จิตเวชหัวข้อ 11: โรคเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress
Disorder) - F43.0
Psych. Topic 11 : Chronic Stress
Disorder - F43.0
🎯 รู้ทัน! “เครียดเรื้อรัง”
ไม่ใช่แค่เหนื่อยใจ แต่เสี่ยงสุขภาพพังได้ทั้งร่างกายและจิตใจ!
🧠 พยาธิสภาพ/สาเหตุ
เมื่อร่างกายเผชิญความเครียดต่อเนื่อง
ฮอร์โมนความเครียด (เช่น คอร์ติซอล) จะหลั่งมากเกินไป ส่งผลให้ระบบต่างๆ
ของร่างกายแปรปรวน เช่น นอนไม่หลับ ปวดหัว ใจสั่น อารมณ์แปรปรวน
⚠️ ปัจจัยที่ทำให้เกิด
- ความกดดันจากงาน เงิน ความสัมพันธ์
- เหตุการณ์กระทบจิตใจ เช่น การสูญเสีย
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ / ไม่มีเวลาผ่อนคลาย
💊 การรักษา
- พบจิตแพทย์ เพื่อประเมินอาการ
- การใช้ยา (ถ้าจำเป็น)
- จิตบำบัด CBT (บำบัดพฤติกรรมความคิด)
- ฝึกผ่อนคลาย เช่น หายใจลึกๆ ทำสมาธิ
🩺 การพยาบาล
- รับฟังอย่างเข้าใจ ไม่ตัดสิน
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล
- ให้คำแนะนำด้านการจัดการความเครียด
- ประเมินความเสี่ยงในการทำร้ายตนเอง
👨👩👧👦 การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ (นอน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน)
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน 30 นาที/วัน
- พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ ไม่เก็บไว้คนเดียว
- ฝึกหายใจช้าๆ ลึกๆ 5 นาที/วัน
- ห่างโซเชียลบ้าง เพื่อพักใจจากโลกภายนอก
..........................................................
วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคเครียดเรื้อรัง
- F43.0F1 มีความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Risk for self-harm or
harm to others)
- F43.0F2 มีภาวะซึมเศร้า (Depressed mood)
- F43.0F3 นอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่เพียงพอ (Disturbed sleep pattern)
- F43.0F4 มีความวิตกกังวลมากเกินไป (Excessive anxiety)
- F43.0F5 มีปัญหาการสื่อสารหรือปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Impaired social interaction)
- F43.0F6 ขาดความรู้ในการดูแลตนเองเมื่อมีความเครียดเรื้อรัง (Deficient
knowledge about stress self-management)
- F43.0F7 ขาดแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพตนเอง (Ineffective health maintenance)
- F43.0F8 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางกาย เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Risk
for physical complications e.g., hypertension, arrhythmia)
- F43.0F9 ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูสุขภาพจิต (Need for continued mental health support)
- F43.0F10 เตรียมความพร้อมผู้ป่วยและครอบครัวก่อนจำหน่าย (Readiness
for discharge and family education)
....................................................
