Psych. Topic 31 : Inhalant Use Disorder : F18
🧠 โรคการใช้สารระเหย (ICD-10: F18) คืออะไร?
สารระเหยอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด เช่น น้ำยาล้างเล็บ สีทาบ้าน กาว สเปรย์ฉีดผม
เมื่อ สูดดมซ้ำๆ อาจทำให้รู้สึก “เคลิ้ม” หรือ “ไฮ” ชั่วคราว แต่… ผลเสียกลับอยู่กับเราไปนาน
อันตรายที่อาจเกิดขึ้น: วิงเวียน คลื่นไส้ ประสาทหลอน ความจำเสื่อม
อารมณ์แปรปรวน ก้าวร้าว เสี่ยงต่อ โรคสมอง หัวใจ และอาจถึงชีวิต
พยาธิสภาพ
/ พบในช่วงอายุใดบ่อย?
- 🔍 โรคนี้เกิดจากการสูดดมสารเคมีระเหย เช่น ทินเนอร์ กาว น้ำยาล้างเล็บ
- 📌 มักพบใน วัยรุ่นอายุ 12–20 ปี เพราะเข้าถึงง่าย ราคาถูก และอยากลอง
ใช้สารแล้วมีอาการ:
- มึนงง เคลิบเคลิ้ม
- วิงเวียน อาเจียน
- พูดช้า เดินเซ
- ประสาทหลอน อารมณ์แปรปรวน
- ใช้บ่อย = เสี่ยง "สมองเสื่อม หัวใจล้มเหลว" หรือเสียชีวิตเฉียบพลัน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค
- อยากรู้อยากลอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น
- ขาดความรู้เรื่องอันตราย
- เข้าถึงง่าย (ของใช้ในบ้านทั่วไป)
- ปัญหาครอบครัว/ความเครียด
- ไม่มีใครสังเกตเห็นพฤติกรรม
แนวทางการรักษา
- หยุดใช้สารทันที (Detox)
- ให้คำปรึกษาทางจิตใจ (counseling)
- เข้าร่วมกลุ่มบำบัด หรือบำบัดในสถานพยาบาล
- ยิ่งรักษาเร็ว โอกาสฟื้นตัวสูง
การพยาบาล
- ประเมินอาการและพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ
- สร้างความไว้วางใจในการพูดคุย
- ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว
- ประสานส่งต่อทีมจิตแพทย์หรือนักบำบัดสารเสพติด
วิธีดูแลตัวเอง & คนใกล้ตัว
- สังเกตพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เช่น ชอบอยู่คนเดียว พกของแปลกๆ มีกลิ่นสารเคมี
- พูดคุยด้วยความเข้าใจ ไม่กล่าวโทษ
- หลีกเลี่ยงการเก็บสารระเหยในที่เข้าถึงง่าย
- หากสงสัย รีบพาไปพบแพทย์หรือขอคำปรึกษา
……………………………………………………
✨“เคลิ้มแค่ชั่วคราว…แต่อันตรายอาจอยู่ตลอดชีวิต”
อย่าปล่อยให้ "แค่อยากลอง" พาเขาหายไปจากชีวิตคุณ 💔
รู้ทัน โรคการใช้สารระเหย ก่อนสายเกินไป!
#InhalantUseDisorder #รู้ทันภัยเงียบ
#วัยรุ่นต้องรู้ #สารระเหยอันตราย #เลิกก่อนพัง #รู้ไว้ไม่เสี่ยง #พยาบาลแชร์ความรู้ #Reelsเพื่อสังคม #สุขภาพจิต #วัยรุ่นยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพ #MentalHealthAwareness
……………………………………….
🏥 วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคการใช้สารระเหย (ICD-10:
F18)
- F18F1 มีความเสี่ยงต่อภาวะระบบหายใจล้มเหลวหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะจากการใช้สารระเหย (Risk for respiratory failure or cardiac arrhythmia related to inhalant use)
- F18F2 มีความสับสน มึนงง หรือหมดสติจากฤทธิ์ของสารระเหย (Acute confusion or altered consciousness related to volatile substance intoxication)
- F18F3 มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น เช่น อารมณ์รุนแรง ประสาทหลอน (Risk for violence or self-harm related to hallucinatory behavior or emotional instability)
- F18F4 มีภาวะซึมเศร้าหรืออารมณ์แปรปรวนร่วมกับการใช้สารระเหย (Depressed mood or mood instability associated with inhalant use)
- F18F5 ขาดแรงจูงใจในการหยุดใช้สารระเหยหรือขาดความร่วมมือในการบำบัด (Ineffective coping or lack of motivation for substance cessation)
- F18F6 มีการขาดสารอาหารหรือภาวะขาดน้ำเนื่องจากละเลยการกินอาหาร/ดื่มน้ำขณะใช้สาร (Imbalanced nutrition or fluid volume deficit related to neglect of self-care during substance use)
- F18F7 มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บซ้ำซ้อน เช่น หกล้ม ขับรถในขณะมึนเมา (Risk for injury due to impaired judgment or coordination during inhalant use)
- F18F8 ขาดความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของสารระเหยต่อร่างกายและจิตใจ (Deficient knowledge regarding physical and psychological effects of inhalant use)
- F18F9 ขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือสังคม ส่งผลให้เสี่ยงต่อการกลับไปใช้ซ้ำ (Impaired social support or risk for relapse due to lack of family or community involvement)
- F18F10 มีความต้องการการดูแลต่อเนื่องและการส่งต่อไปยังหน่วยบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ (Readiness for enhanced community care and referral for rehabilitation services)
................................................................................
