เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2568

EP.53 จิตเวชหัวข้อ 13: โรคพฤติกรรมก้าวร้าว (Conduct Disorders) - F91

 

Psych. Topic 13 : Conduct Disorders - F91

🎯 รู้ทัน! โรคพฤติกรรมก้าวร้าว (Conduct Disorder - F91) พฤติกรรมรุนแรง ไม่ใช่แค่ดื้อ แต่คือ “สัญญาณเตือน” ที่ไม่ควรมองข้าม!
🧠พยาธิสภาพ / สาเหตุ
เกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง โดยเฉพาะ “โดปามีน” รวมถึงการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม หรือประสบการณ์ชีวิตที่กระทบจิตใจ เช่น ถูกละเลยหรือทำร้าย

⚠️ปัจจัยที่ทำให้เกิด

  • 💥มีพฤติกรรมต่อต้านกฎเกณฑ์ตั้งแต่เด็ก
  • 💥เติบโตในครอบครัวที่มีความรุนแรง
  • 💥มีปัญหาที่โรงเรียน หรือถูกกลั่นแกล้ง
  • 💥มีประวัติใช้สารเสพติด หรือสื่อรุนแรง

💊การรักษา

  • 🎯 จิตบำบัด เช่น พฤติกรรมบำบัด (CBT)
  • 🎯 การทำงานร่วมกันของครอบครัว โรงเรียน และทีมสุขภาพ
  • 🎯 ยารักษาในบางกรณี เช่น กลุ่มยาควบคุมอารมณ์

🩺การพยาบาล

  • 😊สร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้ป่วย
  • 😊สังเกตพฤติกรรมเสี่ยงและป้องกันการทำร้ายผู้อื่นหรือทำร้ายตัวเอง
  • 😊ส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยระบายความเครียด
  • 😊ให้คำแนะนำแก่ครอบครัวในการสื่อสารอย่างเหมาะสม

👨‍👩‍👧การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป

  • รับฟังอย่างเข้าใจ หลีกเลี่ยงการตัดสิน
  • ให้พื้นที่ระบายอารมณ์แบบปลอดภัย
  • พาไปพบผู้เชี่ยวชาญเมื่อเห็นพฤติกรรมรุนแรงซ้ำๆ
  • อย่ามองว่าเป็นแค่ "เด็กเกเร" เพราะอาจเป็นโรคที่ต้องได้รับการดูแลจริงจัง

…………………………………

วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคพฤติกรรมก้าวร้าว (Conduct Disorders – F91)

  1. F91F1 มีพฤติกรรมรุนแรง เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Risk for violence towards self or others) ผู้ป่วยมีแนวโน้มแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้กำลัง ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
  2. F91F2 มีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ควบคุมตนเองไม่ได้ (Impaired emotional regulation) ผู้ป่วยมักแสดงอารมณ์รุนแรง หงุดหงิดง่าย ขาดทักษะในการจัดการอารมณ์
  3. F91F3 สื่อสารไม่เหมาะสม เสี่ยงต่อการมีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น (Impaired social interaction)มีพฤติกรรมต่อต้าน ก้าวร้าว ไม่เคารพกฎ ไม่ยอมรับคำสั่ง
  4. F91F4 ขาดการรับรู้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด (Impaired moral judgment)ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องจริยธรรม ไม่เข้าใจผลกระทบของพฤติกรรมตนเอง
  5. F91F5 มีความเสี่ยงต่อการใช้สารเสพติดหรือพฤติกรรมเสี่ยงอื่น (Risk for substance abuse or risky behavior)พฤติกรรมก้าวร้าวและต่อต้านอาจนำไปสู่การใช้สารเสพติดหรืออาชญากรรม
  6. F91F6 ความสัมพันธ์ในครอบครัวบกพร่อง (Dysfunctional family process) สภาพครอบครัวไม่สนับสนุน ขาดการดูแลหรือสื่อสารอย่างเหมาะสม
  7. F91F7 ขาดความรู้และทักษะในการจัดการตนเอง (Deficient knowledge for self-care management) ไม่รู้วิธีควบคุมอารมณ์ หรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมรุนแรง
  8. F91F8 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางจิตเวชอื่น เช่น ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล (Risk for comorbid psychiatric conditions)พฤติกรรมก้าวร้าวอาจเกิดร่วมกับภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือโรคสมาธิสั้น
  9. F91F9 ขาดความต่อเนื่องในการรับบริการสุขภาพจิต (Ineffective health maintenance)ผู้ป่วยมักขาดการติดตามการรักษา ไม่มาตามนัด หรือขาดยาสม่ำเสมอ
  10. F91F10 ขาดการเตรียมความพร้อมในการกลับเข้าสู่สังคม (Readiness for enhanced social adaptation)ต้องส่งเสริมทักษะชีวิต การเข้าสังคม และการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสมก่อนจำหน่าย

