🎯 รู้เท่าทัน “โรคหลอดเลือดสมอง” (Stroke)
รหัส I63: Cerebral Infarction
✅สมองขาดเลือดเฉียบพลัน
- หลอดเลือดตีบ ตัน หรือแตก ทำให้สมองเสียหายทันที
✅สมองถูกกด-หยุดสั่งงาน
- เลือดไปไม่ถึง → สมองบางส่วนตาย
- หรือเลือดออก → คั่งในสมอง กดทับเนื้อสมอง ทำให้สั่งงานไม่ได้
- พบมากวัย 50 + คนอายุน้อยก็เสี่ยง หากมีเบาหวาน ความดัน หรือสูบบุหรี่
✅ปัจจัยเสี่ยง
- 🌟 ความดันโลหิตสูง 🌟 เบาหวาน
- 🌟 ไขมันในเลือดสูง 🌟 สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า
- 🌟 ขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกิน
✅สัญญาณเตือน (อาการ) จำให้แม่น: FAST
- 🧠 F – หน้าเบี้ยว 🧠 A - แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก
- 🧠 S - พูดไม่ชัด/พูดไม่ได้ 🧠 T - รีบพาส่งโรงพยาบาลทันที!
✅การรักษา
- 📌ให้ยาละลายลิ่มเลือด (ถ้ามาทันภายใน 4.5 ชั่วโมง)
- 📌ผ่าตัดกรณีเลือดออก
- 📌ฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยกายภาพบำบัด
✅บทบาทพยาบาล
- 📌เฝ้าระวังอาการซ้ำ
- 📌ช่วยเหลือฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ
- 📌สอนญาติให้ดูแลและป้องกันโรคในอนาคต
✅วิธีดูแลตัวเองสำหรับบุคคลทั่วไป
- ❤️ ตรวจสุขภาพประจำปี ❤️ คุมความดัน เบาหวาน ไขมัน
- ❤️ เลิกบุหรี่ เหล้า ❤️ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ❤️ ถ้าเริ่มมีอาการ FAST → โทร 1669 ทันที!
................................................................
🧠 การวินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วย Stroke (I63) ที่พบบ่อยและสำคัญ
- I63F1 เสี่ยงต่อสมองขาดเลือดเพิ่มหรือบวมมากขึ้น (Risk for increased cerebral ischemia or cerebral edema)
- I63F2 การหายใจไม่มีประสิทธิภาพจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Impaired breathing pattern due to muscle weakness)
- I63F3 เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้บางส่วน (Impaired physical mobility)
- I63F4 พูดหรือสื่อสารไม่ได้ตามปกติ (Impaired verbal communication)
- I63F5 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบจากการสำลักหรือแผลกดทับ (Risk for complications such as aspiration pneumonia or pressure ulcers)
- I63F6 มีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวลจากความพิการ (Depressed mood or anxiety related to disability)
- I63F7 ขาดความรู้ในการดูแลตนเองหลังกลับบ้าน (Deficient knowledge about self-care after discharge)
- I63F8 พร้อมกลับบ้านแต่ต้องวางแผนการฟื้นฟูและติดตามต่อเนื่อง (Readiness for enhanced rehabilitation and follow-up)
...........................................................................
