เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

EP. 16 👉👉ตัวอย่าง : การพยาบาลผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ(Appendicitis) รหัส ICD-10 = K35


1. พยาธิสภาพของผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis: K35)

          ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากการอุดตันของรูเปิดไส้ติ่ง มักเกิดจากก้อนอุจจาระ (fecalith) การติดเชื้อ หรือภาวะบวมของเนื้อเยื่อรอบๆ ทำให้เกิดการอักเสบและบวมโต ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงลดลงจนเกิดเนื้อตาย หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ไส้ติ่งแตก เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (peritonitis) หรือฝีในช่องท้อง (abscess) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย

2. การรักษาผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis: K35)

          แนวทางการรักษาหลักคือการผ่าตัดไส้ติ่งออก (appendectomy) ซึ่งอาจทำโดยการผ่าตัดแบบเปิด (open surgery) หรือการผ่าตัดผ่านกล้อง (laparoscopic surgery) ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ในบางกรณีที่ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อน แพทย์อาจให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพื่อลดการอักเสบก่อนพิจารณาการผ่าตัด ทั้งนี้ หากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ไส้ติ่งแตก อาจต้องได้รับการดูแลในโรงพยาบาลเป็นเวลานานขึ้น

3. การพยาบาลผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis: K35)

          การพยาบาลมุ่งเน้นการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน ลดอาการปวด และฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัด ควรประเมินอาการปวดช่องท้องอย่างใกล้ชิด สังเกตอาการไส้ติ่งแตกหรือเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ (IV fluid) และงดน้ำงดอาหารก่อนการผ่าตัด หลังผ่าตัดให้ดูแลแผลผ่าตัด ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน และให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังการรักษา

4.วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยวินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วย

  • K35F1 เจ็บปวดจากการอักเสบของไส้ติ่ง (Pain related to appendicitis inflammation)
  • K35F2 ขาดความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัด  (Deficient Knowledge related to surgical procedure and postoperative care)
  • K35F3 วิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและผลการรักษา (Anxiety related to surgery and treatment outcomes)
  • K35F4 การเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด (Preoperative patient preparation)
  • K35F5 เจ็บปวดแผลผ่าตัดไส้ติ่ง (Postoperative Pain from Appendectomy), (Pain Management)
  • K35F6 ความเสี่ยงจากการติดเชื้อหลังการผ่าตัด (Risk for Infection related to postoperative surgical wound and invasive procedure)
  • K35F7 มีไข้จากไส้ติ่งอักเสบ  (Fever due to Appendicitis)
  • K35F8 วางแผนก่อนจำหน่ายหลังผ่าตัดไส้ติ่ง (Discharge Planning after Appendectomy)

ข้อสังเกต (Remark) :

  • K35 = ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
  • F1 = Focus ลำดับที่ 1   
  • I-1 = Intervention ลำดับที่ 1
  • R-1= Response ลำดับที่ 1
  • #  = พิมพ์ข้อความเพิ่มได้

(ตัวเลข F1, I-1, R-1 เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดขึ้นเพื่อให้การจัดลำดับวินิจฉัยการพยาบาลเป็นไปอย่างมีระบบ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)

……………………………………..

K35F1 เจ็บปวดจากการอักเสบของไส้ติ่ง (Pain related to appendicitis inflammation)
Assessment
Subjective Data

  • ผู้ป่วยรายงานปวดท้องจากสะดือสู่ท้องน้อยขวา ต่อเนื่องรุนแรงระดับ 7-8/10
  • ผู้ป่วยรู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนร่วมกับอาการปวด

 Objective Data

  • การคลำพบ tenderness และ rebound tenderness บริเวณท้องน้อยขวา
  • อุณหภูมิร่างกาย 37.8°C
  • ชีพจร 92 ครั้ง/นาที
  • ความดันโลหิต 110/70 mmHg
  •  Respiratory rate 20 ครั้ง/นาที