F18F1:
มีความเสี่ยงต่อภาวะระบบหายใจล้มเหลวหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะจากการใช้สารระเหย
(Risk for respiratory failure or cardiac arrhythmia
related to inhalant use)
🔎
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม
- มีอาการเวียนศีรษะหลังจากสูดดมสารระเหย
O:
- หายใจเร็ว (Respiratory Rate > 22 ครั้ง/นาที)
- ชีพจรเต้นเร็วหรือไม่สม่ำเสมอ
- ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ (SpO₂ < 94%)
- สีผิวซีดหรือเขียวคล้ำบริเวณริมฝีปาก/ปลายนิ้ว
- มีเสียงหวีดหรือกรนขณะหายใจ
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไม่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือภาวะหายใจล้มเหลว
- สัญญาณชีพคงที่ในเกณฑ์ปกติ
- ระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ ≥ 95%
📊 Evaluate
Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- RR: 12–20 ครั้ง/นาที
- HR: 60–100 ครั้ง/นาที และสม่ำเสมอ
- SpO₂ ≥ 95% โดยไม่ใช้ออกซิเจนเสริม
- ผู้ป่วยรู้สึกหายใจสะดวกขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง
🏥
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพทุก 2–4 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังภาวะผิดปกติ
- F18F1I-2: เฝ้าระวังระดับออกซิเจนในเลือดด้วย pulse oximeter อย่างสม่ำเสมอ
- F18F1I-3: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อลดภาวะหายใจลำบาก
- F18F1I-4: ให้การดูแลเรื่องการใช้ออกซิเจนเสริมตามแผนการรักษา
- F18F1I-5: หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น กลิ่นฉุนหรือควัน
- F18F1I-6: เฝ้าระวังการเต้นของหัวใจด้วยเครื่อง ECG หากมีอาการผิดปกติ
- F18F1I-7: ประสานแพทย์ทันทีเมื่อพบสัญญาณชีพผิดปกติหรือภาวะฉุกเฉิน
- F18F1I-8: ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติเรื่องอาการอันตรายที่ต้องแจ้งพยาบาลทันที
- F18F1I-9: สังเกตพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกลับไปใช้สารซ้ำภายในระยะเฝ้าระวัง
- F18F1I-10: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยจากสารระเหยและสิ่งล่อใจ
✅ Response
(การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F18F1R-1: ผู้ป่วยไม่มีอาการแน่นหน้าอกหรือหอบเหนื่อย
- F18F1R-2: RR และ HR อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- F18F1R-3: SpO₂ ≥ 95% โดยไม่ต้องใช้ออกซิเจนเสริม
- F18F1R-4: ผู้ป่วยสามารถบอกอาการเตือนที่ควรแจ้งพยาบาลได้ถูกต้อง
- F18F1R-5: ไม่มีสัญญาณของหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหายใจล้มเหลวภายใน 48 ชั่วโมง
…………………………………………………………………………………
F18F2: มีความสับสน มึนงง
หรือหมดสติจากฤทธิ์ของสารระเหย (Acute confusion or altered
consciousness related to volatile substance intoxication)
🔍
Assessment (การประเมิน)
S:
- ญาติแจ้งว่าผู้ป่วยพูดจาไม่รู้เรื่อง จดจำสิ่งรอบตัวไม่ได้
- ผู้ป่วยบ่นว่ารู้สึกเบลอ สับสน หรือเวียนหัว
O:
- ผู้ป่วยตอบสนองช้าหรือไม่สื่อสารได้ตามปกติ
- ระดับรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง (เช่น ใช้ GCS ต่ำกว่าปกติ)
- เดินเซ สูญเสียการทรงตัว
- มีประวัติใช้สารระเหยภายใน 24 ชั่วโมง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีระดับความรู้สึกตัวดีขึ้น
- ผู้ป่วยสื่อสารได้เข้าใจและตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ถูกต้อง
- ป้องกันการเกิดอันตรายจากการสับสน เช่น หกล้ม หรือทำร้ายตัวเอง
📊 Evaluate
Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- GCS ≥ 14 ภายใน 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยรู้จักตนเอง เวลา สถานที่ (Oriented x3)
- ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว สับสน หรือพูดจาเพ้อเจ้อ
- ไม่มีเหตุการณ์หกล้ม บาดเจ็บ หรือทำร้ายตนเอง
🏥
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F2I-1: ประเมินระดับความรู้สึกตัวและพฤติกรรมทุก 2–4 ชั่วโมง
