เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568

EP.57 จิตเวชหัวข้อ 17: โรคสมาธิสั้น (Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder - ADHD) F90

 

Psych. Topic 17 : Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder - ADHD -F90

🎯 โรคสมาธิสั้น (ADHD - F90)
เด็กไม่อยู่กับที่ ผู้ใหญ่ใจร้อน วอกแวกง่าย...อาจไม่ใช่แค่ "นิสัย" แต่อาจเป็น "โรคสมาธิสั้น"

🧠พยาธิสภาพ / สาเหตุ
สมองส่วนที่ควบคุมสมาธิ การวางแผน และการยับยั้งพฤติกรรมทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะสารสื่อประสาทอย่าง "โดปามีน" และ "นอร์อิพิเนฟริน" น้อยเกินไป

⚠️ปัจจัยที่ทำให้เกิด

  • กรรมพันธุ์ (พ่อแม่พี่น้องมีแนวโน้มเป็น)
  • น้ำหนักแรกเกิดต่ำ
  • การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ของแม่ขณะตั้งครรภ์
  • สภาพแวดล้อมกระตุ้นสูง ขาดระเบียบ

💊การรักษา

  • ยากลุ่มกระตุ้นระบบประสาท เช่น methylphenidate
  • การบำบัดพฤติกรรม (Behavioral Therapy)
  • การปรับสิ่งแวดล้อม เช่น ลดสิ่งรบกวน จัดตารางชีวิต

🩺การพยาบาล

  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ให้เด็กหรือผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย
  • ช่วยจัดตารางกิจวัตรประจำวันอย่างมีระเบียบ
  • สังเกตพฤติกรรมและผลข้างเคียงของยา
  • สอนพ่อแม่และผู้ดูแลให้เข้าใจโรคและวิธีรับมือ

👨‍👩‍👧‍👦การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป

  • อย่าดุว่า “ดื้อ” แต่ควรใช้คำสั่งชัดเจน สั้นๆ เข้าใจง่าย
  • สร้างกิจวัตรที่คงที่ เช่น เวลานอน กิน เล่น
  • ลดสิ่งรบกวนรอบตัวขณะทำกิจกรรม เช่น ปิดทีวี/มือถือ
  • ชมเชยเมื่อมีพฤติกรรมที่ดี เพื่อเสริมแรงบวก

…………………………………………………………..

🩺 วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น (F90) 

  1. F90F1 มีพฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Risk for self-harm or harm to others) เกิดจากการขาดการควบคุมตนเอง กระทำโดยไม่คิดไตร่ตรอง
  2. F90F2 มีสมาธิสั้น ไม่สามารถจดจ่อกับกิจกรรมได้นาน (Impaired attention and concentration) ทำให้การเรียนรู้และใช้ชีวิตประจำวันมีปัญหา
  3. F90F3 มีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น ควบคุมตนเองไม่ได้ (Impulsivity and poor self-control) อาจแสดงพฤติกรรมรุนแรง พูดแทรก วิ่งซุกซนเกินวัย
  4. F90F4 มีความเครียดหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถตนเอง (Anxiety related to self-performance) รู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าเพื่อน ถูกตำหนิบ่อย ทำให้ขาดความมั่นใจ
  5. F90F5 นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ (Sleep pattern disturbance) เนื่องจากความวอกแวก กระสับกระส่าย ส่งผลต่อการเรียนและพฤติกรรมในวันถัดไป
  6. F90F6 ครอบครัวมีความเครียด ขาดทักษะในการดูแล (Family stress and ineffective coping)ผู้ปกครองไม่เข้าใจโรค มีปัญหาในการตั้งกฎเกณฑ์และการให้รางวัล/ลงโทษ
  7. F90F7 ขาดทักษะการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Impaired social interaction) มีปัญหากับเพื่อน พูดไม่รู้กาลเทศะ ไม่เข้าใจอารมณ์คนอื่น
  8. F90F8 เสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากยา (Risk for adverse effects of medication) เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หงุดหงิด ต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง
  9. F90F9 ขาดการติดตามต่อเนื่องจากระบบบริการสุขภาพ (Ineffective health maintenance) ผู้ป่วย/ครอบครัวขาดความเข้าใจในการนัดติดตาม รับประทานยาไม่สม่ำเสมอ
  10. F90F10 ขาดความพร้อมในการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา (Readiness for enhanced social and academic integration) ต้องได้รับการวางแผนช่วยเหลืออย่างเป็นระบบก่อนจำหน่ายหรือกลับสู่สังคม

………………………………………………………………………..