..........................................................................Top of Form

Bottom of Form

 F91F1 มีพฤติกรรมรุนแรง เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Risk for violence towards self or others) 

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยพูดจาเสียงดัง หงุดหงิดง่าย
  • แสดงความไม่พอใจต่อกฎระเบียบของหอผู้ป่วย

O:

  • เดินวนไปมา กระทืบเท้า หรือกำหมัดแน่น
  • ขว้างปาสิ่งของ ตะโกนเสียงดัง
  • มีประวัติทะเลาะวิวาทหรือพยายามทำร้ายผู้อื่น
  • อยู่ในภาวะกระวนกระวาย สื่อสารอย่างก้าวร้าว
  • มีการควบคุมพฤติกรรมด้วยยา/การจำกัดพื้นที่

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยปลอดภัยจากการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
  • สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
  • แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมในสภาพแวดล้อมของหอผู้ป่วย

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมรุนแรงในระหว่างการดูแล
  • มีการสื่อสารที่เหมาะสมกับบุคลากรและเพื่อนร่วมหอ
  • สามารถใช้เทคนิคควบคุมอารมณ์ได้เมื่อเกิดความโกรธ

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F1I-1: ประเมินพฤติกรรมเสี่ยงรุนแรงทุก 2 ชั่วโมงหรือตามสถานการณ์เฉพาะหน้า
  • F91F1I-2: จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคม สิ่งของที่อาจใช้ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
  • F91F1I-3: อยู่ใกล้ผู้ป่วยในช่วงที่แสดงอารมณ์รุนแรง และให้การดูแลด้วยท่าทีสงบ ไม่เผชิญหน้า
  • F91F1I-4: ใช้เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ชวนสนทนา หรือมอบหมายกิจกรรมที่ผู้ป่วยสนใจ
  • F91F1I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยฝึกการควบคุมอารมณ์ด้วยวิธีหายใจลึกๆ นับเลข หรือออกกำลังกายเบาๆ
  • F91F1I-6: ประสานทีมสหวิชาชีพ (จิตแพทย์ นักจิตวิทยา) เมื่อต้องวางแผนควบคุมพฤติกรรมระยะยาว
  • F91F1I-7: ให้ยาตามแผนการรักษาเมื่อมีพฤติกรรมที่ควบคุมไม่ได้และอยู่ในเกณฑ์จำเป็น

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F1R-1: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นตลอดการดูแล
  • F91F1R-2: ผู้ป่วยสามารถตอบสนองต่อคำแนะนำของพยาบาลโดยไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
  • F91F1R-3: ผู้ป่วยใช้เทคนิคควบคุมอารมณ์ได้เองเมื่อรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจ
  • F91F1R-4: สื่อสารกับบุคลากรโดยไม่ใช้คำพูดรุนแรง
  • F91F1R-5: ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มโดยไม่มีปัญหาพฤติกรรม

...........................................................................

F91F2 มีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ควบคุมตนเองไม่ได้ (Impaired emotional regulation) 

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยกล่าวว่า “โกรธง่าย ห้ามตัวเองไม่ค่อยได้”
  • พูดว่า “ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย” หรือ “เบื่อ ไม่อยากทำอะไร”

O:

  • สีหน้าแสดงความหงุดหงิด เคาะโต๊ะ เดินกระแทกเท้า
  • ร้องไห้ หรือมีท่าทางเครียดเมื่อถูกตำหนิ
  • แสดงพฤติกรรมหลีกเลี่ยง เช่น นอนมาก พูดน้อย
  • มีประวัติขาดความอดทนในการควบคุมอารมณ์เมื่อเจอสถานการณ์กดดัน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถระบุความรู้สึกของตนเองได้
  • ผู้ป่วยมีวิธีจัดการอารมณ์ที่เหมาะสม
  • ลดความถี่และความรุนแรงของการแสดงอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
  • ลดพฤติกรรมหงุดหงิด ฉุนเฉียวในระหว่างการดูแล
  • ผู้ป่วยมีการใช้เทคนิคที่ได้รับการฝึกในการจัดการอารมณ์

