Psych.
Topic 15 : Insomnia, Sleep Apnea, etc. - F51
🧠พยาธิสภาพ / สาเหตุ
ร่างกายและสมองไม่สามารถควบคุมวงจรการนอนได้ตามปกติ
อาจเกิดจากความเครียด ซึมเศร้า ใช้จอมือถือก่อนนอน หรือพฤติกรรมการนอนที่ผิดเวลา
⚠️ปัจจัยที่ทำให้เกิด
- ความเครียดสะสม
- ใช้สารกระตุ้น (กาแฟ บุหรี่ แอลกอฮอล์)
- ทำงานเป็นกะ
- เล่นมือถือก่อนนอน
- สภาพแวดล้อมที่รบกวน เช่น เสียงดัง ห้องสว่างเกินไป
💊การรักษา
- ปรับพฤติกรรมการนอน (Sleep Hygiene)
- หลีกเลี่ยงสารกระตุ้นก่อนนอน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หากอาการรุนแรง ควรพบจิตแพทย์ อาจพิจารณาใช้ยาช่วยนอนหลับ
🩺การพยาบาล
- ประเมินรูปแบบการนอนของผู้ป่วย
- ให้คำแนะนำเรื่องการจัดสิ่งแวดล้อมก่อนนอน
- ส่งเสริมกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลงเบาๆ
- ติดตามผลการรักษาร่วมกับทีมสุขภาพจิต
🏠การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป
- เข้านอน-ตื่นนอนให้เป็นเวลา
- หลีกเลี่ยงจอมือถือ/คาเฟอีน 1-2 ชม.ก่อนนอน
- ทำห้องนอนให้น่านอน สงบ มืด อุณหภูมิพอดี
- หากนอนไม่หลับบ่อย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
...............................
🔎 วินิจฉัยการพยาบาลโรคการนอนหลับผิดปกติ (Sleep
Disorders – F51)
- F51F1 มีภาวะนอนไม่หลับเรื้อรัง ส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพในการดำเนินชีวิตประจำวัน (Chronic insomnia affecting daily functioning)
- F51F2 มีความวิตกกังวลหรือเครียดเกี่ยวกับการนอน (Anxiety or stress related to sleep)
- F51F3 มีพฤติกรรมก่อนนอนที่รบกวนการหลับ เช่น ใช้มือถือ ดื่มคาเฟอีน (Disruptive pre-sleep behaviors such as screen time or caffeine intake)
- F51F4 มีอาการอ่อนเพลียจากการนอนไม่เพียงพอ (Fatigue due to sleep deprivation)
- F51F5 มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า หรือโรคทางจิตเวชอื่น (Risk of developing depression or other psychiatric conditions)
- F51F6 มีรูปแบบการนอนผิดปกติ เช่น นอนผิดเวลา นอนกลางวันมากเกินไป (Disturbed sleep pattern, such as irregular bedtime or excessive daytime sleep)
- F51F7 มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุจากภาวะง่วงซึมขณะทำกิจกรรม (Risk of injury due to drowsiness during activities)
- F51F8 ขาดการสนับสนุนทางสังคมหรือครอบครัวในการแก้ไขปัญหาการนอน (Lack of social/family support in managing sleep problems)
- F51F9 ขาดความรู้ในการดูแลตนเองเพื่อการนอนที่มีคุณภาพ (Deficient knowledge regarding self-care for quality sleep)
- F51F10 ต้องการวางแผนจำหน่ายและติดตามผลต่อเนื่องที่บ้าน (Requires discharge planning and follow-up at home)
……………………………………………………………….