F43.0F1: มีความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “ไม่ไหวแล้ว อยากหายไปจากโลกนี้”
- “ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย”
- รู้สึกหมดหวัง สิ้นหวังในชีวิต
O (Objective):
- สีหน้าเศร้าหมอง พูดน้อย
- มีบาดแผลหรือรอยขีดข่วนตามร่างกาย
- อยู่ลำพัง ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว
- พูดถึงความตายบ่อยครั้ง
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยปลอดภัย ไม่ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
- ผู้ป่วยสามารถระบายความรู้สึกอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยเริ่มมีความหวังและมองเห็นคุณค่าของตนเอง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นภายใน 24-72 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยแสดงความร่วมมือในการดูแล
- ผู้ป่วยแสดงออกถึงอารมณ์ที่ดีขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถบอกช่องทางขอความช่วยเหลือได้เมื่อเครียด
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F1I-1: ประเมินความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายหรือทำร้ายผู้อื่นอย่างละเอียดทันทีที่รับไว้
- F43.0F1I-2: อยู่กับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงวิกฤต 24-72 ชั่วโมงแรก
- F43.0F1I-3: เก็บอุปกรณ์ที่อาจใช้ทำร้ายตนเอง เช่น มีด กรรไกร เชือก
- F43.0F1I-4: ให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึก โดยไม่ตัดสินหรือตำหนิ
- F43.0F1I-5: แจ้งแพทย์และทีมสหสาขาทันทีเมื่อพบว่าผู้ป่วยมีแนวโน้มจะทำร้ายตนเอง
- F43.0F1I-6: วางแผนร่วมกับผู้ป่วยเรื่องกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น วาดภาพ ฟังเพลง
- F43.0F1I-7: ประสานญาติให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและให้กำลังใจ
-
F43.0F1I-8: สอนผู้ป่วยเกี่ยวกับวิธีจัดการความเครียด เช่น
ฝึกหายใจลึก หรือการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
Response (การตอบสนอง)
- F43.0F1R-1: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
- F43.0F1R-2: ผู้ป่วยสามารถบอกอารมณ์และความรู้สึกของตนได้
- F43.0F1R-3: ผู้ป่วยขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย
- F43.0F1R-4: ผู้ป่วยเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น พูดคุยกับพยาบาลหรือญาติ
- F43.0F1R-5: ญาติให้ความร่วมมือและเข้าใจการดูแลจิตใจผู้ป่วยมากขึ้น
............................................................................
F43.0F2: มีภาวะซึมเศร้า
(Depressed mood)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “รู้สึกไม่มีค่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่”
- “เหนื่อยใจ ทำอะไรไม่ไหวเลย”
- “ไม่อยากเจอใคร อยากอยู่คนเดียว”
O (Objective):
- สีหน้าเศร้าหมอง ไม่สบตา
- พูดน้อย ช้า ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม
- ไม่ร่วมกิจกรรมประจำวัน เช่น รับประทานอาหารหรืออาบน้ำ
- พฤติกรรมไม่กระตือรือร้น หรืออยู่ในห้องเงียบๆ ตลอดเวลา
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยแสดงอารมณ์ดีขึ้น และลดความรู้สึกเศร้า
- ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมและการดูแลตนเอง
- ผู้ป่วยสามารถพูดถึงความรู้สึกได้อย่างเปิดเผย
- ผู้ป่วยเริ่มมีความหวังและเห็นคุณค่าตนเอง
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยมีอารมณ์ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน
- ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่นได้อย่างน้อยวันละ 1 กิจกรรม
- ผู้ป่วยสามารถพูดคุยกับพยาบาลเกี่ยวกับความรู้สึกได้
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมดูแลตนเองดีขึ้น เช่น รับประทานอาหาร อาบน้ำเอง
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F2I-1: ประเมินระดับความรุนแรงของอารมณ์เศร้าอย่างสม่ำเสมอด้วยแบบประเมินมาตรฐาน เช่น PHQ-9
- F43.0F2I-2: สร้างความไว้วางใจโดยการรับฟังอย่างตั้งใจ ไม่ตัดสิน
- F43.0F2I-3: กระตุ้นให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกในบรรยากาศปลอดภัย
- F43.0F2I-4: วางแผนกิจกรรมที่ผู้ป่วยเคยชอบ เช่น วาดภาพ ฟังเพลง หรือปลูกต้นไม้
- F43.0F2I-5: ส่งเสริมการดูแลตนเอง เช่น การรับประทานอาหาร พักผ่อน และการออกกำลังกายเบาๆ
- F43.0F2I-6: ประเมินการใช้ยาและผลข้างเคียงร่วมกับแพทย์
- F43.0F2I-7: ประสานญาติให้มามีส่วนร่วมในการพูดคุยและให้กำลังใจ
- F43.0F2I-8: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ การฝึกสติ (Mindfulness)
- F43.0F2I-9: สังเกตอาการแย่ลง เช่น พูดถึงความตาย ซึมเศร้ามากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารหรือไม่พูดเลย
-
F43.0F2I-10: วางแผนการส่งต่อให้ทีมจิตเวชในกรณีซึมเศร้าเรื้อรังหรือไม่ตอบสนองต่อการดูแลเบื้องต้น
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F2R-1: ผู้ป่วยอารมณ์ดีขึ้นจากเดิม ไม่พูดถึงความตายหรือความสิ้นหวัง
- F43.0F2R-2: ผู้ป่วยเริ่มพูดคุยและสื่อสารอารมณ์ของตนเองได้
- F43.0F2R-3: ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมง่ายๆ ได้อย่างน้อยวันละ 1 กิจกรรม
- F43.0F2R-4: ผู้ป่วยดูแลตนเองได้ เช่น รับประทานอาหาร อาบน้ำ แต่งตัว
- F43.0F2R-5: ญาติให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และสื่อสารกับทีมสุขภาพได้ดี
...................................................................