I63F1 เสี่ยงต่อสมองขาดเลือดเพิ่มหรือบวมมากขึ้น
(Risk for increased cerebral ischemia or cerebral edema)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นปวดศีรษะมาก อึดอัด พูดช้า ซึมลง
O:
- ระดับความรู้สึกตัวลดลง (Glasgow Coma Scale)
- แขนขาซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรงมากขึ้น
- ความดันโลหิตสูง > 180/110 mmHg
- อัตราการหายใจเพิ่มขึ้น
- รูม่านตาไม่เท่ากันหรือไม่ตอบสนองต่อแสง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองเพียงพอ
- ไม่เกิดสมองบวมเพิ่ม
- อาการทางระบบประสาทคงที่หรือดีขึ้น
- ไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ระดับรู้สึกตัวดีขึ้นหรือคงที่ (GCS ≥ 12)
- ไม่มีอาการทางระบบประสาทแย่ลง
- สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
- ไม่มีอาการบวมของสมอง เช่น ซึมลง หายใจลำบากเพิ่มขึ้น
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ✅ I63F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพทุก 15–30 นาทีใน 2 ชั่วโมงแรก แล้วทุก 1–2 ชั่วโมงตามแผน เพื่อเฝ้าระวังความดันสูง/ต่ำผิดปกติ
- ✅ I63F1I-2: ประเมินระดับรู้สึกตัว (GCS) และตรวจการตอบสนองของรูม่านตาเป็นระยะ เพื่อจับสัญญาณสมองบวมแต่เนิ่น ๆ
- ✅ I63F1I-3: จัดท่านอนศีรษะสูง 30 องศา เพื่อลดแรงดันในกะโหลกศีรษะ
- ✅ I63F1I-4: เฝ้าระวังอาการทางระบบประสาท เช่น แขนขาอ่อนแรงมากขึ้น พูดไม่ได้หรือซึมลง
- ✅ I63F1I-5: ให้ยาตามแผนแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น ยาลดความดัน ยาลดบวมสมอง
- ✅ I63F1I-6: จำกัดของเหลวถ้าจำเป็นตามคำสั่งแพทย์ เพื่อลดภาระในสมอง
👌 Response (การตอบสนอง)
- ⭐ I63F1R-1: ผู้ป่วยมีระดับรู้สึกตัวคงที่ (GCS ไม่ลดลง)
- ⭐ I63F1R-2: ไม่มีสัญญาณสมองบวมเพิ่ม (ไม่มีซึมลงหรือหายใจลำบาก)
- ⭐ I63F1R-3: สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
- ⭐ I63F1R-4: ผลตรวจทางระบบประสาทไม่แย่ลง
............................................................
I63F2 การหายใจไม่มีประสิทธิภาพจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง
(Impaired breathing pattern due to muscle weakness)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นเหนื่อยหอบ หายใจติดขัด โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนท่า
O:
- อัตราการหายใจ > 24 ครั้ง/นาที
- ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจ เหนื่อยง่าย
- ฟังเสียงปอดพบเสมหะคั่งหรือเสียงครืดคราด
- ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 92% (SpO₂ < 92%)
- อกเคลื่อนไหวไม่สมมาตร
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยหายใจได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ
- ระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ไม่มีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นหรือหายใจล้มเหลว
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- อัตราการหายใจอยู่ในช่วง 12–20 ครั้ง/นาที
- SpO₂ ≥ 95% โดยไม่ต้องใช้ออกซิเจนเสริมหรือใช้น้อยลง
- ไม่มีเสียงเสมหะคั่งในปอด
- ผู้ป่วยไม่เหนื่อยหอบหรือใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจ
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ✅ I63F2I-1: ประเมินอัตรา ลักษณะ และเสียงหายใจทุก 1–2 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังภาวะหายใจล้มเหลว
- ✅ I63F2I-2: ตรวจค่าออกซิเจนในเลือด (SpO₂) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนก๊าซ
- ✅ I63F2I-3: จัดท่านอนศีรษะสูง 30–45 องศา เพื่อลดแรงกดของช่องท้องต่อปอดและช่วยให้ปอดขยายตัว
- ✅ I63F2I-4: ดูดเสมหะเมื่อมีเสมหะคั่ง เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
- ✅ I63F2I-5: ให้การดูแลเรื่องการกลืนอาหารและน้ำอย่างระมัดระวัง เพื่อลดความเสี่ยงสำลัก
- ✅ I63F2I-6: ให้ออกซิเจนเสริมตามแผนแพทย์ถ้า SpO₂ < 92%
- ✅ I63F2I-7: กระตุ้นให้หายใจลึกและไอเพื่อระบายเสมหะ ถ้าไม่มีข้อห้าม
👌 Response (การตอบสนอง)
- ⭐ I63F2R-1: ผู้ป่วยหายใจได้เองอย่างราบรื่น อัตราการหายใจปกติ
- ⭐ I63F2R-2: SpO₂ ≥ 95% ต่อเนื่อง
- ⭐ I63F2R-3: ไม่มีเสียงเสมหะคั่งหรือครืดคราดในปอด
- ⭐ I63F2R-4: ผู้ป่วยไม่เหนื่อยหอบหรือใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจ
- ⭐ I63F2R-5: ไม่มีภาวะสำลักหรือปอดอักเสบแทรกซ้อน
..............................................................
