1.
พยาธิสภาพของผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis: K35)
ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากการอุดตันของรูเปิดไส้ติ่ง มักเกิดจากก้อนอุจจาระ (fecalith) การติดเชื้อ หรือภาวะบวมของเนื้อเยื่อรอบๆ ทำให้เกิดการอักเสบและบวมโต ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงลดลงจนเกิดเนื้อตาย หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ไส้ติ่งแตก เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (peritonitis) หรือฝีในช่องท้อง (abscess) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
2.
การรักษาผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis: K35)
แนวทางการรักษาหลักคือการผ่าตัดไส้ติ่งออก (appendectomy) ซึ่งอาจทำโดยการผ่าตัดแบบเปิด (open surgery) หรือการผ่าตัดผ่านกล้อง (laparoscopic
surgery) ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ในบางกรณีที่ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อน แพทย์อาจให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพื่อลดการอักเสบก่อนพิจารณาการผ่าตัด ทั้งนี้ หากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ไส้ติ่งแตก อาจต้องได้รับการดูแลในโรงพยาบาลเป็นเวลานานขึ้น
3.
การพยาบาลผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis: K35)
การพยาบาลมุ่งเน้นการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน ลดอาการปวด และฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัด ควรประเมินอาการปวดช่องท้องอย่างใกล้ชิด สังเกตอาการไส้ติ่งแตกหรือเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ (IV fluid) และงดน้ำงดอาหารก่อนการผ่าตัด หลังผ่าตัดให้ดูแลแผลผ่าตัด ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน และให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังการรักษา
4.วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยวินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วย
- K35F1 เจ็บปวดจากการอักเสบของไส้ติ่ง (Pain related to appendicitis inflammation)
- K35F2 ขาดความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัด (Deficient Knowledge related to surgical procedure and
postoperative care)
- K35F3 วิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและผลการรักษา (Anxiety related to surgery and treatment
outcomes)
- K35F4 การเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด (Preoperative patient preparation)
- K35F5 เจ็บปวดแผลผ่าตัดไส้ติ่ง (Postoperative Pain from Appendectomy), (Pain Management)
- K35F6 ความเสี่ยงจากการติดเชื้อหลังการผ่าตัด (Risk for Infection related to postoperative
surgical wound and invasive procedure)
- K35F7 มีไข้จากไส้ติ่งอักเสบ (Fever due to Appendicitis)
- K35F8 วางแผนก่อนจำหน่ายหลังผ่าตัดไส้ติ่ง (Discharge Planning after Appendectomy)
ข้อสังเกต
(Remark) :
- K35 = ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
- F1 = Focus ลำดับที่ 1
- I-1 = Intervention ลำดับที่ 1
- R-1= Response ลำดับที่ 1
- # = พิมพ์ข้อความเพิ่มได้
(ตัวเลข F1, I-1, R-1 เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดขึ้นเพื่อให้การจัดลำดับวินิจฉัยการพยาบาลเป็นไปอย่างมีระบบ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)
……………………………………..
K35F1
เจ็บปวดจากการอักเสบของไส้ติ่ง (Pain related to
appendicitis inflammation)Assessment
Subjective
Data
Subjective Data
- ผู้ป่วยรายงานปวดท้องจากสะดือสู่ท้องน้อยขวา
ต่อเนื่องรุนแรงระดับ 7-8/10
- ผู้ป่วยรู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนร่วมกับอาการปวด
- ผู้ป่วยรายงานปวดท้องจากสะดือสู่ท้องน้อยขวา ต่อเนื่องรุนแรงระดับ 7-8/10
- ผู้ป่วยรู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนร่วมกับอาการปวด
Objective
Data
- การคลำพบ tenderness และ rebound