F43.0F3: นอนไม่หลับ
หรือนอนหลับไม่เพียงพอ (Disturbed sleep pattern)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “นอนไม่หลับบ่อยๆ ตื่นกลางดึกทุกคืน”
- “รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา แม้ว่าจะนอนครบ 8 ชั่วโมง”
- “มีความคิดวนเวียนจนไม่สามารถหลับได้”
O (Objective):
- ผู้ป่วยตื่นกลางดึกบ่อย หรือหลับช้าเกินไป
- ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าหลังจากตื่น
- การนอนหลับไม่ต่อเนื่อง อาจมีการนอนระหว่างวันเพื่อชดเชย
- สีหน้าเหนื่อยล้า ไม่สดชื่น
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีการนอนหลับที่เพียงพอและตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้ติดต่อกันอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงโดยไม่ตื่นกลางดึก
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่รู้สึกอ่อนล้าหรือเบื่อหน่าย
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับติดต่อกันได้ 6-8 ชั่วโมงโดยไม่ตื่นกลางดึก
- ผู้ป่วยบอกว่าไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อหน่ายหลังตื่น
- การประเมินตามแบบสอบถามเกี่ยวกับการนอน เช่น PSQI หรือ Epworth Sleepiness Scale แสดงผลเป็นปกติ
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้ภายในเวลา 30 นาทีหลังเข้านอน
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F3I-1: สร้างสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบและมืดสนิทเพื่อการนอนหลับที่ดี
- F43.0F3I-2: ประเมินนิสัยการนอนและกิจกรรมที่อาจรบกวนการนอน เช่น การดื่มกาแฟ หรือใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- F43.0F3I-3: แนะนำให้ผู้ป่วยสร้างกิจวัตรการนอนที่มีความสม่ำเสมอ เช่น การเข้านอนและตื่นเวลาเดียวกันทุกวัน
- F43.0F3I-4: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก หรือการฝึกสมาธิ (Mindfulness)
- F43.0F3I-5: จัดให้มีการทบทวนการใช้ยาหรือการรักษาที่อาจมีผลต่อการนอนหลับ เช่น ยาคลายเครียดหรือยานอนหลับ
- F43.0F3I-6: แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการทานอาหารหนักหรือน้ำตาลสูงก่อนเข้านอน
- F43.0F3I-7: ส่งเสริมการออกกำลังกายเบาๆ ในตอนเย็น เช่น การเดินเร็วหรือโยคะ เพื่อช่วยในการนอนหลับที่ดี
-
F43.0F3I-8: แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ก่อนเข้านอน
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F3R-1: ผู้ป่วยสามารถนอนหลับติดต่อกัน 6-8 ชั่วโมงโดยไม่ตื่นกลางดึก
- F43.0F3R-2: ผู้ป่วยรู้สึกสดชื่นและพักผ่อนเพียงพอหลังตื่นนอน
- F43.0F3R-3: ผู้ป่วยรายงานการนอนหลับที่ต่อเนื่องและไม่รบกวนการนอนระหว่างคืน
- F43.0F3R-4: ผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมในช่วงเช้าได้ดีขึ้นโดยไม่รู้สึกอ่อนเพลีย
- F43.0F3R-5: ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามกิจวัตรการนอนที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ
...............................................................................