- F18F2I-2: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคม วางที่กั้นเตียง
- F18F2I-3: พูดคุยช้าๆ ชัดเจน และให้ข้อมูลซ้ำหากผู้ป่วยสับสน
- F18F2I-4: ประสานแพทย์เมื่อมีระดับรู้สึกตัวลดลงหรือไม่ตอบสนอง
- F18F2I-5: เฝ้าระวังอาการข้างเคียงจากสารระเหย เช่น ชักหรือหมดสติ
- F18F2I-6: เฝ้าระวังพฤติกรรมก้าวร้าวหรือเสี่ยงอันตรายตนเอง/ผู้อื่น
- F18F2I-7: ให้ผู้ป่วยพักในห้องเงียบ ลดสิ่งกระตุ้นทางเสียงและแสง
- F18F2I-8: ส่งเสริมให้ญาติเข้ามาอยู่ใกล้เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย
- F18F2I-9: จัดกิจกรรมเบาๆ กระตุ้นการรับรู้ เช่น สนทนา ฟังเพลงเบาๆ
- F18F2I-10: บันทึกอาการเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้ติดตามและวางแผนดูแลต่อเนื่อง
✅ Response
(การตอบสนอง)
- F18F2R-1: ผู้ป่วยรู้จักตนเอง เวลา สถานที่ ถูกต้อง
- F18F2R-2: ไม่มีอาการสับสน พูดจาเพ้อเจ้อ หรือแสดงพฤติกรรมผิดปกติ
- F18F2R-3: ไม่มีเหตุการณ์หกล้มหรือพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย
- F18F2R-4: ผู้ป่วยสามารถร่วมมือในการสื่อสารและการดูแลตนเองได้
- F18F2R-5: ญาติหรือผู้ดูแลเข้าใจวิธีดูแลผู้ป่วยเมื่อกลับบ้าน
………………………………………………………………………………………….
F18F3 มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น
(Risk for violence or self-harm related to hallucinatory
behavior or emotional instability)
🔍
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นว่า “มีคนจะมาทำร้าย” หรือ “ได้ยินเสียงสั่งให้ทำร้ายคนอื่น”
- ญาติแจ้งว่าผู้ป่วยมีพฤติกรรมก้าวร้าว ขว้างปาข้าวของ
O:
- สังเกตว่าผู้ป่วยมีสีหน้าเครียด ดวงตากวาดมองไปมา พูดคนเดียว
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมรุนแรง เช่น ทุบตีของ หรือแสดงอาการควบคุมอารมณ์ไม่ได้
- มีประวัติพฤติกรรมก้าวร้าวหรือทำร้ายตนเอง/ผู้อื่นมาก่อน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยไม่แสดงพฤติกรรมรุนแรง หรือทำร้ายตนเองและผู้อื่น
- ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และมีความปลอดภัย
- ลดความถี่ของอาการประสาทหลอนหรือพฤติกรรมก้าวร้าว
📊 Evaluate
Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นตลอดช่วงเฝ้าระวัง
- ผู้ป่วยสามารถตอบสนองต่อคำแนะนำได้ดี
- ระดับอารมณ์และพฤติกรรมสงบลงภายใน 24-48 ชั่วโมง
- ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในช่วงดูแลรักษา
🏥 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- 18F3I-1: ประเมินพฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายตนเอง/ผู้อื่นทุก 2 ชั่วโมง
- 18F3I-2: จัดสภาพแวดล้อมปลอดภัย เก็บสิ่งของมีคม/อันตรายให้พ้นมือ
- 18F3I-3: จัดห้องให้ผู้ป่วยอยู่ในบริเวณเฝ้าระวังพิเศษ (เช่น ห้องพิเศษหรือติดเตียงใกล้พยาบาล)
- 18F3I-4: อยู่กับผู้ป่วยตลอดเมื่อแสดงพฤติกรรมผิดปกติ เพื่อลดการตอบสนองต่อประสาทหลอน
- 18F3I-5: ใช้เทคนิคพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่มั่นคง เพื่อปลอบใจและควบคุมสถานการณ์
- 18F3I-6: เฝ้าระวังอาการประสาทหลอน และประสานแพทย์เพื่อประเมินทางจิตเวช
- 18F3I-7: บันทึกพฤติกรรมทุกครั้งที่มีความรุนแรงหรือพูดถึงการทำร้าย
- 18F3I-8: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยระบายอารมณ์ด้วยวิธีที่ปลอดภัย เช่น วาดภาพ เขียนบันทึก
- 18F3I-9: ให้ญาติหรือผู้ดูแลใกล้ชิดร่วมดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
- 18F3I-10: ประเมินความจำเป็นในการให้ยาเพื่อลดอาการรุนแรงตามแผนแพทย์
✅ Response (การตอบสนอง)
- F18F3R-1: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมรุนแรงหรือทำร้ายตนเองตลอดวัน
- F18F3R-2: อารมณ์ผู้ป่วยสงบขึ้น และสามารถพูดคุยได้อย่างปลอดภัย
- F18F3R-3: ผู้ป่วยให้ความร่วมมือกับทีมสุขภาพโดยไม่ต่อต้าน
- F18F3R-4: ญาติสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลอย่างเข้าใจ
- F18F3R-5: ไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือความรุนแรงซ้ำเกิดขึ้นอีก
……………………………………………………………………..