🩺 F90F1 มีพฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Risk for self-harm or harm to others)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยมักแสดงพฤติกรรมรุนแรงเมื่อโกรธ
  • ผู้ป่วยพูดว่า “ไม่อยากอยู่แล้ว” หรือ “อยากทำลายของ”

O:

  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมขว้างของ ตะโกนเสียงดัง
  • มีรอยขีดข่วนตามแขน
  • มีประวัติพฤติกรรมเสี่ยง เช่น วิ่งออกจากห้องเรียน
  • ไม่สามารถหยุดพฤติกรรมตนเองเมื่อถูกรบกวน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยปลอดภัยจากการทำร้ายตนเองและผู้อื่น
  • ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมตนเองได้ดีขึ้น
  • ครอบครัวมีทักษะในการจัดการพฤติกรรมเสี่ยง

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)

  • ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือทำร้ายตนเอง/ผู้อื่นในระยะเวลาที่กำหนด
  • ผู้ป่วยแสดงทักษะในการควบคุมตนเองได้ในสถานการณ์ที่เครียด
  • ครอบครัวสามารถใช้เทคนิคควบคุมพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F1I-1: ประเมินพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นทุกวัน และเมื่อเกิดสถานการณ์กระตุ้น
  • F90F1I-2: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคมและสิ่งที่อาจใช้ทำร้ายตนเอง
  • F90F1I-3: อยู่ใกล้ชิดเพื่อสังเกตพฤติกรรมในช่วงที่ผู้ป่วยมีอารมณ์แปรปรวน
  • F90F1I-4: ใช้เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อตรวจพบพฤติกรรมเสี่ยง
  • F90F1I-5: ฝึกทักษะควบคุมอารมณ์ร่วมกับนักจิตวิทยา เช่น การหายใจลึกๆ หรือนับเลข
  • F90F1I-6: ให้คำแนะนำแก่ครอบครัวเกี่ยวกับวิธีตอบสนองต่อพฤติกรรมเสี่ยงอย่างใจเย็นและไม่ใช้ความรุนแรง
  • F90F1I-7: บันทึกความถี่ ลักษณะ และสถานการณ์กระตุ้นของพฤติกรรม เพื่อใช้วางแผนการดูแลต่อเนื่อง
  • F90F1I-8: ประสานทีมสหวิชาชีพ เช่น จิตแพทย์ ครู หรือนักบำบัด เพื่อดูแลแบบองค์รวม

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F1R-1: ผู้ป่วยไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือทำร้ายตนเองในระยะ 3 วัน
  • F90F1R-2: ผู้ป่วยสามารถแจ้งอารมณ์ตนเองได้ เช่น “ตอนนี้รู้สึกโกรธ”
  • F90F1R-3: ครอบครัวสามารถดูแลผู้ป่วยในบ้านได้อย่างมั่นใจและไม่เกิดความรุนแรง
  • F90F1R-4: ผู้ป่วยเริ่มใช้เทคนิคควบคุมอารมณ์ได้ เช่น การนับเลขเมื่อโกรธ
  • F90F1R-5: ทีมดูแลร่วมมีแผนการดูแลต่อเนื่องก่อนจำหน่าย

……………………………………………………………………….

F90F2 มีสมาธิสั้น ไม่สามารถจดจ่อกับกิจกรรมได้นาน (Impaired attention and concentration)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “เบื่อเร็ว” หรือ “ทำอะไรไม่นานก็ล้า”
  • ครอบครัวแจ้งว่าผู้ป่วยไม่สามารถนั่งเรียนหรือนั่งทำกิจกรรมได้นาน

O:

  • ผู้ป่วยเปลี่ยนกิจกรรมบ่อยในเวลาอันสั้น
  • มีพฤติกรรมวอกแวกง่าย หันไปมองหรือเล่นสิ่งรอบตัว
  • ผลการเรียนหรือการทำงานต่ำกว่าศักยภาพ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถจดจ่อกับกิจกรรมได้อย่างน้อย 10–15 นาทีต่อครั้ง
  • ลดพฤติกรรมวอกแวกขณะทำกิจกรรม
  • ครอบครัวมีความรู้ในการส่งเสริมสมาธิให้ผู้ป่วยอย่างเหมาะสม

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)