I63F3 เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้บางส่วน
(Impaired physical mobility)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “ขยับแขนขาซีกนี้ไม่ได้” หรือ “ไม่มีแรง”
O:
- แขนขาซีกหนึ่งอ่อนแรงหรือขยับไม่ได้
- กล้ามเนื้อลีบเล็กลง
- ไม่สามารถลุกเอง เดินเองได้
- มีรอยแดงหรือกดเจ็บที่ผิวหนังจากแรงกด
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยเคลื่อนไหวร่างกายได้มากขึ้นตามศักยภาพ
- ไม่มีแผลกดทับหรือข้อติดยึด
- สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้บางส่วนด้วยตนเอง
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยขยับแขนขาซีกอ่อนแรงได้มากขึ้นหรือมีแรงเพิ่ม
- ไม่มีรอยแผลกดทับหรือบวมแดงตามจุดรับน้ำหนัก
- ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ตามองศาปกติ
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ✅ I63F3I-1: ประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวของแขนขาเป็นระยะ
- ✅ I63F3I-2: จัดท่านอนที่ถูกต้องและเปลี่ยนท่าทุก 2 ชั่วโมงเพื่อลดแรงกดที่ผิวหนัง
- ✅ I63F3I-3: ทำกายภาพขยับข้อแบบ Passive ROM (Range of Motion) วันละ 2–3 ครั้งเพื่อป้องกันข้อติด
- ✅ I63F3I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยใช้แขนขาที่อ่อนแรงทำกิจกรรมเท่าที่ทำได้
- ✅ I63F3I-5: ใช้หมอนรองส่วนต่าง ๆ เพื่อจัดแนวกระดูกและลดแรงกด
- ✅ I63F3I-6: ประเมินสภาพผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่รับแรงกด เช่น ส้นเท้า สะโพก
- ✅ I63F3I-7: แนะนำญาติให้ช่วยประคอง ขยับตัว และดูแลผิวหนังอย่างถูกต้อง
👌 Response (การตอบสนอง)
- ⭐ I63F3R-1: ผู้ป่วยสามารถขยับแขนขาซีกอ่อนแรงได้มากขึ้น
- ⭐ I63F3R-2: ไม่มีแผลกดทับหรือรอยแดงตามจุดรับน้ำหนัก
- ⭐ I63F3R-3: ข้อต่อไม่ติดยึด ขยับได้ตามองศาปกติ
- ⭐ I63F3R-4: ผู้ป่วยมีส่วนร่วมทำกิจวัตรประจำวันบางส่วนได้เอง
....................................................................
I63F4 พูดหรือสื่อสารไม่ได้ตามปกติ
(Impaired verbal communication)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพยายามพูดแต่ฟังไม่รู้เรื่อง หรือส่ายหัวเมื่อถาม
O:
- พูดไม่ได้ พูดช้า หรือพูดคำซ้ำ
- แสดงสีหน้าสับสนเมื่อสื่อสาร
- ตอบสนองช้า ไม่เข้าใจคำสั่งง่าย ๆ
- ใช้ท่าทางหรือแววตาแทนคำพูด
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความต้องการพื้นฐานได้
- ลดความสับสนและความเครียดจากการสื่อสารผิดพลาด
- ญาติและผู้ดูแลเข้าใจวิธีสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยแสดงความต้องการได้ด้วยวิธีอื่น (เช่น ชี้หรือเขียน)
- ญาติสามารถเข้าใจสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการสื่อสาร
- ผู้ป่วยแสดงสีหน้าผ่อนคลาย ไม่หงุดหงิดเมื่อสื่อสาร
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ✅ I63F4I-1: ประเมินระดับความเข้าใจและความสามารถด้านภาษา เพื่อเลือกวิธีสื่อสารที่เหมาะสม
- ✅ I63F4I-2: จัดหากระดานตัวอักษร ภาพสัญลักษณ์ หรือกระดาษดินสอให้ผู้ป่วยใช้สื่อสาร
- ✅ I63F4I-3: ใช้คำสั้น ช้า ชัดเจน และซ้ำเมื่อต้องการสื่อสารกับผู้ป่วย
- ✅ I63F4I-4: สอนญาติให้สื่อสารด้วยท่าทาง ภาพ หรือคำถามแบบเลือกตอบ
- ✅ I63F4I-5: เฝ้าระวังภาวะหงุดหงิดหรือซึมเศร้าเนื่องจากสื่อสารไม่ได้
- ✅ I63F4I-6: ให้กำลังใจผู้ป่วยทุกครั้งที่สามารถสื่อสารได้สำเร็จ
👌 Response (การตอบสนอง)
- ⭐ I63F4R-1: ผู้ป่วยสามารถสื่อสารความต้องการพื้นฐานได้ด้วยวิธีอื่น
- ⭐ I63F4R-2: ญาติสามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วยได้ถูกต้อง
- ⭐ I63F4R-3: ผู้ป่วยแสดงสีหน้าผ่อนคลายและมีส่วนร่วมในการสื่อสาร
- ⭐ I63F4R-4: ผู้ป่วยไม่หงุดหงิดหรือซึมเศร้าเมื่อสื่อสาร
................................................................