F18F4 มีภาวะซึมเศร้าหรืออารมณ์แปรปรวนร่วมกับการใช้สารระเหย
(Depressed mood or mood instability associated with
inhalant use)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “รู้สึกเศร้า เหนื่อยใจ ไม่มีความสุข”
- รู้สึกโกรธง่ายหรืออารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ
- บ่นว่าไม่มีแรงใจทำสิ่งต่างๆ
O:
- สังเกตผู้ป่วยแสดงสีหน้าเศร้าหรือหงุดหงิด
- มีพฤติกรรมถอนตัวจากสังคมหรือไม่สนใจกิจกรรมที่เคยชอบ
- น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นผิดปกติ
- นอนไม่หลับหรือหลับมากเกินไป
- มีความคิดหรือพูดถึงการทำร้ายตนเอง
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยแสดงอารมณ์มั่นคงขึ้น มีความสุขและสงบ
- ลดอาการซึมเศร้าหรืออารมณ์แปรปรวนได้ชัดเจน
- ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความรู้สึกและความต้องการได้ดีขึ้น
- ป้องกันการเกิดพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือคิดฆ่าตัวตาย
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยแสดงอารมณ์ที่สงบและมีความสุขมากขึ้น
- ความถี่ของอารมณ์แปรปรวนน้อยลง
- ไม่มีความคิดหรือพฤติกรรมทำร้ายตนเอง
- ผู้ป่วยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมและสื่อสารได้ดี
- อาการนอนหลับและรับประทานอาหารดีขึ้น
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F4I-1: ประเมินอารมณ์และความเสี่ยงซึมเศร้าทุกวัน
- F18F4I-2: ฟังและสนับสนุนผู้ป่วยให้แสดงออกถึงความรู้สึกอย่างเปิดเผย
- F18F4I-3: จัดกิจกรรมบำบัดเพื่อส่งเสริมอารมณ์ เช่น ดนตรี วาดภาพ หรือพูดคุยกลุ่ม
- F18F4I-4: ประสานงานกับจิตแพทย์เพื่อพิจารณาการใช้ยาและการบำบัดทางจิตใจ
- F18F4I-5: ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลตนเอง เช่น การนอนหลับพักผ่อนและโภชนาการ
- F18F4I-6: เฝ้าระวังอาการคิดฆ่าตัวตายหรือพฤติกรรมเสี่ยง
- F18F4I-7: สนับสนุนการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการดูแลและให้กำลังใจ
- F18F4I-8: จัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและอบอุ่น เพื่อลดความเครียด
Response (การตอบสนอง)
- F18F4R-1: ผู้ป่วยแสดงอารมณ์ที่มั่นคงและสงบขึ้น
- F18F4R-2: ความคิดหรือพฤติกรรมทำร้ายตนเองลดลงหรือไม่มีเลย
- F18F4R-3: ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความรู้สึกและต้องการได้ดีขึ้น
- F18F4R-4: ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมบำบัดอย่างเต็มใจ
- F18F4R-5: ครอบครัวและผู้ดูแลมีส่วนร่วมและให้การสนับสนุน
……………………………………………………………………………..
