เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2568

EP.58 จิตเวชหัวข้อ 18: โรคออทิสติกสเปกตรัม (Autism Spectrum Disorder - ASD) - F84

Psych. Topic 18 : Autism Spectrum Disorder - ASD - F84

🧠 รู้จักโรคออทิสติกสเปกตรัม (ASD - F84)
เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง ทั้งพยาบาลและคนทั่วไปควรรู้!

🔍พยาธิสภาพ/สาเหตุ

  • ASD คือความผิดปกติของการพัฒนาสมอง ทำให้มีปัญหาในการสื่อสาร พฤติกรรม และการเข้าสังคม
  • ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและปัจจัยสิ่งแวดล้อม

⚠️ปัจจัยที่ทำให้เกิด

  • พ่อแม่มีอายุมาก
  • พันธุกรรมในครอบครัว
  • ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
  • การสัมผัสสารพิษบางอย่างในครรภ์

💊การรักษา
ไม่มียารักษาให้หายขาด
แต่สามารถบำบัดฟื้นฟูได้ เช่น:

  • การฝึกพูด
  • กิจกรรมบำบัด
  • การปรับพฤติกรรม
  • การใช้ยาร่วมในบางกรณี (ถ้ามีอาการร่วม เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล)

🩺การพยาบาล

  • สังเกตพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น ไม่สบตา พูดช้า เล่นคนเดียว
  • ส่งเสริมพัฒนาการรายบุคคล
  • ทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ
  • สนับสนุนครอบครัว ให้เข้าใจและรับมืออย่างเหมาะสม

👨‍👩‍👧การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป

  • อย่าตำหนิเด็กหรือผู้ป่วยเมื่อแสดงพฤติกรรมแปลก
  • ใช้น้ำเสียงนุ่มนวล พูดช้า ชัดเจน
  • รักษาความคุ้นเคยในกิจวัตรประจำวัน
  • หากสงสัย ควรพาไปพบแพทย์/นักจิตวิทยาเด็กโดยเร็ว

ข้อวินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคออทิสติกสเปกตรัม 

  1. F84F1 มีพฤติกรรมรุนแรงหรืออันตรายต่อตนเองและผู้อื่น (Violent or self-injurious behavior) ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น ตี กัด ขว้างของ หรือทำร้ายตนเอง จำเป็นต้องเฝ้าระวังและจัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย
  2. F84F2 มีปัญหาการสื่อสารและการเข้าใจภาษาที่ชัดเจน (Impaired verbal and non-verbal communication)ผู้ป่วยสื่อสารไม่ได้หรือเข้าใจคำสั่งยาก ส่งผลต่อการดูแลและความร่วมมือในการรักษา
  3. F84F3 มีปัญหาการเข้าสังคมและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Impaired social interaction) ผู้ป่วยไม่สบตา ไม่เล่นกับผู้อื่น ไม่ตอบสนองต่อคนรอบข้าง ต้องมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรมสังคม
  4. F84F4 มีพฤติกรรมซ้ำ ๆ และยึดติดกับสิ่งเดิม (Repetitive behaviors and fixation on routines) ผู้ป่วยอาจทำท่าทางเดิมซ้ำๆ หรือแสดงความเครียดเมื่อกิจวัตรเปลี่ยน จำเป็นต้องใช้วิธีการปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  5. F84F5 มีภาวะวิตกกังวลหรือกลัวสิ่งเร้าเฉพาะ (Anxiety or phobia toward specific stimuli) ผู้ป่วยแสดงความกลัวหรือไม่สบายใจต่อเสียงดัง แสง สี กลิ่น หรือสัมผัสบางอย่าง ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่กระตุ้น
  6. F84F6 เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหารหรือน้ำหนักไม่เหมาะสม (Risk for malnutrition or inappropriate weight) ผู้ป่วยอาจมีปัญหาเรื่องการกิน เช่น เลือกกิน กินเฉพาะบางอย่าง หรือปฏิเสธอาหาร ส่งผลต่อการเจริญเติบโต
  7. F84F7 มีปัญหาด้านการนอนหลับ (Sleep disturbance) ผู้ป่วยหลับยาก ตื่นบ่อย หรือหลับไม่นาน มีผลต่อสุขภาพโดยรวมและพฤติกรรมในระหว่างวัน
  8. F84F8 ครอบครัวมีความเครียดในการดูแลผู้ป่วย (Family stress in caregiving) ผู้ดูแลอาจรู้สึกเหนื่อย ท้อแท้ หรือขาดความรู้ในการดูแลผู้ป่วย ต้องให้การสนับสนุนและให้ข้อมูลที่ชัดเจน
  9. F84F9 ความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมก่อนจำหน่าย (Need for discharge planning) ต้องมีการวางแผนร่วมกับครอบครัวเพื่อให้การดูแลที่บ้านต่อเนื่องและปลอดภัย รวมถึงการติดตามรักษา
  10. F84F10 ความจำเป็นในการติดตามพัฒนาการอย่างต่อเนื่องหลังจำหน่าย (Need for continuous developmental follow-up post-discharge) ผู้ป่วยควรได้รับการประเมินพัฒนาการ การฝึกทักษะ และการส่งต่อบริการที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง

..................................................

