Psych. Topic 17 : Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder - ADHD -F90
🎯 โรคสมาธิสั้น (ADHD - F90)
เด็กไม่อยู่กับที่ ผู้ใหญ่ใจร้อน วอกแวกง่าย...อาจไม่ใช่แค่
"นิสัย" แต่อาจเป็น "โรคสมาธิสั้น"
🧠พยาธิสภาพ / สาเหตุ
สมองส่วนที่ควบคุมสมาธิ การวางแผน
และการยับยั้งพฤติกรรมทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะสารสื่อประสาทอย่าง
"โดปามีน" และ "นอร์อิพิเนฟริน" น้อยเกินไป
⚠️ปัจจัยที่ทำให้เกิด
- กรรมพันธุ์ (พ่อแม่พี่น้องมีแนวโน้มเป็น)
- น้ำหนักแรกเกิดต่ำ
- การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ของแม่ขณะตั้งครรภ์
- สภาพแวดล้อมกระตุ้นสูง ขาดระเบียบ
💊การรักษา
- ยากลุ่มกระตุ้นระบบประสาท เช่น methylphenidate
- การบำบัดพฤติกรรม (Behavioral Therapy)
- การปรับสิ่งแวดล้อม เช่น ลดสิ่งรบกวน จัดตารางชีวิต
🩺การพยาบาล
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ให้เด็กหรือผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย
- ช่วยจัดตารางกิจวัตรประจำวันอย่างมีระเบียบ
- สังเกตพฤติกรรมและผลข้างเคียงของยา
- สอนพ่อแม่และผู้ดูแลให้เข้าใจโรคและวิธีรับมือ
👨👩👧👦การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป
- อย่าดุว่า “ดื้อ” แต่ควรใช้คำสั่งชัดเจน สั้นๆ เข้าใจง่าย
- สร้างกิจวัตรที่คงที่ เช่น เวลานอน กิน เล่น
- ลดสิ่งรบกวนรอบตัวขณะทำกิจกรรม เช่น ปิดทีวี/มือถือ
- ชมเชยเมื่อมีพฤติกรรมที่ดี เพื่อเสริมแรงบวก
…………………………………………………………..
🩺 วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น (F90)
- F90F1 มีพฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Risk for self-harm or harm to others) เกิดจากการขาดการควบคุมตนเอง กระทำโดยไม่คิดไตร่ตรอง
- F90F2 มีสมาธิสั้น ไม่สามารถจดจ่อกับกิจกรรมได้นาน (Impaired attention and concentration) ทำให้การเรียนรู้และใช้ชีวิตประจำวันมีปัญหา
- F90F3 มีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น ควบคุมตนเองไม่ได้ (Impulsivity and poor self-control) อาจแสดงพฤติกรรมรุนแรง พูดแทรก วิ่งซุกซนเกินวัย
- F90F4 มีความเครียดหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถตนเอง (Anxiety related to self-performance) รู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าเพื่อน ถูกตำหนิบ่อย ทำให้ขาดความมั่นใจ
- F90F5 นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ (Sleep pattern disturbance) เนื่องจากความวอกแวก กระสับกระส่าย ส่งผลต่อการเรียนและพฤติกรรมในวันถัดไป
- F90F6 ครอบครัวมีความเครียด ขาดทักษะในการดูแล (Family stress and ineffective coping)ผู้ปกครองไม่เข้าใจโรค มีปัญหาในการตั้งกฎเกณฑ์และการให้รางวัล/ลงโทษ
- F90F7 ขาดทักษะการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Impaired social interaction) มีปัญหากับเพื่อน พูดไม่รู้กาลเทศะ ไม่เข้าใจอารมณ์คนอื่น
- F90F8 เสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากยา (Risk for adverse effects of medication) เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หงุดหงิด ต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง
- F90F9 ขาดการติดตามต่อเนื่องจากระบบบริการสุขภาพ (Ineffective health maintenance) ผู้ป่วย/ครอบครัวขาดความเข้าใจในการนัดติดตาม รับประทานยาไม่สม่ำเสมอ
- F90F10 ขาดความพร้อมในการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา (Readiness for enhanced social and academic integration) ต้องได้รับการวางแผนช่วยเหลืออย่างเป็นระบบก่อนจำหน่ายหรือกลับสู่สังคม
………………………………………………………………………..
