Psych.
Topic 37 : Narcissistic Personality Disorder : F60.8
โรคหลงตัวเองไม่ใช่ปัญหาทางจิตเล็กๆ
แต่เป็นความผิดปกติของบุคลิกภาพที่ส่งผลกระทบจนต้องได้รับการดูแลด้วย จิตบำบัด และ
การสนับสนุนจากคนรอบข้าง เพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์ในสังคม
พยาธิสภาพ
/ ส่วนใหญ่เป็นช่วงอายุเท่าไร
- โรคหลงตัวเองเป็นความผิดปกติของบุคลิกภาพ ทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกยิ่งใหญ่ มีความต้องการความชื่นชมอย่างต่อเนื่อง และขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- เริ่มเห็นอาการชัดเจนใน วัยรุ่นตอนปลาย – วัยผู้ใหญ่ตอนต้น
อาการ
- คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่ เหนือกว่าคนอื่น
- ต้องการคำชมย้ำๆ ไม่ชอบถูกวิจารณ์
- ขาดความสามารถเข้าใจหรือเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- ใช้คนอื่นเพื่อประโยชน์ตัวเอง
- รู้สึกอิจฉาคนอื่น หรือเชื่อว่าคนอื่นก็อิจฉาตนเอง
- มีท่าทีหยิ่ง หรือตัดสินคนอื่นต่ำลง
ปัจจัยที่ทำให้เกิด
- พันธุกรรม: คนในครอบครัวที่มีบุคลิกภาพผิดปกติมีแนวโน้มมากขึ้น
- การเลี้ยงดูในวัยเด็ก:
- ถูกยกย่องเกินจริง หรือ
- ถูกละเลยจนขาดการเอาใจใส่จากพ่อแม่
- สภาพแวดล้อมทางสังคม: วัฒนธรรมที่เน้นการแข่งขัน ความสำเร็จ และสถานะทางสังคม
การรักษา
✔️ จิตบำบัดระยะยาว เช่น:
- จิตบำบัดเชิงลึก (psychodynamic)
- จิตบำบัดพฤติกรรม (CBT) เพื่อช่วยเสริมความเห็นอกเห็นใจและควบคุมพฤติกรรม
✔️ ยา: ไม่มียารักษาเฉพาะ NPD
แต่อาจใช้กับอาการร่วม เช่น ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล
✔️ บำบัดกลุ่ม/ครอบครัว: ช่วยให้ผู้ป่วยฝึกเข้าสังคมและรับมุมมองจากผู้อื่นได้ดีขึ้น
การพยาบาล
- มาตั้งขอบเขต (boundary) ให้ชัดเจนและยืดหยุ่น
- ใช้ ภาษาเชิงร่วมตัว เช่น “เราเห็นว่าคุณ…” แทนการใช้น้ำเสียงตำหนิ
- ให้กำลังใจในการเข้ารับการรักษา และอธิบายประโยชน์ของการรักษาทางจิต
- สังเกต อารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เช่น รายนามหงุดหงิด ความเครียดสูง
- ประสานเข้ากับนักจิตบำบัด เพื่อเสริมแนวทางการดูแลอย่างเป็นองค์รวม
การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป
- หลีกเลี่ยงการโต้เถียงพาตัวเข้าไปในอารมณ์
- พูดด้วยความเคารพ ใช้คำว่า “ฉันรู้สึก…” แทนการตัดสิน
- ตั้งขอบเขตในความสัมพันธ์อย่างเหมาะสม
- ส่งเสริมให้ ค้นหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เมื่อเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
- ดูแลอารมณ์ตัวเองให้ดี ไม่ละเลยความรู้สึกของตนเอง
……………………………..
🧠 คำคมเปิดคลิป Reels
🧩“หลงตัวเองไม่ได้แปลว่ามั่นใจ...
