
- F60.3F3I-9: ประสานนักจิตวิทยา หรือกลุ่มบำบัดควบคุมอารมณ์ (Anger Management Group)
- F60.3F3I-10: วางแผนติดตามและให้ข้อมูลช่องทางช่วยเหลือ เช่น เบอร์สายด่วนสุขภาพจิต 1323
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F3R-1: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมรุนแรงต่อผู้อื่นและตนเองระหว่างการดูแล
- F60.3F3R-2: ผู้ป่วยสามารถระบุสัญญาณเตือนเมื่อเริ่มรู้สึกโกรธได้
- F60.3F3R-3: ผู้ป่วยเลือกใช้วิธีผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก หรือเดินออกจากสถานการณ์แทนการระเบิดอารมณ์
- F60.3F3R-4: ความถี่และความรุนแรงของอารมณ์โกรธลดลงอย่างชัดเจน
- F60.3F3R-5: ผู้ป่วยร่วมมือกับแผนการดูแลต่อเนื่องหลังจำหน่าย
…………………………………………………
F60.3F4 — มีภาวะซึมเศร้า
วิตกกังวลอย่างรุนแรงร่วมด้วย (Depressed Mood with Severe Anxiety)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “เครียดมาก… เหนื่อย ไม่อยากมีชีวิต”
- “รู้สึกไร้ค่า ไม่มีความหวัง”
- บ่นว่าคิดมาก วิตกกังวลกับทุกเรื่อง
O:
- สีหน้าเศร้า ซึม น้ำตาคลอ ร้องไห้บ่อย
- พูดช้า ตอบช้า หรือเงียบ ไม่พูด
- กระสับกระส่าย นั่งไม่ติด วิตกกังวลตลอดเวลา
- นอนหลับยาก เบื่ออาหาร หรือรับประทานมากผิดปกติ
- ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ลดระดับความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้า
- ผู้ป่วยสามารถจัดการความคิดและอารมณ์ได้ดีขึ้น
- กลับมามีกิจวัตรปกติ เช่น รับประทานอาหาร นอนหลับ และทำกิจกรรม
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานว่าระดับความวิตกกังวลและซึมเศร้าลดลง
- มีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือพูดคุยกับผู้อื่น
- พฤติกรรมการนอนหลับและรับประทานอาหารดีขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีจัดการความเครียดได้
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F4I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าอย่างสม่ำเสมอ (เช้า-เย็น หรือเมื่อมีอาการเปลี่ยนแปลง)
- F60.3F4I-2: ดูแลสภาพแวดล้อมให้เงียบ สงบ ลดสิ่งเร้า ลดความตึงเครียด
- F60.3F4I-3: รับฟังอย่างตั้งใจโดยไม่ตัดสิน เปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึก
- F60.3F4I-4: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น หายใจช้าๆ การนับเลข การวาดภาพ การฟังเพลงผ่อนคลาย
- F60.3F4I-5: ส่งเสริมให้ร่วมทำกิจกรรมเบาๆ เช่น เดินเล่น จัดดอกไม้ วาดรูป
- F60.3F4I-6: ช่วยจัดกิจวัตรประจำวันที่เหมาะสม เช่น เวลาตื่น เวลานอน และเวลารับประทานอาหาร
- F60.3F4I-7: สนับสนุนให้สื่อสารกับครอบครัว หรือผู้ที่ไว้ใจ เพื่อแบ่งปันความรู้สึก
- F60.3F4I-8: ประสานนักจิตวิทยา หรือกลุ่มสนับสนุนในการให้คำปรึกษาเพิ่มเติม
- F60.3F4I-9: ติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง และประเมินความเสี่ยงซ้ำ
- F60.3F4I-10: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางช่วยเหลือ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F4R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าลดลง
- F60.3F4R-2: ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคผ่อนคลายเมื่อรู้สึกเครียดหรือเศร้า