🩺 F90F1 มีพฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
(Risk for self-harm or harm to others)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยมักแสดงพฤติกรรมรุนแรงเมื่อโกรธ
- ผู้ป่วยพูดว่า “ไม่อยากอยู่แล้ว” หรือ “อยากทำลายของ”
O:
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมขว้างของ ตะโกนเสียงดัง
- มีรอยขีดข่วนตามแขน
- มีประวัติพฤติกรรมเสี่ยง เช่น วิ่งออกจากห้องเรียน
- ไม่สามารถหยุดพฤติกรรมตนเองเมื่อถูกรบกวน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยปลอดภัยจากการทำร้ายตนเองและผู้อื่น
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมตนเองได้ดีขึ้น
- ครอบครัวมีทักษะในการจัดการพฤติกรรมเสี่ยง
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)
- ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือทำร้ายตนเอง/ผู้อื่นในระยะเวลาที่กำหนด
- ผู้ป่วยแสดงทักษะในการควบคุมตนเองได้ในสถานการณ์ที่เครียด
- ครอบครัวสามารถใช้เทคนิคควบคุมพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F1I-1: ประเมินพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นทุกวัน และเมื่อเกิดสถานการณ์กระตุ้น
- F90F1I-2: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคมและสิ่งที่อาจใช้ทำร้ายตนเอง
- F90F1I-3: อยู่ใกล้ชิดเพื่อสังเกตพฤติกรรมในช่วงที่ผู้ป่วยมีอารมณ์แปรปรวน
- F90F1I-4: ใช้เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อตรวจพบพฤติกรรมเสี่ยง
- F90F1I-5: ฝึกทักษะควบคุมอารมณ์ร่วมกับนักจิตวิทยา เช่น การหายใจลึกๆ หรือนับเลข
- F90F1I-6: ให้คำแนะนำแก่ครอบครัวเกี่ยวกับวิธีตอบสนองต่อพฤติกรรมเสี่ยงอย่างใจเย็นและไม่ใช้ความรุนแรง
- F90F1I-7: บันทึกความถี่ ลักษณะ และสถานการณ์กระตุ้นของพฤติกรรม เพื่อใช้วางแผนการดูแลต่อเนื่อง
- F90F1I-8: ประสานทีมสหวิชาชีพ เช่น จิตแพทย์ ครู หรือนักบำบัด เพื่อดูแลแบบองค์รวม
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F1R-1: ผู้ป่วยไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือทำร้ายตนเองในระยะ 3 วัน
- F90F1R-2: ผู้ป่วยสามารถแจ้งอารมณ์ตนเองได้ เช่น “ตอนนี้รู้สึกโกรธ”
- F90F1R-3: ครอบครัวสามารถดูแลผู้ป่วยในบ้านได้อย่างมั่นใจและไม่เกิดความรุนแรง
- F90F1R-4: ผู้ป่วยเริ่มใช้เทคนิคควบคุมอารมณ์ได้ เช่น การนับเลขเมื่อโกรธ
- F90F1R-5: ทีมดูแลร่วมมีแผนการดูแลต่อเนื่องก่อนจำหน่าย
……………………………………………………………………….
F90F2 มีสมาธิสั้น
ไม่สามารถจดจ่อกับกิจกรรมได้นาน (Impaired attention and concentration)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “เบื่อเร็ว” หรือ “ทำอะไรไม่นานก็ล้า”
- ครอบครัวแจ้งว่าผู้ป่วยไม่สามารถนั่งเรียนหรือนั่งทำกิจกรรมได้นาน
O:
- ผู้ป่วยเปลี่ยนกิจกรรมบ่อยในเวลาอันสั้น
- มีพฤติกรรมวอกแวกง่าย หันไปมองหรือเล่นสิ่งรอบตัว
- ผลการเรียนหรือการทำงานต่ำกว่าศักยภาพ
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถจดจ่อกับกิจกรรมได้อย่างน้อย 10–15 นาทีต่อครั้ง
- ลดพฤติกรรมวอกแวกขณะทำกิจกรรม
- ครอบครัวมีความรู้ในการส่งเสริมสมาธิให้ผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)