อาจเป็นสัญญาณของความว่างเปล่าภายใน”
⚡“รู้จักโรคหลงตัวเอง... กว่าที่คิด”
อ่านลงลึกทางกาพยาบาลได้:
#โรคหลงตัวเอง
#Narcissist #สุขภาพจิต #จิตเวช #เข้าใจตัวเอง #Reelsไทย #แชร์ต่อ
#คลิปสั้น #ตระหนักรู้ #เข้าใจจิตใจ
…………………………
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
- F60.8F1 ขาดความสามารถในการเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (Impaired empathy)
- F60.8F2 ความต้องการคำชื่นชมสูง (Risk for low self‑esteem related to need for excessive admiration)
- F60.8F3 พฤติกรรมเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Ineffective interpersonal relationship)
- F60.8F4 อาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้าแฝง (Anxiety or depressive mood related)
- F60.8F5 พฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อถูกคัดค้าน (Risk for aggression or hostility)
- F60.8F6 การสื่อสารไม่ตรงประเด็นหรือประณีต (Ineffective communication)
- F60.8F7 ยึดติดอัตลักษณ์เกินจริง (Risk for identity disturbance)
- F60.8F8 ความไม่สม่ำเสมอในการรับบริการทางจิต (Non‑adherence to treatment)
- F60.8F9 เสี่ยงต่อภาวะสุขภาพจิตแทรกซ้อน (Risk for complicated mental health condition)
- F60.8F10 ความต้องการแผนจำหน่ายและติดตาม (Readiness for discharge planning)
………………………………………….
📝 การวางแผนดูแลพยาบาล F60.8F1: ขาดความสามารถในการเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (Impaired empathy)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยระบุว่า “ไม่เข้าใจว่าคนรอบข้างรู้สึกอย่างไร”
O:
- พฤติกรรมพูดข่มผู้อื่น หรือไม่แสดงความสนใจเมื่อผู้อื่นแสดงอารมณ์
- ไม่มีการสะท้อนกลับของประสบการณ์ทางอารมณ์ของผู้อื่น
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะสามารถสะท้อนความรู้สึกของผู้อื่นอย่างแม่นยำและสุภาพภายใน 2 สัปดาห์
- มีท่าทีเห็นใจ และตอบสนองต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสมในสถานการณ์จำลอง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ตรวจสอบผู้ป่วยสามารถระบุอารมณ์ผู้อื่นใน 3/5 กรณีจำลอง
- พยาบาลประเมินท่าทีเห็นอกเห็นใจจากบทสนทนาจริง ≥ 4/5 ครั้ง
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F1I-1: สอนเทคนิค “active listening” เช่น พยุงคำพูดกลับ เช่น “คุณรู้สึกว่าถูกมองข้ามใช่ไหม?”
- F60.8F1I-2: ใช้ role‑play สลับบทบาทแสดงอารมณ์ผู้อื่น เพื่อให้ผู้ป่วยฝึกให้ข้อคิดเห็นเชิงเห็นใจ
- F60.8F1I-3: ให้ตอบคำถามเปิดท้าย เช่น “คุณคิดว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรเมื่อได้ยินสิ่งนี้?”