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยพูดว่า "ไม่อยากอยู่แล้ว" หรือ "จะตีทุกคน"
  • ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยชอบทำร้ายตนเองเวลาหงุดหงิด

O:

  • ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมรุนแรง เช่น ขว้างของ ตีผู้อื่น กัดตนเอง
  • มีรอยฟกช้ำหรือแผลบนร่างกาย
  • ไม่ตอบสนองต่อคำสั่ง หงุดหงิดง่าย
  • มีเสียงกรีดร้องหรือแสดงท่าทางกระวนกระวาย
  • อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งของอันตรายใกล้ตัว

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยปลอดภัยจากการทำร้ายตนเองและผู้อื่น
  • ลดความถี่ของพฤติกรรมรุนแรง
  • ผู้ดูแลสามารถรับมือกับพฤติกรรมได้อย่างมั่นใจ
  • ผู้ป่วยสงบลงและสามารถมีปฏิสัมพันธ์แบบไม่รุนแรงได้

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ไม่มีการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นภายใน 24 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยตอบสนองต่อการควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
  • ผู้ปกครองสามารถบอกวิธีรับมือเมื่อเกิดพฤติกรรมรุนแรง
  • จำนวนครั้งของพฤติกรรมก้าวร้าวลดลงอย่างเห็นได้ชัด

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F1I-1: ประเมินสาเหตุของพฤติกรรมรุนแรง เช่น ความเครียด ความหิว หรือสิ่งเร้าที่ไม่พึงประสงค์
  • F84F1I-2: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคม ของหนัก หรือของที่สามารถขว้างได้
  • F84F1I-3: อยู่ใกล้ชิดและเฝ้าระวังผู้ป่วยตลอดเวลาในช่วงที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
  • F84F1I-4: ใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ให้ของเล่นโปรด เพลงที่ชอบ หรือกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย
  • F84F1I-5: ฝึกผู้ป่วยให้สื่อสารความต้องการด้วยวิธีที่ไม่ใช้ความรุนแรง เช่น การใช้ภาพ หรือคำง่ายๆ
  • F84F1I-6: ให้การสนับสนุนและฝึกผู้ดูแลเกี่ยวกับเทคนิคควบคุมพฤติกรรมรุนแรงอย่างเหมาะสม
  • F84F1I-7: ประสานทีมสหวิชาชีพ เช่น จิตแพทย์ นักกิจกรรมบำบัด หากพฤติกรรมรุนแรงยังคงอยู่
  • F84F1I-8: บันทึกพฤติกรรมรุนแรง เช่น เวลา ลักษณะ และสิ่งที่กระตุ้น เพื่อประเมินแนวโน้มและปัจจัยกระตุ้น

Response (การตอบสนอง)

  • F84F1R-1: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองและผู้อื่นภายใน 24 ชั่วโมง
  • F84F1R-2: ผู้ป่วยสามารถสงบลงได้เมื่อใช้เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ
  • F84F1R-3: พฤติกรรมก้าวร้าวลดลงอย่างชัดเจนภายใน 3 วัน
  • F84F1R-4: ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างปลอดภัย
  • F84F1R-5: บันทึกพฤติกรรมแสดงให้เห็นแนวโน้มลดลงของพฤติกรรมรุนแรง

..........................................................

F84F2: มีปัญหาการสื่อสารและการเข้าใจภาษาที่ชัดเจน (Impaired verbal and non-verbal communication)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองรายงานว่าเด็กพูดช้า พูดได้น้อย หรือไม่พูดเลย
  • ผู้ดูแลระบุว่าเด็กไม่เข้าใจคำสั่งง่ายๆ เช่น "มา" หรือ "นั่ง"

O:

  • ผู้ป่วยไม่พูดหรือพูดซ้ำคำเดิม
  • ไม่สบตาหรือไม่ตอบสนองต่อชื่อเรียก
  • ไม่แสดงท่าทางสื่อสาร เช่น พยักหน้า/ส่ายหน้า
  • ไม่ตอบสนองต่อคำสั่งง่ายๆ
  • ใช้เสียงหรือพฤติกรรมแทนการพูด เช่น ร้องเสียงดัง เมินหน้า

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความต้องการได้อย่างเหมาะสม
  • ผู้ป่วยเข้าใจคำสั่งง่ายๆ และตอบสนองต่อการสื่อสาร
  • ผู้ดูแลสามารถสื่อสารกับผู้ป่วยได้เข้าใจมากขึ้น
  • ลดพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่เกิดจากการสื่อสารไม่เข้าใจ