- ผู้ป่วยสามารถอยู่กับกิจกรรมได้ตามเวลาที่กำหนด
- ผู้ป่วยมีสมาธิเพิ่มขึ้นในการทำกิจกรรมประจำวัน
- ครอบครัวมีส่วนร่วมในการฝึกสมาธิให้ผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F2I-1: ประเมินระดับสมาธิของผู้ป่วยในแต่ละวัน โดยใช้กิจกรรมที่ชัดเจน เช่น การต่อบล็อก วาดภาพ
- F90F2I-2: จัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงอายุ และแบ่งกิจกรรมเป็นช่วงสั้นๆ เพื่อให้ผู้ป่วยทำสำเร็จ
- F90F2I-3: ใช้การเสริมแรงเชิงบวก เช่น คำชม หรือรางวัลเล็กๆ เมื่อผู้ป่วยสามารถจดจ่อกับกิจกรรมได้
- F90F2I-4: จัดสิ่งแวดล้อมให้มีสิ่งรบกวนน้อย เช่น ห้องเรียนหรือพื้นที่เล่นที่เงียบ
- F90F2I-5: ฝึกกิจกรรมที่เสริมสมาธิ เช่น วาดรูประบายสี เล่นเกมฝึกความจำ หรือฝึกโยคะเบื้องต้น
- F90F2I-6: สอนเทคนิค “ตั้งเวลา” ให้ผู้ป่วยรู้จักจับเวลาในการทำกิจกรรมทีละช่วง
- F90F2I-7: ให้คำแนะนำผู้ปกครองในการกำหนดกิจวัตรประจำวันที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ
- F90F2I-8: ประสานงานกับครูหรือผู้ดูแลในโรงเรียน เพื่อร่วมกันออกแบบการเรียนรู้ให้เหมาะกับผู้ป่วย
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F2R-1: ผู้ป่วยสามารถอยู่กับกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง ≥ 15 นาทีต่อครั้ง
- F90F2R-2: ผู้ป่วยมีพฤติกรรมวอกแวกขณะทำกิจกรรมน้อยลงอย่างชัดเจน
- F90F2R-3: ครอบครัวรายงานว่าสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีสมาธิได้นานขึ้น
- F90F2R-4: ครูหรือผู้ดูแลแจ้งว่าผู้ป่วยสามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้นในห้องเรียน
- F90F2R-5: ผู้ป่วยรู้สึกภูมิใจและอยากทำกิจกรรมให้สำเร็จในแต่ละวัน
…………………………………………………………………..
F90F3 มีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น
ควบคุมตนเองไม่ได้ (Impulsivity and poor self-control)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “อดไม่ไหว” หรือ “ต้องทำทันที”
- ผู้ปกครองแจ้งว่าผู้ป่วยมักตอบแทรก หรือขัดจังหวะบทสนทนา
O:
- ผู้ป่วยพูดแทรกบ่อย ขณะผู้อื่นยังพูดไม่จบ
- มีพฤติกรรมวิ่ง ซุกซน ไม่อยู่กับที่
- แสดงอารมณ์รุนแรงหากถูกขัดใจ เช่น โยนของ ตะโกนเสียงดัง
- ขัดจังหวะกิจกรรมของผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถรอคอยและทำตามลำดับขั้นตอน
- ครอบครัวสามารถจัดการพฤติกรรมของผู้ป่วยด้วยวิธีที่เหมาะสม
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมรอคอยและไม่พูดแทรกลดลง
- ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการควบคุมตนเองได้มากขึ้น
- ครอบครัวรายงานว่าการจัดการพฤติกรรมของผู้ป่วยง่ายขึ้น
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F3I-1: ประเมินความถี่และสถานการณ์ที่ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น
- F90F3I-2: ใช้การตั้งกติกาชัดเจน เช่น “พูดเมื่อถึงตา” หรือ “ยกมือก่อนพูด”
- F90F3I-3: ฝึกเทคนิค "หยุด คิด ทำ" โดยสอนให้ผู้ป่วยหยุดและคิดก่อนลงมือทำ
- F90F3I-4: ใช้ระบบรางวัลทันที เมื่อผู้ป่วยควบคุมตนเองได้ เช่น การ์ดสะสมดาว
- F90F3I-5: จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผู้ป่วยกระวนกระวาย