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F2I-1: ประเมินภาวะอารมณ์ของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอทุกเวร หรือเมื่อตอบสนองผิดปกติ
  • F91F2I-2: สร้างสัมพันธภาพที่ดี เพื่อให้ผู้ป่วยไว้วางใจและกล้าระบายความรู้สึก
  • F91F2I-3: ให้ผู้ป่วยฝึกระบุความรู้สึกตนเอง เช่น ดีใจ โกรธ เสียใจ ด้วยคำพูดหรือภาพ
  • F91F2I-4: สอนเทคนิคควบคุมอารมณ์ เช่น หายใจช้าๆ นับ 1-10 หรือเขียนระบายความรู้สึก
  • F91F2I-5: จัดกิจกรรมสร้างสมาธิ เช่น วาดภาพ เล่นดนตรี หรือโยคะเบื้องต้น
  • F91F2I-6: หลีกเลี่ยงการตำหนิหรือกระตุ้นอารมณ์โดยตรง ให้ใช้คำพูดเชิงบวก
  • F91F2I-7: ชมเชยเมื่อผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ได้ เพื่อเสริมแรงทางบวก
  • F91F2I-8: ประสานนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ เพื่อวางแผนบำบัดอย่างต่อเนื่อง
  • F91F2I-9: แนะนำครอบครัวให้ใช้ท่าทีที่เข้าใจและไม่ตัดสินพฤติกรรมของผู้ป่วย
  • F91F2I-10: บันทึกการตอบสนองและพฤติกรรมของผู้ป่วยเพื่อติดตามผล

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F2R-1: ผู้ป่วยสามารถบอกอารมณ์ของตนเองได้อย่างถูกต้อง
  • F91F2R-2: ผู้ป่วยใช้วิธีควบคุมอารมณ์ได้โดยไม่เกิดความรุนแรง
  • F91F2R-3: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมสงบมากขึ้นเมื่อเผชิญสถานการณ์ที่กดดัน
  • F91F2R-4: ผู้ป่วยมีความร่วมมือในการทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์
  • F91F2R-5: จำนวนเหตุการณ์ที่แสดงพฤติกรรมอารมณ์รุนแรงลดลงอย่างชัดเจน

.......................................................................

F91F3 สื่อสารไม่เหมาะสม เสี่ยงต่อการมีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น (Impaired social interaction)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยพูดว่า “ไม่อยากคุยกับใคร” / “ทุกคนเอาแต่สั่ง”
  • บ่นว่าถูกเพื่อนแกล้ง / ไม่ได้รับความเข้าใจจากคนรอบข้าง

O:

  • พูดจาเสียงดัง ใช้คำพูดหยาบคายต่อเจ้าหน้าที่หรือเพื่อน
  • มีพฤติกรรมต่อต้าน เช่น ไม่ยอมทำกิจกรรมกลุ่ม
  • หลบหน้าหรือไม่สบตาเวลาโต้ตอบ
  • แสดงท่าทีไม่สนใจหรือเมินเฉยต่อคำแนะนำ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถสื่อสารได้อย่างเหมาะสมกับบุคคลอื่น
  • ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับบุคลากรหรือเพื่อนร่วมกลุ่ม
  • ลดพฤติกรรมต่อต้านและไม่ยอมรับคำสั่ง

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสื่อสารโดยไม่ใช้ถ้อยคำหรือท่าทีรุนแรง
  • เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มโดยสมัครใจ
  • มีความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F3I-1: สังเกตและบันทึกพฤติกรรมการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ในแต่ละวัน
  • F91F3I-2: จัดสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร และปลอดภัย เพื่อส่งเสริมการเปิดใจพูดคุย
  • F91F3I-3: ใช้ทักษะการสื่อสารอย่างไม่ตัดสิน (non-judgmental) เพื่อสร้างความไว้วางใจ
  • F91F3I-4: ฝึกบทบาทสมมติ (role play) หรือจำลองสถานการณ์ เพื่อฝึกวิธีตอบสนองต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสม
  • F91F3I-5: ชมเชยพฤติกรรมที่เหมาะสมทุกครั้งที่เกิดขึ้นเพื่อเสริมแรงทางบวก
  • F91F3I-6: สอนทักษะทางสังคมพื้นฐาน เช่น การทักทาย การขอบคุณ การขอโทษ
  • F91F3I-7: แนะนำผู้ป่วยให้สังเกตพฤติกรรมตนเองและผลกระทบที่มีต่อผู้อื่น
  • F91F3I-8: จัดให้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเล็ก เพื่อฝึกการมีปฏิสัมพันธ์ในระดับปลอดภัย
  • F91F3I-9: ประสานงานกับครอบครัวเพื่อให้ร่วมสนับสนุนพฤติกรรมทางสังคมที่ดี
  • F91F3I-10: ติดตามผลการปรับพฤติกรรมและปรับแผนหากไม่เกิดความก้าวหน้า

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F3R-1: ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับบุคลากรโดยไม่ใช้คำหยาบหรือท่าทีรุนแรง
  • F91F3R-2: ผู้ป่วยเริ่มเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มและแสดงความร่วมมือ
  • F91F3R-3: แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมต่อเพื่อนร่วมกลุ่ม
  • F91F3R-4: ยอมรับคำแนะนำโดยไม่แสดงพฤติกรรมต่อต้าน
  • F91F3R-5: ผู้ป่วยสามารถบอกผลดีของการมีปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับผู้อื่นได้

.........................................................................................