- F60.3F4R-3: มีพฤติกรรมทางสังคมเพิ่มขึ้น เช่น พูดคุย เข้าร่วมกิจกรรม
- F60.3F4R-4: การนอนหลับและการรับประทานอาหารกลับสู่ภาวะปกติ
- F60.3F4R-5: ผู้ป่วยมีแผนดูแลตนเองและพร้อมติดตามการรักษาต่อเนื่องหลังจำหน่าย
………………………………………………
F60.3F5 — แบบแผนการเผชิญปัญหาไม่เหมาะสม
ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ (Ineffective Coping Related to Emotional
Dysregulation)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “เวลามีปัญหาไม่รู้จะทำยังไง นอกจากร้องไห้หรือทำร้ายตัวเอง”
- “หนีปัญหา ไม่อยากเผชิญหน้า”
- บ่นว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ รู้สึกหงุดหงิด โกรธง่าย
O:
- แสดงพฤติกรรมหนีปัญหา เช่น เก็บตัว แยกตัว
- มีพฤติกรรมระบายอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น กรีดแขน ตะโกน ทุบตีสิ่งของ
- กระวนกระวาย เครียด วิตกกังวล
- ปฏิเสธการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมหรือปฏิเสธการช่วยเหลือ
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์และปัญหาอย่างเหมาะสม
- ลดการใช้วิธีเผชิญปัญหาที่ไม่เหมาะสม เช่น การทำร้ายตัวเองหรือหลีกเลี่ยง
- ผู้ป่วยสามารถรับมือกับความเครียดหรือความขัดแย้งได้ดีขึ้น
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยลดหรือเลิกพฤติกรรมจัดการปัญหาที่ไม่เหมาะสม
- สามารถระบุปัญหาและเลือกวิธีแก้ไขอย่างเหมาะสม
- แสดงออกทางอารมณ์ในเชิงบวกมากขึ้น
- เข้าร่วมกิจกรรมหรือยอมรับความช่วยเหลือจากผู้อื่น
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F5I-1: ประเมินพฤติกรรมการเผชิญปัญหาในอดีตและปัจจุบันอย่างละเอียด
- F60.3F5I-2: เฝ้าระวังสัญญาณความเครียดสูงและพฤติกรรมระบายอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม
- F60.3F5I-3: สอนเทคนิคจัดการอารมณ์ เช่น หายใจลึก นับเลข ถอยห่างจากสถานการณ์
- F60.3F5I-4: ช่วยให้ผู้ป่วยระบุความรู้สึก เช่น รู้ว่า “กำลังโกรธ”, “กำลังเศร้า” เพื่อจัดการได้ทัน
- F60.3F5I-5: ช่วยสร้างกิจวัตรประจำวันที่ช่วยลดความเครียด เช่น เดินเล่น ฟังเพลง วาดรูป
- F60.3F5I-6: ฝึกให้ลองใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่น ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ก่อน
- F60.3F5I-7: กระตุ้นให้พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ เช่น ครอบครัว หรือเจ้าหน้าที่
- F60.3F5I-8: เชื่อมโยงเข้ากลุ่มบำบัดพฤติกรรมหรือกลุ่มสนับสนุน (DBT Group, Anger Management)
- F60.3F5I-9: วางแผนติดตามประเมินพฤติกรรมการเผชิญปัญหาอย่างสม่ำเสมอ
- F60.3F5I-10: ให้ข้อมูลแหล่งช่วยเหลือและสายด่วนสุขภาพจิต 1323 สำหรับขอคำปรึกษาเมื่อมีความเครียด
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F5R-1: ผู้ป่วยลดหรือเลิกใช้พฤติกรรมเผชิญปัญหาที่ไม่เหมาะสม
- F60.3F5R-2: ผู้ป่วยสามารถบอกความรู้สึกของตัวเองและระบุปัญหาที่เผชิญได้
- F60.3F5R-3: ผู้ป่วยเลือกใช้ทักษะการผ่อนคลายหรือแก้ปัญหาที่เหมาะสมแทน
- F60.3F5R-4: ผู้ป่วยมีความมั่นใจและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียดในอนาคต
- F60.3F5R-5: ผู้ป่วยร่วมมือกับแผนดูแลต่อเนื่อง และเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือทางสังคม
……………………………………………………
F60.3F6 — มีรูปแบบความสัมพันธ์กับผู้อื่นแบบไม่มั่นคง
สลับระหว่างรักและเกลียดอย่างรวดเร็ว (Disturbed Personal Relationships
Pattern)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “บางทีก็รักมาก แต่บางทีก็เกลียดมาก”
- “กลัวถูกทอดทิ้ง แต่ก็โกรธเวลารู้สึกไม่สำคัญ”
- บ่นว่าความสัมพันธ์กับคนรอบข้างทำให้เครียด
O:
- มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงความรู้สึกต่อบุคคลเดียวกันรวดเร็ว เช่น จากสนิทเป็นเกลียด
- โต้เถียง ตำหนิ หรือโกรธคนใกล้ชิดบ่อยครั้ง
- แสดงความยึดติดหรือเรียกร้องความสนใจเกินปกติ
- เก็บตัว แยกตัว เมื่อรู้สึกผิดหวังในความสัมพันธ์
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยตระหนักถึงรูปแบบความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงของตนเอง
- พัฒนาความสามารถในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่มั่นคง
- ลดพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอารมณ์ต่อคนรอบข้างอย่างรวดเร็ว
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความต้องการและความรู้สึกอย่างเหมาะสม
- ความถี่ของพฤติกรรมรัก-เกลียดลดลงอย่างชัดเจน
- ผู้ป่วยแสดงความสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วยความเข้าใจและมั่นคงมากขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถจัดการความกลัวการถูกทอดทิ้งได้ดีขึ้น
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F6I-1: ประเมินรูปแบบความสัมพันธ์ในอดีตและปัจจุบันของผู้ป่วยอย่างละเอียด
- F60.3F6I-2: สังเกตสัญญาณความโกรธ การตำหนิ หรือพฤติกรรมเรียกร้องที่รุนแรง
- F60.3F6I-3: ฝึกให้ผู้ป่วยระบุความรู้สึก เช่น “รู้สึกโดดเดี่ยว” แทนการแสดงออกด้วยความโกรธ
- F60.3F6I-4: สอนทักษะการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ เช่น ใช้ “ฉันรู้สึก...” แทน “คุณทำให้...”
- F60.3F6I-5: อธิบายเรื่องวงจรความรัก-ความเกลียดใน BPD เพื่อให้ผู้ป่วยตระหนักและเข้าใจ
- F60.3F6I-6: สนับสนุนให้มองความสัมพันธ์ในมุมกลาง ไม่ใช่สุดโต่งแค่ดีหรือแย่
- F60.3F6I-7: กระตุ้นให้สร้างความสัมพันธ์กับบุคคลที่ไว้ใจ เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือเจ้าหน้าที่
- F60.3F6I-8: ประสานให้เข้าร่วมกลุ่มบำบัดด้านความสัมพันธ์ (Interpersonal Skills Group)
- F60.3F6I-9: ประเมินความคืบหน้าในการปรับรูปแบบความสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ
- F60.3F6I-10: ให้ข้อมูลแหล่งช่วยเหลือ เช่น นักจิตวิทยา กลุ่มสนับสนุน หรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F6R-1: ผู้ป่วยลดพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอารมณ์ต่อคนรอบข้างอย่างรวดเร็ว
- F60.3F6R-2: ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความรู้สึกและความต้องการได้อย่างเหมาะสม
- F60.3F6R-3: ผู้ป่วยมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น
- F60.3F6R-4: ผู้ป่วยเข้าใจวงจรความสัมพันธ์ใน BPD และสามารถจัดการได้
- F60.3F6R-5: ผู้ป่วยร่วมมือในแผนดูแลต่อเนื่องและพัฒนาเครือข่ายสนับสนุนทางสังคม
…………………………………………………….