- F90F3I-6: ใช้กิจกรรมระบายพลังงานอย่างเหมาะสม เช่น เต้น วิ่ง เล่นเกมสร้างสรรค์
- F90F3I-7: ประเมินการตอบสนองร่วมกับครอบครัวทุกสัปดาห์ และปรับแผนดูแลตามผล
- F90F3I-8: ให้คำปรึกษาครอบครัวเกี่ยวกับการตอบสนองเชิงบวกและการตั้งขอบเขตที่เหมาะสม
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F3R-1: ผู้ป่วยสามารถรอคอยโดยไม่พูดแทรก ≥ 3 ครั้ง/วัน
- F90F3R-2: ผู้ป่วยมีพฤติกรรมควบคุมตนเองในสถานการณ์กระตุ้นได้ดีขึ้น
- F90F3R-3: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมตามขั้นตอนได้โดยไม่ขัดจังหวะ
- F90F3R-4: ครอบครัวสามารถใช้วิธีจัดการพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม
- F90F3R-5: ผู้ป่วยมีความภาคภูมิใจในตนเองเมื่อควบคุมพฤติกรรมได้
…………………………………………………………………………………
F90F4 มีความเครียดหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถตนเอง
(Anxiety related to self-performance)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “หนูทำไม่ได้” / “หนูไม่เก่ง”
- แสดงความกังวลเมื่อถูกให้ทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ
- บ่นว่าถูกตำหนิหรือเปรียบเทียบกับเพื่อนบ่อยครั้ง
O:
- สีหน้าเคร่งเครียด เลี่ยงการสบตา
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมใหม่ๆ หรือกิจกรรมที่เคยล้มเหลว
- เก็บตัว ไม่กล้าพูดในกลุ่ม
- มีพฤติกรรมวิตก เช่น เคาะโต๊ะ กัดเล็บ เดินวน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถแสดงออกถึงความเชื่อมั่นในตนเองได้มากขึ้น
- ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดหรือความกังวลได้
- ครอบครัวสนับสนุนและหลีกเลี่ยงการตำหนิผู้ป่วย
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยกล้าทำกิจกรรมโดยไม่หลีกเลี่ยง
- ผู้ป่วยพูดถึงจุดแข็งของตนเองได้
- ผู้ป่วยแสดงความพึงพอใจในสิ่งที่ตนทำได้
- ครอบครัวมีพฤติกรรมสนับสนุนทางบวกมากขึ้น
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F4I-1: ประเมินระดับความกังวลของผู้ป่วยในแต่ละสถานการณ์
- F90F4I-2: รับฟังและสะท้อนความรู้สึกโดยไม่ตัดสิน เพื่อเสริมความเข้าใจตนเอง
- F90F4I-3: กระตุ้นให้ผู้ป่วยระบุจุดแข็งและความสามารถของตน
- F90F4I-4: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก นับเลข หรือกำมือ-คลายมือ
- F90F4I-5: วางเป้าหมายรายวันให้สำเร็จได้ง่าย เพื่อสร้างความมั่นใจแบบค่อยเป็นค่อยไป
- F90F4I-6: ใช้การเสริมแรงทางบวก เช่น คำชม การให้รางวัลเล็กๆ เมื่อผู้ป่วยกล้าทำสิ่งใหม่
- F90F4I-7: ให้คำแนะนำกับผู้ปกครองในการพูดจาให้กำลังใจ แทนการตำหนิ
- F90F4I-8: ประสานทีมจิตวิทยา/จิตแพทย์เด็กหากมีอาการวิตกกังวลต่อเนื่อง
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F4R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมที่หลีกเลี่ยงมาก่อนได้โดยไม่เครียด
- F90F4R-2: ผู้ป่วยแสดงออกถึงความมั่นใจในตนเองมากขึ้น เช่น กล้าพูด/กล้าแสดงออก
- F90F4R-3: ผู้ป่วยสามารถระบุจุดแข็งของตนเองได้ ≥ 2 อย่าง
- F90F4R-4: ผู้ป่วยใช้เทคนิคผ่อนคลายเมื่อรู้สึกเครียดได้อย่างเหมาะสม
- F90F4R-5: ครอบครัวให้การสนับสนุนทางอารมณ์โดยไม่ตำหนิผู้ป่วย
………………………………………………………….