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความต้องการพื้นฐานได้ (เช่น ขอของ กิน เข้าห้องน้ำ)
  • ผู้ป่วยตอบสนองต่อคำสั่งง่ายๆ อย่างน้อย 1-2 คำ
  • พฤติกรรมสื่อสารเชิงบวกเพิ่มขึ้น เช่น ชี้หรือมอง
  • ผู้ดูแลสามารถใช้วิธีสื่อสารทางเลือกได้ถูกต้อง

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F2I-1: ประเมินระดับพัฒนาการด้านภาษาและการเข้าใจภาษาของผู้ป่วย
  • F84F2I-2: ใช้ภาพหรือสื่อช่วยสื่อสาร เช่น บัตรภาพ ตารางกิจกรรม หรือรูปสิ่งของ
  • F84F2I-3: พูดกับผู้ป่วยด้วยคำสั้น ๆ ชัดเจน และใช้ท่าทางประกอบ
  • F84F2I-4: รอให้ผู้ป่วยตอบสนองก่อนพูดต่อ เพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสแสดงออก
  • F84F2I-5: กระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงความต้องการด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น ชี้ภาพ แสดงท่าทาง หรือใช้คำ
  • F84F2I-6: ชมเชยเมื่อผู้ป่วยสื่อสารได้อย่างเหมาะสมเพื่อเสริมแรงเชิงบวก
  • F84F2I-7: ส่งเสริมให้ผู้ดูแลใช้วิธีสื่อสารทางเลือกอย่างสม่ำเสมอที่บ้าน
  • F84F2I-8: ประสานนักกิจกรรมบำบัดหรือนักแก้ไขการพูดเพื่อการฝึกเพิ่มเติม
  • F84F2I-9: บันทึกพฤติกรรมการสื่อสารและความสามารถในการเข้าใจคำสั่งในแต่ละวัน

Response (การตอบสนอง)

  • F84F2R-1: ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความต้องการพื้นฐานได้อย่างน้อย 1 อย่างภายใน 3 วัน
  • F84F2R-2: ผู้ป่วยตอบสนองต่อคำสั่งง่าย ๆ เช่น “ยื่นมือ” หรือ “นั่ง”
  • F84F2R-3: พฤติกรรมร้องหรือแสดงอารมณ์ลดลง เมื่อสามารถสื่อสารได้
  • F84F2R-4: ผู้ดูแลสามารถใช้ภาพหรือคำสั่งสั้นๆ สื่อสารกับผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง
  • F84F2R-5: การตอบสนองของผู้ป่วยต่อการสื่อสารเพิ่มขึ้นจากการประเมินก่อนหน้า

.....................................................

F84F3: มีปัญหาการเข้าสังคมและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Impaired social interaction)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองรายงานว่าเด็กไม่เล่นกับผู้อื่น ชอบเล่นคนเดียว
  • เด็กไม่สนใจหรือไม่ตอบสนองเมื่อมีคนเรียกชื่อ

O:

  • ผู้ป่วยไม่สบตา ไม่แสดงสีหน้าโต้ตอบ
  • ไม่เข้าไปร่วมเล่นหรือพูดคุยกับเด็กคนอื่น
  • ไม่ตอบสนองต่อการทักทายหรือสัมผัส
  • ชอบอยู่คนเดียว หลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ในระดับหนึ่ง
  • ผู้ป่วยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มง่าย ๆ ได้
  • ลดพฤติกรรมแยกตัว และเพิ่มพฤติกรรมเข้าสังคม
  • ผู้ปกครองสามารถส่งเสริมทักษะเข้าสังคมที่บ้านได้

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถสบตาหรือแสดงการตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วย
  • ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่นได้แม้ระยะเวลาสั้น
  • จำนวนครั้งของการแยกตัวลดลง
  • มีพฤติกรรมสื่อสารทางสังคมเพิ่มขึ้น เช่น ยิ้ม ทักทาย สัมผัส
  • ผู้ดูแลสามารถกระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้าสังคมได้อย่างเหมาะสม