tenderness บริเวณท้องน้อยขวา
- อุณหภูมิร่างกาย 37.8°C
- ชีพจร 92 ครั้ง/นาที
- ความดันโลหิต 110/70 mmHg
- Respiratory
rate 20 ครั้ง/นาที
- การคลำพบ tenderness และ rebound
tenderness บริเวณท้องน้อยขวา
- อุณหภูมิร่างกาย 37.8°C
- ชีพจร 92 ครั้ง/นาที
- ความดันโลหิต 110/70 mmHg
- Respiratory
rate 20 ครั้ง/นาที
Goals
- ความเจ็บปวดลดจาก 7-8/10 เหลือ ≤4/10 ใน
1 ชั่วโมงหลังให้ยา
- ผู้ป่วยทนต่อความเจ็บปวดและทำกิจกรรมพื้นฐานได้
- ความวิตกกังวลลดลงหลังได้รับการดูแลและคำแนะนำ
- ความเจ็บปวดลดจาก 7-8/10 เหลือ ≤4/10 ใน 1 ชั่วโมงหลังให้ยา
- ผู้ป่วยทนต่อความเจ็บปวดและทำกิจกรรมพื้นฐานได้
- ความวิตกกังวลลดลงหลังได้รับการดูแลและคำแนะนำ
Evaluate
criteria
- ระดับความเจ็บปวดลดลงจาก 7-8/10 เป็น
4/10 หรือต่ำกว่า
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมพื้นฐาน (เช่น
การนั่ง,
เดิน, หรือหายใจลึก)
โดยไม่แสดงอาการเจ็บปวดรุนแรง
- ผู้ป่วยแสดงท่าทางผ่อนคลายและไม่แสดงอาการวิตกกังวลจากการเจ็บปวด
- ระดับความเจ็บปวดลดลงจาก 7-8/10 เป็น 4/10 หรือต่ำกว่า
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมพื้นฐาน (เช่น
การนั่ง,
เดิน, หรือหายใจลึก)
โดยไม่แสดงอาการเจ็บปวดรุนแรง
- ผู้ป่วยแสดงท่าทางผ่อนคลายและไม่แสดงอาการวิตกกังวลจากการเจ็บปวด
Intervention
- K35
F1I-1: ประเมินระดับความเจ็บปวดก่อนและหลังการให้ยา
- K35 F1I-2: ให้ยาแก้ปวดตามคำสั่งแพทย์ เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen
- K35 F1I-3: ติดตามและบันทึกการตอบสนองของผู้ป่วยต่อยา
- K35 F1I-4: ตรวจสัญญาณชีพและประเมินความเจ็บปวดตามช่วงเวลาที่กำหนด
- K35 F1I-5: สังเกตและบันทึกอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแผนการรักษา
- K35 F1I-6: ช่วยจัดท่าทางสบาย เช่น นอนหงายหรือยกขาขึ้นเล็กน้อย
- K35 F1I-7: สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบและส่งเสริมการพักผ่อน
- K35 F1I-8: สอนเทคนิคหายใจลึกช้าเพื่อลดความเครียดและความเจ็บปวด
- K35 F1I-9: ใช้เทคนิคผ่อนคลายและให้คำแนะนำเพื่อลดความวิตกกังวล
- K35
F1I-1: ประเมินระดับความเจ็บปวดก่อนและหลังการให้ยา
- K35 F1I-2: ให้ยาแก้ปวดตามคำสั่งแพทย์ เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen
- K35 F1I-3: ติดตามและบันทึกการตอบสนองของผู้ป่วยต่อยา
- K35 F1I-4: ตรวจสัญญาณชีพและประเมินความเจ็บปวดตามช่วงเวลาที่กำหนด
- K35 F1I-5: สังเกตและบันทึกอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแผนการรักษา
- K35 F1I-6: ช่วยจัดท่าทางสบาย เช่น นอนหงายหรือยกขาขึ้นเล็กน้อย
- K35 F1I-7: สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบและส่งเสริมการพักผ่อน
- K35 F1I-8: สอนเทคนิคหายใจลึกช้าเพื่อลดความเครียดและความเจ็บปวด
- K35 F1I-9: ใช้เทคนิคผ่อนคลายและให้คำแนะนำเพื่อลดความวิตกกังวล
Response
- K35 F1R-1: ผู้ป่วยลดความปวดลงจากระดับ 8/10 เป็น
4/10
- K35 F1R-2: ผู้ป่วยทำกิจกรรมประจำวันได้โดยไม่แสดงความวิตกกังวล
- K35 F1R-3: ผู้ป่วยผ่อนคลายและตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดได้มั่นใจ
- K35 F1R-1: ผู้ป่วยลดความปวดลงจากระดับ 8/10 เป็น 4/10
- K35 F1R-2: ผู้ป่วยทำกิจกรรมประจำวันได้โดยไม่แสดงความวิตกกังวล
- K35 F1R-3: ผู้ป่วยผ่อนคลายและตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดได้มั่นใจ
...................................................................................................
K35 F2
ขาดความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัด (Deficient
Knowledge related to surgical procedure and postoperative care)
Assessment
Subjective
Data
Assessment
Subjective Data
- ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัด
เช่น "ต้องงดอาหารนานแค่ไหน?"
- รายงานความวิตกกังวลและความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัว
- ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัด
เช่น "ต้องงดอาหารนานแค่ไหน?"
- รายงานความวิตกกังวลและความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัว
Objective
Data
- ผู้ป่วยไม่สามารถอธิบายขั้นตอนการผ่าตัดหรือการดูแลหลังผ่าตัดได้
- แสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการผ่าตัดและการฟื้นตัว
- ขาดความรู้ในการปฏิบัติตนหลังผ่าตัด เช่น
การดูแลแผล
- ผู้ป่วยไม่สามารถอธิบายขั้นตอนการผ่าตัดหรือการดูแลหลังผ่าตัดได้
- แสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการผ่าตัดและการฟื้นตัว
- ขาดความรู้ในการปฏิบัติตนหลังผ่าตัด เช่น
การดูแลแผล
Goals
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายขั้นตอนผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดภายใน
24 ชั่วโมง
- แสดงความเข้าใจการดูแลแผลและการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยและครอบครัวทราบวิธีสังเกตอาการแทรกซ้อน
เช่น การติดเชื้อ
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายขั้นตอนผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดภายใน 24 ชั่วโมง
- แสดงความเข้าใจการดูแลแผลและการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยและครอบครัวทราบวิธีสังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ
Evaluate
criteria
- ผู้ป่วยอธิบายกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดได้ชัดเจน
- แสดงวิธีการดูแลแผลและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยและครอบครัวระบุอาการแทรกซ้อน
เช่น การติดเชื้อได้
- ผู้ป่วยอธิบายกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดได้ชัดเจน
- แสดงวิธีการดูแลแผลและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยและครอบครัวระบุอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อได้
Intervention
- K35F2I-1:
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัด, ความเสี่ยง,
และระยะเวลาการฟื้นตัว
- K35F2I-2:
สอนวิธีดูแลแผล ได้แก่ การทำความสะอาด, เปลี่ยนผ้าพันแผล,
และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล
- K35F2I-3:
ให้ข้อมูลกิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น
ยกของหนักหรือออกกำลังกายหนัก
- K35F2I-4:
แนะนำการสังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้, แผลอักเสบ,
หรือสัญญาณชีพผิดปกติ
- K35F2I-5:
สนับสนุนทางจิตใจและให้ความมั่นใจว่าการดูแลที่ถูกต้องช่วยให้ฟื้นตัวได้ดี
- K35F2I-1:
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัด, ความเสี่ยง,
และระยะเวลาการฟื้นตัว
- K35F2I-2:
สอนวิธีดูแลแผล ได้แก่ การทำความสะอาด, เปลี่ยนผ้าพันแผล,
และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล
- K35F2I-3:
ให้ข้อมูลกิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น
ยกของหนักหรือออกกำลังกายหนัก
- K35F2I-4:
แนะนำการสังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้, แผลอักเสบ,
หรือสัญญาณชีพผิดปกติ
- K35F2I-5:
สนับสนุนทางจิตใจและให้ความมั่นใจว่าการดูแลที่ถูกต้องช่วยให้ฟื้นตัวได้ดี
Response
- K35F2R-1: ผู้ป่วยอธิบายกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดได้ชัดเจน
- K35F2R-2:แสดงความมั่นใจในการดูแลตนเองและปฏิบัติตามคำแนะนำ
- K35F2R-3:ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจอาการแทรกซ้อนและวิธีติดต่อแพทย์หากมีปัญหา
- K35F2R-1: ผู้ป่วยอธิบายกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดได้ชัดเจน
- K35F2R-2:แสดงความมั่นใจในการดูแลตนเองและปฏิบัติตามคำแนะนำ
- K35F2R-3:ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจอาการแทรกซ้อนและวิธีติดต่อแพทย์หากมีปัญหา
……………………………………………………………………
K35F3 วิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและผลการรักษา (Anxiety related
to surgery and treatment outcomes)
Assessment
Subjective
Data
K35F3 วิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและผลการรักษา (Anxiety related to surgery and treatment outcomes)
Assessment
Subjective Data
- ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและผลการรักษา
- ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับความเสี่ยงของการผ่าตัดและการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยแสดงอาการกระวนกระวาย เช่น หายใจเร็วหรือพูดไม่ชัดเจน
- ผู้ป่วยแสดงท่าทางกังวล เช่น
กระสับกระส่ายหรือขยับตัวบ่อยๆ
- ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและผลการรักษา
- ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับความเสี่ยงของการผ่าตัดและการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยแสดงอาการกระวนกระวาย เช่น หายใจเร็วหรือพูดไม่ชัดเจน
- ผู้ป่วยแสดงท่าทางกังวล เช่น กระสับกระส่ายหรือขยับตัวบ่อยๆ
Objective
Data
- การคลำพบการเกร็งของกล้ามเนื้อใบหน้าและลำตัว
- ความดันโลหิตอาจสูงกว่าปกติ (เช่น 140/90 mmHg)
- ชีพจรเร็ว (เช่น 100 bpm)
- การหายใจเร็ว (ประมาณ 22 ครั้ง/นาที)
- ผู้ป่วยแสดงท่าทางวิตกกังวล เช่น