Goals

  • ความเจ็บปวดลดจาก 7-8/10 เหลือ ≤4/10 ใน 1 ชั่วโมงหลังให้ยา
  • ผู้ป่วยทนต่อความเจ็บปวดและทำกิจกรรมพื้นฐานได้
  • ความวิตกกังวลลดลงหลังได้รับการดูแลและคำแนะนำ

Evaluate criteria

  • ระดับความเจ็บปวดลดลงจาก 7-8/10 เป็น 4/10 หรือต่ำกว่า
  • ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมพื้นฐาน (เช่น การนั่ง, เดิน, หรือหายใจลึก) โดยไม่แสดงอาการเจ็บปวดรุนแรง
  • ผู้ป่วยแสดงท่าทางผ่อนคลายและไม่แสดงอาการวิตกกังวลจากการเจ็บปวด

Intervention

  • K35 F1I-1: ประเมินระดับความเจ็บปวดก่อนและหลังการให้ยา
  • K35 F1I-2: ให้ยาแก้ปวดตามคำสั่งแพทย์ เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen
  • K35 F1I-3: ติดตามและบันทึกการตอบสนองของผู้ป่วยต่อยา
  • K35 F1I-4: ตรวจสัญญาณชีพและประเมินความเจ็บปวดตามช่วงเวลาที่กำหนด
  • K35 F1I-5: สังเกตและบันทึกอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแผนการรักษา
  • K35 F1I-6: ช่วยจัดท่าทางสบาย เช่น นอนหงายหรือยกขาขึ้นเล็กน้อย
  • K35 F1I-7: สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบและส่งเสริมการพักผ่อน
  • K35 F1I-8: สอนเทคนิคหายใจลึกช้าเพื่อลดความเครียดและความเจ็บปวด
  • K35 F1I-9: ใช้เทคนิคผ่อนคลายและให้คำแนะนำเพื่อลดความวิตกกังวล

Response

  • K35 F1R-1: ผู้ป่วยลดความปวดลงจากระดับ 8/10 เป็น 4/10
  • K35 F1R-2: ผู้ป่วยทำกิจกรรมประจำวันได้โดยไม่แสดงความวิตกกังวล
  • K35 F1R-3: ผู้ป่วยผ่อนคลายและตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดได้มั่นใจ

 ...................................................................................................

K35 F2 ขาดความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัด  (Deficient Knowledge related to surgical procedure and postoperative care)
Assessment
Subjective Data

  • ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัด เช่น "ต้องงดอาหารนานแค่ไหน?"
  • รายงานความวิตกกังวลและความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัว

Objective Data

  • ผู้ป่วยไม่สามารถอธิบายขั้นตอนการผ่าตัดหรือการดูแลหลังผ่าตัดได้
  • แสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการผ่าตัดและการฟื้นตัว
  • ขาดความรู้ในการปฏิบัติตนหลังผ่าตัด เช่น การดูแลแผล

Goals

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายขั้นตอนผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดภายใน 24 ชั่วโมง
  • แสดงความเข้าใจการดูแลแผลและการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม
  • ผู้ป่วยและครอบครัวทราบวิธีสังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ

Evaluate criteria

  • ผู้ป่วยอธิบายกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดได้ชัดเจน
  • แสดงวิธีการดูแลแผลและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม
  • ผู้ป่วยและครอบครัวระบุอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อได้

Intervention

  • K35F2I-1: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัด, ความเสี่ยง, และระยะเวลาการฟื้นตัว
  • K35F2I-2: สอนวิธีดูแลแผล ได้แก่ การทำความสะอาด, เปลี่ยนผ้าพันแผล, และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล
  • K35F2I-3: ให้ข้อมูลกิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น ยกของหนักหรือออกกำลังกายหนัก
  • K35F2I-4: แนะนำการสังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้, แผลอักเสบ, หรือสัญญาณชีพผิดปกติ
  • K35F2I-5: สนับสนุนทางจิตใจและให้ความมั่นใจว่าการดูแลที่ถูกต้องช่วยให้ฟื้นตัวได้ดี