F60.3F7 — รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
ไม่มีความหมายในชีวิต (Chronic Low Self-esteem)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “ฉันไม่มีค่าเลย”
- “ไม่มีใครต้องการฉัน” หรือ “ชีวิตฉันไม่มีความหมาย”
- บ่นว่ารู้สึกผิด เสียใจ ผิดหวังในตัวเองตลอดเวลา
O:
- สีหน้าเศร้า ร้องไห้ ซึม ไม่มองตา
- พูดตำหนิตัวเองซ้ำๆ หรือปฏิเสธคำชม
- ปลีกตัว แยกตัว ไม่อยากร่วมกิจกรรม
- แสดงพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือพูดถึงการทำร้ายตัวเอง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยตระหนักถึงคุณค่าในตัวเองมากขึ้น
- ลดความคิดด้านลบต่อตนเอง
- พัฒนาความมั่นใจและเห็นคุณค่าในความสามารถของตน
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยลดการพูดตำหนิตัวเองหรือคิดว่าตัวเองไร้ค่า
- แสดงออกถึงความภูมิใจในตนเอง หรือยอมรับข้อดีของตน
- มีส่วนร่วมในกิจกรรม และเปิดรับคำชมเชย
- มีทัศนคติเชิงบวกต่อตนเองและอนาคตมากขึ้น
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F7I-1: ประเมินความถี่และความรุนแรงของความคิดว่าตนเองไร้ค่า
- F60.3F7I-2: เฝ้าระวังความคิดทำร้ายตัวเองหรือความคิดฆ่าตัวตายร่วมด้วย
- F60.3F7I-3: เน้นการรับฟังและสะท้อนคุณค่าที่ผู้ป่วยอาจมองไม่เห็นในตนเอง
- F60.3F7I-4: ให้ข้อเสนอแนะเชิงบวกเมื่อผู้ป่วยทำสิ่งที่ดีหรือประสบความสำเร็จเล็กๆ
- F60.3F7I-5: ฝึกผู้ป่วยเขียน “ข้อดีของตัวเอง” หรือ “สิ่งที่ทำได้ดีในแต่ละวัน”
- F60.3F7I-6: สอนเทคนิคเปลี่ยนความคิดลบเป็นความคิดสร้างสรรค์ เช่น การตั้งคำถามกับความคิดลบ
- F60.3F7I-7: สนับสนุนให้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลที่ไว้ใจ หรือเข้ากลุ่มสนับสนุน
- F60.3F7I-8: เชื่อมโยงกับนักจิตวิทยา กลุ่ม CBT หรือ DBT เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น
- F60.3F7I-9: ประเมินและติดตามความเปลี่ยนแปลงด้านความคิดและความรู้สึกต่อเนื่อง
- F60.3F7I-10: ให้ข้อมูลแหล่งช่วยเหลือ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือบริการให้คำปรึกษา
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F7R-1: ผู้ป่วยลดความถี่ของการพูดตำหนิตนเองหรือความคิดด้านลบ
- F60.3F7R-2: ผู้ป่วยสามารถระบุข้อดีของตนเองอย่างน้อย 2-3 ข้อ
- F60.3F7R-3: แสดงความพึงพอใจหรือยอมรับในความสามารถของตนบางด้าน
- F60.3F7R-4: ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมหรือปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น
- F60.3F7R-5: มีความคิดเชิงบวกต่ออนาคตและมีแผนดูแลตนเองต่อเนื่อง
……………………………………………………………..
F60.3F8 — ขาดทักษะในการจัดการความเครียดและการควบคุมอารมณ์
(Deficient Emotional Regulation Skills)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “ฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย”
- “เวลาเครียดจะระเบิดง่าย รู้สึกหมดหนทาง”
- บอกว่าไม่รู้วิธีจัดการกับความโกรธหรือความวิตกกังวล
O:
- มีอาการโกรธหรือตกใจง่ายกะทันหัน
- แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือถอนตัวเมื่อเครียด
- สังเกตการเปลี่ยนแปลงอารมณ์รวดเร็วและรุนแรง
- มีพฤติกรรมระบายอารมณ์ไม่เหมาะสม เช่น ตะโกน ทำร้ายสิ่งของ
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมและจัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น
- ลดพฤติกรรมตอบสนองทางอารมณ์ที่รุนแรงหรือไม่เหมาะสม
- เสริมสร้างทักษะการผ่อนคลายและรับมือกับความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการระบุและจัดการอารมณ์ตนเอง
- ลดพฤติกรรมตอบสนองทางอารมณ์ที่รุนแรง เช่น โกรธหรือหงุดหงิดมาก
- มีวิธีผ่อนคลายที่เหมาะสมเมื่อต้องเผชิญความเครียด
- ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมตอบสนองเชิงบวกในสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F8I-1: ประเมินความสามารถในการควบคุมอารมณ์และการตอบสนองต่อความเครียดของผู้ป่วยสม่ำเสมอ