  • ผู้ป่วยสามารถอยู่กับกิจกรรมได้ตามเวลาที่กำหนด
  • ผู้ป่วยมีสมาธิเพิ่มขึ้นในการทำกิจกรรมประจำวัน
  • ครอบครัวมีส่วนร่วมในการฝึกสมาธิให้ผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F2I-1: ประเมินระดับสมาธิของผู้ป่วยในแต่ละวัน โดยใช้กิจกรรมที่ชัดเจน เช่น การต่อบล็อก วาดภาพ
  • F90F2I-2: จัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงอายุ และแบ่งกิจกรรมเป็นช่วงสั้นๆ เพื่อให้ผู้ป่วยทำสำเร็จ
  • F90F2I-3: ใช้การเสริมแรงเชิงบวก เช่น คำชม หรือรางวัลเล็กๆ เมื่อผู้ป่วยสามารถจดจ่อกับกิจกรรมได้
  • F90F2I-4: จัดสิ่งแวดล้อมให้มีสิ่งรบกวนน้อย เช่น ห้องเรียนหรือพื้นที่เล่นที่เงียบ
  • F90F2I-5: ฝึกกิจกรรมที่เสริมสมาธิ เช่น วาดรูประบายสี เล่นเกมฝึกความจำ หรือฝึกโยคะเบื้องต้น
  • F90F2I-6: สอนเทคนิค “ตั้งเวลา” ให้ผู้ป่วยรู้จักจับเวลาในการทำกิจกรรมทีละช่วง
  • F90F2I-7: ให้คำแนะนำผู้ปกครองในการกำหนดกิจวัตรประจำวันที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ
  • F90F2I-8: ประสานงานกับครูหรือผู้ดูแลในโรงเรียน เพื่อร่วมกันออกแบบการเรียนรู้ให้เหมาะกับผู้ป่วย

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F2R-1: ผู้ป่วยสามารถอยู่กับกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง ≥ 15 นาทีต่อครั้ง
  • F90F2R-2: ผู้ป่วยมีพฤติกรรมวอกแวกขณะทำกิจกรรมน้อยลงอย่างชัดเจน
  • F90F2R-3: ครอบครัวรายงานว่าสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีสมาธิได้นานขึ้น
  • F90F2R-4: ครูหรือผู้ดูแลแจ้งว่าผู้ป่วยสามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้นในห้องเรียน
  • F90F2R-5: ผู้ป่วยรู้สึกภูมิใจและอยากทำกิจกรรมให้สำเร็จในแต่ละวัน

…………………………………………………………………..

F90F3 มีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น ควบคุมตนเองไม่ได้ (Impulsivity and poor self-control)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “อดไม่ไหว” หรือ “ต้องทำทันที”
  • ผู้ปกครองแจ้งว่าผู้ป่วยมักตอบแทรก หรือขัดจังหวะบทสนทนา

O:

  • ผู้ป่วยพูดแทรกบ่อย ขณะผู้อื่นยังพูดไม่จบ
  • มีพฤติกรรมวิ่ง ซุกซน ไม่อยู่กับที่
  • แสดงอารมณ์รุนแรงหากถูกขัดใจ เช่น โยนของ ตะโกนเสียงดัง
  • ขัดจังหวะกิจกรรมของผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถควบคุมพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นได้ดีขึ้น
  • ผู้ป่วยสามารถรอคอยและทำตามลำดับขั้นตอน
  • ครอบครัวสามารถจัดการพฤติกรรมของผู้ป่วยด้วยวิธีที่เหมาะสม

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)

  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมรอคอยและไม่พูดแทรกลดลง
  • ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการควบคุมตนเองได้มากขึ้น
  • ครอบครัวรายงานว่าการจัดการพฤติกรรมของผู้ป่วยง่ายขึ้น

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F3I-1: ประเมินความถี่และสถานการณ์ที่ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น
  • F90F3I-2: ใช้การตั้งกติกาชัดเจน เช่น “พูดเมื่อถึงตา” หรือ “ยกมือก่อนพูด”
  • F90F3I-3: ฝึกเทคนิค "หยุด คิด ทำ" โดยสอนให้ผู้ป่วยหยุดและคิดก่อนลงมือทำ
  • F90F3I-4: ใช้ระบบรางวัลทันที เมื่อผู้ป่วยควบคุมตนเองได้ เช่น การ์ดสะสมดาว
  • F90F3I-5: จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผู้ป่วยกระวนกระวาย
  • F90F3I-6: ใช้กิจกรรมระบายพลังงานอย่างเหมาะสม เช่น เต้น วิ่ง เล่นเกมสร้างสรรค์
  • F90F3I-7: ประเมินการตอบสนองร่วมกับครอบครัวทุกสัปดาห์ และปรับแผนดูแลตามผล
  • F90F3I-8: ให้คำปรึกษาครอบครัวเกี่ยวกับการตอบสนองเชิงบวกและการตั้งขอบเขตที่เหมาะสม