Response

  • K35F2R-1: ผู้ป่วยอธิบายกระบวนการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดได้ชัดเจน
  • K35F2R-2:แสดงความมั่นใจในการดูแลตนเองและปฏิบัติตามคำแนะนำ
  • K35F2R-3:ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจอาการแทรกซ้อนและวิธีติดต่อแพทย์หากมีปัญหา

……………………………………………………………………
K35F3 วิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและผลการรักษา (Anxiety related to surgery and treatment outcomes)
Assessment
Subjective Data

  • ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและผลการรักษา
  • ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับความเสี่ยงของการผ่าตัดและการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด
  • ผู้ป่วยแสดงอาการกระวนกระวาย เช่น หายใจเร็วหรือพูดไม่ชัดเจน
  • ผู้ป่วยแสดงท่าทางกังวล เช่น กระสับกระส่ายหรือขยับตัวบ่อยๆ

Objective Data

  • การคลำพบการเกร็งของกล้ามเนื้อใบหน้าและลำตัว
  • ความดันโลหิตอาจสูงกว่าปกติ (เช่น 140/90 mmHg)
  • ชีพจรเร็ว (เช่น 100 bpm)
  • การหายใจเร็ว (ประมาณ 22 ครั้ง/นาที)
  • ผู้ป่วยแสดงท่าทางวิตกกังวล เช่น หงุดหงิดและสงสัย

Goals

  • ผู้ป่วยจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและผลการรักษาโดยไม่รู้สึกเครียด
  • ผู้ป่วยจะสามารถแสดงท่าทางผ่อนคลายและสงบลงหลังการได้รับการดูแล
  • Evaluate criteria
  • ผู้ป่วยแสดงท่าทางสงบและไม่แสดงอาการวิตกกังวลหรือกระวนกระวาย
  • ผู้ป่วยสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดและกระบวนการฟื้นตัวได้อย่างเข้าใจ

Intervention

  • K35F3I-1: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัด ความเสี่ยง และการฟื้นตัวหลังผ่าตัด
  • K35F3I-2: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ ช้า ๆ เพื่อลดความวิตกกังวล
  • K35F3I-3: สนับสนุนทางอารมณ์ด้วยการพูดคุย ให้กำลังใจ และสร้างความมั่นใจในการดูแล
  • K35F3I-4: สังเกตพฤติกรรมแสดงความวิตกกังวล และพูดคุยเพื่อบรรเทาความกังวล
  • K35F3I-5: ให้คำแนะนำแก่ครอบครัวเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดและการสนับสนุนผู้ป่วย

Response

  • K35F3R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมประจำวันโดยไม่แสดงอาการวิตกกังวล
  • K35F3R-2: ผู้ป่วยมีความมั่นใจและตอบคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน

…………………………………………………………………

K35F04 เจ็บปวดแผลผ่าตัดไส้ติ่ง (Postoperative Pain from Appendectomy (Pain Management)
Assessment
Subjective Data

  • ผู้ป่วยร้องเรียนถึงอาการเจ็บปวดบริเวณแผลผ่าตัด
  • ผู้ป่วยแสดงอาการกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด
  • ผู้ป่วยบอกว่าความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนท่าทาง

Objective Data

  • ผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บปวดเมื่อสัมผัสหรือเคลื่อนไหวแผล
  • ะดับความเจ็บปวด (Pain Scale) อยู่ที่ 6/10 (ระดับปานกลางถึงรุนแรง)
  • แผลผ่าตัดมีลักษณะสะอาด ไม่มีหนองหรือการอักเสบ แต่แสดงอาการเจ็บปวดเมื่อสัมผัส