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F3I-1: ประเมินระดับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของผู้ป่วยในแต่ละวัน
  • F84F3I-2: สร้างกิจกรรมกลุ่มเล็ก ๆ ที่ปลอดภัยและเป็นมิตร เช่น เล่นบล็อก เล่นดนตรี
  • F84F3I-3: กระตุ้นให้ผู้ป่วยสบตาและตอบสนองต่อคำพูดด้วยวิธีสนุก เช่น การเล่นเลียนแบบ
  • F84F3I-4: ใช้เทคนิคเสริมแรงบวก เช่น ชมเชยทันทีเมื่อผู้ป่วยมีพฤติกรรมสื่อสารทางสังคม
  • F84F3I-5: ร่วมกิจกรรมกับผู้ป่วย โดยมีบุคคลที่คุ้นเคย เพื่อให้รู้สึกปลอดภัย
  • F84F3I-6: ใช้ของเล่นหรือสิ่งที่ผู้ป่วยสนใจในการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้อื่น
  • F84F3I-7: ฝึกทักษะพื้นฐานทางสังคม เช่น การรอคิว การแบ่งปัน การทักทาย
  • F84F3I-8: สนับสนุนให้ผู้ปกครองทำกิจกรรมที่บ้านร่วมกับเด็กแบบมีปฏิสัมพันธ์
  • F84F3I-9: บันทึกพฤติกรรมทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน เพื่อใช้ประเมินความก้าวหน้า

Response (การตอบสนอง)

  • F84F3R-1: ผู้ป่วยสามารถสบตาและตอบสนองต่อคนรอบข้างอย่างน้อย 1 ครั้ง/วัน
  • F84F3R-2: ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่นได้เป็นระยะเวลาสั้นโดยไม่ต่อต้าน
  • F84F3R-3: จำนวนพฤติกรรมแยกตัวลดลงอย่างชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์
  • F84F3R-4: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมเข้าสังคม เช่น ยิ้ม ชี้ หรือทักทาย
  • F84F3R-5: ผู้ปกครองรายงานว่าสามารถส่งเสริมพฤติกรรมเข้าสังคมที่บ้านได้ดีขึ้น

.................................................

F84F4: มีพฤติกรรมซ้ำ ๆ และยึดติดกับสิ่งเดิม (Repetitive behaviors and fixation on routines)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ เช่น แกว่งแขน หมุนตัว หรือเรียงของเล่นซ้ำ
  • แสดงความเครียด ร้องไห้ หรือโกรธ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน

O:

  • ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมซ้ำ ๆ เป็นประจำ
  • ผู้ป่วยปฏิเสธกิจกรรมใหม่ หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อถูกเปลี่ยนกิจวัตร
  • มีการกำหนดรูปแบบกิจวัตรตายตัว เช่น กินข้าวโต๊ะเดิม เวลาเดิม

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถลดพฤติกรรมซ้ำ ๆ ได้
  • ผู้ป่วยสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • ผู้ป่วยแสดงอารมณ์สงบเมื่อมีการเปลี่ยนกิจกรรมหรือสิ่งแวดล้อม
  • ผู้ดูแลสามารถช่วยสนับสนุนการปรับตัวของผู้ป่วยได้

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • จำนวนครั้งของพฤติกรรมซ้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • ผู้ป่วยยอมรับกิจกรรมหรือสิ่งใหม่โดยไม่มีการต่อต้านรุนแรง
  • มีการตอบสนองเชิงบวกเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตารางประจำวัน
  • ผู้ดูแลสามารถช่วยให้ผู้ป่วยเข้าสู่กิจกรรมใหม่ได้สำเร็จ

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F4I-1: ประเมินชนิดและความถี่ของพฤติกรรมซ้ำ ๆ เพื่อจัดแผนดูแลเฉพาะบุคคล
  • F84F4I-2: จัดกิจวัตรประจำวันที่แน่นอนและสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย
  • F84F4I-3: ใช้วิธีการปรับเปลี่ยนกิจวัตรอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่น เปลี่ยนเวลาเล่นทีละ 5 นาที
  • F84F4I-4: เตรียมผู้ป่วยล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนกิจกรรมด้วยภาพ หรือคำพูดง่าย ๆ
  • F84F4I-5: ใช้กิจกรรมทดแทนที่เหมาะสมเพื่อลดพฤติกรรมซ้ำ เช่น วาดภาพ ฟังเพลงเบา ๆ
  • F84F4I-6: ใช้เทคนิคเสริมแรงทางบวกเมื่อผู้ป่วยสามารถปรับตัวกับกิจวัตรใหม่ได้
  • F84F4I-7: ให้ผู้ดูแลหรือบุคคลใกล้ชิดมีส่วนร่วมในการสอนทักษะการเปลี่ยนกิจกรรม
  • F84F4I-8: บันทึกพฤติกรรมและอารมณ์ของผู้ป่วยระหว่างการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรเพื่อประเมินผล

Response (การตอบสนอง)

  • F84F4R-1: ผู้ป่วยสามารถลดพฤติกรรมซ้ำลงได้อย่างน้อย 25% ภายใน 1 สัปดาห์
  • F84F4R-2: ผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนกิจวัตรเล็กน้อยได้โดยไม่เกิดอารมณ์รุนแรง
  • F84F4R-3: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมสงบเมื่อมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงล่วงหน้า
  • F84F4R-4: ผู้ปกครองรายงานว่าสามารถช่วยให้ผู้ป่วยปรับตัวกับกิจวัตรใหม่ได้
  • F84F4R-5: ผู้ป่วยมีความสนใจในกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น

.....................................................