- F60.8F1I-4: ให้ส่งเสริมเชิงชมเมื่อแสดงพฤติกรรมเข้าใจผู้อื่น เช่น “คุณฟังเข้าใจดีค่ะ”
- F60.8F1I-5: สร้างตารางสะท้อนอารมณ์ผู้อื่น (Emotion reflection log) ให้ผู้ป่วยบันทึกหลังมีการสนทนา
- F60.8F1I-6: ประสานนักจิตบำบัดจัดเซสชันกลุ่มเพื่อฝึกฝน empathy ร่วมกับเพื่อนร่วมกลุ่ม
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F1R-1: ผู้ป่วยสามารถสะท้อนความรู้สึกผู้อื่นได้แม่นยำ ≥ 3/5 ครั้ง
- F60.8F1R-2: แสดงพฤติกรรมสนับสนุนหรือให้กำลังใจต่อผู้อื่นอย่างน้อย 2 ครั้งตลอดวัน
- F60.8F1R-3: ทำบันทึก Emotion log อย่างต่อเนื่อง ≥ 5 วัน
- F60.8F1R-4: ผู้ป่วยขอความช่วยเหลือหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอารมณ์ผู้อื่นโดยอิสระ
- F60.8F1R-5 (ถ้ามี): ร่วมกิจกรรมกลุ่มและให้ปฏิสัมพันธ์เชิงเห็นอกเห็นใจ
……………………………………………………
F60.8F2 ความต้องการคำชื่นชมสูง
(Risk for low self esteem related to need for excessive admiration)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยมักพูดว่า “ฉันต้องได้รับคำชมเพื่อรู้ว่าตัวเองมีค่า”
- ระบุรู้สึกต่ำต้อยหากไม่ได้รับการยอมรับ
O (Objective):
- แสดงพฤติกรรมอวดดีหรือพูดโอ้อวดบ่อย
- หยุดทำงานหรือปฏิเสธงานเมื่อไม่ได้รับคำชื่นชม
- มีอาการวิตก ซึม หรือโกรธเมื่อถูกวิจารณ์ หรือไม่ได้รับการชมงาน
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีการสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองจากผลงานจริงภายใน 1–2 สัปดาห์
- ผู้ป่วยสามารถใช้คำพูดเชิงบวกกับตนเอง (self‑affirmation) อย่างน้อย 3 ครั้งต่อวัน
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- มีการพูดถึงผลงานของตนอย่างเหมาะสมโดยไม่มีคำว่า "ต้องมีคำชม" ≥ 4/5 ครั้งต่อวัน
- ผู้ป่วยเขียนบันทึก self‑affirmation ได้อย่างต่อเนื่อง ≥ 5 วัน
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F2I-1: ให้ผู้ป่วยเขียนบันทึก “วันนี้ฉันทำได้ดีเรื่อง…” ทุกเย็น เพื่อฝึก self‑validation
- F60.8F2I-2: กระตุ้นให้ ผู้ป่วยกล่าวชื่นชมตนเอง เช่น “ฉันภาคภูมิใจที่…” วันละอย่างน้อย 3 ครั้ง
- F60.8F2I-3: ใช้เทคนิคเสริมกำลังใจ (positive reinforcement) ชมผู้ป่วยเมื่อจับได้ว่าชมตนเองอย่างเหมาะสม
- F60.8F2I-4: จัดกิจกรรมสะท้อนคุณค่า เช่น วาดภาพ หรือเขียนจดหมายถึงตัวเองหลังต้องเผชิญความล้มเหลว
- F60.8F2I-5: สอน CBT เบื้องต้น เช่น สังเกตความคิดเชิงซ้ำ (“หากไม่มีคนชม ฉันไม่ดี”) และปรับเป็น “ฉันทำดีที่สุดแล้ว”
- F60.8F2I-6: ประสานนักจิตบำบัดจัดกลุ่มผู้ป่วยฝึกการเสริมคุณค่าตนเองโดยไม่พึ่งผู้อื่น
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F2R-1: ผู้ป่วยเขียน self‑affirmation ได้ครบ 5 วันติดต่อกัน
- F60.8F2R-2: เริ่มพูดชื่นชมตนเองอย่างน้อย 3 ครั้งต่อวัน
- F60.8F2R-3: พยาบาลติดตามเห็นการใช้ self‑validation ≥ 4/5 ครั้งต่อวัน
- F60.8F2R-4: ผู้ป่วยแสดงอารมณ์สงบขึ้นเมื่อต้องไม่ได้รับคำชื่นชมภายนอก
- F60.8F2R-5: เมื่อประเมินเดือนละครั้ง พบว่าผู้ป่วยลดพฤติกรรมต้องพึ่งคำชมจากผู้อื่นลง