หงุดหงิดและสงสัย
- การคลำพบการเกร็งของกล้ามเนื้อใบหน้าและลำตัว
- ความดันโลหิตอาจสูงกว่าปกติ (เช่น 140/90 mmHg)
- ชีพจรเร็ว (เช่น 100 bpm)
- การหายใจเร็ว (ประมาณ 22 ครั้ง/นาที)
- ผู้ป่วยแสดงท่าทางวิตกกังวล เช่น หงุดหงิดและสงสัย
Goals
- ผู้ป่วยจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและผลการรักษาโดยไม่รู้สึกเครียด
- ผู้ป่วยจะสามารถแสดงท่าทางผ่อนคลายและสงบลงหลังการได้รับการดูแล
- Evaluate criteria
- ผู้ป่วยแสดงท่าทางสงบและไม่แสดงอาการวิตกกังวลหรือกระวนกระวาย
- ผู้ป่วยสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดและกระบวนการฟื้นตัวได้อย่างเข้าใจ
- ผู้ป่วยจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและผลการรักษาโดยไม่รู้สึกเครียด
- ผู้ป่วยจะสามารถแสดงท่าทางผ่อนคลายและสงบลงหลังการได้รับการดูแล
- Evaluate criteria
- ผู้ป่วยแสดงท่าทางสงบและไม่แสดงอาการวิตกกังวลหรือกระวนกระวาย
- ผู้ป่วยสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดและกระบวนการฟื้นตัวได้อย่างเข้าใจ
Intervention
- K35F3I-1:
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัด ความเสี่ยง
และการฟื้นตัวหลังผ่าตัด
- K35F3I-2:
สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ ช้า ๆ เพื่อลดความวิตกกังวล
- K35F3I-3:
สนับสนุนทางอารมณ์ด้วยการพูดคุย ให้กำลังใจ
และสร้างความมั่นใจในการดูแล
- K35F3I-4:
สังเกตพฤติกรรมแสดงความวิตกกังวล และพูดคุยเพื่อบรรเทาความกังวล
- K35F3I-5:
ให้คำแนะนำแก่ครอบครัวเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการสนับสนุนผู้ป่วย
- K35F3I-1:
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัด ความเสี่ยง
และการฟื้นตัวหลังผ่าตัด
- K35F3I-2:
สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ ช้า ๆ เพื่อลดความวิตกกังวล
- K35F3I-3:
สนับสนุนทางอารมณ์ด้วยการพูดคุย ให้กำลังใจ
และสร้างความมั่นใจในการดูแล
- K35F3I-4:
สังเกตพฤติกรรมแสดงความวิตกกังวล และพูดคุยเพื่อบรรเทาความกังวล
- K35F3I-5:
ให้คำแนะนำแก่ครอบครัวเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการสนับสนุนผู้ป่วย
Response
- K35F3R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมประจำวันโดยไม่แสดงอาการวิตกกังวล
- K35F3R-2: ผู้ป่วยมีความมั่นใจและตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน
- K35F3R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมประจำวันโดยไม่แสดงอาการวิตกกังวล
- K35F3R-2: ผู้ป่วยมีความมั่นใจและตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน
…………………………………………………………………
K35F04 เจ็บปวดแผลผ่าตัดไส้ติ่ง (Postoperative
Pain from Appendectomy (Pain Management)
Assessment
Subjective
Data
K35F04 เจ็บปวดแผลผ่าตัดไส้ติ่ง (Postoperative Pain from Appendectomy (Pain Management)
Assessment
Subjective Data
- ผู้ป่วยร้องเรียนถึงอาการเจ็บปวดบริเวณแผลผ่าตัด
- ผู้ป่วยแสดงอาการกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยบอกว่าความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนท่าทาง
- ผู้ป่วยร้องเรียนถึงอาการเจ็บปวดบริเวณแผลผ่าตัด
- ผู้ป่วยแสดงอาการกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยบอกว่าความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนท่าทาง
Objective
Data
- ผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บปวดเมื่อสัมผัสหรือเคลื่อนไหวแผล
- ระดับความเจ็บปวด (Pain Scale) อยู่ที่ 6/10 (ระดับปานกลางถึงรุนแรง)
- แผลผ่าตัดมีลักษณะสะอาด
ไม่มีหนองหรือการอักเสบ แต่แสดงอาการเจ็บปวดเมื่อสัมผัส
- ผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บปวดเมื่อสัมผัสหรือเคลื่อนไหวแผล
- ระดับความเจ็บปวด (Pain Scale) อยู่ที่ 6/10 (ระดับปานกลางถึงรุนแรง)
- แผลผ่าตัดมีลักษณะสะอาด ไม่มีหนองหรือการอักเสบ แต่แสดงอาการเจ็บปวดเมื่อสัมผัส
Goals
- ผู้ป่วยจะมีระดับความเจ็บปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก
6/10 เป็น 3/10 หรือต่ำกว่าใน 24
ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะสามารถจัดการความเจ็บปวดได้ด้วยการใช้ยาและเทคนิคการผ่อนคลาย
- ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการแทรกซ้อนจากการเจ็บปวด
เช่น อุณหภูมิสูงหรือการอักเสบของแผล
- ผู้ป่วยจะมีระดับความเจ็บปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก
6/10 เป็น 3/10 หรือต่ำกว่าใน 24
ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะสามารถจัดการความเจ็บปวดได้ด้วยการใช้ยาและเทคนิคการผ่อนคลาย
- ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการแทรกซ้อนจากการเจ็บปวด เช่น อุณหภูมิสูงหรือการอักเสบของแผล
Evaluate criteria
- การประเมินระดับความเจ็บปวดลดลงอย่างชัดเจนภายใน
24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการจัดการความเจ็บปวดได้
- ไม่มีอาการบวม, อักเสบ หรือหนองในแผลผ่าตัด
- แผลสะอาดและไม่มีอาการแทรกซ้อน