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F3R-1: ผู้ป่วยสามารถรอคอยโดยไม่พูดแทรก ≥ 3 ครั้ง/วัน
  • F90F3R-2: ผู้ป่วยมีพฤติกรรมควบคุมตนเองในสถานการณ์กระตุ้นได้ดีขึ้น
  • F90F3R-3: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมตามขั้นตอนได้โดยไม่ขัดจังหวะ
  • F90F3R-4: ครอบครัวสามารถใช้วิธีจัดการพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม
  • F90F3R-5: ผู้ป่วยมีความภาคภูมิใจในตนเองเมื่อควบคุมพฤติกรรมได้

…………………………………………………………………………………

F90F4 มีความเครียดหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถตนเอง (Anxiety related to self-performance)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยพูดว่า “หนูทำไม่ได้” / “หนูไม่เก่ง”
  • แสดงความกังวลเมื่อถูกให้ทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ
  • บ่นว่าถูกตำหนิหรือเปรียบเทียบกับเพื่อนบ่อยครั้ง

O:

  • สีหน้าเคร่งเครียด เลี่ยงการสบตา
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมใหม่ๆ หรือกิจกรรมที่เคยล้มเหลว
  • เก็บตัว ไม่กล้าพูดในกลุ่ม
  • มีพฤติกรรมวิตก เช่น เคาะโต๊ะ กัดเล็บ เดินวน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถแสดงออกถึงความเชื่อมั่นในตนเองได้มากขึ้น
  • ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดหรือความกังวลได้
  • ครอบครัวสนับสนุนและหลีกเลี่ยงการตำหนิผู้ป่วย

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยกล้าทำกิจกรรมโดยไม่หลีกเลี่ยง
  • ผู้ป่วยพูดถึงจุดแข็งของตนเองได้
  • ผู้ป่วยแสดงความพึงพอใจในสิ่งที่ตนทำได้
  • ครอบครัวมีพฤติกรรมสนับสนุนทางบวกมากขึ้น

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F4I-1: ประเมินระดับความกังวลของผู้ป่วยในแต่ละสถานการณ์
  • F90F4I-2: รับฟังและสะท้อนความรู้สึกโดยไม่ตัดสิน เพื่อเสริมความเข้าใจตนเอง
  • F90F4I-3: กระตุ้นให้ผู้ป่วยระบุจุดแข็งและความสามารถของตน
  • F90F4I-4: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก นับเลข หรือกำมือ-คลายมือ
  • F90F4I-5: วางเป้าหมายรายวันให้สำเร็จได้ง่าย เพื่อสร้างความมั่นใจแบบค่อยเป็นค่อยไป
  • F90F4I-6: ใช้การเสริมแรงทางบวก เช่น คำชม การให้รางวัลเล็กๆ เมื่อผู้ป่วยกล้าทำสิ่งใหม่
  • F90F4I-7: ให้คำแนะนำกับผู้ปกครองในการพูดจาให้กำลังใจ แทนการตำหนิ
  • F90F4I-8: ประสานทีมจิตวิทยา/จิตแพทย์เด็กหากมีอาการวิตกกังวลต่อเนื่อง

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F4R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมที่หลีกเลี่ยงมาก่อนได้โดยไม่เครียด
  • F90F4R-2: ผู้ป่วยแสดงออกถึงความมั่นใจในตนเองมากขึ้น เช่น กล้าพูด/กล้าแสดงออก
  • F90F4R-3: ผู้ป่วยสามารถระบุจุดแข็งของตนเองได้ ≥ 2 อย่าง
  • F90F4R-4: ผู้ป่วยใช้เทคนิคผ่อนคลายเมื่อรู้สึกเครียดได้อย่างเหมาะสม
  • F90F4R-5: ครอบครัวให้การสนับสนุนทางอารมณ์โดยไม่ตำหนิผู้ป่วย

………………………………………………………….

F90F5 นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ (Sleep pattern disturbance)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยพูดว่า “หนูนอนไม่หลับ” / “ยังไม่ง่วง”
  • ผู้ปกครองรายงานว่าเด็กเข้านอนดึก นอนหลับยาก หรือตื่นกลางดึกบ่อย
  • บ่นว่าเหนื่อย เพลียในช่วงกลางวัน

O:

  • กระสับกระส่ายขณะเข้านอน
  • แสดงพฤติกรรมหงุดหงิด ไม่มีสมาธิในช่วงกลางวัน
  • รอยคล้ำใต้ตา หรือหลับในขณะทำกิจกรรม
  • มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนเป็นเวลานาน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยนอนได้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน
  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการนอนที่เหมาะสม
  • ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการนอน

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยเข้านอนตรงเวลาและหลับได้ภายใน 30 นาที
  • ผู้ป่วยไม่มีอาการง่วงมากหรือหลับในระหว่างวัน
  • จำนวนชั่วโมงการนอนเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม
  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมสงบและมีสมาธิในช่วงกลางวัน