…………………………………………………
F60.8F3 พฤติกรรมเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
(Ineffective interpersonal relationship)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นว่า “คนไม่เข้าใจฉัน” หรือ “ฉันเด่นกว่าใคร”
O:
- พูดช่วงล่วงผู้อื่น ไม่รอฟัง
- ใช้คำพูดดูถูกหรือแสดงอำนาจ
- ไม่เข้าร่วมกลุ่ม หรือตอบโต้แรงเมื่อถูกปฏิเสธ
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมรอฟังคนอื่นและตอบสนองอย่างสุภาพในสถานการณ์กลุ่มภายใน 2 สัปดาห์
- สร้างสัมพันธ์เชิงร่วมตัว ลดพฤติกรรมเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ≥ 3 คราวใน 1 สัปดาห์
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรอฟังริมท่อแสดงความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างน้อย 3 ครั้งต่อวัน
- พยาบาลประเมินว่าผู้ป่วยใช้ถ้อยคำสุภาพ ≥ 4/5 ครั้งในระหว่างจัดกิจกรรมกลุ่ม
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F3I-1: จัดกิจกรรมกลุ่มเล็ก (2–3 คน) เพื่อให้ผู้ป่วยฝึกการรอฟัง และตอบเป็นลำดับ
- F60.8F3I-2: สอนเทคนิค “รอท่าสำหรับพูด” (waiting cue) เช่น ยกมือก่อนพูด
- F60.8F3I-3: ใช้ role‑play ทำบทบาทสมมติ สลับบทพูดฟัง/พูดตอบในทีมเล็ก
- F60.8F3I-4: ชมเชยทันทีเมื่อเห็นพฤติกรรมร่วมตัว เช่น “คุณฟังเพื่อนดีมากค่ะ”
- F60.8F3I-5: ให้ผู้ป่วยกรอกบันทึก “ใครพูดอะไร ฉันตอบอย่างไร” เพื่อสะท้อนพฤติกรรม
- F60.8F3I-6: ประสานนักจิตบำบัดจัดกลุ่มฝึกความสัมพันธ์ เพิ่มมุมมองของผู้อื่น
- F60.8F3R-1: ผู้ป่วยรอฟังและแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ ≥ 3 ครั้งต่อวัน
- F60.8F3R-2: บันทึกพฤติกรรมใน log อย่างน้อย 5 วัน
- F60.8F3R-3: พยาบาลสังเกตว่าผู้ป่วยมีท่าทีผ่อนคลาย ไม่มีการขัดจังหวะ
- F60.8F3R-4: ผู้ป่วยกล่าวเป็น “เรา” มากขึ้นแทน “ฉัน”
- F60.8F3R-5 (เพิ่มเติม): ร่วมกิจกรรมกลุ่มโดยไม่ถอนตัวหรือปฏิเสธ
……………………………………………………………
F60.8F4 อาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้าแฝง
(Anxiety or depressive mood related)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรู้สึก “เครียดมากเวลาคนไม่ชมฉัน” หรือ “ฉันรู้สึกเศร้าถ้าใครไม่สนใจฉัน”
O:
- ท่าทางไม่มั่นใจ พูดเสียงเบา
- น้ำตาคลอหรือถอนตัวเมื่อไม่ได้รับคำชม
- นอนน้อย/หลับไม่สนิท และความอยากอาหารเปลี่ยน
Goals (เป้าหมาย)
- ลดอาการวิตกกังวลหรืออารมณ์เศร้าชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์
- ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคผ่อนคลายอารมณ์ด้วยตนเองได้ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกวิตกหรือเศร้าลดลง ≥ 50% จากค่าเริ่มต้น
- ใช้เทคนิคผ่อนคลาย (เช่น หายใจลึก) ≥ 5 ครั้ง/สัปดาห์
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F4I-1: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก 4-7-8
- F60.8F4I-2: จัดช่วงเวลาพูดคุยให้ผู้ป่วยเล่าอารมณ์ และใช้การรับฟังแบบไม่ตัดสิน (“ฉันได้ยินว่าคุณรู้สึก...”)