F51F1 มีภาวะนอนไม่หลับเรื้อรัง
ส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพในการดำเนินชีวิตประจำวัน (Chronic insomnia
affecting daily functioning)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
ผู้ป่วยบอกว่า
"นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว"
รู้สึกเหนื่อย เพลียในตอนกลางวัน
ไม่มีสมาธิในการทำงานหรือเรียน
O:
สังเกตเห็นรอยคล้ำใต้ตา
น้ำเสียงอ่อนแรง
รายงานการนอนหลับ < 4-5 ชั่วโมง/คืน
มีพฤติกรรมง่วงซึมระหว่างวัน
แบบประเมินคุณภาพการนอน (เช่น PSQI) แสดงผลต่ำกว่ามาตรฐาน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง/คืน ภายใน 1 สัปดาห์
ลดอาการง่วงซึม
และกลับมามีสมรรถภาพในชีวิตประจำวัน
ปรับพฤติกรรมการนอนให้เหมาะสมและปลอดภัย
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
จำนวนชั่วโมงการนอนหลับเพิ่มขึ้น
รายงานว่ารู้สึกพักผ่อนเพียงพอหลังตื่นนอน
ไม่มีอาการง่วงซึมกลางวันหรือเกิดอุบัติเหตุจากอาการง่วง
คะแนนแบบประเมินการนอนหลับ (เช่น PSQI) ดีขึ้น
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
F51F1I-1: ประเมินรูปแบบการนอนของผู้ป่วยและบันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
F51F1I-2: ให้คำแนะนำเรื่อง “สุขอนามัยการนอน” เช่น
เข้านอน-ตื่นนอนเป็นเวลา
F51F1I-3: กระตุ้นให้งดคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารก่อนนอน 2-3
ชั่วโมง
F51F1I-4: แนะนำกิจกรรมผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ
ฟังเพลงเบาๆ
F51F1I-5: จัดสภาพแวดล้อมห้องนอนให้เงียบ มืด เย็นสบาย
F51F1I-6: ประสานจิตแพทย์หรือพยาบาลจิตเวช
หากผู้ป่วยมีภาวะซึมเศร้าร่วม
F51F1I-7: สอนการจด “Sleep Diary” ให้ผู้ป่วยบันทึกพฤติกรรมการนอนหลับ
F51F1I-8: ติดตามผลการนอนทุกวัน และประเมินอาการตอบสนองต่อการรักษา
F51F1I-9: ให้กำลังใจและสนับสนุนครอบครัวในการช่วยดูแลผู้ป่วย
F51F1I-10: วางแผนการดูแลต่อเนื่องร่วมกับทีมสหวิชาชีพ
📌 Response (การตอบสนอง)
F51F1R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าสามารถนอนหลับได้
≥ 6 ชั่วโมง/คืน
F51F1R-2: ผู้ป่วยรู้สึกสดชื่น ไม่มีอาการง่วงกลางวัน
F51F1R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องสุขอนามัยการนอน
F51F1R-4: คะแนนแบบประเมินคุณภาพการนอนดีขึ้น
F51F1R-5: ครอบครัวมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผู้ป่วย
………………………………………………………………
F51F2 มีความวิตกกังวลหรือเครียดเกี่ยวกับการนอน
(Anxiety or stress related to sleep)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “กลัวว่าจะนอนไม่หลับอีก”
- รู้สึกเครียดทุกครั้งก่อนเข้านอน
- กังวลว่าจะมีผลกระทบต่อการเรียนหรือทำงาน
O:
- แสดงสีหน้าเครียด กระสับกระส่าย
- หายใจเร็ว/ตื้นตอนพูดถึงการนอน
- คะแนนแบบประเมินความเครียด (เช่น DASS-21) อยู่ในระดับปานกลางถึงสูง
- วัดชีพจรพบว่าชีพจรเร็วขึ้นขณะพูดถึงช่วงเวลาก่อนนอน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ลดความกังวลก่อนนอนภายใน 1 สัปดาห์
- ผู้ป่วยรู้จักวิธีผ่อนคลายตัวเองก่อนนอน
- นอนหลับได้ดีขึ้นโดยไม่มีความวิตกกังวลร่วม
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- รายงานว่ารู้สึกผ่อนคลายขึ้นก่อนนอน
- คะแนนความเครียดลดลงเมื่อประเมินซ้ำ
- ผู้ป่วยใช้วิธีผ่อนคลายก่อนนอนได้เอง
- จำนวนชั่วโมงการนอนหลับเพิ่มขึ้น
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F2I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลโดยใช้เครื่องมือมาตรฐาน เช่น DASS-21
- F51F2I-2: สร้างความไว้วางใจ รับฟังโดยไม่ตัดสิน เพื่อให้ผู้ป่วยกล้าพูดถึงความเครียด
- F51F2I-3: ให้ความรู้เรื่องผลของความเครียดต่อการนอนหลับ