F43.0F4 มีความวิตกกังวลมากเกินไป
(Excessive anxiety)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “รู้สึกกังวลตลอดเวลาแม้ไม่มีเหตุผลชัดเจน”
- “กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับคนในครอบครัว”
- “ไม่สามารถหยุดคิดเรื่องบางเรื่องได้”
O (Objective):
- สีหน้ากังวล ขาดสมาธิ
- พูดเร็ว พูดวน หรือเงียบผิดปกติ
- เหงื่อออกมือ ใจสั่น มือเย็น
- ตรวจพบชีพจรเร็วเล็กน้อย ขณะพัก
- ผู้ป่วยนอนไม่หลับหรือตื่นกลางดึก
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมความวิตกกังวลได้ภายในระดับที่เหมาะสม
- ผู้ป่วยรู้จักวิธีจัดการกับความเครียดและความวิตก
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมแสดงถึงการผ่อนคลายมากขึ้น
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานระดับความวิตกกังวลลดลงอย่างชัดเจน
- ผู้ป่วยมีสีหน้า น้ำเสียง ท่าทางผ่อนคลายมากขึ้น
- ไม่มีอาการทางกายที่เกิดจากความวิตก เช่น ใจสั่น ปวดหัว มือสั่น
- ผู้ป่วยสามารถใช้วิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเองได้
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F4I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลโดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น GAD-7
- F43.0F4I-2: ให้โอกาสผู้ป่วยระบายความรู้สึกและรับฟังอย่างตั้งใจโดยไม่ตัดสิน
- F43.0F4I-3: สอนเทคนิคการหายใจลึกและช้าเพื่อช่วยลดความตึงเครียด
- F43.0F4I-4: แนะนำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลงเบาๆ อ่านหนังสือ ฝึกสมาธิ
- F43.0F4I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยจดบันทึกความรู้สึกเพื่อระบายอารมณ์
- F43.0F4I-6: ประเมินสิ่งกระตุ้นความวิตกกังวล เช่น ข่าวสาร ลักษณะการทำงาน ความสัมพันธ์
- F43.0F4I-7: ประสานงานทีมสุขภาพจิตหากพบว่าผู้ป่วยมีระดับความวิตกกังวลรุนแรง
- F43.0F4I-8: ติดตามการใช้ยา เช่น ยาคลายเครียด หรือยากลุ่ม SSRI อย่างเหมาะสมตามแผนการรักษา
-
F43.0F4I-9: ให้คำปรึกษาครอบครัวในการสนับสนุนผู้ป่วยอย่างเข้าใจ
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F4R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าความวิตกกังวลลดลงอย่างชัดเจน
- F43.0F4R-2: ผู้ป่วยมีสีหน้าและพฤติกรรมสงบขึ้น
- F43.0F4R-3: ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคผ่อนคลายความเครียดได้ด้วยตนเอง
- F43.0F4R-4: ไม่มีอาการทางกายจากความวิตก เช่น ใจสั่น เหงื่อออกมากผิดปกติ
- F43.0F4R-5: ครอบครัวมีความเข้าใจและให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสม
.....................................................................