F91F4 ขาดการรับรู้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด (Impaired moral judgment)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
  • ก็แค่ล้อเล่น ทำไมต้องซีเรียส”
  • คนอื่นก็ทำเหมือนกัน ทำไมผมจะทำไม่ได้”

O:

  • พฤติกรรมละเมิดสิทธิผู้อื่น เช่น โกหก ขโมย ทำลายข้าวของ
  • ขาดความสำนึกผิดหลังการกระทำ
  • ไม่ยอมรับผลจากการกระทำของตน
  • แสดงสีหน้าหรือท่าทางไม่รู้สึกผิด

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถแยกแยะสิ่งที่ถูกหรือผิดได้ในระดับพื้นฐาน
  • ตระหนักรู้ผลกระทบของพฤติกรรมตนเองที่มีต่อผู้อื่น
  • เริ่มมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตน

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถระบุพฤติกรรมที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม
  • ยอมรับผลของพฤติกรรมโดยไม่โทษผู้อื่น
  • แสดงความสำนึกผิดเมื่อทำผิด
  • หลีกเลี่ยงการกระทำผิดซ้ำ

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F4I-1: ประเมินความเข้าใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกหรือผิด
  • F91F4I-2: ช่วยผู้ป่วยวิเคราะห์พฤติกรรมที่ตนกระทำ พร้อมผลกระทบต่อผู้อื่น
  • F91F4I-3: ใช้เรื่องเล่า/ตัวอย่างสถานการณ์เพื่ออธิบายหลักคุณธรรมพื้นฐาน
  • F91F4I-4: กระตุ้นให้ผู้ป่วยสะท้อนความรู้สึกของผู้อื่นที่ได้รับผลกระทบจากตน
  • F91F4I-5: จัดกิจกรรมกลุ่มที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ด้านจริยธรรม เช่น case study
  • F91F4I-6: สอนวิธีการรับผิดชอบ เช่น การขอโทษ การชดใช้
  • F91F4I-7: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายการปรับพฤติกรรมด้านจริยธรรมร่วมกับทีม
  • F91F4I-8: ให้คำปรึกษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อประเมินความคืบหน้า
  • F91F4I-9: ทำงานร่วมกับครอบครัวเพื่อส่งเสริมค่านิยมและหลักการที่ดี
  • F91F4I-10: ประเมินพฤติกรรมซ้ำเป็นระยะ เพื่อปรับแผนการดูแลให้เหมาะสม

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F4R-1: ผู้ป่วยสามารถยอมรับว่า พฤติกรรมบางอย่างของตนเป็นสิ่งไม่เหมาะสม
  • F91F4R-2: ผู้ป่วยสามารถอธิบายผลกระทบจากพฤติกรรมของตนต่อผู้อื่นได้
  • F91F4R-3: มีการขอโทษหรือแสดงความสำนึกผิดโดยสมัครใจ
  • F91F4R-4: ลดพฤติกรรมละเมิดสิทธิผู้อื่นลงอย่างเห็นได้ชัด
  • F91F4R-5: ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม

...............................................................................

F91F5 มีความเสี่ยงต่อการใช้สารเสพติดหรือพฤติกรรมเสี่ยงอื่น (Risk for substance abuse or risky behavior)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • เพื่อนชวนลองเฉยๆ ไม่ได้ติด”
  • ทำไปเพราะมันเท่ห์ ไม่เห็นเป็นไร”
  • ผมเบื่อทุกอย่าง แค่อยากลืมมัน”

O:

  • มีเพื่อนหรือสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
  • พฤติกรรมหนีเรียน เที่ยวกลางคืน ดื่มแอลกอฮอล์
  • ขาดกิจกรรมเชิงบวกหรือเป้าหมายในชีวิต
  • ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบในโรงเรียน/บ้าน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีความรู้เกี่ยวกับอันตรายของสารเสพติดและพฤติกรรมเสี่ยง
  • ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจหลีกเลี่ยงสิ่งเสี่ยงต่อสุขภาพ
  • มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ปลอดภัย

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยระบุสารเสพติดที่เป็นอันตรายได้อย่างน้อย 3 ชนิด
  • ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงสิ่งเสี่ยง
  • มีส่วนร่วมในกิจกรรมเสริมสร้างทักษะชีวิต
  • รายงานว่าอยู่ห่างจากผู้มีอิทธิพลด้านลบ