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F5I-1: ประเมินรูปแบบการนอน การนอนหลับ และกิจกรรมก่อนนอนของผู้ป่วย
  • F90F5I-2: ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับความสำคัญของการนอน
  • F90F5I-3: แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้จอ (มือถือ/แท็บเล็ต/TV) อย่างน้อย 1 ชม.ก่อนนอน
  • F90F5I-4: ช่วยจัดกิจวัตรก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านนิทาน ฟังเพลงเบาๆ
  • F90F5I-5: ปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม เช่น ไฟสลัว ห้องเงียบ อุณหภูมิสบาย
  • F90F5I-6: กระตุ้นให้เข้านอนและตื่นนอนตรงเวลาทุกวัน แม้ในวันหยุด
  • F90F5I-7: หากมีอาการกระสับกระส่ายรุนแรง ร่วมประเมินโดยจิตแพทย์เด็ก
  • F90F5I-8: ติดตามผลการนอนเป็นประจำโดยใช้สมุดบันทึกการนอนร่วมกับผู้ปกครอง

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F5R-1: ผู้ป่วยหลับได้ภายใน 30 นาทีหลังเข้านอน
  • F90F5R-2: จำนวนชั่วโมงการนอน ≥ 8 ชม.ต่อคืน อย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์
  • F90F5R-3: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมง่วงหรือหลับในช่วงกลางวัน
  • F90F5R-4: ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยมีพฤติกรรมก่อนนอนเป็นระบบมากขึ้น
  • F90F5R-5: ผู้ป่วยแสดงอารมณ์และสมาธิในระหว่างวันดีขึ้น

………………………………………………………………..

F90F6 ครอบครัวมีความเครียด ขาดทักษะในการดูแล (Family stress and ineffective coping)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองบ่นว่า “เหนื่อยมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับลูก”
  • รู้สึกผิดหรือสงสัยว่าการเลี้ยงดูเป็นสาเหตุของปัญหา
  • ไม่มีแนวทางจัดการเมื่อลูกมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

O:

  • ความสัมพันธ์ในบ้านตึงเครียด
  • ผู้ปกครองพูดเสียงดัง ข่มขู่ หรือลงโทษโดยไม่สม่ำเสมอ
  • ขาดการชมเชยหรือเสริมแรงเมื่อเด็กมีพฤติกรรมดี

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ครอบครัวเข้าใจธรรมชาติของโรค ADHD
  • ผู้ปกครองมีทักษะในการดูแล ส่งเสริมพฤติกรรมบวกของเด็ก
  • ความเครียดของครอบครัวลดลง และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ปกครองสามารถอธิบายโรค ADHD ได้ถูกต้อง
  • ผู้ปกครองสามารถใช้วิธีเสริมแรงทางบวกได้อย่างเหมาะสม
  • ครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์ที่สงบ ลดการใช้คำพูดรุนแรง
  • เด็กมีพฤติกรรมร่วมมือมากขึ้นเมื่ออยู่บ้าน

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F6I-1: ประเมินระดับความรู้ ความเข้าใจของครอบครัวเกี่ยวกับโรค ADHD
  • F90F6I-2: จัดกิจกรรมให้ความรู้โรค ADHD แบบเข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างพฤติกรรม
  • F90F6I-3: แนะนำเทคนิคการเลี้ยงดูเชิงบวก เช่น การตั้งกติกา การใช้ระบบรางวัล
  • F90F6I-4: ฝึกทักษะการจัดการอารมณ์สำหรับผู้ปกครอง เช่น หายใจลึก นับ 1–10
  • F90F6I-5: ส่งเสริมการชมเชยเมื่อเด็กทำสิ่งที่ดี เช่น “แม่ภูมิใจที่ลูกตั้งใจฟัง”
  • F90F6I-6: ให้คำแนะนำในการลงโทษที่เหมาะสม เช่น การตัดสิทธิ์ชั่วคราว
  • F90F6I-7: จัดกลุ่มให้คำปรึกษาสำหรับผู้ปกครองที่มีลูกเป็น ADHD
  • F90F6I-8: ส่งต่อทีมสหวิชาชีพหากพบความเครียดสูง หรือความรุนแรงในครอบครัว
  • F90F6I-9: ติดตามพฤติกรรมครอบครัวโดยสม่ำเสมอ และปรับแผนดูแลตามบริบท