- F51F2I-4: สอนเทคนิคการหายใจลึก ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และทำสมาธิก่อนนอน
- F51F2I-5: กระตุ้นให้ทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น วาดภาพ เขียนบันทึก ฟังเพลงช้า
- F51F2I-6: หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรือรับข่าวสารเครียดก่อนนอน
- F51F2I-7: ให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการสนับสนุนจิตใจ
- F51F2I-8: ประเมินซ้ำหากผู้ป่วยมีภาวะเครียดมากขึ้น หรือมีแนวโน้มซึมเศร้า
- F51F2I-9: ประสานทีมจิตเวชกรณีผู้ป่วยมีอาการรุนแรงหรือจำเป็นต้องใช้ยา
- F51F2I-10: วางแผนดูแลต่อเนื่องหลังจำหน่าย เช่น นัดติดตามหรือลงทะเบียนกลุ่มบำบัด
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F2R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกผ่อนคลายขึ้นก่อนนอน
- F51F2R-2: ผู้ป่วยใช้เทคนิคผ่อนคลายได้ด้วยตนเอง
- F51F2R-3: ความวิตกกังวลลดลงเมื่อประเมินซ้ำ
- F51F2R-4: ผู้ป่วยนอนหลับได้ดีขึ้น ไม่มีอาการตื่นกลางดึกจากความเครียด
- F51F2R-5: ครอบครัวมีส่วนร่วมให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
………………………………………………………………..
F51F3 มีพฤติกรรมก่อนนอนที่รบกวนการหลับ
เช่น ใช้มือถือ ดื่มคาเฟอีน (Disruptive pre-sleep behaviors such as
screen time or caffeine intake)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “เลื่อนมือถือก่อนนอนทุกคืนจนเผลอหลับ”
- ดื่มชา/กาแฟช่วงเย็นเพราะรู้สึกง่วง
- รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่มตื่นมากลางดึกบ่อย
O:
- บันทึกกิจกรรมก่อนนอนพบว่าใช้จอมือถือมากกว่า 1 ชั่วโมง
- พบขยะกาแฟ/น้ำอัดลมในห้องนอน
- ระยะเวลาในการหลับ (sleep latency) ยาวเกิน 30 นาที
- ผู้ป่วยง่วงในเวลากลางวัน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ลดพฤติกรรมก่อนนอนที่รบกวนการนอนภายใน 7 วัน
- ผู้ป่วยสามารถหลับได้ภายในเวลา 20-30 นาที
- รายงานว่าคุณภาพการนอนดีขึ้น
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยลดการใช้หน้าจอก่อนนอน
- งดคาเฟอีนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนนอน
- รายงานว่านอนหลับได้เร็วขึ้นและไม่สะดุ้งตื่นกลางดึก
- รายงานความรู้สึกพักผ่อนเพียงพอในตอนเช้า
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F3I-1: ประเมินพฤติกรรมก่อนนอนของผู้ป่วยอย่างละเอียด
- F51F3I-2: ให้ความรู้เรื่องผลกระทบของแสงจากหน้าจอต่อวงจรการนอน
- F51F3I-3: แนะนำให้งดการใช้มือถือ/แท็บเล็ตก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- F51F3I-4: กระตุ้นให้เปลี่ยนกิจกรรมก่อนนอนเป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ
- F51F3I-5: แนะนำให้งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังเวลา 14.00 น.
- F51F3I-6: สอนวิธีจดบันทึกกิจวัตรก่อนนอน (sleep hygiene log)
- F51F3I-7: วางแผนตารางเวลาการนอนให้สม่ำเสมอทุกวัน
- F51F3I-8: ติดตามการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมทุกวันพร้อมให้กำลังใจ
- F51F3I-9: ประสานทีมจิตวิทยาหรือสุขภาพจิตหากพบพฤติกรรมดื้อซ้ำ
- F51F3I-10: สื่อสารกับครอบครัวเพื่อให้ช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F3R-1: ผู้ป่วยลดเวลาใช้หน้าจอเหลือไม่เกิน 30 นาที ก่อนนอน
- F51F3R-2: งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังบ่ายสอง
- F51F3R-3: ผู้ป่วยรายงานว่านอนหลับเร็วขึ้นภายใน 20-30 นาที
- F51F3R-4: ตื่นเช้ารู้สึกสดชื่น ไม่มีอาการง่วงตอนกลางวัน
- F51F3R-5: ครอบครัวสังเกตเห็นว่าผู้ป่วยเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนนอนดีขึ้น
………………………………………………………………………….