- F60.3F8I-2: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก การนั่งสมาธิ หรือการฝึกกล้ามเนื้อผ่อนคลาย
- F60.3F8I-3: ฝึกให้ผู้ป่วยรับรู้และระบุอารมณ์ของตนเอง (Emotional Awareness)
- F60.3F8I-4: สอนทักษะจัดการความโกรธและความวิตกกังวล เช่น การนับเลข การถอยห่างจากสถานการณ์
- F60.3F8I-5: สนับสนุนให้ใช้การสื่อสารเชิงบวกและสร้างสรรค์แทนการตอบโต้ด้วยความรุนแรง
- F60.3F8I-6: ส่งเสริมกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง เดินเล่น หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ
- F60.3F8I-7: ประสานงานนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อฝึกอบรมทักษะควบคุมอารมณ์ (เช่น DBT)
- F60.3F8I-8: สร้างแผนจัดการความเครียดส่วนบุคคลร่วมกับผู้ป่วยและครอบครัว
- F60.3F8I-9: สังเกตและรายงานพฤติกรรมเสี่ยงหรือความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
- F60.3F8I-10: ให้ข้อมูลสายด่วนสุขภาพจิตและช่องทางขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F8R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นเมื่อเผชิญสถานการณ์ตึงเครียด
- F60.3F8R-2: ผู้ป่วยใช้เทคนิคผ่อนคลายหรือจัดการความเครียดได้อย่างเหมาะสม
- F60.3F8R-3: ลดพฤติกรรมตอบสนองรุนแรง เช่น การตะโกน หรือทำร้ายสิ่งของ
- F60.3F8R-4: มีการสื่อสารเชิงบวกมากขึ้นในความสัมพันธ์กับผู้อื่น
- F60.3F8R-5: ผู้ป่วยพร้อมรับการรักษาต่อเนื่องและพัฒนาทักษะควบคุมอารมณ์เพิ่มเติม
…………………………………………………………….
F60.3F9 — ขาดความรู้เกี่ยวกับโรค
การรักษา และการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง (Deficient Knowledge Regarding
Illness, Treatment, and Self-care)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่เข้าใจโรคนี้เลย”
- “ไม่รู้ว่าจะดูแลตัวเองยังไง”
- สับสนเกี่ยวกับยาและการรักษา
O:
- ขาดการเข้าร่วมกิจกรรมหรือการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- พฤติกรรมไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์
- มีคำถามหรือความกังวลเกี่ยวกับโรคและการรักษา
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยเข้าใจลักษณะโรคและผลกระทบของโรคได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยรับรู้ความสำคัญของการรักษาและดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษาและคำแนะนำของทีมสุขภา
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายโรคและการรักษาได้อย่างถูกต้อง
- มีการใช้ยาหรือเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำ
- ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจในการจัดการอาการและดูแลตนเอง
- ผู้ป่วยสอบถามข้อมูลและแสดงความสนใจในการเรียนรู้เพิ่มเติม
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F9I-1: ประเมินระดับความรู้เกี่ยวกับโรค การรักษา และการดูแลตนเองของผู้ป่วย
- F60.3F9I-2: ให้ข้อมูลง่าย ๆ และชัดเจนเกี่ยวกับโรค BPD และผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
- F60.3F9I-3: อธิบายวิธีการใช้ยาและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
- F60.3F9I-4: สอนเทคนิคการดูแลตนเอง เช่น การจัดการอารมณ์ และวิธีลดความเครียด
- F60.3F9I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยจดบันทึกคำถามหรือข้อสงสัยสำหรับพบแพทย์หรือพยาบาล
- F60.3F9I-6: จัดทำสื่อการสอนที่เข้าใจง่าย เช่น ใบความรู้ หรือวิดีโอสั้น
- F60.3F9I-7: กระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือกิจกรรมเสริมความรู้
- F60.3F9I-8: ติดตามและทบทวนความเข้าใจของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- F60.3F9I-9: ให้ข้อมูลช่องทางติดต่อสายด่วนสุขภาพจิตและบริการสนับสนุนต่าง ๆ
- F60.3F9I-10: ประสานงานกับครอบครัวเพื่อช่วยสนับสนุนการเรียนรู้และดูแลผู้ป่วย
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F9R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายโรคและการรักษาได้อย่างถูกต้อง
- F60.3F9R-2: ผู้ป่วยแสดงความสนใจและความเข้าใจในการดูแลตนเองมากขึ้น