- การประเมินระดับความเจ็บปวดลดลงอย่างชัดเจนภายใน 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการจัดการความเจ็บปวดได้
- ไม่มีอาการบวม, อักเสบ หรือหนองในแผลผ่าตัด
- แผลสะอาดและไม่มีอาการแทรกซ้อน
Intervention
- K35F4I-1:
ให้ยาแก้ปวดตามคำสั่งแพทย์ เช่น Paracetamol หรือ
Ibuprofen และประเมินผลทุก 4 ชั่วโมง
- K35F4I-2:
ติดตามการตอบสนองของผู้ป่วยหลังการให้ยาเพื่อปรับแผนการรักษา
- K35F4I-3:
สอนการหายใจลึก ๆ และแนะนำเทคนิคการผ่อนคลายเพื่อลดความเจ็บปวด
- K35F4I-4:
ช่วยผู้ป่วยจัดท่าที่สบาย เช่น นอนหงายหรือยกขาขึ้นเล็กน้อย
เพื่อบรรเทาอาการปวด
- K35F4I-5:
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับท่าทางที่เหมาะสมเพื่อลดความเจ็บปวดและส่งเสริมการฟื้นตัว
- K35F4I-6:
ตรวจสอบสัญญาณชีพและระดับความเจ็บปวดทุกชั่วโมง
- K35F4I-7:
สังเกตและบันทึกการเปลี่ยนแปลงของแผลผ่าตัด เช่น บวม อักเสบ
หรือหนอง
- K35F4I-1:
ให้ยาแก้ปวดตามคำสั่งแพทย์ เช่น Paracetamol หรือ
Ibuprofen และประเมินผลทุก 4 ชั่วโมง
- K35F4I-2:
ติดตามการตอบสนองของผู้ป่วยหลังการให้ยาเพื่อปรับแผนการรักษา
- K35F4I-3:
สอนการหายใจลึก ๆ และแนะนำเทคนิคการผ่อนคลายเพื่อลดความเจ็บปวด
- K35F4I-4:
ช่วยผู้ป่วยจัดท่าที่สบาย เช่น นอนหงายหรือยกขาขึ้นเล็กน้อย
เพื่อบรรเทาอาการปวด
- K35F4I-5:
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับท่าทางที่เหมาะสมเพื่อลดความเจ็บปวดและส่งเสริมการฟื้นตัว
- K35F4I-6:
ตรวจสอบสัญญาณชีพและระดับความเจ็บปวดทุกชั่วโมง
- K35F4I-7:
สังเกตและบันทึกการเปลี่ยนแปลงของแผลผ่าตัด เช่น บวม อักเสบ
หรือหนอง
Response
- K35F4R-1: ความเจ็บปวดลดลงจาก 6/10 เป็น 3/10
หลังการให้ยาและใช้เทคนิคการผ่อนคลาย
- K35F4R-2: ผู้ป่วยรับประทานอาหารและเคลื่อนไหวได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดรุนแรง
- K35F4R-3:แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีอาการบวม อักเสบ
หรือหนอง
- K35F4R-4:ผู้ป่วยเข้าใจการจัดการความเจ็บปวด
และพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลแผลและฟื้นตัวที่บ้าน
- K35F4R-1: ความเจ็บปวดลดลงจาก 6/10 เป็น 3/10 หลังการให้ยาและใช้เทคนิคการผ่อนคลาย
- K35F4R-2: ผู้ป่วยรับประทานอาหารและเคลื่อนไหวได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดรุนแรง
- K35F4R-3:แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีอาการบวม อักเสบ หรือหนอง
- K35F4R-4:ผู้ป่วยเข้าใจการจัดการความเจ็บปวด และพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลแผลและฟื้นตัวที่บ้าน
……………………………………………………………………
K35F5 ความเสี่ยงจากการติดเชื้อหลังการผ่าตัด (Risk for
Infection related to postoperative surgical wound and invasive procedure)
Assessment
Subjective
Data
K35F5 ความเสี่ยงจากการติดเชื้อหลังการผ่าตัด (Risk for Infection related to postoperative surgical wound and invasive procedure)
Assessment
Subjective Data
- ผู้ป่วยไม่ได้รายงานอาการของการติดเชื้อ
แต่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับวิธีการดูแลแผลหลังผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ผู้ป่วยไม่ได้รายงานอาการของการติดเชื้อ แต่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับวิธีการดูแลแผลหลังผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
Objective
Data
- ผู้ป่วยเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ
- แผลผ่าตัดถูกพันด้วยผ้าก๊อซที่สะอาดและมีการปิดอย่างแน่นหนา
- ไม่มีการบวม, แดง หรือมีของเหลวออกจากแผลในระยะแรกหลังผ่าตัด
- ชีพจร, ความดันโลหิต,
และอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติหลังการผ่าตัด
- สัญญาณชีพที่ปกติและไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อในทันทีหลังผ่าตัด
- ผู้ป่วยเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ
- แผลผ่าตัดถูกพันด้วยผ้าก๊อซที่สะอาดและมีการปิดอย่างแน่นหนา
- ไม่มีการบวม, แดง หรือมีของเหลวออกจากแผลในระยะแรกหลังผ่าตัด
- ชีพจร, ความดันโลหิต,
และอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติหลังการผ่าตัด
- สัญญาณชีพที่ปกติและไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อในทันทีหลังผ่าตัด
Goals
- ผู้ป่วยจะไม่พัฒนาการติดเชื้อหลังผ่าตัดภายในระยะเวลา
48 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะสามารถรักษาความสะอาดของแผลและดูแลแผลผ่าตัดได้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำ
- ผู้ป่วยและครอบครัวจะมีความเข้าใจในขั้นตอนการดูแลแผลและการป้องกันการติดเชื้อ
- ผู้ป่วยจะไม่พัฒนาการติดเชื้อหลังผ่าตัดภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะสามารถรักษาความสะอาดของแผลและดูแลแผลผ่าตัดได้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำ
- ผู้ป่วยและครอบครัวจะมีความเข้าใจในขั้นตอนการดูแลแผลและการป้องกันการติดเชื้อ
Evaluate criteria
- แผลผ่าตัดไม่มีการอักเสบ, การบวม, หรือการมีหนองภายใน 48 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