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F5I-1: ประเมินประวัติการใช้สารเสพติดหรือพฤติกรรมเสี่ยงในอดีตและปัจจุบัน
  • F91F5I-2: ให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของสารเสพติดและผลกระทบระยะยาว
  • F91F5I-3: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนและมีความหมาย
  • F91F5I-4: สอนทักษะการปฏิเสธ เช่น “การพูดไม่” กับสิ่งชวนเสี่ยง
  • F91F5I-5: ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น กีฬา ศิลปะ ดนตรี
  • F91F5I-6: จัดกิจกรรมกลุ่มให้ผู้ป่วยเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น
  • F91F5I-7: ประสานงานกับครอบครัวเพื่อเป็นแรงสนับสนุน
  • F91F5I-8: ประเมินสัญญาณเตือนการกลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ
  • F91F5I-9: ให้คำปรึกษารายบุคคลอย่างต่อเนื่อง
  • F91F5I-10: แนะนำให้พบจิตแพทย์หรือนักบำบัดเมื่อจำเป็น

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F5R-1: ผู้ป่วยมีความรู้และเข้าใจถึงผลเสียของสารเสพติด
  • F91F5R-2: ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงกลุ่มเพื่อนที่ใช้สารเสพติด
  • F91F5R-3: ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงซ้ำภายใน 1-3 สัปดาห์หลังดูแล
  • F91F5R-4: ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • F91F5R-5: แสดงความมั่นใจในการปฏิเสธสิ่งยั่วยุทางลบได้

.......................................................................

F91F6 ความสัมพันธ์ในครอบครัวบกพร่อง (Dysfunctional family process) 

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • พ่อแม่ไม่เคยฟังผมเลย”
  • ที่บ้านมีแต่ทะเลาะกัน ผมเลยไม่อยากกลับบ้าน”
  • ไม่มีใครสนใจว่าผมทำอะไร”

O:

  • ครอบครัวไม่มาร่วมการรักษา
  • ขาดการมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
  • สื่อสารเชิงลบหรือไม่สร้างสรรค์ในครอบครัว
  • ประวัติความรุนแรงหรือการทอดทิ้งในครอบครัว

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถสื่อสารกันอย่างเหมาะสม
  • ครอบครัวมีบทบาทในการสนับสนุนผู้ป่วยมากขึ้น
  • ลดความขัดแย้งภายในครอบครัวและส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกัน

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยแสดงออกถึงความรู้สึกกับสมาชิกในครอบครัวได้
  • ครอบครัวมีส่วนร่วมในการรักษาหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
  • จำนวนเหตุการณ์ความขัดแยงในครอบครัวลดลง
  • สมาชิกในครอบครัวใช้ทักษะการสื่อสารเชิงบวกอย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F6I-1: ประเมินโครงสร้าง ความสัมพันธ์ และการสื่อสารภายในครอบครัว
  • F91F6I-2: เชิญครอบครัวเข้าร่วมในการประชุมวางแผนการดูแลผู้ป่วย
  • F91F6I-3: ให้ข้อมูลเรื่องบทบาทของครอบครัวในการส่งเสริมสุขภาพจิต
  • F91F6I-4: สนับสนุนให้สมาชิกในครอบครัวแสดงความรู้สึกและรับฟังซึ่งกันและกัน
  • F91F6I-5: แนะนำเทคนิคการสื่อสารเชิงบวก เช่น การใช้ประโยค "ฉันรู้สึกว่า…"
  • F91F6I-6: แนะนำให้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มครอบครัว หรือ Family therapy
  • F91F6I-7: ให้คำปรึกษาครอบครัวรายบุคคล หากพบปัญหาเฉพาะเจาะจง
  • F91F6I-8: ประสานหน่วยงานชุมชนหรือสังคมสงเคราะห์เพื่อสนับสนุนต่อเนื่อง
  • F91F6I-9: ประเมินภาวะเครียดของสมาชิกในครอบครัว
  • F91F6I-10: ติดตามความร่วมมือของครอบครัวอย่างต่อเนื่องตามแผนการรักษา

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F6R-1: สมาชิกในครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรมการดูแลหรือให้ความร่วมมือ
  • F91F6R-2: ผู้ป่วยสามารถพูดคุยเปิดเผยกับครอบครัวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
  • F91F6R-3: ความขัดแย้งหรือความรุนแรงในครอบครัวลดลง
  • F91F6R-4: ครอบครัวมีแนวโน้มให้การสนับสนุนด้านอารมณ์กับผู้ป่วย
  • F91F6R-5: มีการปฏิบัติตามแผนดูแลร่วมกันระหว่างครอบครัวและทีมสุขภาพจิต

.......................................................................................