F43.0F5 มีปัญหาการสื่อสารหรือปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
(Impaired social interaction)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “ไม่อยากคุยกับใครเลย”
- “รู้สึกไม่มีใครเข้าใจ ไม่อยากออกจากบ้าน”
- “พูดไปก็ไม่มีใครฟัง”
O (Objective):
- หลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือสบตา
- พูดน้อย หรือหลีกเลี่ยงกลุ่มคน
- ไม่มีการสื่อสารหรือร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น
- สีหน้าขาดความสนใจ ไม่ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วย
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างได้อย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยแสดงออกถึงความเต็มใจในการสื่อสาร
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยเข้าร่วมพูดคุยหรือกิจกรรมกลุ่มได้โดยไม่หลีกเลี่ยง
- ผู้ป่วยตอบสนองต่อการพูดคุยอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสาร
- ผู้ป่วยสามารถแสดงความรู้สึกหรือความคิดเห็นกับผู้อื่น
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F5I-1: ประเมินรูปแบบการสื่อสารและความสามารถในการสร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้ป่วย
- F43.0F5I-2: สร้างสัมพันธภาพที่ดีและไว้วางใจ โดยไม่เร่งรัดการสนทนา
- F43.0F5I-3: ชวนผู้ป่วยพูดคุยเรื่องง่าย ๆ หรือสิ่งที่ผู้ป่วยสนใจ
- F43.0F5I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มขนาดเล็กหรือกิจกรรมที่ไม่กดดัน
- F43.0F5I-5: สังเกตพฤติกรรมตอบสนองต่อการสื่อสาร เช่น การสบตา น้ำเสียง ท่าทาง
- F43.0F5I-6: สอนทักษะการสื่อสาร เช่น วิธีเริ่มบทสนทนา การฟังอย่างตั้งใจ
- F43.0F5I-7: ช่วยให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในการโต้ตอบกับผู้อื่นในแต่ละวัน
- F43.0F5I-8: ปรึกษานักจิตวิทยาหรือกลุ่มสนับสนุนหากปัญหายังคงมีอย่างต่อเนื่อง
-
F43.0F5I-9: ส่งเสริมให้ครอบครัวร่วมสนับสนุนการฟื้นฟูปฏิสัมพันธ์ของผู้ป่วย
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F5R-1: ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
- F43.0F5R-2: ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มได้โดยไม่หลีกเลี่ยง
- F43.0F5R-3: ผู้ป่วยมีท่าทีเปิดใจต่อการพูดคุย และไม่ปฏิเสธการสนทนา
- F43.0F5R-4: ครอบครัวและผู้ดูแลรายงานว่าผู้ป่วยมีการตอบสนองที่ดีขึ้นในการปฏิสัมพันธ์
- F43.0F5R-5: ผู้ป่วยมีสีหน้าและภาษากายที่แสดงออกถึงความสนใจต่อการสื่อสาร
.......................................................................
F43.0F6 ขาดความรู้ในการดูแลตนเองเมื่อมีความเครียดเรื้อรัง
(Deficient knowledge about stress self-management)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “ไม่รู้จะจัดการความเครียดยังไง”
- “เครียดทุกวันแต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะดีขึ้น”
- “ไม่เคยรู้มาก่อนว่าความเครียดเรื้อรังอันตรายแค่ไหน”
O (Objective):
- ผู้ป่วยไม่มีความเข้าใจเรื่องการจัดการความเครียด
- ไม่มีทักษะการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ หรือการทำสมาธิ
- ไม่สามารถระบุสิ่งกระตุ้นความเครียดได้ชัดเจน
- ขาดแหล่งข้อมูลสนับสนุนหรือไม่มีการเข้ารับคำปรึกษา
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความเครียดเรื้อรังได้
- ผู้ป่วยสามารถฝึกทักษะหรือกิจกรรมเพื่อการจัดการความเครียดได้
- ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการดูแลตนเองเมื่อเกิดภาวะเครียด
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถระบุสาเหตุและผลกระทบของความเครียดเรื้อรังได้
- ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการจัดการความเครียดอย่างน้อย 3 วิธี
- ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมผ่อนคลายอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมดูแลตนเองที่เหมาะสมต่อการจัดการความเครียด
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F6I-1: ประเมินระดับความรู้และความเข้าใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับความเครียดเรื้อรัง
- F43.0F6I-2: ให้ข้อมูลเรื่องผลกระทบของความเครียดเรื้อรังต่อร่างกายและจิตใจ
- F43.0F6I-3: แนะนำเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก การทำสมาธิ หรือโยคะ
- F43.0F6I-4: สอนวิธีการจัดลำดับความสำคัญของปัญหาและการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน
- F43.0F6I-5: ส่งเสริมการทำบันทึกความเครียด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้จักสิ่งกระตุ้น
- F43.0F6I-6: แนะนำแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น คลินิกสุขภาพจิต แอปดูแลสุขภาพ
- F43.0F6I-7: ชักชวนให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม เช่น กลุ่มบำบัดหรือกลุ่มสนับสนุน
- F43.0F6I-8: ประเมินทัศนคติและความพร้อมของผู้ป่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- F43.0F6I-9: ให้คำแนะนำครอบครัวในการสนับสนุนการดูแลตนเองของผู้ป่วย
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F6R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีดูแลตนเองเมื่อเครียดได้อย่างชัดเจน
- F43.0F6R-2: ผู้ป่วยนำวิธีจัดการความเครียดไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
- F43.0F6R-3: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการควบคุมอารมณ์เมื่อเครียด
- F43.0F6R-4: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นหลังใช้เทคนิคที่ได้รับ
- F43.0F6R-5: ครอบครัวและผู้ดูแลรายงานว่าผู้ป่วยมีความเข้าใจและมีพฤติกรรมการดูแลตนเองที่ดีขึ้น
..............................................................