- ไม่มีอาการของการติดเชื้อ เช่น ไข้สูง, อาการปวดแผลที่เพิ่มขึ้น, หรือของเหลวผิดปกติจากแผล
- ผู้ป่วยสามารถดูแลแผลได้อย่างถูกต้องและรู้จักสังเกตอาการที่อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ
- แผลผ่าตัดไม่มีการอักเสบ, การบวม, หรือการมีหนองภายใน 48 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
- ไม่มีอาการของการติดเชื้อ เช่น ไข้สูง, อาการปวดแผลที่เพิ่มขึ้น, หรือของเหลวผิดปกติจากแผล
- ผู้ป่วยสามารถดูแลแผลได้อย่างถูกต้องและรู้จักสังเกตอาการที่อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ
Intervention
- K35F5I-1: ให้คำแนะนำการดูแลแผลผ่าตัด
เช่น การเปลี่ยนผ้าพันแผลและทำความสะอาดแผล
- K35F5I-2:
ประเมินแผลทุกวันและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง เช่น บวม, แดง,
หรือมีของเหลว
- K35F5I-3:
สอนการล้างมือและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยตรง
- K35F5I-4:
ตรวจสอบการใช้ยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำ
- K35F5I-5:
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาการที่ต้องระวัง เช่น ไข้สูงหรือการอักเสบของแผล
- K35F5I-1: ให้คำแนะนำการดูแลแผลผ่าตัด
เช่น การเปลี่ยนผ้าพันแผลและทำความสะอาดแผล
- K35F5I-2:
ประเมินแผลทุกวันและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง เช่น บวม, แดง,
หรือมีของเหลว
- K35F5I-3:
สอนการล้างมือและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยตรง
- K35F5I-4:
ตรวจสอบการใช้ยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำ
- K35F5I-5:
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาการที่ต้องระวัง เช่น ไข้สูงหรือการอักเสบของแผล
Response
- K35F5R-1: ผู้ป่วยสามารถดูแลแผลได้อย่างถูกต้องและไม่มีอาการบ่งชี้ถึงการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
- K35F5R-2: แผลผ่าตัดไม่แสดงอาการอักเสบหรือการติดเชื้อ
- K35F5R-3: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อ
- K35F5R-4: สัญญาณชีพปกติและไม่มีการเกิดการติดเชื้อภายใน
48 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด
- K35F5R-1: ผู้ป่วยสามารถดูแลแผลได้อย่างถูกต้องและไม่มีอาการบ่งชี้ถึงการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
- K35F5R-2: แผลผ่าตัดไม่แสดงอาการอักเสบหรือการติดเชื้อ
- K35F5R-3: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อ
- K35F5R-4: สัญญาณชีพปกติและไม่มีการเกิดการติดเชื้อภายใน 48 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด
…………………………………………………………………
K35F6 มีไข้จากไส้ติ่งอักเสบ (Fever due to Appendicitis)
Assessment
Subjective
Data
K35F6 มีไข้จากไส้ติ่งอักเสบ (Fever due to Appendicitis)
Assessment
Subjective Data
- ผู้ป่วยรายงานรู้สึกร้อนและมีไข้ตั้งแต่หลังจากเกิดอาการเจ็บปวดท้อง
- ผู้ป่วยบ่นว่าอ่อนเพลียและรู้สึกไม่สบายจากไข้
- ผู้ป่วยอาจมีอาการหนาวสั่นและเหงื่อออกมากขณะมีไข้
- ผู้ป่วยรายงานรู้สึกร้อนและมีไข้ตั้งแต่หลังจากเกิดอาการเจ็บปวดท้อง
- ผู้ป่วยบ่นว่าอ่อนเพลียและรู้สึกไม่สบายจากไข้
- ผู้ป่วยอาจมีอาการหนาวสั่นและเหงื่อออกมากขณะมีไข้
Objective
Data
- อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38°C (อาจวัดได้ระหว่าง 38.0-39.0°C)
- ผู้ป่วยมีอาการซึมลงและไม่อยากกินอาหาร
- ตรวจพบว่ามีอาการหนาวสั่นร่วมกับไข้
- สัญญาณชีพ: ชีพจร 98 bpm, ความดันโลหิต 120/80 mmHg, O2 saturation 96%
- แผลผ่าตัดสะอาด แต่มีอุณหภูมิร่างกายสูง
อาจมีสัญญาณของการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับไส้ติ่ง
- อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38°C (อาจวัดได้ระหว่าง 38.0-39.0°C)
- ผู้ป่วยมีอาการซึมลงและไม่อยากกินอาหาร
- ตรวจพบว่ามีอาการหนาวสั่นร่วมกับไข้
- สัญญาณชีพ: ชีพจร 98 bpm, ความดันโลหิต 120/80 mmHg, O2 saturation 96%
- แผลผ่าตัดสะอาด แต่มีอุณหภูมิร่างกายสูง อาจมีสัญญาณของการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับไส้ติ่ง
Goals
- ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิร่างกายลดลงไม่เกิน
38°C
ภายใน 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะไม่มีอาการหนาวสั่นหรืออ่อนเพลียจากไข้
- ผู้ป่วยจะสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติหลังจากการลดไข้
- ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิร่างกายลดลงไม่เกิน
38°C
ภายใน 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะไม่มีอาการหนาวสั่นหรืออ่อนเพลียจากไข้
- ผู้ป่วยจะสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติหลังจากการลดไข้
Evaluate
criteria
- อุณหภูมิร่างกายลดลงเป็นปกติ (ต่ำกว่า
38°C)
- ไม่มีอาการหนาวสั่นหรืออ่อนเพลียจากไข้
- ผู้ป่วยมีพลังงานและสามารถรับประทานอาหารได้
- ไม่มีสัญญาณการติดเชื้อหรือแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด
- ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นและสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้