F90F5 นอนไม่หลับ
พักผ่อนไม่เพียงพอ (Sleep pattern disturbance)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “หนูนอนไม่หลับ” / “ยังไม่ง่วง”
- ผู้ปกครองรายงานว่าเด็กเข้านอนดึก นอนหลับยาก หรือตื่นกลางดึกบ่อย
- บ่นว่าเหนื่อย เพลียในช่วงกลางวัน
O:
- กระสับกระส่ายขณะเข้านอน
- แสดงพฤติกรรมหงุดหงิด ไม่มีสมาธิในช่วงกลางวัน
- รอยคล้ำใต้ตา หรือหลับในขณะทำกิจกรรม
- มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนเป็นเวลานาน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยนอนได้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการนอนที่เหมาะสม
- ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการนอน
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยเข้านอนตรงเวลาและหลับได้ภายใน 30 นาที
- ผู้ป่วยไม่มีอาการง่วงมากหรือหลับในระหว่างวัน
- จำนวนชั่วโมงการนอนเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมสงบและมีสมาธิในช่วงกลางวัน
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F5I-1: ประเมินรูปแบบการนอน การนอนหลับ และกิจกรรมก่อนนอนของผู้ป่วย
- F90F5I-2: ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับความสำคัญของการนอน
- F90F5I-3: แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้จอ (มือถือ/แท็บเล็ต/TV) อย่างน้อย 1 ชม.ก่อนนอน
- F90F5I-4: ช่วยจัดกิจวัตรก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านนิทาน ฟังเพลงเบาๆ
- F90F5I-5: ปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม เช่น ไฟสลัว ห้องเงียบ อุณหภูมิสบาย
- F90F5I-6: กระตุ้นให้เข้านอนและตื่นนอนตรงเวลาทุกวัน แม้ในวันหยุด
- F90F5I-7: หากมีอาการกระสับกระส่ายรุนแรง ร่วมประเมินโดยจิตแพทย์เด็ก
- F90F5I-8: ติดตามผลการนอนเป็นประจำโดยใช้สมุดบันทึกการนอนร่วมกับผู้ปกครอง
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F5R-1: ผู้ป่วยหลับได้ภายใน 30 นาทีหลังเข้านอน
- F90F5R-2: จำนวนชั่วโมงการนอน ≥ 8 ชม.ต่อคืน อย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์
- F90F5R-3: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมง่วงหรือหลับในช่วงกลางวัน
- F90F5R-4: ผู้ปกครองรายงานว่าผู้ป่วยมีพฤติกรรมก่อนนอนเป็นระบบมากขึ้น
- F90F5R-5: ผู้ป่วยแสดงอารมณ์และสมาธิในระหว่างวันดีขึ้น
………………………………………………………………..
F90F6 ครอบครัวมีความเครียด
ขาดทักษะในการดูแล (Family stress and ineffective coping)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ปกครองบ่นว่า “เหนื่อยมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับลูก”
- รู้สึกผิดหรือสงสัยว่าการเลี้ยงดูเป็นสาเหตุของปัญหา
- ไม่มีแนวทางจัดการเมื่อลูกมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
O:
- ความสัมพันธ์ในบ้านตึงเครียด
- ผู้ปกครองพูดเสียงดัง ข่มขู่ หรือลงโทษโดยไม่สม่ำเสมอ
- ขาดการชมเชยหรือเสริมแรงเมื่อเด็กมีพฤติกรรมดี
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ครอบครัวเข้าใจธรรมชาติของโรค ADHD
- ผู้ปกครองมีทักษะในการดูแล ส่งเสริมพฤติกรรมบวกของเด็ก
- ความเครียดของครอบครัวลดลง และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ปกครองสามารถอธิบายโรค ADHD ได้ถูกต้อง
- ผู้ปกครองสามารถใช้วิธีเสริมแรงทางบวกได้อย่างเหมาะสม
- ครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์ที่สงบ ลดการใช้คำพูดรุนแรง
- เด็กมีพฤติกรรมร่วมมือมากขึ้นเมื่ออยู่บ้าน
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F6I-1: ประเมินระดับความรู้ ความเข้าใจของครอบครัวเกี่ยวกับโรค ADHD
- F90F6I-2: จัดกิจกรรมให้ความรู้โรค ADHD แบบเข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างพฤติกรรม
- F90F6I-3: แนะนำเทคนิคการเลี้ยงดูเชิงบวก เช่น การตั้งกติกา การใช้ระบบรางวัล
- F90F6I-4: ฝึกทักษะการจัดการอารมณ์สำหรับผู้ปกครอง เช่น หายใจลึก นับ 1–10
- F90F6I-5: ส่งเสริมการชมเชยเมื่อเด็กทำสิ่งที่ดี เช่น “แม่ภูมิใจที่ลูกตั้งใจฟัง”
- F90F6I-6: ให้คำแนะนำในการลงโทษที่เหมาะสม เช่น การตัดสิทธิ์ชั่วคราว
- F90F6I-7: จัดกลุ่มให้คำปรึกษาสำหรับผู้ปกครองที่มีลูกเป็น ADHD
- F90F6I-8: ส่งต่อทีมสหวิชาชีพหากพบความเครียดสูง หรือความรุนแรงในครอบครัว
- F90F6I-9: ติดตามพฤติกรรมครอบครัวโดยสม่ำเสมอ และปรับแผนดูแลตามบริบท