Goals

  • ผู้ป่วยจะมีระดับความเจ็บปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 6/10 เป็น 3/10 หรือต่ำกว่าใน 24 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยจะสามารถจัดการความเจ็บปวดได้ด้วยการใช้ยาและเทคนิคการผ่อนคลาย
  • ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการแทรกซ้อนจากการเจ็บปวด เช่น อุณหภูมิสูงหรือการอักเสบของแผล

Evaluate criteria

  • การประเมินระดับความเจ็บปวดลดลงอย่างชัดเจนภายใน 24 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการจัดการความเจ็บปวดได้
  • ไม่มีอาการบวม, อักเสบ หรือหนองในแผลผ่าตัด
  • แผลสะอาดและไม่มีอาการแทรกซ้อน

Intervention

  • K35F4I-1: ให้ยาแก้ปวดตามคำสั่งแพทย์ เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen และประเมินผลทุก 4 ชั่วโมง
  • K35F4I-2: ติดตามการตอบสนองของผู้ป่วยหลังการให้ยาเพื่อปรับแผนการรักษา
  • K35F4I-3: สอนการหายใจลึก ๆ และแนะนำเทคนิคการผ่อนคลายเพื่อลดความเจ็บปวด
  • K35F4I-4: ช่วยผู้ป่วยจัดท่าที่สบาย เช่น นอนหงายหรือยกขาขึ้นเล็กน้อย เพื่อบรรเทาอาการปวด
  • K35F4I-5: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับท่าทางที่เหมาะสมเพื่อลดความเจ็บปวดและส่งเสริมการฟื้นตัว
  • K35F4I-6: ตรวจสอบสัญญาณชีพและระดับความเจ็บปวดทุกชั่วโมง
  • K35F4I-7: สังเกตและบันทึกการเปลี่ยนแปลงของแผลผ่าตัด เช่น บวม อักเสบ หรือหนอง

Response

  • K35F4R-1: ความเจ็บปวดลดลงจาก 6/10 เป็น 3/10 หลังการให้ยาและใช้เทคนิคการผ่อนคลาย
  • K35F4R-2: ผู้ป่วยรับประทานอาหารและเคลื่อนไหวได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดรุนแรง
  • K35F4R-3:แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีอาการบวม อักเสบ หรือหนอง
  • K35F4R-4:ผู้ป่วยเข้าใจการจัดการความเจ็บปวด และพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลแผลและฟื้นตัวที่บ้าน

……………………………………………………………………

K35F5 ความเสี่ยงจากการติดเชื้อหลังการผ่าตัด (Risk for Infection related to postoperative surgical wound and invasive procedure)
Assessment
Subjective Data

  • ผู้ป่วยไม่ได้รายงานอาการของการติดเชื้อ แต่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
  • ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับวิธีการดูแลแผลหลังผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

Objective Data

  • ผู้ป่วยเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ
  • แผลผ่าตัดถูกพันด้วยผ้าก๊อซที่สะอาดและมีการปิดอย่างแน่นหนา
  • ไม่มีการบวม, แดง หรือมีของเหลวออกจากแผลในระยะแรกหลังผ่าตัด
  • ชีพจร, ความดันโลหิต, และอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติหลังการผ่าตัด
  • สัญญาณชีพที่ปกติและไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อในทันทีหลังผ่าตัด

Goals

  • ผู้ป่วยจะไม่พัฒนาการติดเชื้อหลังผ่าตัดภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยจะสามารถรักษาความสะอาดของแผลและดูแลแผลผ่าตัดได้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำ
  • ผู้ป่วยและครอบครัวจะมีความเข้าใจในขั้นตอนการดูแลแผลและการป้องกันการติดเชื้อ

Evaluate criteria

  • แผลผ่าตัดไม่มีการอักเสบ, การบวม, หรือการมีหนองภายใน 48 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
  • ไม่มีอาการของการติดเชื้อ เช่น ไข้สูง, อาการปวดแผลที่เพิ่มขึ้น, หรือของเหลวผิดปกติจากแผล
  • ผู้ป่วยสามารถดูแลแผลได้อย่างถูกต้องและรู้จักสังเกตอาการที่อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ

Intervention

  • K35F5I-1: ให้คำแนะนำการดูแลแผลผ่าตัด เช่น การเปลี่ยนผ้าพันแผลและทำความสะอาดแผล
  • K35F5I-2: ประเมินแผลทุกวันและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง เช่น บวม, แดง, หรือมีของเหลว
  • K35F5I-3: สอนการล้างมือและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยตรง
  • K35F5I-4: ตรวจสอบการใช้ยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำ
  • K35F5I-5: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาการที่ต้องระวัง เช่น ไข้สูงหรือการอักเสบของแผล

Response

  • K35F5R-1: ผู้ป่วยสามารถดูแลแผลได้อย่างถูกต้องและไม่มีอาการบ่งชี้ถึงการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
  • K35F5R-2: แผลผ่าตัดไม่แสดงอาการอักเสบหรือการติดเชื้อ
  • K35F5R-3: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อ
  • K35F5R-4: สัญญาณชีพปกติและไม่มีการเกิดการติดเชื้อภายใน 48 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด

…………………………………………………………………

K35F6 มีไข้จากไส้ติ่งอักเสบ  (Fever due to Appendicitis)
Assessment
Subjective Data

  • ผู้ป่วยรายงานรู้สึกร้อนและมีไข้ตั้งแต่หลังจากเกิดอาการเจ็บปวดท้อง
  • ผู้ป่วยบ่นว่าอ่อนเพลียและรู้สึกไม่สบายจากไข้
  • ผู้ป่วยอาจมีอาการหนาวสั่นและเหงื่อออกมากขณะมีไข้

Objective Data

  • อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38°C (อาจวัดได้ระหว่าง 38.0-39.0°C)
  • ผู้ป่วยมีอาการซึมลงและไม่อยากกินอาหาร
  • ตรวจพบว่ามีอาการหนาวสั่นร่วมกับไข้
  • สัญญาณชีพ: ชีพจร 98 bpm, ความดันโลหิต 120/80 mmHg, O2 saturation 96%
  • แผลผ่าตัดสะอาด แต่มีอุณหภูมิร่างกายสูง อาจมีสัญญาณของการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับไส้ติ่ง

Goals

  • ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิร่างกายลดลงไม่เกิน 38°C ภายใน 24 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยจะไม่มีอาการหนาวสั่นหรืออ่อนเพลียจากไข้
  • ผู้ป่วยจะสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติหลังจากการลดไข้

Evaluate criteria

  • อุณหภูมิร่างกายลดลงเป็นปกติ (ต่ำกว่า 38°C)
  • ไม่มีอาการหนาวสั่นหรืออ่อนเพลียจากไข้
  • ผู้ป่วยมีพลังงานและสามารถรับประทานอาหารได้
  • ไม่มีสัญญาณการติดเชื้อหรือแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด
  • ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นและสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้

Intervention

  • K35F6I-1: การควบคุมไข้ ให้ยาแก้ไข้ (เช่น Paracetamol) ตามคำสั่งแพทย์
  • K35F6I-2: สังเกตอุณหภูมิร่างกายทุก 2-4 ชั่วโมงและบันทึกข้อมูล
  • K35F6I-3: หากอุณหภูมิยังคงสูงเกิน 38.5°C ให้พิจารณาใช้การประคบร่างกายด้วยผ้าชุบน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิ
  • K35F6I-4: สังเกตอาการหนาวสั่นและให้ผ้าห่มให้ความอบอุ่นเมื่อไข้ลดลง
  • K35F6I-5: ปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสมเพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น
  • K35F6I-6: ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองโดยให้ดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อช่วยลดไข้
  • K35F6I-7: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพักผ่อนที่เพียงพอและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนักจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น
  • K35F6I-8: ประเมินอุณหภูมิร่างกายและสัญญาณชีพทุก 2 ชั่วโมงจนกว่าไข้จะลดลง
  • K35F6I-9: ติดตามการเปลี่ยนแปลงของอาการไข้และรายงานให้แพทย์ทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