F84F5: มีภาวะวิตกกังวลหรือกลัวสิ่งเร้าเฉพาะ (Anxiety or phobia toward specific stimuli)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยมีอาการกลัวเสียงดัง/แสงจ้า/กลิ่นแรง เช่น ปิดหู ร้องไห้ หรือหนีออกจากห้อง
  • ผู้ป่วยแสดงอารมณ์กังวลอย่างชัดเจนเมื่อเผชิญกับสิ่งเร้า

O:

  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมตอบสนองทันทีต่อสิ่งเร้าที่ระคาย เช่น กรีดร้อง หรือกอดตัวเอง
  • ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงพื้นที่หรือกิจกรรมที่มีเสียง แสง หรือกลิ่นแรง
  • มีการใช้ท่าทางหรือวัตถุเพื่อป้องกันสิ่งเร้า เช่น เอามืออุดหู ใช้ผ้าคลุมหัว

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถลดความวิตกกังวลเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดสิ่งเร้ารุนแรง
  • ผู้ป่วยแสดงอารมณ์สงบในสถานการณ์ที่ควบคุมสิ่งเร้าได้
  • ผู้ป่วยสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่โดยมีความร่วมมือมากขึ้น

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ความถี่ของพฤติกรรมวิตกกังวลลดลง
  • ผู้ป่วยสามารถอยู่ในพื้นที่ใหม่ได้นานขึ้นโดยไม่มีพฤติกรรมต้านทาน
  • ผู้ดูแลสามารถจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับความไวต่อสิ่งเร้าของผู้ป่วย
  • ผู้ป่วยสามารถเผชิญกับสิ่งเร้าระดับเบาได้โดยไม่แสดงอาการกลัวรุนแรง

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F5I-1: ประเมินสิ่งเร้าที่กระตุ้นอาการวิตกกังวลของผู้ป่วยอย่างละเอียด
  • F84F5I-2: จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ลดเสียงดัง แสงจ้า และกลิ่นแรงในพื้นที่ผู้ป่วยอยู่
  • F84F5I-3: ใช้อุปกรณ์ช่วยลดสิ่งเร้า เช่น ที่ปิดหู แว่นกันแสง หรือผ้านุ่ม
  • F84F5I-4: สื่อสารและแจ้งล่วงหน้าก่อนมีสิ่งเร้าเกิดขึ้น เช่น แจ้งว่าจะมีเสียงดังจากการซ่อมบำรุง
  • F84F5I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยใช้วิธีผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ การกอดหมอนหรือของเล่นที่ชอบ
  • F84F5I-6: ฝึกการเผชิญสิ่งเร้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยมีผู้ดูแลให้กำลังใจ
  • F84F5I-7: สอนผู้ดูแลให้เข้าใจและร่วมมือในการหลีกเลี่ยงหรือลดสิ่งเร้าที่ไม่จำเป็น
  • F84F5I-8: บันทึกพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมขณะเกิดอาการ เพื่อประเมินแนวโน้มและวางแผนดูแลต่อไป

Response (การตอบสนอง)

  • F84F5R-1: ผู้ป่วยมีพฤติกรรมสงบมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ปรับให้เหมาะสม
  • F84F5R-2: ผู้ป่วยไม่แสดงพฤติกรรมหวาดกลัวเมื่อมีสิ่งเร้าเบา ๆ
  • F84F5R-3: ผู้ป่วยสามารถอยู่ในห้องใหม่หรือสถานการณ์ใหม่ได้นานขึ้นโดยไม่ร้องไห้หรือกรีดร้อง
  • F84F5R-4: ผู้ดูแลสามารถช่วยจัดสิ่งแวดล้อมให้ลดสิ่งเร้าได้อย่างเหมาะสม
  • F84F5R-5: ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นเมื่อมีการเตือนล่วงหน้า

......................................................

F84F6: มีปัญหาด้านการรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม (Impaired sensory perception and environmental response)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก หรือแสดงความไม่สบายเมื่อถูกสัมผัส
  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเลี่ยงการสัมผัสหรือรู้สึกตกใจง่ายเมื่อมีสิ่งกระตุ้น

O:

  • ผู้ป่วยไม่มีการหันหรือสนใจเมื่อมีเสียงเรียก
  • ผู้ป่วยสะดุ้งหรือร้องเมื่อถูกสัมผัสเบา ๆ
  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเฉพาะ เช่น หมุนตัวเอง ส่ายมือ หรือจ้องสิ่งของนานผิดปกติ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้เหมาะสมขึ้น
  • ผู้ป่วยมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นลดลงในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความเครียด
  • ผู้ดูแลสามารถปรับกิจวัตรและสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการรับรู้ของผู้ป่วย