- F60.8F4I-3: ส่งเสริมให้บันทึกอารมณ์ (Mood log) ทุกวัน พร้อมเขียนเหตุการณ์และความรู้สึก
- F60.8F4I-4: แนะนำให้ใช้ CBT เบื้องต้น เช่น เปลี่ยนความคิดลบ (“ไม่ได้รับชม = ฉันไม่มีค่า”) เป็น “ฉันคุณค่าเสมอ”
- F60.8F4I-5: ประสานจิตแพทย์เพื่อตรวจอาการร่วม เช่น ซึมเศร้า/วิตกกังวล และรับยาได้หากจำเป็น
- F60.8F4I-6: เตรียมแผนให้ผู้ป่วยใช้เทคนิคยามฉุกเฉิน (crisis plan) เช่น โทรหาเบอร์ฉุกเฉินหรือคนสนิทเมื่อรู้สึกหนัก
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F4R-1: ผู้ป่วยรายงานความวิตกหรือเศร้าลดลงอย่างน้อย 50%
- F60.8F4R-2: สามารถใช้เทคนิคหายใจลึกได้ตามเป้าหมาย ≥ 5 ครั้ง/สัปดาห์
- F60.8F4R-3: บันทึก Mood log ต่อเนื่อง ≥ 7 วัน
- F60.8F4R-4: ผู้ป่วยเปลี่ยนความคิดลบโดยใช้ประโยคเชิงบวกขึ้น
- F60.8F4R-5: ผู้ป่วยปฏิบัติตามการนัดพบจิตแพทย์-นักบำบัดอย่างสม่ำเสมอ
…………………………………………………….
F60.8F5
พฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อถูกคัดค้าน (Risk for aggression or
hostility)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “ใครไม่ฟังฉันก็ไม่รู้เรื่อง!” หรือ “ฉันจะไม่ยอมใครง่ายๆ”
- สีหน้าเครียด ขึงขัง
- เสียงดังหรือขึ้นเสียงเวลามีคนเถียง
- ยืนรุก เข้าใกล้คนอื่นมากเกินไป
- ลักษณะหยุดคิดไม่ทันดี: พูดตอบโต้ทันที
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์เมื่อถูกคัดค้านภายใน 2 สัปดาห์
- ผู้ป่วยใช้เทคนิคผ่อนคลายเมื่อรู้สึกถูกคุกคาม ≥ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยแสดงอาการสงบลงภายใน 3 นาทีหลังถูกคัดค้าน ≥ 4/5 ครั้ง
- ผู้ป่วยใช้เทคนิคหายใจหรือพักเมื่อเริ่มรู้สึกโกรธ ≥ 3 ครั้ง/สัปดาห์
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F5I-1: ประเมินสิ่งแวดล้อมและลดสิ่งเร้าที่กระตุ้นอารมณ์ เช่น เสียงดัง แสงจ้า
- F60.8F5I-2: ใช้เทคนิค de-escalation – พูดช้า-ต่ำในน้ำเสียง เน้นดูแล
- F60.8F5I-3: สอนหายใจลึก 4–7–8 เมื่อรู้สึกโกรธน้อยกว่า 1 นาที
- F60.8F5I-4: มอบพื้นที่ “calm room” ให้ผู้ป่วยหากอารมณ์พุ่งแรง
- F60.8F5I-5: ประเมินระดับความโกรธโดยใช้แบบประเมิน STAMPEDAR ทุก 4 ชั่วโมง
- F60.8F5I-6: ใช้ CBT สอนระบุความคิดก่อนโกรธและเปลี่ยนเป็นเชิงสร้างสรรค์
- F60.8F5I-7: ประสานจิตแพทย์พิจารณาใช้ยาลดอาการก้าวร้าว เช่น benzodiazepines หรือ antipsychotics
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F5R-1: ผู้ป่วยสามารถควมคุมอารมณ์เมื่อถูกคัดค้านภายใน 3 นาที ≥ 4/5 ครั้ง
- F60.8F5R-2: ใช้เทคนิคหายใจลึกหรือพักเมื่อเริ่มรู้สึกโกรธ ≥ 3 ครั้ง/สัปดาห์
- F60.8F5R-3: การประเมินเชิงรุก (STAMPEDAR) แสดงระดับอารมณ์ลดลง
- F60.8F5R-4: สังเกตว่าผู้ป่วยประพฤติดีขึ้นโดยไม่มีพูดดังหรือข่มขู่
- F60.8F5R-5: ผู้ป่วยรับประทานยาและเข้าพบจิตแพทย์ตามที่นัดอย่างต่อเนื่อง
……………………………………………..