F18F5 ขาดแรงจูงใจในการหยุดใช้สารระเหยหรือขาดความร่วมมือในการบำบัด
(Ineffective coping or lack of motivation for substance
cessation)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่อยากเลิก ใช้แล้วรู้สึกดีขึ้น”
- แสดงท่าทีไม่สนใจคำแนะนำหรือการรักษา
- รู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวังที่จะเลิกใช้สารระเหย
O:
- ขาดการมีส่วนร่วมในการบำบัดหรือกิจกรรมบำบัด
- มีพฤติกรรมปกปิดการใช้สารระเหย
- แสดงอารมณ์หงุดหงิดหรือปฏิเสธการช่วยเหลือ
- มีประวัติใช้สารระเหยซ้ำหลายครั้งหลังการรักษา
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยแสดงความตั้งใจและแรงจูงใจในการหยุดใช้สารระเหย
- ผู้ป่วยมีความร่วมมือในการบำบัดและการดูแลรักษา
- ลดพฤติกรรมการใช้สารระเหยซ้ำ
- ผู้ป่วยเรียนรู้ทักษะการรับมือกับความเครียดอย่างเหมาะสม
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยยอมรับและเข้าร่วมการบำบัดอย่างสม่ำเสมอ
- แสดงท่าทีเชิงบวกต่อการเลิกใช้สารระเหย
- ลดจำนวนครั้งหรือหยุดใช้สารระเหย
- ผู้ป่วยสามารถแสดงวิธีรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น
- มีการสื่อสารและความร่วมมือกับทีมรักษาและครอบครัว
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F5I-1: ประเมินความรู้และทัศนคติของผู้ป่วยต่อการเลิกใช้สารระเหย
- F18F5I-2: ให้ข้อมูลข้อดีและผลเสียของการใช้สารระเหยและการเลิกใช้
- F18F5I-3: สนับสนุนและสร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วยเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง
- F18F5I-4: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยในการวางแผนบำบัดและตั้งเป้าหมายเล็กๆ
- F18F5I-5: ใช้เทคนิคการฟังอย่างตั้งใจและให้กำลังใจผู้ป่วย
- F18F5I-6: จัดกิจกรรมบำบัดทางเลือก เช่น กิจกรรมกลุ่ม สนับสนุนการเลิกใช้สารระเหย
- F18F5I-7: ประสานงานกับทีมจิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเพื่อเสริมแรงจูงใจ
- F18F5I-8: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวและคนใกล้ชิดในการสนับสนุน
Response (การตอบสนอง)
- F18F5R-1: ผู้ป่วยแสดงความตั้งใจและแรงจูงใจในการเลิกใช้สารระเหย
- F18F5R-2: ผู้ป่วยเข้าร่วมการบำบัดอย่างสม่ำเสมอและร่วมมือดี
- F18F5R-3: จำนวนการใช้สารระเหยลดลงหรือหยุดใช้
- F18F5R-4: ผู้ป่วยแสดงทักษะรับมือกับความเครียดที่ดีขึ้น
- F18F5R-5: ครอบครัวและผู้ดูแลให้การสนับสนุนและร่วมมือกับทีมรักษา
………………………………………………………………………………
F18F6 ขาดสารอาหารหรือภาวะขาดน้ำเนื่องจากละเลยการกินอาหาร/ดื่มน้ำขณะใช้สาร
(Imbalanced nutrition or fluid volume deficit related to
neglect of self-care during substance use)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นรู้สึกเหนื่อย ไม่มีแรง หรือรู้สึกปากแห้ง
- บอกว่าละเลยการกินอาหารหรือดื่มน้ำช่วงใช้สารระเหย
- แสดงอาการเวียนหัวหรือหน้ามืด
O:
- น้ำหนักตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดิม
- ผิวแห้ง ปากแห้ง หรือตาแห้ง
- ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเบาหรือเร็วผิดปกติ
- ปัสสาวะน้อยหรือสีเข้ม
- พบภาวะขาดน้ำและโภชนาการไม่เพียงพอ
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยได้รับสารอาหารและน้ำเพียงพอ
- ป้องกันและแก้ไขภาวะขาดน้ำและภาวะโภชนาการไม่สมดุล
- ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองด้านอาหารและน้ำได้ดีขึ้น
- ลดอาการอ่อนเพลียและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยกินอาหารและดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3 มื้อหรือเพียงพอต่อความต้องการ
- น้ำหนักตัวคงที่หรือเพิ่มขึ้น
- ผิวหนังและเยื่อเมือกชุ่มชื้น
- ความดันโลหิตและชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ปัสสาวะปกติไม่ขาดน้ำ
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F6I-1: ประเมินน้ำหนักตัวและสัญญาณชีพทุกวัน
- F18F6I-2: กระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ป่วยกินอาหารและดื่มน้ำเพียงพอ
- F18F6I-3: ให้คำแนะนำเรื่องอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและน้ำมากๆ
- F18F6I-4: ตรวจสอบภาวะขาดน้ำ เช่น ดูสีปัสสาวะและผิวหนัง
- F18F6I-5: จัดอาหารที่ชอบและเหมาะสมกับสภาพร่างกายผู้ป่วย
- F18F6I-6: ประสานงานกับนักโภชนาการเพื่อวางแผนอาหารที่เหมาะสม
- F18F6I-7: เฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนจากภาวะขาดน้ำและโภชนาการไม่เพียงพอ
- F18F6I-8: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีความรู้เรื่องการดูแลตนเองด้านอาหารและน้ำ
Response (การตอบสนอง)
- F18F6R-1: ผู้ป่วยกินอาหารและดื่มน้ำได้เพียงพอในแต่ละวัน
- F18F6R-2: น้ำหนักตัวคงที่หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- F18F6R-3: ผิวหนังและเยื่อเมือกชุ่มชื้น ไม่มีอาการขาดน้ำ
- F18F6R-4: สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- F18F6R-5: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านอาหารและน้ำดีขึ้น
…………………………………………………………………………..