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยตอบสนองต่อการเรียกชื่อหรือเสียงที่คุ้นเคย
  • ผู้ป่วยสามารถอยู่ในกิจวัตรประจำวันที่มีการสัมผัสหรือเสียงได้โดยไม่ตื่นตกใจ
  • จำนวนพฤติกรรมเลี่ยงสิ่งกระตุ้นลดลง
  • ผู้ดูแลสามารถหลีกเลี่ยงหรือจัดการสิ่งกระตุ้นได้เหมาะสม

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F6I-1: ประเมินการตอบสนองของผู้ป่วยต่อสิ่งเร้า เช่น เสียง แสง สัมผัส กลิ่น
  • F84F6I-2: จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม เช่น ใช้แสงธรรมชาติ เสียงเบา พื้นผิวสัมผัสที่นุ่ม
  • F84F6I-3: หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยไม่แจ้งล่วงหน้า และใช้วิธีแตะเบา ๆ พร้อมพูดช้า ๆ
  • F84F6I-4: ใช้สื่อช่วยกระตุ้นสัมผัสตามความเหมาะสม เช่น ลูกบอลสัมผัส ผ้านุ่ม ของเล่นน้ำ
  • F84F6I-5: ส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาการตอบสนอง เช่น เล่นสัมผัสพื้นผิวต่าง ๆ
  • F84F6I-6: จัดตารางกิจวัตรที่คงที่ เพื่อให้ผู้ป่วยคาดเดาได้และรู้สึกปลอดภัย
  • F84F6I-7: ให้คำแนะนำผู้ดูแลเกี่ยวกับการจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อประสาทสัมผัส
  • F84F6I-8: บันทึกพฤติกรรมการตอบสนอง เพื่อปรับแนวทางการดูแลรายบุคคล

Response (การตอบสนอง)

  • F84F6R-1: ผู้ป่วยตอบสนองต่อเสียงเรียกหรือสิ่งเร้าธรรมดาได้มากขึ้น
  • F84F6R-2: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมสงบเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
  • F84F6R-3: ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการสัมผัสหรือเสียงได้ดีขึ้น
  • F84F6R-4: จำนวนพฤติกรรมต้านทานต่อการสัมผัสลดลง
  • F84F6R-5: ผู้ดูแลสามารถจัดการสิ่งแวดล้อมให้ลดการกระตุ้นประสาทสัมผัสได้เหมาะสม

.....................................................

F84F7: มีปัญหาด้านการนอนหลับ (Sleep pattern disturbance)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ดูแลรายงานว่าผู้ป่วยนอนไม่หลับหรือตื่นกลางดึกบ่อย
  • ผู้ป่วยมีอารมณ์หงุดหงิดในช่วงเช้า

O:

  • สังเกตพบผู้ป่วยหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึก
  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมง่วงหรืออ่อนเพลียระหว่างวัน
  • ผู้ป่วยนอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้เพียงพอและมีคุณภาพ
  • ลดความถี่ของการตื่นระหว่างคืน
  • ผู้ดูแลมีความรู้ในการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาการนอนหลับ

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยนอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน
  • จำนวนครั้งของการตื่นกลางดึกลดลง
  • อารมณ์และพฤติกรรมของผู้ป่วยในตอนเช้าดีขึ้น
  • ผู้ดูแลสามารถจัดกิจวัตรก่อนนอนได้อย่างเหมาะสม

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F7I-1: ประเมินรูปแบบการนอนหลับของผู้ป่วยและปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอน
  • F84F7I-2: จัดกิจวัตรประจำวันให้มีความคงที่ โดยเฉพาะช่วงก่อนนอน
  • F84F7I-3: ลดสิ่งกระตุ้นก่อนนอน เช่น เสียงดัง หน้าจอแสงจ้า หรือกิจกรรมกระตุ้นสมอง
  • F84F7I-4: ใช้วิธีการผ่อนคลายก่อนนอน เช่น การเปิดเพลงเบา ๆ หรือกอดตุ๊กตา
  • F84F7I-5: จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะแก่การนอน เช่น อุณหภูมิห้อง แสงไฟ ม่านบังแสง
  • F84F7I-6: ให้ผู้ดูแลจดบันทึกการนอนเพื่อติดตามพฤติกรรม
  • F84F7I-7: พิจารณาส่งต่อแพทย์หากมีอาการรบกวนการนอนรุนแรงหรือเรื้อรัง
  • F84F7I-8: ให้ความรู้ผู้ดูแลเกี่ยวกับพฤติกรรมส่งเสริมการนอนหลับ

Response (การตอบสนอง)

  • F84F7R-1: ผู้ป่วยนอนหลับต่อเนื่องนานขึ้น
  • F84F7R-2: ผู้ป่วยมีพฤติกรรมสงบในช่วงเวลาก่อนนอน
  • F84F7R-3: จำนวนครั้งที่ตื่นกลางคืนลดลง
  • F84F7R-4: ผู้ป่วยมีอารมณ์และพฤติกรรมดีขึ้นในเวลากลางวัน
  • F84F7R-5: ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามแนวทางส่งเสริมการนอนได้อย่างเหมาะสม

..................................................