F51F4 มีอาการอ่อนเพลียจากการนอนไม่เพียงพอ
(Fatigue due to sleep deprivation)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- “รู้สึกเพลียตลอดทั้งวัน ไม่อยากทำอะไรเลย”
- “ตื่นเช้าแต่เหมือนไม่ได้นอนเลย”
O:
- ผู้ป่วยมีอาการง่วงซึมตอนกลางวัน
- มีพฤติกรรมเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น
- ความสนใจและสมาธิลดลง
- ประเมินพลังงานร่างกายด้วยตนเองระดับต่ำ (Self-rated energy scale ต่ำกว่า 3/10)
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ลดอาการอ่อนเพลียจากการนอนไม่พอภายใน 1 สัปดาห์
- ผู้ป่วยมีพลังงานและความกระฉับกระเฉงมากขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้โดยไม่เหนื่อยล้าเกินไป
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยนอนหลับได้อย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง/คืน
- รายงานความรู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นนอน
- คะแนนประเมินพลังงานร่างกาย ≥ 6/10
- มีส่วนร่วมในกิจกรรมประจำวันได้มากขึ้น
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F4I-1: ประเมินระยะเวลานอนและพฤติกรรมการนอนของผู้ป่วย
- F51F4I-2: แนะนำการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอน เช่น ปิดไฟ ลดเสียงรบกวน
- F51F4I-3: ให้ความรู้เกี่ยวกับการนอนหลับที่มีคุณภาพและประโยชน์ของการพักผ่อน
- F51F4I-4: แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงกิจกรรมกระตุ้นสมองก่อนนอน เช่น ดูมือถือ, ดูข่าวเครียด
- F51F4I-5: ส่งเสริมกิจกรรมเบา ๆ ระหว่างวัน เช่น เดินเล่น เพื่อปรับสมดุลพลังงาน
- F51F4I-6: ให้จดบันทึก Sleep Log ติดตามพฤติกรรมการนอนและอาการอ่อนเพลีย
- F51F4I-7: ประเมินร่วมกับทีมสุขภาพจิตหากมีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวลร่วม
- F51F4I-8: วางแผนการนอนที่สม่ำเสมอในเวลาเดียวกันทุกคืน
- F51F4I-9: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารครบ 5 หมู่
- F51F4I-10: ประเมินความสามารถในการทำงานและปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับระดับพลังงาน
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F4R-1: ผู้ป่วยนอนหลับได้อย่างต่อเนื่อง ≥ 6 ชั่วโมง/คืน
- F51F4R-2: คะแนน Self-rated energy เพิ่มเป็น ≥ 6/10
- F51F4R-3: มีพฤติกรรมกระฉับกระเฉงมากขึ้นในตอนกลางวัน
- F51F4R-4: มีส่วนร่วมในกิจกรรมประจำวันที่เคยทำไม่ได้
- F51F4R-5: รายงานว่ารู้สึกสดชื่นและตื่นตัวหลังตื่นนอน
…………………………………………………………………………….