- F60.3F9R-3: ปฏิบัติตามคำแนะนำและแผนการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- F60.3F9R-4: ผู้ป่วยสามารถตั้งคำถามและสื่อสารกับทีมสุขภาพได้ดีขึ้น
- F60.3F9R-5: ครอบครัวและผู้ดูแลให้ความร่วมมือในการสนับสนุนผู้ป่วย
………………………………………………………
F60.3F10 — เสี่ยงต่อการขาดความต่อเนื่องในการรักษาหลังจำหน่าย
(Risk for Non-adherence to Treatment After Discharge)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “ฉันอาจจะหยุดยา หรือเลิกพบหมอหลังออกจากโรงพยาบาล”
- “เหนื่อยหรือไม่มั่นใจว่าจะทำตามคำแนะนำได้”
- กังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายหรือการเดินทาง
O:
- ขาดการนัดหมายติดตามผลหลังจำหน่าย
- ประวัติหยุดยา หรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์
- มีปัญหาด้านการสื่อสารกับทีมสุขภาพ
- สภาพแวดล้อมครอบครัวหรือสังคมที่ไม่สนับสนุน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษาหลังจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
- ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการกำเริบหรือกลับเป็นซ้ำ
- ผู้ป่วยและครอบครัวรับรู้ความสำคัญของการรักษาต่อเนื่อง
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายติดตามผลตามแผน
- รับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลสนับสนุนการดูแลหลังจำหน่าย
- ผู้ป่วยรายงานความพึงพอใจและความเข้าใจในแผนการรักษา
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.3F10I-1: ประเมินความเข้าใจและความตั้งใจในการปฏิบัติตามแผนการรักษาหลังจำหน่าย
- F60.3F10I-2: อธิบายความสำคัญของการรักษาต่อเนื่องและผลเสียของการหยุดยาเอง
- F60.3F10I-3: จัดทำตารางนัดหมายติดตามผลและแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ผู้ป่วยและครอบครัว
- F60.3F10I-4: สอนการจัดการยาอย่างถูกต้องและเตรียมอุปกรณ์ช่วยจำ เช่น กล่องยา
- F60.3F10I-5: ประสานงานกับหน่วยบริการชุมชนหรือผู้ดูแลเพื่อสนับสนุนผู้ป่วย
- F60.3F10I-6: แนะนำช่องทางติดต่อทีมสุขภาพกรณีเกิดปัญหาหรืออาการกำเริบ
- F60.3F10I-7: ให้ข้อมูลสายด่วนสุขภาพจิตและบริการสนับสนุนเพิ่มเติม
- F60.3F10I-8: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการดูแลหลังจำหน่าย
- F60.3F10I-9: ติดตามและประเมินการปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- F60.3F10I-10: กระตุ้นให้ผู้ป่วยพูดคุยและแจ้งปัญหาที่พบระหว่างการรักษา
💚 Response (การตอบสนอง)
- F60.3F10R-1: ผู้ป่วยนัดหมายติดตามผลตามแผนอย่างสม่ำเสมอ
- F60.3F10R-2: ผู้ป่วยรับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง
- F60.3F10R-3: ครอบครัวและผู้ดูแลให้ความร่วมมือในการสนับสนุนผู้ป่วย
- F60.3F10R-4: ผู้ป่วยแจ้งอาการหรือปัญหาได้ทันท่วงที
- F60.3F10R-5: ลดอัตราการกลับเป็นซ้ำหรืออาการกำเริบหลังจำหน่าย
……………………………………………………….
เอกสารอ้างอิง
- สุขุม ล้อมเศรษฐ์, และคณะ. (2563).คู่มือการดูแลผู้ป่วยโรคบุคลิกภาพไม่แน่นอน.กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลศิริราช.(คู่มือครอบคลุมการประเมินและการดูแลพยาบาล BPD สำหรับพยาบาลและบุคลากรสุขภาพ)
- พญ.นันทกา สุวรรณสมบัติ. (2562).การดูแลผู้ป่วยโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบไม่แน่นอน.วารสารพยาบาลวิชาการ, 34(2), 25-35.(บทความวิชาการที่อธิบายการวินิจฉัยและกระบวนการพยาบาลอย่างละเอียด)
- American Psychiatric Association. (2013).Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders (5th ed.) — DSM-5.
- Washington, DC: American Psychiatric Publishing.(Standard reference for diagnosis and classification of borderline personality disorder globally.)
- Linehan, M. M. (1993).Cognitive-Behavioral Treatment of Borderline Personality Disorder.New York: Guilford Press.
- (คลาสสิกงานวิจัยและแนวทางการรักษาโดยใช้ Dialectical Behavior Therapy (DBT) ซึ่งใช้แพร่หลายทั่วโลก)
………………………………………………..