F84F8: มีพฤติกรรมการกินผิดปกติ (Feeding or eating difficulties)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยเลือกทานอาหารเฉพาะประเภท เช่น อาหารนิ่มหรือรสชาติซ้ำ ๆ
  • ผู้ป่วยมีปัญหาการทานอาหารหรือทำท่าทางไม่ยอมทานอาหาร

O:

  • สังเกตพบการรับประทานอาหารจำกัด หรือการปฏิเสธอาหารบางประเภท
  • ผู้ป่วยมีการรับประทานน้อยลงหรือไม่สามารถรับประทานอาหารตามที่ควรจะได้รับ
  • พบการพัฒนาการทางร่างกายที่ช้าหรือไม่ตรงตามเกณฑ์ เช่น น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายขึ้น
  • ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่เพียงพอในการเจริญเติบโต
  • ผู้ปกครองสามารถดูแลการทานอาหารของผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยทานอาหารได้หลากหลายประเภท
  • ผู้ป่วยไม่ปฏิเสธอาหารหรือมีพฤติกรรมทานอาหารน้อย
  • น้ำหนักตัวและพัฒนาการทางร่างกายเป็นไปตามเกณฑ์
  • ผู้ปกครองสามารถบันทึกและติดตามการทานอาหารได้

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F8I-1: ประเมินพฤติกรรมการทานอาหารของผู้ป่วยและพฤติกรรมการเลือกอาหาร
  • F84F8I-2: สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการทานอาหาร เช่น ลดการรบกวนหรือการกระตุ้นระหว่างมื้ออาหาร
  • F84F8I-3: ให้คำแนะนำการเตรียมอาหารที่มีคุณค่าอาหารครบถ้วน และเลือกวิธีการปรุงที่เหมาะสมกับผู้ป่วย
  • F84F8I-4: ใช้การกระตุ้นการรับประทานอาหารด้วยวิธีที่ค่อยเป็นค่อยไป เช่น ให้เลือกทานอาหารที่หลากหลายขึ้นในปริมาณน้อย
  • F84F8I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีประสบการณ์ที่ดีในมื้ออาหาร โดยการเล่นเกมเกี่ยวกับการทานอาหารหรือรางวัล
  • F84F8I-6: ติดตามการรับประทานอาหารและบันทึกน้ำหนักตัวเพื่อประเมินพัฒนาการ
  • F84F8I-7: แนะนำผู้ปกครองเกี่ยวกับเทคนิคการฝึกการทานอาหารและวิธีจัดการกับปัญหาการเลือกอาหาร

Response (การตอบสนอง)

  • F84F8R-1: ผู้ป่วยสามารถทานอาหารได้หลากหลายประเภทมากขึ้น
  • F84F8R-2: น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์และพัฒนาการทางร่างกายดีขึ้น
  • F84F8R-3: ผู้ป่วยสามารถทานอาหารตามที่มีให้ในมื้ออาหาร
  • F84F8R-4: ผู้ปกครองสามารถดูแลการรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

....................................................

F84F9: ความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมก่อนจำหน่าย (Need for discharge planning)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ครอบครัวมีความกังวลเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน เช่น การควบคุมพฤติกรรม และการให้ยา
  • ผู้ป่วยยังต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดในกิจกรรมประจำวัน

O:

  • พบว่าผู้ป่วยยังต้องการการดูแลพิเศษในด้านการสื่อสารและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
  • ครอบครัวต้องการการสนับสนุนจากทีมแพทย์และพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
  • ต้องการการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่องหลังจำหน่าย

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ครอบครัวสามารถดูแลผู้ป่วยที่บ้านได้อย่างเหมาะสม
  • ผู้ป่วยได้รับการติดตามรักษาอย่างต่อเนื่อง
  • การเตรียมความพร้อมก่อนจำหน่ายช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหลังกลับบ้าน

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ครอบครัวสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยได้
  • ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตประจำวันที่บ้านได้อย่างปลอดภัย
  • ครอบครัวสามารถรับการสนับสนุนจากแหล่งบริการที่เกี่ยวข้องหลังการจำหน่าย