F18F7 มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บซ้ำซ้อน เช่น
หกล้ม ขับรถในขณะมึนเมา (Risk for injury due to impaired judgment or coordination
during inhalant use)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่ามึนงงหรือรู้สึกไม่มั่นคงเวลาเดิน
- แจ้งว่ามีอารมณ์หรือพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ขับรถขณะเมาสารระเหย
- ผู้ป่วยกังวลเรื่องการบาดเจ็บหรือเคยประสบอุบัติเหตุมาก่อน
O:
- ท่าทางไม่สมดุล เดินเซ หรือหกล้มบ่อย
- สัญญาณชีพผิดปกติ เช่น ความดันต่ำ ชีพจรเร็ว
- มีแผลฟกช้ำหรือรอยช้ำตามร่างกาย
- ผลการตรวจสมรรถภาพทางกาย เช่น การประเมินการทรงตัวแย่
Goals (เป้าหมาย)
- ป้องกันการบาดเจ็บและอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้สารระเหย
- ผู้ป่วยมีความปลอดภัยในการเคลื่อนไหวและกิจกรรมประจำวัน
- ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่อันตราย
- ผู้ป่วยตระหนักถึงความเสี่ยงและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ไม่มีอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บใหม่ระหว่างการรักษา
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงได้ดีขึ้น
- มีความมั่นคงในการเดินและเคลื่อนไหว
- ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกปลอดภัยและความมั่นใจมากขึ้น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัย
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F7I-1: ประเมินความสามารถในการทรงตัวและพฤติกรรมเสี่ยงทุกวัน
- F18F7I-2: ให้คำแนะนำและเตือนเรื่องอันตรายของการขับรถหรือทำกิจกรรมเสี่ยงในขณะมึนเมา
- F18F7I-3: จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ลดสิ่งกีดขวางและจัดแสงสว่างเพียงพอ
- F18F7I-4: เฝ้าระวังสัญญาณบาดเจ็บและรายงานอุบัติเหตุทันที
- F18F7I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยพักผ่อนและงดกิจกรรมที่เสี่ยงจนกว่าจะฟื้นตัว
- F18F7I-6: สอนทักษะการจัดการตนเองและการป้องกันอุบัติเหตุ
- F18F7I-7: ประสานงานกับทีมจิตเวชเพื่อให้คำปรึกษาและบำบัดพฤติกรรมเสี่ยง
- F18F7I-8: ให้ครอบครัวหรือผู้ดูแลเข้าใจอาการและวิธีช่วยเหลือ
Response (การตอบสนอง)
- F18F7R-1: ผู้ป่วยไม่มีอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บซ้ำซ้อน
- F18F7R-2: ผู้ป่วยสามารถเดินและเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงมากขึ้น
- F18F7R-3: ผู้ป่วยตระหนักและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงได้ดีขึ้น
- F18F7R-4: ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในกิจกรรมประจำวัน
- F18F7R-5: ครอบครัวและผู้ดูแลร่วมมือและช่วยดูแลอย่างเหมาะสม
………………………………………………………………………………….