I63F5 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
เช่น ปอดอักเสบจากการสำลักหรือแผลกดทับ (Risk for complications such as
aspiration pneumonia or pressure ulcers)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นเจ็บบริเวณหลังหรือก้นเมื่อพลิกตัว ชอบนอนท่าเดิมนาน ๆ
O:
- ผิวหนังบริเวณกดทับมีรอยแดงหรือกดไม่ยุบ
- ไอมาก มีเสมหะ เสียงหายใจครืดคราด
- ไข้ อุณหภูมิร่างกาย > 37.8°C
- SpO₂ < 92% หายใจเร็ว
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ป้องกันการเกิดแผลกดทับและปอดอักเสบจากการสำลัก
- รักษาความสะอาดของทางเดินหายใจ
- ผิวหนังแข็งแรง ไม่แตกหรือมีรอยแดงคงอยู่
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผิวหนังเรียบเนียน ไม่มีแผลกดทับ
- ไม่มีอาการติดเชื้อในปอดหรือไข้สูง
- การหายใจปกติ SpO₂ ≥ 95%
- ไม่มีเสมหะคั่งในปอด
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ✅ I63F5I-1: ประเมินผิวหนังทุก 8 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณกดทับ เช่น สะโพก หลัง ส้นเท้า
- ✅ I63F5I-2: พลิกตะแคงตัวเปลี่ยนท่าทุก 2 ชั่วโมงเพื่อลดแรงกด
- ✅ I63F5I-3: ใช้ที่นอนลม หรือหมอนรองจุดกดทับเพื่อลดแรงเสียดสี
- ✅ I63F5I-4: ประเมินเสียงหายใจ อัตราการหายใจ และ SpO₂ ทุก 4 ชั่วโมง
- ✅ I63F5I-5: จัดท่าศีรษะสูง 30–45 องศาระหว่างกินอาหารและหลังอาหารอย่างน้อย 30 นาที
- ✅ I63F5I-6: ให้ผู้ป่วยกลืนอาหารคำเล็ก ๆ เคี้ยวช้า เพื่อป้องกันการสำลัก
- ✅ I63F5I-7: ดูดเสมหะเมื่อมีเสมหะคั่งในลำคอหรือหายใจลำบาก
- ✅ I63F5I-8: สังเกตสัญญาณติดเชื้อ เช่น ไข้ เสมหะข้น หายใจเร็ว
👌 Response (การตอบสนอง)
- ⭐ I63F5R-1: ผู้ป่วยไม่มีแผลกดทับ ผิวหนังเรียบเนียน
- ⭐ I63F5R-2: หายใจสะดวก SpO₂ ≥ 95%
- ⭐ I63F5R-3: ไม่มีอาการสำลักขณะรับประทานอาหาร
- ⭐ I63F5R-4: ไม่มีไข้หรือติดเชื้อทางเดินหายใจ
- ⭐ I63F5R-5: ญาติหรือผู้ดูแลสามารถพลิกตัวและช่วยดูแลผิวหนังได้ถูกต้อง
...................................................................