F51F5 มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า
หรือโรคทางจิตเวชอื่น (Risk of developing depression or other psychiatric
conditions)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- “รู้สึกเบื่อ ไม่อยากเจอใคร พักหลังนอนไม่ค่อยหลับ”
- “เครียด คิดมากจนหลับยากทุกคืน”
O:
- มีอาการนอนไม่หลับติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์
- น้ำหนักลด/เพิ่มผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ
- แสดงอารมณ์เศร้า เฉยเมย ขาดความกระตือรือร้น
- มีประวัติการใช้ยาเพื่อช่วยนอนหรือดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้าหรือโรคทางจิตเวชอื่นภายใน 1 เดือน
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่ดูแลตนเองได้ดีขึ้น
- สามารถพูดคุยเปิดเผยความรู้สึกและเข้ารับการประเมินสุขภาพจิต
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ไม่มีอาการซึมเศร้าเฉียบพลันเพิ่มขึ้น
- ผู้ป่วยร่วมมือในการพูดคุย เปิดเผยความรู้สึก
- ผู้ป่วยเข้ารับการประเมิน/ติดตามโดยทีมสุขภาพจิต
- คะแนนแบบประเมินความเสี่ยงซึมเศร้า (เช่น PHQ-9) ไม่เกินระดับปานกลาง
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F5I-1: สังเกตและบันทึกพฤติกรรม อารมณ์ และรูปแบบการนอน
- F51F5I-2: ประเมินความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าโดยใช้เครื่องมือคัดกรอง เช่น PHQ-9
- F51F5I-3: เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกด้วยท่าทีรับฟังอย่างเข้าใจ
- F51F5I-4: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของการนอนไม่พอที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต
- F51F5I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้ารับการปรึกษากับจิตแพทย์/พยาบาลจิตเวช
- F51F5I-6: กระตุ้นให้ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ เช่น ฟังเพลง ออกกำลังกายเบาๆ
- F51F5I-7: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก ๆ นั่งสมาธิก่อนนอน
- F51F5I-8: สนับสนุนครอบครัวในการเข้าใจปัญหาของผู้ป่วยและให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ
- F51F5I-9: หลีกเลี่ยงการให้คำแนะนำที่ตัดสินหรือกดดันผู้ป่วย
- F51F5I-10: ประสานการดูแลร่วมกับทีมสหวิชาชีพ หากมีแนวโน้มเกิดภาวะแทรกซ้อน
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F5R-1: ผู้ป่วยยินดีเข้ารับการประเมินสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง
- F51F5R-2: มีอารมณ์และพฤติกรรมดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์
- F51F5R-3: ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือความคิดฆ่าตัวตาย
- F51F5R-4: ผู้ป่วยพูดคุยได้อย่างเปิดเผยมากขึ้น
- F51F5R-5: ผู้ป่วยมีแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพตนเองเพิ่มขึ้น
……………………………………………………………………………..
F51F6 มีรูปแบบการนอนผิดปกติ
เช่น นอนผิดเวลา นอนกลางวันมากเกินไป (Disturbed sleep pattern, such as
irregular bedtime or excessive daytime sleep)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- “ช่วงนี้นอนดึกมาก ตื่นสาย แล้วก็ง่วงตอนกลางวัน”
- “กลางคืนไม่นอน แต่กลางวันหลับยาว”
O:
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเปลี่ยนเวลานอนบ่อยครั้ง
- มีภาวะง่วงซึมตอนกลางวัน
- ทำกิจกรรมตอนกลางคืน เช่น เล่นมือถือ, ดูซีรีส์
- ไม่สามารถปฏิบัติงานหรือเรียนได้ตามปกติจากอาการง่วง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ปรับรูปแบบการนอนให้อยู่ในเวลาปกติภายใน 2 สัปดาห์
- ลดการนอนกลางวันลงให้ไม่เกิน 30 นาทีต่อวัน
- ผู้ป่วยรู้จักการจัดตารางการนอนที่เหมาะสม
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยนอนหลับช่วงกลางคืนได้อย่างสม่ำเสมอ
- เวลานอนและตื่นตรงกันต่อเนื่อง ≥ 5 วัน
- ง่วงกลางวันลดลง
- ไม่งีบหลับเกิน 30 นาทีในเวลากลางวัน
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F6I-1: ประเมินรูปแบบการนอนหลับ-ตื่นทุกวันและจดบันทึก Sleep log
- F51F6I-2: ให้ความรู้เรื่อง "นาฬิกาชีวิต" และความสำคัญของการนอนช่วงกลางคืน
- F51F6I-3: วางแผนร่วมกับผู้ป่วยเพื่อกำหนดเวลานอน-ตื่นให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน
- F51F6I-4: แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน หรือหากจำเป็นให้นอนสั้นไม่เกิน 30 นาที
- F51F6I-5: สนับสนุนกิจกรรมเบา ๆ ช่วงบ่ายเพื่อช่วยให้ร่างกายตื่นตัว เช่น เดินช้า ๆ
- F51F6I-6: ให้คำแนะนำลดสิ่งกระตุ้นตอนกลางคืน เช่น แสงหน้าจอ, คาเฟอีน, เสียงรบกวน
- F51F6I-7: ส่งเสริมให้มีกิจวัตรก่อนนอนที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น อาบน้ำอุ่น, อ่านหนังสือ
- F51F6I-8: ประเมินสภาวะสุขภาพจิต หากพบความเครียดหรือความวิตกกังวล
- F51F6I-9: สอนเทคนิคการควบคุมสิ่งแวดล้อมในห้องนอน เช่น ลดแสง เสียง อุณหภูมิ
- F51F6I-10: ติดตามผลการปรับพฤติกรรมและประเมินซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F6R-1: ผู้ป่วยนอนและตื่นในเวลาปกติ ≥ 5 วันต่อสัปดาห์
- F51F6R-2: ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการนอนกลางวันเกิน 30 นาที
- F51F6R-3: ความง่วงช่วงกลางวันลดลง
- F51F6R-4: ผู้ป่วยสามารถมีสมาธิในการทำงาน/เรียนได้ดีขึ้น
- F51F6R-5: ผู้ป่วยรายงานคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น
……………………………………………………………………….