F91F7 ขาดความรู้และทักษะในการจัดการตนเอง (Deficient knowledge for self-care management) 

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผมหงุดหงิดแล้วไม่รู้จะทำยังไง”
  • ผมหยุดตัวเองไม่ได้เวลามีคนมากวนใจ”
  • ไม่รู้ว่าต้องควบคุมตัวเองยังไงตอนโมโห”

O:

  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมระเบิดอารมณ์ง่าย
  • ขาดทักษะการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม
  • ไม่สามารถอธิบายวิธีการจัดการความเครียดหรืออารมณ์ได้
  • มีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงต่อสถานการณ์เล็กน้อย

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีควบคุมอารมณ์ได้อย่างน้อย 1 วิธี
  • ผู้ป่วยเรียนรู้และฝึกใช้ทักษะการควบคุมตนเอง
  • ลดพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อเผชิญสถานการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีจัดการอารมณ์ตนเองได้อย่างน้อย 1 วิธี
  • มีการแสดงพฤติกรรมควบคุมตนเองในการเผชิญกับสถานการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์
  • จำนวนครั้งของพฤติกรรมรุนแรงลดลงภายใน 1 สัปดาห์
  • ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และฝึกทักษะการควบคุมอารมณ์

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F7I-1: ประเมินความเข้าใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับอารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง
  • F91F7I-2: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการควบคุมอารมณ์ เช่น การหายใจลึกๆ การนับเลข
  • F91F7I-3: สอนเทคนิคจัดการอารมณ์ เช่น การหยุดคิดก่อนตอบโต้ หรือ “Stop–Think–Act”
  • F91F7I-4: ฝึกทักษะการแก้ปัญหาโดยใช้กรณีตัวอย่างที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง
  • F91F7I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยจดบันทึกความรู้สึกและวิธีที่ใช้ควบคุมอารมณ์ในแต่ละวัน
  • F91F7I-6: ใช้การเสริมแรงทางบวกเมื่อผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ได้สำเร็จ
  • F91F7I-7: แนะนำกิจกรรมที่ช่วยระบายความเครียด เช่น วาดภาพ ออกกำลังกาย ฟังเพลง
  • F91F7I-8: สร้างความร่วมมือกับครอบครัวหรือครูเพื่อสนับสนุนการฝึกทักษะของผู้ป่วย
  • F91F7I-9: จัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อฝึกการควบคุมอารมณ์ร่วมกับผู้อื่น
  • F91F7I-10: ติดตามประเมินผลการฝึกทักษะควบคุมตนเองอย่างต่อเนื่อง

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F7R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายเทคนิคควบคุมอารมณ์อย่างน้อย 1 วิธี
  • F91F7R-2: แสดงพฤติกรรมควบคุมตนเองได้ในสถานการณ์กระตุ้นอารมณ์
  • F91F7R-3: ความถี่ของพฤติกรรมรุนแรงลดลง
  • F91F7R-4: ผู้ป่วยแสดงความตั้งใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง
  • F91F7R-5: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง

..........................................................................................

F91F8 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางจิตเวชอื่น เช่น ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล (Risk for comorbid psychiatric conditions)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • "ผมรู้สึกเศร้าและหมดหวังมากในทุกวัน"
  • "ไม่อยากทำอะไรเลย และคิดว่าตัวเองไม่มีค่า"
  • "รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตทุกครั้งที่ต้องไปโรงเรียน"
  • บางครั้งผมรู้สึกอยากหนีจากทุกอย่าง”
  • มีความรู้สึกเก็บกดหรือตึงเครียดในหลายๆ สถานการณ์

O:

  • ผู้ป่วยแสดงอาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้า เช่น น้ำหนักลดลงหรือการนอนหลับไม่ดี
  • พฤติกรรมก้าวร้าวและการตอบสนองอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม
  • พฤติกรรมทางกายภาพ เช่น การหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม หรือการหลีกเลี่ยงสถานการณ์บางอย่าง
  • พูดถึงความรู้สึกเศร้าหรือวิตกกังวลบ่อยๆ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถระบุอารมณ์และความรู้สึกของตนเองได้
  • ลดพฤติกรรมก้าวร้าว และแสดงอาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้าน้อยลง
  • ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการจัดการกับความเครียดและอารมณ์ได้
  • พัฒนาความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีขึ้นและสามารถปรับตัวในสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้
  • ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวหรือบุคลากรทางการแพทย์ในการรับมือกับภาวะทางจิตเวช

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายอารมณ์ของตนเองได้
  • ความถี่ของพฤติกรรมก้าวร้าวลดลง
  • พฤติกรรมทางสังคมดีขึ้น เช่น การสื่อสารกับคนอื่นได้ดีขึ้น
  • อาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลลดลง หรือไม่มีอาการใหม่ๆ เกิดขึ้น
  • การรับรู้ของผู้ป่วยเกี่ยวกับอารมณ์ของตนดีขึ้น