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F9I-1: ประเมินความต้องการในการดูแลผู้ป่วยที่บ้านร่วมกับครอบครัวและทีมพยาบาล
  • F84F9I-2: วางแผนการให้คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วย เช่น การปรับพฤติกรรม การทานยา และการสื่อสาร
  • F84F9I-3: แนะนำแหล่งบริการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น นักจิตวิทยา หรือนักกิจกรรมบำบัด
  • F84F9I-4: จัดทำแผนการติดตามผลการรักษาหลังจากจำหน่าย รวมถึงการนัดหมายเพื่อติดตามผลการรักษา
  • F84F9I-5: ให้คำแนะนำในการปรับสภาพแวดล้อมที่บ้านเพื่อรองรับการดูแลที่เหมาะสม
  • F84F9I-6: จัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการดูแลและแผนการรักษาที่ชัดเจนเพื่อส่งต่อให้ครอบครัว

Response (การตอบสนอง)

  • F84F9R-1: ครอบครัวสามารถดูแลผู้ป่วยตามคำแนะนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • F84F9R-2: ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตประจำวันที่บ้านได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
  • F84F9R-3: ครอบครัวได้รับการสนับสนุนจากแหล่งบริการที่เกี่ยวข้องหลังการจำหน่าย
  • F84F9R-4: ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการติดตามการรักษาได้ตามแผนที่วางไว้

...................................................

F84F10 ความจำเป็นในการติดตามพัฒนาการอย่างต่อเนื่องหลังจำหน่าย (Need for continuous developmental follow-up post-discharge)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยยังคงมีปัญหาในการพัฒนาทักษะสังคมและการสื่อสาร
  • ครอบครัวมีความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาการที่บ้านและความสามารถในการดูแลต่อเนื่อง

O:

  • ผู้ป่วยต้องได้รับการประเมินพัฒนาการทุกระยะเพื่อวางแผนการฝึกทักษะที่เหมาะสม
  • ครอบครัวต้องการการสนับสนุนในการติดตามพัฒนาการหลังจำหน่ายจากโรงพยาบาล
  • การติดตามจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมสหวิชาชีพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วย

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยได้รับการประเมินพัฒนาการที่เหมาะสมหลังการจำหน่าย
  • ครอบครัวสามารถติดตามและส่งเสริมพัฒนาการของผู้ป่วยที่บ้านได้อย่างเหมาะสม
  • ผู้ป่วยได้รับการบริการที่เหมาะสมจากแหล่งบริการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยได้รับการประเมินพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ
  • ครอบครัวได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลและพัฒนาการที่บ้าน
  • มีการส่งต่อบริการที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย เช่น การฝึกทักษะการสื่อสารหรือการบำบัดพฤติกรรม

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F84F10I-1: ประเมินพัฒนาการของผู้ป่วยทุก ๆ 3-6 เดือนหลังการจำหน่าย
  • F84F10I-2: แนะนำการเข้ารับการฝึกทักษะที่เหมาะสม เช่น การบำบัดพฤติกรรมหรือนักกิจกรรมบำบัด
  • F84F10I-3: แนะนำแหล่งบริการเพิ่มเติมที่เหมาะสม เช่น การฝึกทักษะทางการสื่อสารหรือนักจิตวิทยา
  • F84F10I-4: ให้คำแนะนำในการติดตามพัฒนาการของผู้ป่วยที่บ้านโดยครอบครัว
  • F84F10I-5: จัดทำแผนการติดตามการรักษาและพัฒนาการที่บ้านร่วมกับครอบครัวและทีมพยาบาล
  • F84F10I-6: ประสานงานกับทีมสหวิชาชีพเพื่อจัดการส่งต่อบริการที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย

Response (การตอบสนอง)

  • F84F10R-1: ผู้ป่วยได้รับการประเมินพัฒนาการตามแผนการที่กำหนด
  • F84F10R-2: ครอบครัวสามารถดูแลและติดตามพัฒนาการของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • F84F10R-3: ผู้ป่วยได้รับการฝึกทักษะที่เหมาะสมจากแหล่งบริการที่แนะนำ
  • F84F10R-4: การติดตามพัฒนาการหลังจำหน่ายสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

.........................................................

เอกสารอ้างอิง

  • พญ. สุดารัตน์ ชัยวัฒน์. (2564). "การดูแลผู้ป่วยโรคออทิสติกสเปกตรัม (Autism Spectrum Disorder)". วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 32(1), 45-50.
  • มหาวิทยาลัยมหิดล. (2562). "การพัฒนาพฤติกรรมการเรียนรู้และการปรับพฤติกรรมของผู้ป่วยโรคออทิสติกสเปกตรัม". งานวิจัยการพยาบาล, 5(2), 111-115.
  • American Psychiatric Association. (2013). "Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders: DSM-5" (5th ed.). American Psychiatric Publishing.
  • Matson, J. L., & Kozlowski, A. M. (2011). "The effects of early intervention programs for children with autism spectrum disorders: A meta-analytic review". Journal of Autism and Developmental Disorders, 41(5), 453-466.

.................................................................................