F60.8F6 การสื่อสารไม่ตรงประเด็นหรือประณีต
(Ineffective communication)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นว่า “ไม่มีใครเข้าใจฉัน” หรือ “ฉันต้องเป็นผู้นำเสมอ”
O:
- พูดเกินเหตุ หยุดคนอื่นพูดบ่อย
- ใช้ศัพท์ฟุ่มเฟือย หรือไม่ตรงกับประเด็น
- ถามคำถามไม่เจาะจง สับสนประเด็น
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถสื่อสารชัด ตรงประเด็นใน 3/5 การสนทนา ภายใน 2 สัปดาห์
- ผู้ป่วยใช้ภาษาที่เหมาะสมตามสถานการณ์ ≥ 4 ครั้งต่อวัน
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- พยาบาลประเมินว่า ผู้ป่วยใช้ถ้อยคำตรง ประมาณ 4/5 ครั้งในช่วงสังเกต
- ผู้ป่วยสื่อสารประเด็นชัดเจน (เนื้อหาสอดคล้องกับคำถาม) ใน ≥ 60% ของการสนทนา
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F6I-1: สอน “use of clear language” — ให้ตอบตรงคำถาม ใช้ประโยคสั้น
- F60.8F6I-2: ฝึก role‑play สถานการณ์ประเมินจริง เช่น ตอบผู้อื่นว่า “ฉันเห็นว่าคุณหมายถึง…”
- F60.8F6I-3: ใช้เทคนิค “paraphrasing” ให้ผู้ป่วยพูดกลับเนื้อหาที่ฟัง เช่น “ถ้าเข้าใจถูก คุณหมายความว่า…”
- F60.8F6I-4: ชมเชยทันทีเมื่อการสื่อสารมีความชัดเจนและประณีต
- F60.8F6I-5: ให้ส่ง log “ประเด็นหลักของฉันวันนี้คือ…” หลังการสนทนาทุกวัน
- F60.8F6I-6: ใช้แนวทาง CBT สังเกตลักษณะ “พูดเพื่อหลบเลี่ยง” แล้วปรับสู่ความตรงจุด
- F60.8F6I-7: จัดให้เข้ากลุ่มบำบัดฝึกทักษะการสื่อสาร (social skills training)
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F6R-1: ผู้ป่วยตอบชัดประเด็นใน ≥ 3/5 การสนทนา
- F60.8F6R-2: ใช้ภาษาเหมาะสมตามสถานการณ์ ≥ 4 ครั้งต่อวัน
- F60.8F6R-3: พยาบาลสังเกตผู้ป่วยใช้ paraphrasing ได้ใน ≥ 60% ของบทสนทนา
- F60.8F6R-4: ผู้ป่วยส่ง log “ประเด็นหลัก” ได้อย่างต่อเนื่อง ≥ 5 วัน
- F60.8F6R-5: แสดงพฤติกรรมสื่อสารชัดเจน ไม่มีสลับประเด็นหรือใช้ศัพท์ฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น
…………………………………………….