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F6R-1: ผู้ปกครองสามารถอธิบายธรรมชาติของโรค ADHD ได้
- F90F6R-2: ผู้ปกครองมีการเสริมแรงทางบวกกับเด็กมากขึ้น
- F90F6R-3: เด็กมีพฤติกรรมตอบสนองดีขึ้นต่อกติกาในบ้าน
- F90F6R-4: ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น มีบรรยากาศอบอุ่น
- F90F6R-5: ระดับความเครียดของผู้ปกครองลดลง สังเกตได้จากพฤติกรรมและการพูดคุย
………………………………………………………………………
F90F7 ขาดทักษะการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
(Impaired social interaction)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- เด็กบ่นว่า “ไม่มีเพื่อนเล่น” หรือ “เพื่อนไม่คุยด้วย”
- ผู้ปกครองรายงานว่าเด็กมักมีปัญหาเวลาเข้าสังคม พูดโพล่งโดยไม่ดูสถานการณ์
- ครูสังเกตว่าเด็กชอบขัดจังหวะหรือแสดงกิริยาไม่เหมาะสมในการเล่นกับเพื่อน
O:
- เด็กเล่นคนเดียว หรือมีปฏิสัมพันธ์แบบรบกวนเพื่อน
- แสดงพฤติกรรมไม่เข้าใจอารมณ์ เช่น หัวเราะเวลาคนอื่นร้องไห้
- พูดแทรก พูดเสียงดังโดยไม่เหมาะสม
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- เด็กสามารถเข้าสังคมได้ดีขึ้น สื่อสารเหมาะสมกับสถานการณ์
- เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และลดพฤติกรรมรบกวนผู้อื่น
- มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับเพื่อน
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- เด็กสามารถรอคิว เล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้
- ลดการพูดแทรกหรือขัดจังหวะ
- เข้าใจอารมณ์พื้นฐานของผู้อื่น เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ
- มีเพื่อนหรือผู้ร่วมกิจกรรมที่ยินดีเล่นด้วย
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F7I-1: ประเมินทักษะการเข้าสังคมของเด็กในแต่ละสถานการณ์
- F90F7I-2: สอนเด็กให้รู้จักแยกแยะอารมณ์ของผู้อื่นผ่านภาพ การเล่าเรื่อง หรือบทบาทสมมติ
- F90F7I-3: ฝึกการสนทนาอย่างเหมาะสม เช่น การรอฟัง พูดทีละคน
- F90F7I-4: ใช้เกมหรือกิจกรรมกลุ่มเล็กเพื่อฝึกการเล่นร่วมกันอย่างมีมารยาท
- F90F7I-5: ชมเชยหรือให้รางวัลเมื่อเด็กมีพฤติกรรมสังคมที่เหมาะสม เช่น "หนูรอคิวได้ดีมาก"
- F90F7I-6: กระตุ้นให้เด็กเล่นกับเพื่อนในกิจกรรมที่เขาสนใจร่วมกัน
- F90F7I-7: ให้คำแนะนำผู้ปกครองในการฝึกทักษะทางสังคมต่อเนื่องที่บ้าน
- F90F7I-8: ติดตามพฤติกรรมทางสังคมของเด็กและปรับแผนให้เหมาะกับพัฒนาการ
- F90F7I-9: ส่งต่อจิตแพทย์เด็กหรือนักกิจกรรมบำบัดหากมีปัญหารุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อการฝึก
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F7R-1: เด็กสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในลักษณะที่เหมาะสม
- F90F7R-2: เด็กแสดงพฤติกรรมรอฟัง ไม่พูดแทรกหรือขัดจังหวะ
- F90F7R-3: เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นได้ดีขึ้นและตอบสนองอย่างเหมาะสม
- F90F7R-4: มีเพื่อนร่วมกิจกรรมมากขึ้นและมีความสุขในการเข้าสังคม
- F90F7R-5: ผู้ปกครองรายงานว่าพฤติกรรมเด็กดีขึ้นเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
………………………………………………………………………
F90F8 เสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากยา
(Risk for adverse effects of medication)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ปกครองหรือเด็กแจ้งว่าเบื่ออาหารหรือไม่อยากทานอาหาร
- ผู้ปกครองหรือครูรายงานว่ามีการนอนหลับไม่เพียงพอ
- เด็กแสดงพฤติกรรมหงุดหงิดหรืออารมณ์แปรปรวน
O:
- น้ำหนักตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- รายงานการนอนไม่หลับ หรือการตื่นกลางดึก
- อารมณ์ของเด็กไม่คงที่ หรือหงุดหงิดบ่อย
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ
- มีการนอนหลับเพียงพอและตื่นขึ้นในตอนเช้าอย่างสดชื่น
- ไม่มีพฤติกรรมหงุดหงิดหรืออารมณ์แปรปรวน
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- น้ำหนักตัวของเด็กไม่ลดลงหรือคงที่
- เด็กสามารถนอนหลับครบ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- อารมณ์ของเด็กคงที่และมีพฤติกรรมที่เหมาะสมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ
- ไม่มีการรายงานอาการที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงจากยา
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F8I-1: ประเมินอาการข้างเคียงจากยาอย่างสม่ำเสมอ เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หรืออารมณ์แปรปรวน
- F90F8I-2: สังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวและการรับประทานอาหารของผู้ป่วย
- F90F8I-3: ตรวจสอบการนอนหลับและอาการของผู้ป่วยในแต่ละคืน เช่น การตื่นกลางดึกหรือการนอนหลับไม่เต็มที่
- F90F8I-4: ปรับเวลาการให้ยาหรือขนาดยา หากพบอาการข้างเคียงที่รบกวนการดำเนินชีวิต
- F90F8I-5: แนะนำผู้ปกครองให้สังเกตพฤติกรรมของเด็กในช่วงเวลาที่ใช้ยา และรายงานให้ทีมพยาบาลทราบ
- F90F8I-6: จัดให้มีการปรับเปลี่ยนอาหารหรือโภชนาการเพื่อช่วยลดอาการเบื่ออาหาร
- F90F8I-7: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพักผ่อนที่เหมาะสมและวิธีการผ่อนคลายเพื่อส่งเสริมการนอนหลับ
- F90F8I-8: ประสานงานกับแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมของการใช้ยาในระยะยาวและปรับยาให้เหมาะสม
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F8R-1: น้ำหนักตัวของผู้ป่วยคงที่หรือไม่ลดลง
- F90F8R-2: ผู้ป่วยนอนหลับได้เต็มที่ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- F90F8R-3: ไม่มีอาการหงุดหงิดหรือพฤติกรรมที่แสดงถึงอารมณ์แปรปรวน
- F90F8R-4: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ปกติและไม่มีอาการเบื่ออาหาร
- F90F8R-5: ผู้ปกครองรายงานว่าอาการข้างเคียงจากยาเริ่มลดลงหรือหายไป
…………………………………………………………….
F90F9 ขาดการติดตามต่อเนื่องจากระบบบริการสุขภาพ
(Ineffective health maintenance)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยหรือครอบครัวรายงานการขาดการติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ป่วยมักลืมรับประทานยา หรือไม่สามารถรับประทานยาได้ตามเวลา
- ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลไม่แน่ใจว่าเด็กต้องทำการนัดพบแพทย์หรือพบพยาบาลตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่
O:
- ไม่มีการนัดหมายการรักษาต่อเนื่องหรือพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- มีการรับประทานยาไม่สม่ำเสมอหรือผิดเวลา
- ขาดการติดตามผลจากการใช้ยา
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยและครอบครัวมีความเข้าใจในแผนการรักษาและการนัดติดตาม
- ผู้ป่วยรับประทานยาได้ตามแผนการรักษาที่กำหนด
- ผู้ป่วยได้รับการติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอจากทีมสุขภาพ
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยได้รับการนัดติดตามและรับการรักษาต่อเนื่องตามกำหนด
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาได้อย่างสม่ำเสมอ
- ครอบครัวมีความเข้าใจในการดูแลและรับรู้การติดตามผลการรักษา
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F9I-1: อธิบายให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจถึงความสำคัญของการติดตามการรักษาและการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ
- F90F9I-2: สร้างการนัดติดตามที่ชัดเจนและจัดการให้ผู้ป่วยหรือครอบครัวมีการเตือนความจำสำหรับการนัดหมายและการรับประทานยา
- F90F9I-3: แนะนำการตั้งเวลาเตือนการรับประทานยา เช่น ใช้แอพพลิเคชันหรือเครื่องเตือนเพื่อช่วยให้ไม่ลืม
- F90F9I-4: ตรวจสอบกับผู้ป่วยหรือครอบครัวเกี่ยวกับการรับประทานยา และจัดการเรื่องการพบแพทย์หรือการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- F90F9I-5: สร้างระบบการติดตามผลที่เหมาะสม เช่น การโทรหรือส่งข้อความเพื่อตรวจสอบการนัดหมายและการปฏิบัติตามแผนการรักษา
- F90F9I-6: แนะนำผู้ปกครองหรือผู้ดูแลให้สร้างกิจวัตรประจำวันที่ช่วยให้เด็กสามารถติดตามการรับประทานยาและการนัดติดตามได้ง่ายขึ้น
- F90F9I-7: ประสานงานกับทีมสุขภาพเพื่อช่วยตรวจสอบและส่งเสริมการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
✅ Response (การตอบสนอง)
F90F9R-1: ผู้ป่วยหรือครอบครัวสามารถเข้ารับการนัดหมายการรักษาและการติดตามผลตามที่กำหนด
- F90F9R-2: ผู้ป่วยรับประทานยาได้ตามแผนการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- F90F9R-3: ผู้ป่วยหรือครอบครัวสามารถอธิบายแผนการรักษาและการติดตามการรักษาได้อย่างชัดเจน
- F90F9R-4: ไม่มีการขาดการติดตามการรักษาหรือการรับประทานยาที่ไม่ตรงเวลา