F51F7 มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุจากภาวะง่วงซึมขณะทำกิจกรรม
(Risk of injury due to drowsiness during activities)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- “ตอนขับรถบางทีเผลอหลับไป”
- “ทำงานอยู่ก็หลับโดยไม่รู้ตัว”
O:
- ผู้ป่วยมีอาการง่วงซึมระหว่างทำกิจกรรม
- เคยมีประวัติเกือบเกิดอุบัติเหตุจากการเผลอหลับ
- สังเกตได้ว่าผู้ป่วยไม่สามารถโฟกัสหรือมีปฏิกิริยาตอบสนองช้า
- งีบหลับในสถานการณ์ไม่เหมาะสม เช่น ระหว่างประชุมหรือเรียน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากภาวะง่วงซึม
- ลดความถี่ของการง่วงขณะทำกิจกรรมสำคัญ
- ผู้ป่วยตระหนักรู้และมีแผนการรับมือภาวะง่วง
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ไม่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์เสี่ยงขณะทำกิจกรรม
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่ป้องกันตนเองเมื่อง่วง เช่น หยุดพัก
- ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงระหว่างง่วงซึม เช่น ขับรถ
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F7I-1: ประเมินระดับความง่วงซึมโดยใช้แบบประเมินเช่น Epworth Sleepiness Scale
- F51F7I-2: ให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงของการง่วงขณะทำกิจกรรม เช่น ขับรถ
- F51F7I-3: แนะนำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อันตรายเมื่อรู้สึกง่วง เช่น การขับรถ/ใช้เครื่องจักร
- F51F7I-4: กระตุ้นให้พักผ่อนให้เพียงพออย่างสม่ำเสมอในช่วงกลางคืน
- F51F7I-5: ให้จัดตารางกิจกรรมระหว่างวันให้มีเวลาพักสั้น ๆ เพื่อรีเฟรชสมอง
- F51F7I-6: แนะนำการแจ้งเตือนคนรอบข้างหรือครอบครัวเมื่อรู้สึกง่วงผิดปกติ
- F51F7I-7: ติดตามอาการและปรับแผนการนอนร่วมกับทีมสุขภาพจิต
- F51F7I-8: ส่งต่อแพทย์หากพบว่าภาวะง่วงซึมส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F7R-1: ผู้ป่วยไม่มีอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์เสี่ยงในระยะเวลาระวังภัย
- F51F7R-2: ผู้ป่วยนอนหลับได้เพียงพอมากขึ้น
- F51F7R-3: ผู้ป่วยสามารถวางแผนจัดการกิจกรรมเมื่อรู้สึกง่วง
- F51F7R-4: ผู้ป่วยมีความตระหนักรู้และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
- F51F7R-5: ผู้ป่วยแจ้งคนรอบข้างให้ช่วยเฝ้าระวังเมื่อมีอาการง่วงซึม
……………………………………………………………………..