I63F6 มีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวลจากความพิการ (Depressed mood or anxiety related to disability)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยพูดว่า “ไม่อยากอยู่แล้ว” หรือ “คงไม่มีทางดีขึ้น”
O:
- สีหน้าหมอง ซึม ไม่สบตา
- นอนเฉย ไม่ให้ความร่วมมือทำกิจกรรม
- มีอาการร้องไห้ เงียบ ไม่พูดคุย
- แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือวิตกกังวลเมื่อพูดถึงอนาคต
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีกำลังใจและยอมรับสภาพความพิการ
- ลดความรู้สึกสิ้นหวังและวิตกกังวล
- ญาติมีส่วนร่วมให้กำลังใจและสนับสนุน
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยแสดงสีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น
- พูดคุย แสดงความคิดเห็นกับทีมดูแล
- เข้าร่วมกิจกรรมฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ
- ญาติแสดงบทบาทสนับสนุนได้ดี
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ✅ I63F6I-1: ประเมินสภาพจิตใจ ความคิด ความรู้สึกของผู้ป่วยทุกวัน
- ✅ I63F6I-2: พูดคุยอย่างเป็นมิตร ให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกโดยไม่ตำหนิ
- ✅ I63F6I-3: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการ การฟื้นฟู และความเป็นไปได้ในการฟื้นตัว เพื่อสร้างความหวัง
- ✅ I63F6I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมง่าย ๆ ด้วยตนเองเท่าที่ทำได้ เพื่อสร้างความมั่นใจ
- ✅ I63F6I-5: เชิญญาติร่วมให้กำลังใจ อยู่กับผู้ป่วยขณะฝึกกิจกรรมต่าง ๆ
- ✅ I63F6I-6: ประสานจิตแพทย์หรือทีมสุขภาพจิตหากมีความเสี่ยงฆ่าตัวตายหรือภาวะซึมเศร้ารุนแรง
👌 Response (การตอบสนอง)
- ⭐ I63F6R-1: ผู้ป่วยยอมรับสภาพและพูดคุยเรื่องอนาคตได้
- ⭐ I63F6R-2: ผู้ป่วยเข้าร่วมทำกิจกรรมฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง
- ⭐ I63F6R-3: แสดงสีหน้าและพฤติกรรมที่ผ่อนคลายขึ้น
- ⭐ I63F6R-4: ญาติให้กำลังใจและอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิด
- ⭐ I63F6R-5: ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายต่อตนเอง
.................................................................
I63F7 ขาดความรู้ในการดูแลตนเองหลังกลับบ้าน
(Deficient knowledge about self-care after discharge)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วย/ญาติกล่าวว่า “ไม่รู้ต้องทำยังไงต่อหลังกลับบ้าน”
O:
- ผู้ป่วยไม่สามารถอธิบายวิธีออกกำลังกายฟื้นฟูได้
- ญาติไม่ทราบชื่อหรือขนาดยาที่ต้องกิน
- ผู้ป่วย/ญาติไม่รู้จักสัญญาณเตือนของโรคซ้ำ
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยและญาติแสดงความเข้าใจวิธีดูแลตนเองหลังกลับบ้าน
- ป้องกันการเกิดโรคซ้ำและภาวะแทรกซ้อน
- สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้ถูกต้อง
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วย/ญาติอธิบายขั้นตอนดูแลตนเองได้ถูกต้อง
- สามารถแสดงวิธีออกกำลังกายง่าย ๆ ได้
- รู้จักสัญญาณอันตรายและแจ้งเมื่อพบอาการผิดปกติ
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ✅ I63F7I-1: ประเมินความรู้เดิมของผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเอง
- ✅ I63F7I-2: อธิบายวิธีรับประทานยา ขนาดยา เวลา และผลข้างเคียงที่ควรระวัง
- ✅ I63F7I-3: สอนท่าบริหารร่างกายง่าย ๆ ที่ผู้ป่วยสามารถทำได้เองที่บ้าน
- ✅ I63F7I-4: แนะนำการควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- ✅ I63F7I-5: แจ้งสัญญาณอันตราย เช่น พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรงใหม่ ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที
- ✅ I63F7I-6: แจกเอกสารแนะนำ หรือเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานที่ให้คำปรึกษาหลังกลับบ้าน
- ✅ I63F7I-7: เปิดโอกาสให้ผู้ป่วย/ญาติซักถามและตอบข้อสงสัย
👌 Response (การตอบสนอง)
- ⭐ I63F7R-1: ผู้ป่วยและญาติสามารถอธิบายวิธีดูแลตนเองได้ถูกต้อง
- ⭐ I63F7R-2: ผู้ป่วยรับประทานยาและออกกำลังกายตามแผนได้เอง
- ⭐ I63F7R-3: ญาติรู้จักสัญญาณอันตรายและแสดงความพร้อมในการช่วยดูแล
- ⭐ I63F7R-4: ผู้ป่วยมีความมั่นใจและแสดงท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น
.......................................................................