F18F8 ขาดความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของสารระเหยต่อร่างกายและจิตใจ
(Deficient knowledge regarding physical and psychological
effects of inhalant use)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่าไม่ทราบผลเสียของสารระเหย
- แสดงความไม่เข้าใจเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
- มีคำถามเกี่ยวกับผลกระทบทางกายและจิตใจ
O:
- ขาดข้อมูลหรือความรู้ในเอกสารการรักษา
- ไม่มีท่าทีหรือความตั้งใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรม
- พบพฤติกรรมใช้สารต่อเนื่องแม้ทราบผลกระทบเบื้องต้น
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของสารระเหยต่อร่างกายและจิตใจ
- ผู้ป่วยตระหนักถึงความเสี่ยงและผลเสียจากการใช้สารระเหย
- ผู้ป่วยมีแรงจูงใจที่จะลดหรือเลิกใช้สารระเหย
- ผู้ป่วยสามารถตอบคำถามและแสดงพฤติกรรมที่ปลอดภัยขึ้น
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยอธิบายผลกระทบทางกายและจิตใจของสารระเหยได้อย่างถูกต้อง
- แสดงความเข้าใจและยอมรับข้อมูลที่ได้รับ
- มีพฤติกรรมลดหรือเลิกใช้สารระเหย
- แสดงท่าทีสนใจและพร้อมรับคำแนะนำ
- สามารถตั้งคำถามและแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างเหมาะสม
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F8I-1: ประเมินความรู้พื้นฐานของผู้ป่วยเกี่ยวกับสารระเหยและผลกระทบ
- F18F8I-2: ให้ข้อมูลและสื่อการสอนที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับผลกระทบทางร่างกายและจิตใจ
- F18F8I-3: ใช้วิธีสอนที่เหมาะสม เช่น วีดีโอ ภาพประกอบ หรือบทสนทนา
- F18F8I-4: กระตุ้นให้ผู้ป่วยตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็น
- F18F8I-5: เน้นย้ำความสำคัญของการเลิกใช้สารระเหยและผลดีของการเลิก
- F18F8I-6: สนับสนุนผู้ป่วยในการวางแผนและตั้งเป้าหมายในการเลิกใช้สาร
- F18F8I-7: ประสานงานกับทีมสุขภาพจิตเพื่อเสริมแรงสนับสนุนด้านจิตใจ
- F18F8I-8: ให้ข้อมูลแก่ครอบครัวเพื่อช่วยสนับสนุนผู้ป่วย
Response (การตอบสนอง)
- F18F8R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายผลกระทบของสารระเหยได้ถูกต้อง
- F18F8R-2: ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจและพร้อมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
- F18F8R-3: มีการตั้งคำถามและสนทนาเกี่ยวกับการใช้สารอย่างเหมาะสม
- F18F8R-4: ผู้ป่วยเริ่มลดการใช้สารระเหยหรือแสดงความตั้งใจเลิกใช้
- F18F8R-5: ครอบครัวและผู้ดูแลช่วยสนับสนุนและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
……………………………………………………………………..
F18F9 ขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือสังคม
ส่งผลให้เสี่ยงต่อการกลับไปใช้ซ้ำ (Impaired
social support or risk for relapse due to lack of family or community
involvement)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีใครช่วยเหลือ
- แจ้งว่าได้รับการสนับสนุนน้อยจากครอบครัวหรือเพื่อน
- แสดงความกังวลเรื่องการกลับไปใช้สารซ้ำ
O:
- ไม่มีผู้ดูแลหรือครอบครัวในระหว่างการรักษา
- ขาดการติดต่อกับกลุ่มสนับสนุนหรือชุมชน
- พฤติกรรมหลบเลี่ยงการพบปะสังคมหรือกิจกรรมกลุ่ม
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนทางสังคมที่เพียงพอ
- ผู้ป่วยมีเครือข่ายช่วยเหลือ เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือกลุ่มบำบัด
- ลดความเสี่ยงของการกลับไปใช้สารระเหยซ้ำ
- ผู้ป่วยรู้สึกมั่นคงและได้รับการดูแลในสังคม
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานว่ามีคนสนับสนุนและช่วยเหลือ
- ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือชุมชนสนับสนุน
- ลดจำนวนครั้งหรือความถี่ในการใช้สารระเหยซ้ำ
- แสดงความมั่นใจและมีแผนรับมือเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์เสี่ยง
- ครอบครัวและเครือข่ายมีบทบาทในกระบวนการรักษา
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F9I-1: ประเมินสภาพครอบครัวและเครือข่ายสังคมของผู้ป่วย
- F18F9I-2: ให้คำแนะนำและสนับสนุนครอบครัวในการมีส่วนร่วมกับผู้ป่วย
- F18F9I-3: ส่งเสริมการเข้าร่วมกลุ่มบำบัด หรือกลุ่มสนับสนุนผู้ใช้สาร
- F18F9I-4: ประสานงานกับชุมชนหรือองค์กรช่วยเหลือเพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุน
- F18F9I-5: สอนผู้ป่วยและครอบครัววิธีการรับมือและป้องกันการกลับไปใช้สารซ้ำ
- F18F9I-6: ติดตามผลการเข้าร่วมกิจกรรมและประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย
- F18F9I-7: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมที่เสริมสร้างสุขภาพจิต
- F18F9I-8: ให้คำปรึกษาด้านการปรับความสัมพันธ์ในครอบครัวหากมีความขัดแย้ง
Response (การตอบสนอง)
- F18F9R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชนมากขึ้น
- F18F9R-2: ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
- F18F9R-3: ลดจำนวนการใช้สารระเหยหรือไม่มีการกลับไปใช้ซ้ำ
- F18F9R-4: ครอบครัวและเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลและติดตามผู้ป่วย
- F18F9R-5: ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจในการรับมือกับสถานการณ์เสี่ยง
……………………………………………………………………
F18F10 มีความต้องการการดูแลต่อเนื่องและการส่งต่อไปยังหน่วยบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ
(Readiness for enhanced community care and referral for
rehabilitation services)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยแสดงความต้องการได้รับการดูแลเพิ่มเติม
- รับรู้ความจำเป็นของการฟื้นฟูสมรรถภาพ
- แสดงความพร้อมหรือมีข้อกังวลเกี่ยวกับการส่งต่อ
O:
- มีประวัติการรักษาและฟื้นฟูที่ไม่ครบถ้วน
- ขาดเครือข่ายสนับสนุนที่เพียงพอในชุมชน
- มีอาการหรือภาวะแทรกซ้อนที่ต้องติดตามระยะยาว
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยได้รับการดูแลต่อเนื่องอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยได้รับการส่งต่อไปยังหน่วยบริการฟื้นฟูสมรรถภาพที่เหมาะสม
- ผู้ป่วยมีความรู้และเข้าใจขั้นตอนการฟื้นฟู
- ลดโอกาสกลับไปใช้สารระเหยซ้ำ
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยเข้ารับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพตามนัดหมาย
- ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจและความร่วมมือในกระบวนการฟื้นฟู
- การติดตามผลพบการปรับปรุงทางร่างกายและจิตใจ
- ผู้ป่วยมีเครือข่ายสนับสนุนในชุมชนเพิ่มขึ้น
- ลดอัตราการกลับไปใช้สารระเหยซ้ำ
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F18F10I-1: ประเมินความพร้อมและความต้องการของผู้ป่วยในการดูแลต่อเนื่อง
- F18F10I-2: ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนและประโยชน์ของการฟื้นฟูสมรรถภาพ
- F18F10I-3: ประสานงานกับหน่วยงานฟื้นฟูสมรรถภาพในชุมชนหรือโรงพยาบาล
- F18F10I-4: สนับสนุนผู้ป่วยเตรียมตัวและปรับตัวก่อนการส่งต่อ
- F18F10I-5: ติดตามผลการส่งต่อและความต่อเนื่องของการดูแล
- F18F10I-6: ประเมินและให้กำลังใจผู้ป่วยในการรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
- F18F10I-7: ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายสนับสนุนในชุมชน
- F18F10I-8: ประสานงานกับครอบครัวเพื่อช่วยสนับสนุนผู้ป่วยในกระบวนการฟื้นฟู
Response (การตอบสนอง)
- F18F10R-1: ผู้ป่วยแสดงความร่วมมือและมีความเข้าใจในกระบวนการฟื้นฟู
- F18F10R-2: ผู้ป่วยเข้ารับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพตามนัดหมายอย่างต่อเนื่อง
- F18F10R-3: ผู้ป่วยมีอาการทางร่างกายและจิตใจดีขึ้น
- F18F10R-4: ผู้ป่วยมีเครือข่ายสนับสนุนในชุมชนมากขึ้น
- F18F10R-5: ลดโอกาสกลับไปใช้สารระเหยซ้ำอย่างมีนัยสำคัญ
………………………………………………………………………..
เอกสารอ้างอิง
- สมาคมจิตเวชแห่งประเทศไทย. (2562). คู่มือการดูแลผู้ป่วยติดสารเสพติด. กรุงเทพฯ: สมาคมจิตเวชแห่งประเทศไทย.(แหล่งข้อมูลมาตรฐานสำหรับการดูแลผู้ป่วยติดสารเสพติดในประเทศไทย ครอบคลุมทั้งด้านการประเมินและการดูแลอย่างครบถ้วน)
- สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติด. (2564). แนวทางการดูแลผู้ติดสารระเหย. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติด. (แนวทางการปฏิบัติการพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับผู้ใช้สารระเหยในระบบสุขภาพไทย)
- American Psychiatric Association. (2022). Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders (5th ed., text rev.). Washington, DC: APA. (DSM-5-TR provides diagnostic criteria and guidance for mental health disorders including substance use disorders such as inhalant use disorder)
- National Institute on Drug Abuse (NIDA). (2023). Inhalants DrugFacts. Retrieved from https://www.drugabuse.gov/publications/drugfacts/inhalants (Reliable source providing comprehensive information on inhalant use, health effects, and treatment strategies)
……………………………………………………………………………....