F51F8 ขาดการสนับสนุนทางสังคมหรือครอบครัวในการแก้ไขปัญหาการนอน
(Lack of social/family support in managing sleep problems)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- “รู้สึกว่าครอบครัวไม่เข้าใจปัญหาการนอนของฉัน”
- “ไม่ค่อยมีคนคอยให้คำแนะนำเมื่อเผชิญปัญหาการนอนหลับ”
O:
- ผู้ป่วยแสดงอาการของความเครียดจากการขาดการสนับสนุนจากครอบครัว
- พบว่าผู้ป่วยไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาการนอนหลับได้
- ครอบครัวไม่มีความเข้าใจในปัญหาการนอนหลับของผู้ป่วย
- มีประวัติความขัดแย้งในครอบครัวเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับการนอน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- เพิ่มการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมในการจัดการปัญหาการนอนหลับ
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการติดตามและช่วยเหลือการรักษา
- ช่วยให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกได้รับการสนับสนุนจากคนใกล้ชิด
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานว่าครอบครัวให้การสนับสนุนในการจัดการปัญหาการนอนหลับ
- ครอบครัวมีความเข้าใจและร่วมมือในการรักษาหรือการแนะนำพฤติกรรมการนอนที่ดี
- ผู้ป่วยรู้สึกว่ามีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับครอบครัวเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการนอน
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F8I-1: ประเมินระดับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนของผู้ป่วย
- F51F8I-2: สอนให้ครอบครัวเข้าใจปัญหาการนอนหลับและผลกระทบที่เกิดขึ้น
- F51F8I-3: แนะนำให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในกระบวนการรักษาและการจัดการกับปัญหาการนอนหลับ
- F51F8I-4: ให้คำแนะนำในการเสริมสร้างการสื่อสารในครอบครัวเพื่อความเข้าใจร่วมกัน
- F51F8I-5: จัดทำกิจกรรมสนับสนุนให้ผู้ป่วยรู้สึกมีความเข้าใจและสนับสนุนจากคนใกล้ชิด
- F51F8I-6: ส่งต่อไปยังบริการการให้คำปรึกษาหรือกลุ่มสนับสนุนทางสังคมเมื่อจำเป็น
- F51F8I-7: จัดให้มีการนัดหมายติดตามกับครอบครัวเพื่อประเมินความคืบหน้าของการสนับสนุน
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F8R-1: ผู้ป่วยรู้สึกว่ามีการสนับสนุนที่ดีจากครอบครัว
- F51F8R-2: ครอบครัวมีความเข้าใจและร่วมมือในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนของผู้ป่วย
- F51F8R-3: ผู้ป่วยสามารถปรับพฤติกรรมการนอนหลับได้ดีขึ้นจากการสนับสนุนจากครอบครัว
- F51F8R-4: ความเครียดจากการขาดการสนับสนุนลดลงและผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจในการแก้ปัญหา
- F51F8R-5: ครอบครัวมีการสื่อสารที่ดีขึ้นและผู้ป่วยได้รับคำแนะนำจากคนใกล้ชิดในเรื่องการนอน
………………………………………..
F51F9 ขาดความรู้ในการดูแลตนเองเพื่อการนอนที่มีคุณภาพ
(Deficient knowledge regarding self-care for quality sleep)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- “ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้การนอนมีคุณภาพดีขึ้น”
- “เคยลองหลายวิธีแต่ไม่เห็นผลในการนอนหลับที่ดีขึ้น”
O:
- ผู้ป่วยไม่สามารถอธิบายวิธีการดูแลตัวเองเพื่อการนอนที่มีคุณภาพ
- ไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับ
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้มือถือก่อนนอน หรือการดื่มคาเฟอีนตอนเย็น
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- เพิ่มความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองเพื่อการนอนที่มีคุณภาพ
- ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลตนเองเพื่อการนอนหลับที่ดี
- สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมสำหรับการนอน
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการดูแลตนเองเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับได้อย่างถูกต้อง
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับเพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F9I-1: สอนเทคนิคการผ่อนคลายก่อนนอน เช่น การทำสมาธิหรือหายใจลึกๆ
- F51F9I-2: แนะนำให้ผู้ป่วยปรับสภาพแวดล้อมในการนอน เช่น ลดแสงเสียง และอุณหภูมิที่เหมาะสม
- F51F9I-3: ให้ความรู้เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน
- F51F9I-4: อธิบายการตั้งเวลานอนที่สม่ำเสมอและการสร้างกิจวัตรก่อนนอนที่ดี
- F51F9I-5: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารและกิจกรรมที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ เช่น การออกกำลังกาย
- F51F9I-6: สนับสนุนการใช้แอพพลิเคชั่นหรือนวัตกรรมเพื่อช่วยในการติดตามการนอนหลับและการปรับปรุง
- F51F9I-7: จัดการฝึกอบรมหรือจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการนอนหลับที่มีคุณภาพให้กับผู้ป่วย
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F9R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายการปรับปรุงสภาพแวดล้อมและกิจวัตรการนอนหลับได้
- F51F9R-2: ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่รบกวนการนอนหลับได้
- F51F9R-3: ผู้ป่วยเริ่มมีการนอนหลับที่มีคุณภาพดีขึ้น เช่น นอนหลับได้เร็วขึ้นและตื่นนอนสดชื่น
- F51F9R-4: ผู้ป่วยมีความรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนและมีเครื่องมือในการปรับปรุงคุณภาพการนอน
- F51F9R-5: ผู้ป่วยมีการบันทึกและติดตามผลการนอนหลับที่มีคุณภาพและสามารถปรับปรุงได้
………………………………………………………….