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F8I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าของผู้ป่วยอย่างละเอียด
  • F91F8I-2: ให้คำแนะนำในการลดความเครียดและจัดการกับอารมณ์ เช่น การฝึกหายใจลึกๆ หรือการทำสมาธิ
  • F91F8I-3: จัดกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้ระบายอารมณ์ เช่น การเขียนบันทึกหรือการวาดภาพ
  • F91F8I-4: ให้ข้อมูลและแนะนำการรับรู้และการจัดการกับอารมณ์อย่างเหมาะสม
  • F91F8I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มบำบัดหรือการสนทนากลุ่มเพื่อฝึกการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม
  • F91F8I-6: สนับสนุนการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการเข้าใจและสนับสนุนผู้ป่วย
  • F91F8I-7: ให้การติดตามอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง
  • F91F8I-8: ส่งต่อผู้ป่วยไปพบแพทย์จิตเวชหากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีภาวะแทรกซ้อนทางจิตเวชที่รุนแรงขึ้น

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F8R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการจัดการกับความเครียดหรืออารมณ์ของตนเองได้
  • F91F8R-2: ความถี่ของอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลลดลง
  • F91F8R-3: ผู้ป่วยสามารถแสดงพฤติกรรมทางสังคมที่เหมาะสม เช่น การพูดคุยกับผู้อื่นหรือการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
  • F91F8R-4: พฤติกรรมก้าวร้าวของผู้ป่วยลดลงและสามารถระบุอารมณ์ที่กระทบต่อพฤติกรรมได้
  • F91F8R-5: อาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้าที่แสดงออกมีแนวโน้มลดลงภายใน 2 สัปดาห์

.........................................

F91F9 ขาดความต่อเนื่องในการรับบริการสุขภาพจิต (Ineffective health maintenance)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผมลืมที่จะไปพบแพทย์ตามนัด”
  • รู้สึกเหนื่อยใจและไม่อยากไปโรงพยาบาลอีกแล้ว”
  • ไม่ชอบกินยาที่หมอสั่งให้”
  • บ่อยครั้งที่ขาดยาหรือไม่ได้ตามแผนการรักษา”
  • ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทานยาทุกวัน”

O:

  • ผู้ป่วยขาดการเข้ารับบริการตามนัดหมาย
  • ไม่ได้รับยาตามแผนการรักษา หรือใช้ยาผิดปริมาณ
  • ผู้ป่วยแสดงอาการของความวิตกกังวลหรือซึมเศร้าที่อาจจะเกิดจากการขาดการรักษา
  • บันทึกการนัดหมายถูกยกเลิกบ่อยครั้งหรือไม่มีการติดตามผลการรักษา
  • ขาดความเข้าใจในความสำคัญของการรักษาอย่างต่อเนื่อง

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถเข้าใจและรับรู้ความสำคัญของการรักษาต่อเนื่อง
  • ผู้ป่วยมีการติดตามการรักษาและมาตามนัดตามแผนการรักษา
  • ลดจำนวนครั้งที่การขาดยาหรือไม่มาตามนัด
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายเหตุผลในการรับยาตามที่แพทย์สั่งได้
  • เสริมสร้างความมั่นใจในกระบวนการรักษาให้กับผู้ป่วย

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการรักษาอย่างต่อเนื่อง
  • อัตราการขาดยาหรือไม่มาตามนัดลดลง
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายเหตุผลในการทานยาได้
  • ผู้ป่วยเริ่มปรับตัวในการรับการรักษา
  • ผู้ป่วยมีการมาตามนัดกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F9I-1: สอนผู้ป่วยเกี่ยวกับความสำคัญของการรักษาอย่างต่อเนื่องและผลกระทบจากการขาดยา
  • F91F9I-2: จัดทำแผนการรักษาที่สามารถติดตามได้ เช่น การใช้แอปพลิเคชันหรือบันทึกการรับยา
  • F91F9I-3: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีการเข้าพบแพทย์ตามนัดโดยการจัดการเวลาที่สะดวก
  • F91F9I-4: จัดการสิ่งกระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้าใจประโยชน์ของการรักษาและการรับยา
  • F91F9I-5: แนะนำการมีผู้ช่วยเหลือจากครอบครัวหรือผู้ดูแลเพื่อช่วยติดตามการรักษา
  • F91F9I-6: ให้คำแนะนำในการจัดการกับอาการแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงจากการใช้ยา
  • F91F9I-7: ตรวจสอบการใช้ยาและติดตามการมาพบแพทย์ตามนัดให้เป็นระยะๆ

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F9R-1: ผู้ป่วยสามารถเข้าใจเหตุผลในการรักษาและการทานยาได้
  • F91F9R-2: จำนวนการขาดยาหรือไม่มาตามนัดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • F91F9R-3: ผู้ป่วยเริ่มปรับตัวในการรับการรักษาและมีกระบวนการติดตามการรักษาที่ดีกว่าเดิม
  • F91F9R-4: ความเข้าใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับการรักษาและยาเพิ่มขึ้น ทำให้พวกเขาสามารถดูแลตัวเองได้ดีขึ้น
  • F91F9R-5: การบันทึกการนัดหมายและการติดตามผลการรักษาสม่ำเสมอ

.....................................................................