I63F8 พร้อมกลับบ้านแต่ต้องวางแผนการฟื้นฟูและติดตามต่อเนื่อง
(Readiness for enhanced rehabilitation and follow-up)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วย/ญาติกล่าวว่า “อยากกลับบ้านแล้ว” หรือ “จะกลับไปทำกายภาพต่อที่บ้าน”
O:
- อาการทางกายคงที่ ไม่มีสัญญาณชีพผิดปกติ
- เคลื่อนไหวหรือช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
- ญาติแสดงความพร้อมที่จะดูแลและพาผู้ป่วยมาติดตามนัด
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
- มีแผนฟื้นฟูร่างกายและติดตามต่อเนื่องที่เหมาะสม
- สิ่งแวดล้อมในบ้านเอื้อต่อการฟื้นฟูและป้องกันอุบัติเหตุ
📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยและญาติอธิบายแผนฟื้นฟูและนัดติดตามได้ถูกต้อง
- ปรับบ้านให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเรียบร้อย
- ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ✅ I63F8I-1: ประเมินสภาพร่างกาย จิตใจ และความพร้อมของผู้ป่วยและญาติในการกลับบ้าน
- ✅ I63F8I-2: วางแผนกายภาพบำบัดต่อเนื่องหลังกลับบ้าน ร่วมกับทีมฟื้นฟูสมรรถภาพ
- ✅ I63F8I-3: นัดหมายติดตามอาการตามแผนการรักษา พร้อมแจ้งวัน เวลา และหน่วยงานที่นัด
- ✅ I63F8I-4: ให้คำแนะนำในการปรับสภาพแวดล้อมบ้าน เช่น ปรับห้องนอนให้เดินสะดวก ติดราวจับ
- ✅ I63F8I-5: สอนญาติวิธีช่วยเหลือผู้ป่วยในชีวิตประจำวันและสังเกตสัญญาณผิดปกติ
- ✅ I63F8I-6: แจกเบอร์โทรฉุกเฉินหรือหน่วยงานให้คำปรึกษาในกรณีเร่งด่วน
- ✅ I63F8I-7: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมวางแผนฟื้นฟูและแสดงความต้องการของตนเอง
👌 Response (การตอบสนอง)
- ⭐ I63F8R-1: ผู้ป่วยและญาติสามารถอธิบายแผนฟื้นฟูและการนัดติดตามได้ถูกต้อง
- ⭐ I63F8R-2: บ้านปรับสภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับความปลอดภัยของผู้ป่วย
- ⭐ I63F8R-3: ผู้ป่วยกลับบ้านและเริ่มฟื้นฟูร่างกายต่อเนื่องได้ตามแผน
- ⭐ I63F8R-4: ญาติให้การดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสมและสังเกตอาการได้
.............................................................................
📚 เอกสารอ้างอิง
- สมาคมโรคหลอดเลือดสมองแห่งประเทศไทย. (2565). แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทย (Thai Stroke Guidelines 2022). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
- สภาการพยาบาล. (2561). มาตรฐานการพยาบาลและการผดุงครรภ์แห่งชาติ พ.ศ. 2561. กรุงเทพฯ: สภาการพยาบาล.
- Powers, W. J., Rabinstein, A. A., Ackerson, T., Adeoye, O. M., Bambakidis, N. C., Becker, K., … & Tirschwell, D. L. (2019). 2018 Guidelines for the Early Management of Patients with Acute Ischemic Stroke: A Guideline for Healthcare Professionals From the American Heart Association/American Stroke Association. Stroke, 49(3), e46–e110. https://doi.org/10.1161/STR.0000000000000158
- World Health Organization. (2017). Stroke: a global response is needed. WHO Bulletin. Retrieved from: https://www.who.int/news/item/29-10-2017-stroke-a-global-response-is-needed