- อุณหภูมิร่างกายลดลงเป็นปกติ (ต่ำกว่า
38°C)
- ไม่มีอาการหนาวสั่นหรืออ่อนเพลียจากไข้
- ผู้ป่วยมีพลังงานและสามารถรับประทานอาหารได้
- ไม่มีสัญญาณการติดเชื้อหรือแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด
- ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นและสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้
Intervention
- K35F6I-1: การควบคุมไข้ ให้ยาแก้ไข้
(เช่น Paracetamol) ตามคำสั่งแพทย์
- K35F6I-2: สังเกตอุณหภูมิร่างกายทุก
2-4 ชั่วโมงและบันทึกข้อมูล
- K35F6I-3: หากอุณหภูมิยังคงสูงเกิน
38.5°C ให้พิจารณาใช้การประคบร่างกายด้วยผ้าชุบน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิ
- K35F6I-4: สังเกตอาการหนาวสั่นและให้ผ้าห่มให้ความอบอุ่นเมื่อไข้ลดลง
- K35F6I-5: ปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสมเพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น
- K35F6I-6: ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองโดยให้ดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อช่วยลดไข้
- K35F6I-7: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพักผ่อนที่เพียงพอและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนักจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น
- K35F6I-8: ประเมินอุณหภูมิร่างกายและสัญญาณชีพทุก
2 ชั่วโมงจนกว่าไข้จะลดลง
- K35F6I-9: ติดตามการเปลี่ยนแปลงของอาการไข้และรายงานให้แพทย์ทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
- K35F6I-1: การควบคุมไข้ ให้ยาแก้ไข้
(เช่น Paracetamol) ตามคำสั่งแพทย์
- K35F6I-2: สังเกตอุณหภูมิร่างกายทุก
2-4 ชั่วโมงและบันทึกข้อมูล
- K35F6I-3: หากอุณหภูมิยังคงสูงเกิน
38.5°C ให้พิจารณาใช้การประคบร่างกายด้วยผ้าชุบน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิ
- K35F6I-4: สังเกตอาการหนาวสั่นและให้ผ้าห่มให้ความอบอุ่นเมื่อไข้ลดลง
- K35F6I-5: ปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสมเพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น
- K35F6I-6: ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองโดยให้ดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อช่วยลดไข้
- K35F6I-7: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพักผ่อนที่เพียงพอและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนักจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น
- K35F6I-8: ประเมินอุณหภูมิร่างกายและสัญญาณชีพทุก
2 ชั่วโมงจนกว่าไข้จะลดลง
- K35F6I-9: ติดตามการเปลี่ยนแปลงของอาการไข้และรายงานให้แพทย์ทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
Response
- K35F6R-1: อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยลดลงจาก 38.5°C เป็น 37.5°C หลังการให้ยา Paracetamol
- K35F6R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการหนาวสั่นและมีพลังงานดีขึ้นหลังจากได้รับการดูแล
- K35F6R-3: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นและสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ
- K35F6R-4: ไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อหรือแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด
- K35F6R-5: ผู้ป่วยแสดงอาการดีขึ้นและสามารถนอนพักผ่อนได้อย่างสบาย
- K35F6R-1: อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยลดลงจาก 38.5°C เป็น 37.5°C หลังการให้ยา Paracetamol
- K35F6R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการหนาวสั่นและมีพลังงานดีขึ้นหลังจากได้รับการดูแล
- K35F6R-3: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นและสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ
- K35F6R-4: ไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อหรือแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด
- K35F6R-5: ผู้ป่วยแสดงอาการดีขึ้นและสามารถนอนพักผ่อนได้อย่างสบาย
……………………………………………………………………
K35
F7 วางแผนก่อนจำหน่ายหลังผ่าตัดไส้ติ่ง (Discharge
Planning after Appendectomy)
Assessment
Subjective
Data
K35 F7 วางแผนก่อนจำหน่ายหลังผ่าตัดไส้ติ่ง (Discharge Planning after Appendectomy)
Assessment
Subjective Data
- ผู้ป่วยและครอบครัวแสดงความกังวลเกี่ยวกับการดูแลแผลหลังการผ่าตัดและการฟื้นตัวที่บ้าน
- ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร
การเคลื่อนไหว และการดูแลแผลหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยแสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวจากการผ่าตัดและผลข้างเคียงจากยา
- ผู้ป่วยและครอบครัวแสดงความกังวลเกี่ยวกับการดูแลแผลหลังการผ่าตัดและการฟื้นตัวที่บ้าน
- ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร การเคลื่อนไหว และการดูแลแผลหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยแสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวจากการผ่าตัดและผลข้างเคียงจากยา