F91F10 ขาดการเตรียมความพร้อมในการกลับเข้าสู่สังคม (Readiness for enhanced social adaptation)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • รู้สึกว่าตัวเองไม่พร้อมที่จะกลับไปที่บ้าน”
  • ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จากตรงไหน”
  • ฉันไม่เคยมีทักษะในการเข้าสังคม”
  • ไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับชีวิตประจำวันได้ยังไงเมื่อกลับบ้าน”
  • ไม่เคยทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายและเข้ากับคนอื่นได้ดี”

O:

  • ขาดทักษะในการเข้าสังคมและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
  • ไม่เข้าใจหรือไม่สามารถจัดการชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • ขาดการเตรียมตัวในการกลับไปสู่สภาพแวดล้อมที่บ้านหรือในสังคม
  • ขาดความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในการดำเนินชีวิตประจำวัน
  • ไม่เคยได้รับการฝึกฝนทักษะการใช้ชีวิตหรือการจัดการกับปัญหาภายในสังคม

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและมีทักษะในการเข้าสังคมได้ดีขึ้น
  • ผู้ป่วยมีความพร้อมในการกลับเข้าสู่สังคมด้วยความมั่นใจในทักษะชีวิตที่ได้รับการฝึกฝน
  • เพิ่มความสามารถในการจัดการกับชีวิตประจำวัน
  • เสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองและความสามารถในการสร้างสัมพันธภาพ
  • ผู้ป่วยมีการฝึกฝนทักษะการสื่อสารและการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถปรับตัวในสถานการณ์ทางสังคมได้ดีขึ้น
  • ผู้ป่วยสามารถจัดการกับชีวิตประจำวันโดยใช้ทักษะที่ได้รับการฝึกฝน
  • ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจในการเข้าสังคมและการสื่อสาร
  • ความสามารถในการแก้ปัญหาหรือเผชิญกับความท้าทายในชีวิตเพิ่มขึ้น
  • ผู้ป่วยมีความพร้อมในการกลับไปสู่สังคมและสามารถทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ได้

💉 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F91F10I-1: สอนและฝึกฝนทักษะในการเข้าสังคม เช่น การพูดคุยกับผู้อื่น การทำงานเป็นทีม
  • F91F10I-2: ให้การสนับสนุนในการฝึกทักษะการทำงานประจำวัน เช่น การดูแลตนเอง การจัดการเวลา
  • F91F10I-3: จัดการการฝึกกิจกรรมทางสังคม เช่น การร่วมกิจกรรมกลุ่ม หรือการเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาภายในสังคม
  • F91F10I-4: สอนวิธีการตั้งเป้าหมายและการวางแผนชีวิตในอนาคต
  • F91F10I-5: ให้การสนับสนุนทางจิตใจในการเตรียมตัวกลับเข้าสู่สังคม เช่น การเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง
  • F91F10I-6: ประเมินความพร้อมของผู้ป่วยในการกลับเข้าสู่สังคมและจัดทำแผนติดตามความคืบหน้า

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F91F10R-1: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการเข้าสังคมและสามารถทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
  • F91F10R-2: ผู้ป่วยสามารถจัดการชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • F91F10R-3: ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการแก้ไขปัญหาและรับมือกับสถานการณ์ทางสังคมได้ดีกว่าเดิม
  • F91F10R-4: ความเชื่อมั่นในตัวเองของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • F91F10R-5: ผู้ป่วยมีการปรับตัวและสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ

...................................................................................

เอกสารอ้างอิง

  • สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2561). การดูแลผู้ป่วยโรคพฤติกรรมก้าวร้าว (Conduct Disorders). กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.
  • กฤติยาภรณ์ ยอดเจริญ. (2562). การประเมินและการดูแลผู้ป่วยโรคพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็ก. วารสารจิตเวชศาสตร์, 24(3), 45-53.
  • American Psychiatric Association. (2013). Diagnostic and statistical manual of mental disorders (5th ed.). Arlington, VA: American Psychiatric Publishing.
  • Steinberg, L., & Silk, J. S. (2008). Parenting adolescents. In Handbook of Parenting (Vol. 3, pp. 129-151). Lawrence Erlbaum Associates.

.......................................................................