F43.0F7 ขาดแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพตนเอง
(Ineffective health maintenance)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “ไม่มีแรงจะลุกไปทำอะไรเลย”
- “รู้ว่าต้องกินยา ออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ทำ”
- “ปล่อยเลยตามเลย รู้สึกไม่มีจุดหมาย”
O (Objective):
- ไม่รับประทานอาหารตามเวลา
- ไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษา เช่น ลืมกินยา ไม่มาตามนัด
- สุขอนามัยส่วนบุคคลไม่เหมาะสม
- มีภาวะซึมเศร้าร่วม และ/หรือมีพฤติกรรมถอนตัวจากสังคม
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพตนเอง
- ผู้ป่วยมีแรงจูงใจและเริ่มปฏิบัติกิจกรรมดูแลสุขภาพอย่างน้อย 1 อย่าง
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการดูแลตนเองที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพของตนเองได้
- ผู้ป่วยเริ่มปฏิบัติอย่างน้อย 1 พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น การกินยา การนอน
- ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพตามที่วางแผนไว้
- ผู้ป่วยมีภาวะอารมณ์และแรงจูงใจที่ดีขึ้น
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F7I-1: ประเมินปัจจัยที่ส่งผลต่อการขาดแรงจูงใจ เช่น ความเชื่อส่วนตัว อารมณ์ หรือภาวะซึมเศร้า
- F43.0F7I-2: สร้างสัมพันธภาพที่ดี และส่งเสริมความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง
- F43.0F7I-3: ให้ข้อมูลเรื่องความสำคัญของการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน
- F43.0F7I-4: ร่วมกับผู้ป่วยตั้งเป้าหมายสุขภาพที่เป็นไปได้และเหมาะสมกับสถานการณ์
- F43.0F7I-5: ส่งเสริมให้จดบันทึกกิจกรรมสุขภาพที่ปฏิบัติในแต่ละวัน เช่น นอน กินยา ออกกำลังกาย
- F43.0F7I-6: ให้กำลังใจและคำชมเมื่อผู้ป่วยเริ่มปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพแม้เพียงเล็กน้อย
- F43.0F7I-7: แนะนำกิจกรรมง่ายๆ ที่ผู้ป่วยสามารถเริ่มต้นได้ เช่น เดินรอบบ้าน ฟังเพลงผ่อนคลาย
- F43.0F7I-8: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการช่วยสนับสนุนทางอารมณ์และการปฏิบัติ
-
F43.0F7I-9: นัดติดตามผลเป็นระยะ
เพื่อประเมินความก้าวหน้าและปรับแผนการพยาบาล
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F7R-1: ผู้ป่วยสามารถระบุพฤติกรรมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของตนเองได้
- F43.0F7R-2: ผู้ป่วยเริ่มปฏิบัติตามแผนดูแลสุขภาพอย่างน้อย 1 อย่างต่อเนื่อง
- F43.0F7R-3: ผู้ป่วยแสดงออกถึงความมั่นใจในการดูแลตนเองมากขึ้น
- F43.0F7R-4: ผู้ป่วยแสดงภาวะอารมณ์และแรงจูงใจที่ดีขึ้นจากเดิม
- F43.0F7R-5: ครอบครัวรายงานว่าผู้ป่วยเริ่มสนใจการดูแลสุขภาพและกิจวัตรประจำวันมากขึ้น
.......................................................