Objective
Data
- ผู้ป่วยมีแผลผ่าตัดไส้ติ่งที่สะอาดและไม่แสดงอาการบวม, อักเสบ หรือมีหนอง
- ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่มีอาการเจ็บปวดรุนแรง
- สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ: อุณหภูมิ 36.8°C, ชีพจร 80 bpm, ความดันโลหิต 120/80 mmHg
- ผลการตรวจห้องปฏิบัติการแสดงว่าไม่มีการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยมีแผลผ่าตัดไส้ติ่งที่สะอาดและไม่แสดงอาการบวม, อักเสบ หรือมีหนอง
- ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่มีอาการเจ็บปวดรุนแรง
- สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ: อุณหภูมิ 36.8°C, ชีพจร 80 bpm, ความดันโลหิต 120/80 mmHg
- ผลการตรวจห้องปฏิบัติการแสดงว่าไม่มีการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
Goals
- ผู้ป่วยและครอบครัวจะสามารถอธิบายการดูแลแผลและการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดภายใน
24 ชั่วโมงก่อนจำหน่าย
- ผู้ป่วยจะสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามที่แพทย์อนุญาตและไม่แสดงอาการแทรกซ้อน
- ผู้ป่วยจะเข้าใจการใช้ยาและการติดตามผลหลังผ่าตัด
เช่น การใช้ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ (ถ้ามี)
- ผู้ป่วยและครอบครัวจะสามารถอธิบายการดูแลแผลและการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดภายใน
24 ชั่วโมงก่อนจำหน่าย
- ผู้ป่วยจะสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามที่แพทย์อนุญาตและไม่แสดงอาการแทรกซ้อน
- ผู้ป่วยจะเข้าใจการใช้ยาและการติดตามผลหลังผ่าตัด เช่น การใช้ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ (ถ้ามี)
Evaluate
criteria
ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายวิธีการดูแลแผลผ่าตัดและการฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน
ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายวิธีการดูแลแผลผ่าตัดและการฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน
- ไม่มีอาการหรืออาการแทรกซ้อนจากการรับประทานอาหารหรือการเคลื่อนไหว
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการใช้ยาและขั้นตอนการติดตามผลหลังผ่าตัด
- แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีการบวม, อักเสบ, หรือมีหนอง
- ไม่มีอาการหรืออาการแทรกซ้อนจากการรับประทานอาหารหรือการเคลื่อนไหว
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการใช้ยาและขั้นตอนการติดตามผลหลังผ่าตัด
- แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีการบวม, อักเสบ, หรือมีหนอง
Intervention
- K35F7I-1:
สอนการทำความสะอาดแผลและการเปลี่ยนผ้าพันแผล
รวมถึงการดูแลแผลที่บ้าน
- K35F7I-2:
แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารย่อยง่ายและหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน
1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- K35F7I-3:
อธิบายการใช้ยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำแพทย์
- K35F7I-4:
แนะนำการสังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง, การอักเสบของแผล,
หรืออาการเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น
- K35F7I-5:
นัดหมายการติดตามผลภายใน 1-2
สัปดาห์หลังผ่าตัดเพื่อประเมินอาการและฟื้นตัว
- K35F7I-1:
สอนการทำความสะอาดแผลและการเปลี่ยนผ้าพันแผล
รวมถึงการดูแลแผลที่บ้าน
- K35F7I-2:
แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารย่อยง่ายและหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน
1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- K35F7I-3:
อธิบายการใช้ยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำแพทย์
- K35F7I-4:
แนะนำการสังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง, การอักเสบของแผล,
หรืออาการเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น
- K35F7I-5:
นัดหมายการติดตามผลภายใน 1-2
สัปดาห์หลังผ่าตัดเพื่อประเมินอาการและฟื้นตัว
Response
- K35F7R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายการดูแลแผล, การรับประทานอาหาร, และการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดได้อย่างมั่นใจ
- K35F7R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการแทรกซ้อนจากอาหารหรือการเคลื่อนไหว
- K35F7R-3: แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีอาการบวม, อักเสบ, หรือหนอง
- K35F7R-4: ผู้ป่วยสามารถใช้ยาและติดตามผลตามคำแนะนำได้ถูกต้อง
- K35F7R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายการดูแลแผล, การรับประทานอาหาร, และการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดได้อย่างมั่นใจ
- K35F7R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการแทรกซ้อนจากอาหารหรือการเคลื่อนไหว
- K35F7R-3: แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีอาการบวม, อักเสบ, หรือหนอง
- K35F7R-4: ผู้ป่วยสามารถใช้ยาและติดตามผลตามคำแนะนำได้ถูกต้อง