F60.8F7 ยึดติดอัตลักษณ์เกินจริง
(Risk for identity disturbance)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยกล่าวว่า “ฉันคือคนพิเศษ ไม่มีใครเทียบได้”
- ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่ต้องการการยอมรับจากผู้อื่นอย่างมาก
O:
- การแสดงออกทางอารมณ์ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์
- ขาดความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่อสถานการณ์ใหม่
- มีความรู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถระบุคุณค่าของตนเองโดยไม่พึ่งพาการยอมรับจากผู้อื่นภายใน 2 สัปดาห์
- ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงความเข้าใจในอัตลักษณ์ของตนเองใน ≥ 3 สถานการณ์ภายใน 1 เดือน
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายคุณค่าของตนเองโดยไม่อ้างอิงถึงผู้อื่นได้อย่างชัดเจน
- ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการปรับตัวและยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
- ผู้ป่วยมีความมั่นใจในตัวเองโดยไม่ต้องการการยอมรับจากผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F7I-1: ใช้เทคนิคการสื่อสารที่เน้นการสะท้อนความรู้สึกของผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง
- F60.8F7I-2: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เน้นการพัฒนาตนเอง เช่น การฝึกทักษะการแก้ปัญหา หรือการตั้งเป้าหมายส่วนบุคคล
- F60.8F7I-3: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีการสะท้อนความคิดและพฤติกรรมของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในอัตลักษณ์ของตน
- F60.8F7I-4: จัดให้มีการบำบัดด้วยวิธีการที่เน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เช่น การบำบัดแบบกลุ่ม หรือการบำบัดแบบครอบครัว
- F60.8F7I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีการตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงและสามารถบรรลุได้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง
- F60.8F7I-6: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีการประเมินและปรับปรุงพฤติกรรมของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความเข้าใจในอัตลักษณ์ของตน
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F7R-1: ผู้ป่วยสามารถระบุคุณค่าของตนเองโดยไม่พึ่งพาการยอมรับจากผู้อื่นได้อย่างชัดเจน
- F60.8F7R-2: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงความเข้าใจในอัตลักษณ์ของตนเองในหลายสถานการณ์
- F60.8F7R-3: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในตัวเองโดยไม่ต้องการการยอมรับจากผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง
- F60.8F7R-4: ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
………………………………………………..
F60.8F8 ความไม่สม่ำเสมอในการรับบริการทางจิต
(Non adherence to treatment)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยกล่าวว่า “ฉันไม่เห็นว่าการรักษาจะช่วยอะไร”
- ผู้ป่วยแสดงท่าทีไม่สนใจหรือปฏิเสธการรักษา
O:
- ไม่เข้ารับการนัดหมายตามที่กำหนด
- ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยา
- แสดงพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับแผนการรักษา
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถระบุเหตุผลและประโยชน์ของการรักษาภายใน 1 สัปดาห์
- ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายและปฏิบัติตามคำแนะนำการรักษาอย่างต่อเนื่องภายใน 2 สัปดาห์
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการรักษาและผลที่ตามมาจากการไม่ปฏิบัติตาม
- ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายตามที่กำหนดอย่างน้อย 80%
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาและการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F8I-1: ใช้เทคนิคการสื่อสารที่เน้นการสะท้อนความรู้สึกและความคิดของผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจความสำคัญของการรักษา
- F60.8F8I-2: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากการไม่ปฏิบัติตามการรักษา โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา
- F60.8F8I-3: สร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจระหว่างผู้ป่วยและทีมรักษา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการรักษา
- F60.8F8I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายการรักษาที่เป็นจริงและสามารถบรรลุได้ เพื่อเสริมสร้างความมุ่งมั่นในการรักษา
- F60.8F8I-5: ติดตามผลการรักษาและให้ข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษา
- F60.8F8I-6: ให้การสนับสนุนทางจิตใจและอารมณ์แก่ผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าและยอมรับการรักษา
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F8R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการรักษาและผลที่ตามมาจากการไม่ปฏิบัติตาม
- F60.8F8R-2: ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายตามที่กำหนดอย่างน้อย 80%
- F60.8F8R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาและการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
- F60.8F8R-4: ผู้ป่วยแสดงความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการรักษามากขึ้น
……………………………………………………………
F60.8F9 เสี่ยงต่อภาวะสุขภาพจิตแทรกซ้อน
(Risk for complicated mental health condition)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยกล่าวว่า “ฉันไม่ต้องการใครมาช่วย”
- ผู้ป่วยแสดงท่าทีไม่สนใจหรือปฏิเสธการรักษา