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F6R-1: ผู้ปกครองสามารถอธิบายธรรมชาติของโรค ADHD ได้
  • F90F6R-2: ผู้ปกครองมีการเสริมแรงทางบวกกับเด็กมากขึ้น
  • F90F6R-3: เด็กมีพฤติกรรมตอบสนองดีขึ้นต่อกติกาในบ้าน
  • F90F6R-4: ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น มีบรรยากาศอบอุ่น
  • F90F6R-5: ระดับความเครียดของผู้ปกครองลดลง สังเกตได้จากพฤติกรรมและการพูดคุย

………………………………………………………………………

F90F7 ขาดทักษะการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Impaired social interaction)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • เด็กบ่นว่า “ไม่มีเพื่อนเล่น” หรือ “เพื่อนไม่คุยด้วย”
  • ผู้ปกครองรายงานว่าเด็กมักมีปัญหาเวลาเข้าสังคม พูดโพล่งโดยไม่ดูสถานการณ์
  • ครูสังเกตว่าเด็กชอบขัดจังหวะหรือแสดงกิริยาไม่เหมาะสมในการเล่นกับเพื่อน

O:

  • เด็กเล่นคนเดียว หรือมีปฏิสัมพันธ์แบบรบกวนเพื่อน
  • แสดงพฤติกรรมไม่เข้าใจอารมณ์ เช่น หัวเราะเวลาคนอื่นร้องไห้
  • พูดแทรก พูดเสียงดังโดยไม่เหมาะสม

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • เด็กสามารถเข้าสังคมได้ดีขึ้น สื่อสารเหมาะสมกับสถานการณ์
  • เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และลดพฤติกรรมรบกวนผู้อื่น
  • มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับเพื่อน

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • เด็กสามารถรอคิว เล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้
  • ลดการพูดแทรกหรือขัดจังหวะ
  • เข้าใจอารมณ์พื้นฐานของผู้อื่น เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ
  • มีเพื่อนหรือผู้ร่วมกิจกรรมที่ยินดีเล่นด้วย

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F7I-1: ประเมินทักษะการเข้าสังคมของเด็กในแต่ละสถานการณ์
  • F90F7I-2: สอนเด็กให้รู้จักแยกแยะอารมณ์ของผู้อื่นผ่านภาพ การเล่าเรื่อง หรือบทบาทสมมติ
  • F90F7I-3: ฝึกการสนทนาอย่างเหมาะสม เช่น การรอฟัง พูดทีละคน
  • F90F7I-4: ใช้เกมหรือกิจกรรมกลุ่มเล็กเพื่อฝึกการเล่นร่วมกันอย่างมีมารยาท
  • F90F7I-5: ชมเชยหรือให้รางวัลเมื่อเด็กมีพฤติกรรมสังคมที่เหมาะสม เช่น "หนูรอคิวได้ดีมาก"
  • F90F7I-6: กระตุ้นให้เด็กเล่นกับเพื่อนในกิจกรรมที่เขาสนใจร่วมกัน
  • F90F7I-7: ให้คำแนะนำผู้ปกครองในการฝึกทักษะทางสังคมต่อเนื่องที่บ้าน
  • F90F7I-8: ติดตามพฤติกรรมทางสังคมของเด็กและปรับแผนให้เหมาะกับพัฒนาการ
  • F90F7I-9: ส่งต่อจิตแพทย์เด็กหรือนักกิจกรรมบำบัดหากมีปัญหารุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อการฝึก

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F7R-1: เด็กสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในลักษณะที่เหมาะสม
  • F90F7R-2: เด็กแสดงพฤติกรรมรอฟัง ไม่พูดแทรกหรือขัดจังหวะ
  • F90F7R-3: เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นได้ดีขึ้นและตอบสนองอย่างเหมาะสม
  • F90F7R-4: มีเพื่อนร่วมกิจกรรมมากขึ้นและมีความสุขในการเข้าสังคม
  • F90F7R-5: ผู้ปกครองรายงานว่าพฤติกรรมเด็กดีขึ้นเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น

………………………………………………………………………

F90F8 เสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากยา (Risk for adverse effects of medication)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ปกครองหรือเด็กแจ้งว่าเบื่ออาหารหรือไม่อยากทานอาหาร
  • ผู้ปกครองหรือครูรายงานว่ามีการนอนหลับไม่เพียงพอ
  • เด็กแสดงพฤติกรรมหงุดหงิดหรืออารมณ์แปรปรวน

O:

  • น้ำหนักตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • รายงานการนอนไม่หลับ หรือการตื่นกลางดึก
  • อารมณ์ของเด็กไม่คงที่ หรือหงุดหงิดบ่อย

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ
  • มีการนอนหลับเพียงพอและตื่นขึ้นในตอนเช้าอย่างสดชื่น
  • ไม่มีพฤติกรรมหงุดหงิดหรืออารมณ์แปรปรวน