- F90F9R-5: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกับการรักษาและมีการปรับปรุงในด้านต่างๆ
…………………………………………………………………………
F90F10 ขาดความพร้อมในการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
(Readiness for enhanced social and academic integration)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วย/ครอบครัวรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
- ผู้ป่วยมีปัญหาในการเข้าสังคมและการปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่
- ผู้ปกครองแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของผู้ป่วยในการกลับไปโรงเรียนหรือทำงานร่วมกับผู้อื่น
O:
- การมีปัญหาในการทำงานร่วมกับเพื่อนหรือครู
- ไม่มีการเตรียมตัวหรือแผนการรองรับการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
- ผู้ป่วย/ครอบครัวขาดข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งสนับสนุนในการปรับตัว
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีความพร้อมและมั่นใจในการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
- ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจแผนการช่วยเหลือและการปรับตัว
- ผู้ป่วยสามารถปรับตัวเข้าสู่สังคมและโรงเรียนได้อย่างราบรื่น
- ผู้ป่วยมีทักษะในการจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ทางสังคมหรือการศึกษา
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถกลับไปสถานศึกษาและเข้าสังคมได้ตามแผนที่เตรียมไว้
- ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมในสังคมและสถานศึกษา
- ครอบครัวมีความมั่นใจในการสนับสนุนผู้ป่วยในสถานการณ์ทางสังคมและการศึกษา
- ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจในการกลับเข้าสู่สถานศึกษาและสามารถจัดการกับความเครียดได้
🛠️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F90F10I-1: พูดคุยกับผู้ป่วยและครอบครัวเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
- F90F10I-2: จัดเตรียมและส่งเสริมการฝึกทักษะทางสังคมที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการปรับตัว
- F90F10I-3: ประสานงานกับครูหรือผู้ดูแลในสถานศึกษาเพื่อให้ข้อมูลและแผนการรองรับการปรับตัว
- F90F10I-4: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งสนับสนุนในการปรับตัว เช่น กลุ่มสนับสนุนผู้ป่วย ADHD หรือบริการจากนักจิตวิทยา
- F90F10I-5: สอนผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์ในการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลในสถานการณ์ต่างๆ
- F90F10I-6: ประเมินความพร้อมทางสังคมและการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแผนการช่วยเหลือให้เหมาะสม
- F90F10I-7: สนับสนุนครอบครัวในการเสริมสร้างทักษะการสนับสนุนที่ดีในการช่วยผู้ป่วยปรับตัว
✅ Response (การตอบสนอง)
- F90F10R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวมีความมั่นใจในการกลับเข้าสู่สังคมหรือสถานศึกษา
- F90F10R-2: ผู้ป่วยสามารถปรับตัวในสถานศึกษาและมีพฤติกรรมที่เหมาะสมในสังคม
- F90F10R-3: ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการจัดการกับความเครียดและการปรับตัวในสถานการณ์ใหม่ๆ
- F90F10R-4: ครอบครัวมีความเข้าใจและสามารถสนับสนุนผู้ป่วยในการปรับตัวเข้าสู่สังคมและสถานศึกษา
- F90F10R-5: ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตในสถานศึกษาได้ตามแผนที่เตรียมไว้โดยไม่มีปัญหาหรือภาวะวิตกกังวลมากเกินไป
……………………………………………………………..
เอกสารอ้างอิง
- กรมสุขภาพจิต. (2559). โรคสมาธิสั้น (Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder - ADHD). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์กรมสุขภาพจิต.
- สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. (2562). แนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น (ADHD). กรุงเทพมหานคร: สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย.
- American Psychiatric Association. (2013). Diagnostic and statistical manual of mental disorders (5th ed.). Arlington, VA: American Psychiatric Publishing.
- Barkley, R. A. (2014). Attention-deficit hyperactivity disorder: A handbook for diagnosis and treatment (4th ed.). New York: The Guilford Press.
………………………………………………………………