Response

  • K35F6R-1: อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยลดลงจาก 38.5°C เป็น 37.5°C หลังการให้ยา Paracetamol
  • K35F6R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการหนาวสั่นและมีพลังงานดีขึ้นหลังจากได้รับการดูแล
  • K35F6R-3: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นและสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ
  • K35F6R-4: ไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อหรือแทรกซ้อนจากแผลผ่าตัด
  • K35F6R-5: ผู้ป่วยแสดงอาการดีขึ้นและสามารถนอนพักผ่อนได้อย่างสบาย

……………………………………………………………………

K35 F7 วางแผนก่อนจำหน่ายหลังผ่าตัดไส้ติ่ง (Discharge Planning after Appendectomy)
Assessment
Subjective Data

  • ผู้ป่วยและครอบครัวแสดงความกังวลเกี่ยวกับการดูแลแผลหลังการผ่าตัดและการฟื้นตัวที่บ้าน
  • ผู้ป่วยถามเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร การเคลื่อนไหว และการดูแลแผลหลังการผ่าตัด
  • ผู้ป่วยแสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวจากการผ่าตัดและผลข้างเคียงจากยา

Objective Data

  • ผู้ป่วยมีแผลผ่าตัดไส้ติ่งที่สะอาดและไม่แสดงอาการบวม, อักเสบ หรือมีหนอง
  • ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่มีอาการเจ็บปวดรุนแรง
  • สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ: อุณหภูมิ 36.8°C, ชีพจร 80 bpm, ความดันโลหิต 120/80 mmHg
  • ผลการตรวจห้องปฏิบัติการแสดงว่าไม่มีการติดเชื้อหลังการผ่าตัด

Goals

  • ผู้ป่วยและครอบครัวจะสามารถอธิบายการดูแลแผลและการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดภายใน 24 ชั่วโมงก่อนจำหน่าย
  • ผู้ป่วยจะสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามที่แพทย์อนุญาตและไม่แสดงอาการแทรกซ้อน
  • ผู้ป่วยจะเข้าใจการใช้ยาและการติดตามผลหลังผ่าตัด เช่น การใช้ยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ (ถ้ามี)

Evaluate criteria
ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายวิธีการดูแลแผลผ่าตัดและการฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน

  • ไม่มีอาการหรืออาการแทรกซ้อนจากการรับประทานอาหารหรือการเคลื่อนไหว
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการใช้ยาและขั้นตอนการติดตามผลหลังผ่าตัด
  • แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีการบวม, อักเสบ, หรือมีหนอง

Intervention

  • K35F7I-1: สอนการทำความสะอาดแผลและการเปลี่ยนผ้าพันแผล รวมถึงการดูแลแผลที่บ้าน
  • K35F7I-2: แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารย่อยง่ายและหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  • K35F7I-3: อธิบายการใช้ยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำแพทย์
  • K35F7I-4: แนะนำการสังเกตอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง, การอักเสบของแผล, หรืออาการเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น
  • K35F7I-5: นัดหมายการติดตามผลภายใน 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัดเพื่อประเมินอาการและฟื้นตัว

Response

  • K35F7R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายการดูแลแผล, การรับประทานอาหาร, และการปฏิบัติตนหลังผ่าตัดได้อย่างมั่นใจ
  • K35F7R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการแทรกซ้อนจากอาหารหรือการเคลื่อนไหว
  • K35F7R-3: แผลผ่าตัดสะอาด ไม่มีอาการบวม, อักเสบ, หรือหนอง
  • K35F7R-4: ผู้ป่วยสามารถใช้ยาและติดตามผลตามคำแนะนำได้ถูกต้อง

......................................................................................................