O:
- มีประวัติการปฏิเสธการรักษาในอดีต
- แสดงพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับแผนการรักษา
- มีความรู้สึกว่าตนเองไม่จำเป็นต้องรับการรักษา
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถระบุเหตุผลและประโยชน์ของการรักษาภายใน 1 สัปดาห์
- ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายและปฏิบัติตามคำแนะนำการรักษาอย่างต่อเนื่องภายใน 2 สัปดาห์
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการรักษาและผลที่ตามมาจากการไม่ปฏิบัติตาม
- ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายตามที่กำหนดอย่างน้อย 80%
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาและการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F9I-1: ใช้เทคนิคการสื่อสารที่เน้นการสะท้อนความรู้สึกและความคิดของผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจความสำคัญของการรักษา
- F60.8F9I-2: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากการไม่ปฏิบัติตามการรักษา โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา
- F60.8F9I-3: สร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจระหว่างผู้ป่วยและทีมรักษา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการรักษา
- F60.8F9I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายการรักษาที่เป็นจริงและสามารถบรรลุได้ เพื่อเสริมสร้างความมุ่งมั่นในการรักษา
- F60.8F9I-5: ติดตามผลการรักษาและให้ข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษา
- F60.8F9I-6: ให้การสนับสนุนทางจิตใจและอารมณ์แก่ผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าและยอมรับการรักษา
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F9R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการรักษาและผลที่ตามมาจากการไม่ปฏิบัติตาม
- F60.8F9R-2: ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายตามที่กำหนดอย่างน้อย 80%
- F60.8F9R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาและการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
- F60.8F9R-4: ผู้ป่วยแสดงความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการรักษามากขึ้น
…………………………………………….
F60.8F10 ความต้องการแผนจำหน่ายและติดตาม
(Readiness for discharge planning)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยกล่าวว่า “ฉันไม่ต้องการใครมาช่วย”
- ผู้ป่วยแสดงท่าทีไม่สนใจหรือปฏิเสธการรักษา
O:
- มีประวัติการปฏิเสธการรักษาในอดีต
- แสดงพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับแผนการรักษา
- มีความรู้สึกว่าตนเองไม่จำเป็นต้องรับการรักษา
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถระบุเหตุผลและประโยชน์ของการรักษาภายใน 1 สัปดาห์
- ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายและปฏิบัติตามคำแนะนำการรักษาอย่างต่อเนื่องภายใน 2 สัปดาห์
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการรักษาและผลที่ตามมาจากการไม่ปฏิบัติตาม
- ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายตามที่กำหนดอย่างน้อย 80%
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาและการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F60.8F10I-1: ใช้เทคนิคการสื่อสารที่เน้นการสะท้อนความรู้สึกและความคิดของผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจความสำคัญของการรักษา
- F60.8F10I-2: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากการไม่ปฏิบัติตามการรักษา โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา
- F60.8F10I-3: สร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจระหว่างผู้ป่วยและทีมรักษา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการรักษา
- F60.8F10I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายการรักษาที่เป็นจริงและสามารถบรรลุได้ เพื่อเสริมสร้างความมุ่งมั่นในการรักษา
- F60.8F10I-5: ติดตามผลการรักษาและให้ข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษา
- F60.8F10I-6: ให้การสนับสนุนทางจิตใจและอารมณ์แก่ผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าและยอมรับการรักษา
Response (การตอบสนอง)
- F60.8F10R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการรักษาและผลที่ตามมาจากการไม่ปฏิบัติตาม
- F60.8F10R-2: ผู้ป่วยเข้ารับการนัดหมายตามที่กำหนดอย่างน้อย 80%
- F60.8F10R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาและการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
- F60.8F10R-4: ผู้ป่วยแสดงความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการรักษามากขึ้น
………………………………………………………..
📘 เอกสารอ้างอิง
- กรมสุขภาพจิต. (2565). แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder). กรุงเทพมหานคร: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข.
- สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย. (2564). คู่มือการดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทและโรคจิตเวชอื่น ๆ. กรุงเทพมหานคร: สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย.
- American Psychiatric Association. (2013). Diagnostic and statistical manual of mental disorders (5th ed.). Arlington, VA: American Psychiatric Publishing.
- National Institute for Health and Care Excellence (NICE). (2018). Personality disorders: recognition and management. NICE guideline [NG181].
……………………………………………………….