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • น้ำหนักตัวของเด็กไม่ลดลงหรือคงที่
  • เด็กสามารถนอนหลับครบ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
  • อารมณ์ของเด็กคงที่และมีพฤติกรรมที่เหมาะสมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ
  • ไม่มีการรายงานอาการที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงจากยา

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F8I-1: ประเมินอาการข้างเคียงจากยาอย่างสม่ำเสมอ เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หรืออารมณ์แปรปรวน
  • F90F8I-2: สังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวและการรับประทานอาหารของผู้ป่วย
  • F90F8I-3: ตรวจสอบการนอนหลับและอาการของผู้ป่วยในแต่ละคืน เช่น การตื่นกลางดึกหรือการนอนหลับไม่เต็มที่
  • F90F8I-4: ปรับเวลาการให้ยาหรือขนาดยา หากพบอาการข้างเคียงที่รบกวนการดำเนินชีวิต
  • F90F8I-5: แนะนำผู้ปกครองให้สังเกตพฤติกรรมของเด็กในช่วงเวลาที่ใช้ยา และรายงานให้ทีมพยาบาลทราบ
  • F90F8I-6: จัดให้มีการปรับเปลี่ยนอาหารหรือโภชนาการเพื่อช่วยลดอาการเบื่ออาหาร
  • F90F8I-7: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพักผ่อนที่เหมาะสมและวิธีการผ่อนคลายเพื่อส่งเสริมการนอนหลับ
  • F90F8I-8: ประสานงานกับแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมของการใช้ยาในระยะยาวและปรับยาให้เหมาะสม

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F8R-1: น้ำหนักตัวของผู้ป่วยคงที่หรือไม่ลดลง
  • F90F8R-2: ผู้ป่วยนอนหลับได้เต็มที่ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
  • F90F8R-3: ไม่มีอาการหงุดหงิดหรือพฤติกรรมที่แสดงถึงอารมณ์แปรปรวน
  • F90F8R-4: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ปกติและไม่มีอาการเบื่ออาหาร
  • F90F8R-5: ผู้ปกครองรายงานว่าอาการข้างเคียงจากยาเริ่มลดลงหรือหายไป

…………………………………………………………….

F90F9 ขาดการติดตามต่อเนื่องจากระบบบริการสุขภาพ (Ineffective health maintenance)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยหรือครอบครัวรายงานการขาดการติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
  • ผู้ป่วยมักลืมรับประทานยา หรือไม่สามารถรับประทานยาได้ตามเวลา
  • ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลไม่แน่ใจว่าเด็กต้องทำการนัดพบแพทย์หรือพบพยาบาลตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่

O:

  • ไม่มีการนัดหมายการรักษาต่อเนื่องหรือพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
  • มีการรับประทานยาไม่สม่ำเสมอหรือผิดเวลา
  • ขาดการติดตามผลจากการใช้ยา

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยและครอบครัวมีความเข้าใจในแผนการรักษาและการนัดติดตาม
  • ผู้ป่วยรับประทานยาได้ตามแผนการรักษาที่กำหนด
  • ผู้ป่วยได้รับการติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอจากทีมสุขภาพ

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยได้รับการนัดติดตามและรับการรักษาต่อเนื่องตามกำหนด
  • ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาได้อย่างสม่ำเสมอ
  • ครอบครัวมีความเข้าใจในการดูแลและรับรู้การติดตามผลการรักษา

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F9I-1: อธิบายให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจถึงความสำคัญของการติดตามการรักษาและการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ
  • F90F9I-2: สร้างการนัดติดตามที่ชัดเจนและจัดการให้ผู้ป่วยหรือครอบครัวมีการเตือนความจำสำหรับการนัดหมายและการรับประทานยา
  • F90F9I-3: แนะนำการตั้งเวลาเตือนการรับประทานยา เช่น ใช้แอพพลิเคชันหรือเครื่องเตือนเพื่อช่วยให้ไม่ลืม
  • F90F9I-4: ตรวจสอบกับผู้ป่วยหรือครอบครัวเกี่ยวกับการรับประทานยา และจัดการเรื่องการพบแพทย์หรือการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
  • F90F9I-5: สร้างระบบการติดตามผลที่เหมาะสม เช่น การโทรหรือส่งข้อความเพื่อตรวจสอบการนัดหมายและการปฏิบัติตามแผนการรักษา
  • F90F9I-6: แนะนำผู้ปกครองหรือผู้ดูแลให้สร้างกิจวัตรประจำวันที่ช่วยให้เด็กสามารถติดตามการรับประทานยาและการนัดติดตามได้ง่ายขึ้น
  • F90F9I-7: ประสานงานกับทีมสุขภาพเพื่อช่วยตรวจสอบและส่งเสริมการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง

✅ Response (การตอบสนอง)

F90F9R-1: ผู้ป่วยหรือครอบครัวสามารถเข้ารับการนัดหมายการรักษาและการติดตามผลตามที่กำหนด

  • F90F9R-2: ผู้ป่วยรับประทานยาได้ตามแผนการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
  • F90F9R-3: ผู้ป่วยหรือครอบครัวสามารถอธิบายแผนการรักษาและการติดตามการรักษาได้อย่างชัดเจน
  • F90F9R-4: ไม่มีการขาดการติดตามการรักษาหรือการรับประทานยาที่ไม่ตรงเวลา
  • F90F9R-5: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกับการรักษาและมีการปรับปรุงในด้านต่างๆ

…………………………………………………………………………

F90F10 ขาดความพร้อมในการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา (Readiness for enhanced social and academic integration)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วย/ครอบครัวรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
  • ผู้ป่วยมีปัญหาในการเข้าสังคมและการปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่
  • ผู้ปกครองแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของผู้ป่วยในการกลับไปโรงเรียนหรือทำงานร่วมกับผู้อื่น

O:

  • การมีปัญหาในการทำงานร่วมกับเพื่อนหรือครู
  • ไม่มีการเตรียมตัวหรือแผนการรองรับการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
  • ผู้ป่วย/ครอบครัวขาดข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งสนับสนุนในการปรับตัว

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีความพร้อมและมั่นใจในการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
  • ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจแผนการช่วยเหลือและการปรับตัว
  • ผู้ป่วยสามารถปรับตัวเข้าสู่สังคมและโรงเรียนได้อย่างราบรื่น
  • ผู้ป่วยมีทักษะในการจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ทางสังคมหรือการศึกษา

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถกลับไปสถานศึกษาและเข้าสังคมได้ตามแผนที่เตรียมไว้
  • ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมในสังคมและสถานศึกษา
  • ครอบครัวมีความมั่นใจในการสนับสนุนผู้ป่วยในสถานการณ์ทางสังคมและการศึกษา
  • ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจในการกลับเข้าสู่สถานศึกษาและสามารถจัดการกับความเครียดได้

🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F90F10I-1: พูดคุยกับผู้ป่วยและครอบครัวเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
  • F90F10I-2: จัดเตรียมและส่งเสริมการฝึกทักษะทางสังคมที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการปรับตัว
  • F90F10I-3: ประสานงานกับครูหรือผู้ดูแลในสถานศึกษาเพื่อให้ข้อมูลและแผนการรองรับการปรับตัว
  • F90F10I-4: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งสนับสนุนในการปรับตัว เช่น กลุ่มสนับสนุนผู้ป่วย ADHD หรือบริการจากนักจิตวิทยา
  • F90F10I-5: สอนผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์ในการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลในสถานการณ์ต่างๆ
  • F90F10I-6: ประเมินความพร้อมทางสังคมและการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแผนการช่วยเหลือให้เหมาะสม
  • F90F10I-7: สนับสนุนครอบครัวในการเสริมสร้างทักษะการสนับสนุนที่ดีในการช่วยผู้ป่วยปรับตัว

✅ Response (การตอบสนอง)

  • F90F10R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวมีความมั่นใจในการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
  • F90F10R-2: ผู้ป่วยสามารถปรับตัวในสถานศึกษาและมีพฤติกรรมที่เหมาะสมในสังคม
  • F90F10R-3: ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการจัดการกับความเครียดและการปรับตัวในสถานการณ์ใหม่ๆ
  • F90F10R-4: ครอบครัวมีความเข้าใจและสามารถสนับสนุนผู้ป่วยในการปรับตัวเข้าสู่สังคมและสถานศึกษา
  • F90F10R-5: ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตในสถานศึกษาได้ตามแผนที่เตรียมไว้โดยไม่มีปัญหาหรือภาวะวิตกกังวลมากเกินไป

……………………………………………………………..

เอกสารอ้างอิง

  • กรมสุขภาพจิต. (2559). โรคสมาธิสั้น (Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder - ADHD). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์กรมสุขภาพจิต.
  • สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. (2562). แนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น (ADHD). กรุงเทพมหานคร: สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย.
  • American Psychiatric Association. (2013). Diagnostic and statistical manual of mental disorders (5th ed.). Arlington, VA: American Psychiatric Publishing.
  • Barkley, R. A. (2014). Attention-deficit hyperactivity disorder: A handbook for diagnosis and treatment (4th ed.). New York: The Guilford Press.

………………………………………………………………