F43.0F8 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางกาย
เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Risk for physical complications
e.g., hypertension, arrhythmia)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “รู้สึกเครียดมากจนปวดหัว”
- “ใจสั่น เหมือนจะเป็นลม”
- “บางครั้งรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ”
O (Objective):
- มีความดันโลหิตสูงเมื่อวัดหลายครั้ง
- สัญญาณชีพผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- ปวดศีรษะหรือเจ็บหน้าอกจากความเครียด
- อาการเหนื่อยล้าหรือหายใจไม่สะดวก
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนทางกาย เช่น ความดันโลหิตสูงหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมความเครียดได้ดีขึ้นเพื่อป้องกันผลกระทบทางกาย
- ผู้ป่วยรับประทานยาและทำตามคำแนะนำจากแพทย์เพื่อควบคุมสัญญาณชีพได้
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ความดันโลหิตอยู่ในระดับปกติ
- ไม่มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือมีอาการลดลง
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายการควบคุมความเครียดและอธิบายประโยชน์ของการลดความเครียด
- อาการทางกาย เช่น ปวดหัวและเหนื่อยล้าลดลง
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F8I-1: ประเมินความดันโลหิตและชีพจรของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- F43.0F8I-2: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ หรือการฝึกหายใจลึกๆ
- F43.0F8I-3: สอนการออกกำลังกายเพื่อช่วยควบคุมความเครียด เช่น การเดินหรือการยืดเหยียด
- F43.0F8I-4: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์ เช่น การทานยาเพื่อลดความดันโลหิต
- F43.0F8I-5: แนะนำให้ผู้ป่วยพักผ่อนเพียงพอ และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เครียด
- F43.0F8I-6: ตรวจสอบและปรับแผนการรักษาตามความเหมาะสมหลังจากประเมินผลกระทบของความเครียดต่อสุขภาพ
-
F43.0F8I-7: ให้การสนับสนุนทางอารมณ์แก่ผู้ป่วยเพื่อลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนทางกาย
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F8R-1: ความดันโลหิตของผู้ป่วยลดลงอยู่ในช่วงที่แนะนำ
- F43.0F8R-2: หัวใจเต้นในอัตราปกติและไม่พบอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- F43.0F8R-3: ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการลดความเครียดที่พวกเขานำไปใช้ได้
- F43.0F8R-4: ผู้ป่วยแสดงให้เห็นถึงความสนใจในการติดตามการรักษาและการจัดการความเครียด
- F43.0F8R-5: อาการปวดหัวและเหนื่อยล้าลดลงหรือหายไป
...........................................................................
F43.0F9 ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูสุขภาพจิต
(Need for continued mental health support)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- “รู้สึกเครียดและวิตกกังวลตลอดเวลา”
- “บางครั้งรู้สึกไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ได้”
- “อยากมีคนคอยช่วยให้คำปรึกษาและสนับสนุนในการฟื้นฟูจิตใจ”
O (Objective):
- อารมณ์แปรปรวน หรือมีภาวะซึมเศร้า
- การทำกิจกรรมหรือการใช้ชีวิตประจำวันมีความยากลำบากเนื่องจากความเครียด
- ความสนใจหรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมลดลง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะได้รับการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความเครียดและอารมณ์ได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยจะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมและการดูแลตนเองได้ตามปกติ
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรับคำปรึกษาและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการกับความเครียดและอารมณ์
- ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมที่เคยทำได้ตามปกติและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น
- ไม่มีภาวะซึมเศร้าหรืออาการวิตกกังวลที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F9I-1: สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดหรือคำปรึกษาด้านสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง
- F43.0F9I-2: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยฝึกทักษะการจัดการความเครียด เช่น การหายใจลึกๆ หรือการทำสมาธิ
- F43.0F9I-3: ช่วยผู้ป่วยสร้างกิจวัตรประจำวันที่มีการผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกายหรือการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว
- F43.0F9I-4: สอนเทคนิคการจัดการกับอารมณ์และความวิตกกังวลในชีวิตประจำวัน
- F43.0F9I-5: เชื่อมโยงผู้ป่วยกับกลุ่มสนับสนุนหรือการพบปะกับบุคคลที่มีประสบการณ์คล้ายกัน
-
F43.0F9I-6: แนะนำให้ผู้ป่วยติดตามการรักษาและประเมินผลการฟื้นฟูสุขภาพจิตทุกครั้งที่ไปพบแพทย์
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F9R-1: ผู้ป่วยสามารถรับคำปรึกษาและสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง
- F43.0F9R-2: ผู้ป่วยเริ่มมีความสามารถในการจัดการกับความเครียดและอารมณ์ได้ดีขึ้น
- F43.0F9R-3: ผู้ป่วยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น เช่น การออกกำลังกายหรือการพบปะกับเพื่อน
- F43.0F9R-4: ผู้ป่วยแสดงท่าทีที่ดีขึ้นทั้งในด้านการสื่อสารและการเข้าร่วมกิจกรรมสังคม
- F43.0F9R-5: ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการจัดการความเครียดและอารมณ์ในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ
..................................................................