F51F10 ต้องการวางแผนจำหน่ายและติดตามผลต่อเนื่องที่บ้าน
(Requires discharge planning and follow-up at home)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- “ไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไรต่อเมื่อกลับบ้าน”
- “กังวลว่าจะไม่สามารถดูแลตัวเองเพื่อการนอนหลับที่ดีได้”
O:
- ผู้ป่วยไม่เข้าใจขั้นตอนการดูแลตนเองหลังการจำหน่าย
- ไม่มีแผนการติดตามผลหรือการสนับสนุนจากครอบครัว
- ไม่มีการวางแผนเพื่อรับการดูแลอย่างต่อเนื่องหลังกลับบ้าน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- วางแผนการจำหน่ายและติดตามผลการดูแลอย่างต่อเนื่องที่บ้าน
- สร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับการดูแลหลังการจำหน่าย
- จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งสนับสนุนการดูแลตนเองและบริการทางการแพทย์ที่บ้าน
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยเข้าใจแผนการดูแลและการติดตามผลหลังการจำหน่าย
- ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับหลังการจำหน่าย
- ผู้ป่วยสามารถติดต่อแพทย์หรือพยาบาลสำหรับการติดตามผลได้
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F51F10I-1: อธิบายแผนการดูแลหลังการจำหน่ายและการติดตามผลที่บ้านอย่างละเอียดแก่ผู้ป่วยและครอบครัว
- F51F10I-2: สอนวิธีการดูแลตนเองเพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ เช่น การจัดสภาพแวดล้อมและกิจวัตรการนอนหลับ
- F51F10I-3: จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อแพทย์หรือพยาบาลเพื่อการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- F51F10I-4: ชี้แนะแหล่งสนับสนุนจากกลุ่มหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ
- F51F10I-5: ตั้งการนัดหมายเพื่อติดตามผลหลังการจำหน่าย เช่น การตรวจสุขภาพหรือการประเมินการนอนหลับ
- F51F10I-6: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีหรือแอพพลิเคชั่นในการติดตามผลการนอนหลับ
📌 Response (การตอบสนอง)
- F51F10R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจแผนการดูแลและการติดตามผลหลังการจำหน่าย
- F51F10R-2: ผู้ป่วยสามารถติดต่อแพทย์หรือพยาบาลเพื่อการติดตามผลหลังการจำหน่ายได้
- F51F10R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตนเองที่บ้านได้อย่างถูกต้อง
- F51F10R-4: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการดูแลตนเองและสามารถรับมือกับปัญหาการนอนหลับได้
- F51F10R-5: ผู้ป่วยและครอบครัวมีการเข้าร่วมการนัดหมายการติดตามผลตามที่กำหนด
……………………………………………………………….
เอกสารอ้างอิง
- สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2565). แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคการนอนหลับผิดปกติ. สืบค้นจาก https://www.nhso.go.th
- สินธุ์ทิพย์ วัชรากร. (2564). การจัดการโรคการนอนหลับผิดปกติในผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตเวช. วารสารการพยาบาลและการแพทย์, 25(3), 123-135.
- National Sleep Foundation. (2020). Sleep Disorders and Sleep Deprivation: An Overview. Retrieved from https://www.sleepfoundation.org
- McCall, W. V., & Black, C. (2022). Insomnia and Its Impact on Mental Health: An Overview of Current Treatments. Journal of Clinical Sleep Medicine, 18(1), 13-20. https://doi.org/10.5664/jcsm.8985