F43.0F10 เตรียมความพร้อมผู้ป่วยและครอบครัวก่อนจำหน่าย
(Readiness for discharge and family education)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S (Subjective):
- ผู้ป่วยกล่าวว่า "รู้สึกพร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดการความเครียดที่บ้าน"
- ครอบครัวของผู้ป่วยกล่าวว่า "เราต้องการทราบวิธีการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ป่วยที่บ้าน"
O (Objective):
- ผู้ป่วยมีความเข้าใจในขั้นตอนการดูแลตนเองหลังจำหน่าย
- ครอบครัวมีความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนผู้ป่วย
- ผู้ป่วยสามารถระบุแหล่งสนับสนุน (เช่น การพบแพทย์หรือกลุ่มสนับสนุน) หลังการจำหน่าย
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจวิธีการดูแลตนเองหลังการจำหน่าย
- ผู้ป่วยมีความรู้เกี่ยวกับแหล่งสนับสนุนสุขภาพจิตที่สามารถเข้าถึงได้
- ครอบครัวสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยในการจัดการความเครียดและสุขภาพจิต
- ผู้ป่วยสามารถติดตามผลการรักษาต่อเนื่องหลังการจำหน่ายได้
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายแผนการดูแลหลังการจำหน่าย
- ครอบครัวเข้าใจบทบาทในการสนับสนุนผู้ป่วย
- ผู้ป่วยสามารถระบุแหล่งสนับสนุนหรือการติดต่อกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพจิต
- ผู้ป่วยและครอบครัวมีความพึงพอใจในข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับการดูแลตนเอง
🛡️ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F43.0F10I-1: อธิบายแผนการดูแลตนเองหลังการจำหน่ายให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจ รวมถึงการดูแลสุขภาพจิตและการรับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ
- F43.0F10I-2: จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งสนับสนุนสุขภาพจิตในชุมชน (เช่น ศูนย์สุขภาพจิต หรือกลุ่มสนับสนุน)
- F43.0F10I-3: สอนวิธีการจัดการความเครียดและอารมณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การทำสมาธิ หรือการฝึกหายใจ
- F43.0F10I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่องผ่านการนัดหมายหรือการติดต่อกับเจ้าหน้าที่
- F43.0F10I-5: ประเมินความเข้าใจของผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตและการรับการสนับสนุนหลังการจำหน่าย
-
F43.0F10I-6: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ป่วยและครอบครัวมีแผนการดูแลที่ชัดเจนและรู้วิธีการรับการสนับสนุนในกรณีที่เกิดปัญ
✅ Response (การตอบสนอง)
- F43.0F10R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายแผนการดูแลตนเองหลังการจำหน่ายอย่างชัดเจน
- F43.0F10R-2: ครอบครัวแสดงความเข้าใจในบทบาทของตนในการสนับสนุนผู้ป่วย
- F43.0F10R-3: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถระบุแหล่งสนับสนุนหรือบริการที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงได้
- F43.0F10R-4: ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจในการดูแลตนเองและการรับการสนับสนุนหลังการจำหน่าย
- F43.0F10R-5: ครอบครัวและผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามแผนการดูแลและประเมินผลการติดตามได้ตามที่กำหนด
.................................................................................