เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

EP.84 Med. Topic 4 โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (โรคหัวใจขาดเลือด) : I25.1 [Atherosclerotic Heart Disease]


❤️ โรคหัวใจขาดเลือด…รู้เร็ว รักษาได้ทัน!

ความหมายของโรค

  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ คือ หลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจมีไขมันและคราบพังผืดเกาะ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้น้อยลง จนเจ็บหน้าอก หรือหัวใจวายได้

พยาธิสภาพ

  • ไขมันสะสมในผนังหลอดเลือด หลอดเลือดตีบแคบ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาจเสียชีวิตถ้าไม่รักษา
  • เจอมากในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะเพศชาย และหญิงวัยหมดประจำเดือน

ปัจจัยเสี่ยง

  • สูบบุหรี่
  • เบาหวาน
  • ไขมันในเลือดสูง
  • ความดันโลหิตสูง
  • ขาดการออกกำลังกาย

อาการสังเกตง่ายๆ

  • เจ็บแน่นหน้าอกเหมือนถูกกดทับ ร้าวไปแขน คอ หรือกราม
  • เหนื่อยง่าย เหงื่อแตก ใจสั่น
  • บางรายเป็นตอนออกแรงหรือหลังอาหารหนักๆ

การรักษา

  • รับยาละลายลิ่มเลือด ยาขยายหลอดเลือด
  • ทำบอลลูน หรือผ่าตัดบายพาส
  • ควบคุมโรคประจำตัว ลดไขมันในเลือด

การพยาบาล

  • เฝ้าระวังอาการเจ็บหน้าอก สัญญาณชีพผิดปกติ
  • ช่วยให้ผู้ป่วยพักผ่อน ลดความเครียด
  • แนะนำวิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดปัจจัยเสี่ยง

การดูแลตัวเอง (บุคคลทั่วไป)

  • 🌱 งดบุหรี่ แอลกอฮอล์
  • 🏃 เดิน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • 🥗 เลือกอาหารไขมันต่ำ ลดเค็ม ลดหวาน
  • 🩺 ตรวจสุขภาพหัวใจและไขมันในเลือดทุกปี

…………………………………

🔷 สรุปสั้นๆ ดึงดูดคนดู (เอาไปใส่วิดีโอได้เลย)

แน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย เหงื่อแตก…หัวใจคุณกำลังส่งสัญญาณ”
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ รู้เร็ว รอดเร็ว!”
เลิกบุหรี่ ออกกำลัง กินผัก คุมเบาหวาน หัวใจแข็งแรง”
เจ็บหน้าอกไม่หาย รีบไปหาหมอทันที!”

………………………………………..

วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ : I25.1

  1. I25.1F1 เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Risk for acute heart failure related to myocardial ischemia)
  2. I25.1F2 เจ็บหน้าอกจากเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ (Acute pain related to decreased coronary blood flow)
  3. I25.1F3 ความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บหน้าอกและโรคหัวใจ (Anxiety related to chest pain and diagnosis of heart disease)
  4. I25.1F4 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา เช่น ภาวะเลือดออกหลังทำหัตถการ (Risk for complications related to treatment such as bleeding after procedure)
  5. I25.1F5 ขาดความรู้เกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเองหลังจำหน่าย (Deficient knowledge related to disease process and self-care after discharge)
  6. I25.1F6 มีความเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำหากไม่ควบคุมปัจจัยเสี่ยง (Risk for recurrence related to uncontrolled risk factors)
  7. I25.1F7 ภาวะซึมเศร้าหรือหมดกำลังใจหลังวินิจฉัยโรคหัวใจ (Depressed mood related to chronic heart disease)
  8. I25.1F8 ขาดการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมในการดูแลระยะยาว (Ineffective family or social support related to long-term care needs)

………………………………………………

I25.1F1 เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Risk for acute heart failure related to myocardial ischemia)

🔷 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นเหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก เหนื่อยมากขึ้นเมื่อออกแรง

O:

  • ชีพจรเร็ว >100 ครั้ง/นาที
  • ความดันโลหิตสูงหรือแปรปรวน
  • เสียงหายใจมีเสียงครืดคราด (crackles)
  • ขาบวม น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  • ปัสสาวะน้อยลง

🔷 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยไม่มีอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ภาวะการหายใจและไหลเวียนเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ไม่มีอาการบวมน้ำเพิ่มขึ้น
ผู้ป่วยรับรู้วิธีเฝ้าระวังอาการเสี่ยง

🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔸 น้ำหนักตัวไม่เพิ่มเกิน 1 กิโลกรัม/วัน
🔸 หายใจสม่ำเสมอ ไม่เหนื่อยหอบ
🔸 ไม่มีเสียงครืดคราดในปอดเพิ่มขึ้น
🔸 ไม่มีอาการบวมใหม่หรือรุนแรงขึ้น

🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

🩺 I25.1F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพและสังเกตอาการเหนื่อย แน่นหน้าอกทุก 4 ชั่วโมง
🩺 I25.1F1I-2: ชั่งน้ำหนักตัวทุกเช้าในเวลาเดียวกัน เฝ้าระวังการเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก
🩺 I25.1F1I-3: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
🩺 I25.1F1I-4: สังเกตเสียงหายใจและตรวจอาการบวมที่ขาเพื่อประเมินการคั่งน้ำ
🩺 I25.1F1I-5: จำกัดปริมาณน้ำและโซเดียมตามแผนการรักษา
🩺 I25.1F1I-6: ให้คำแนะนำผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับสัญญาณอันตรายของหัวใจล้มเหลว

🔷 Response (การตอบสนอง)

I25.1F1R-1: น้ำหนักตัวคงที่หรือลดลง ≤1 กิโลกรัม/วัน
I25.1F1R-2: ผู้ป่วยหายใจสะดวกขึ้น ไม่มีเสียงครืดคราดเพิ่มขึ้น
I25.1F1R-3: ไม่มีอาการบวมเพิ่มขึ้น ขาบวมน้อยลง
I25.1F1R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจสัญญาณอันตรายและวิธีปฏิบัติตัว

……………………………………………………………..

I25.1F2: เจ็บหน้าอกจากเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ (Acute pain related to decreased coronary blood flow)

🔷 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นแน่น เจ็บหน้าอก ร้าวไปแขนซ้ายหรือคอ

O:

  • สีหน้าบ่งบอกความเจ็บ (grimace)
  • เหงื่อแตก ตัวเย็น
  • ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตแปรปรวน
  • อาการเกิดขณะออกแรงหรือพัก

🔷 Goals (เป้าหมาย)

ลดความเจ็บหน้าอกให้หายหรืออยู่ในระดับทนได้
ผู้ป่วยสงบ ผ่อนคลาย ไม่มีอาการรุนแรงเพิ่ม
การไหลเวียนเลือดและสัญญาณชีพคงที่

🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔸 ผู้ป่วยรายงานระดับความเจ็บลดลง ≤ 3/10 ภายใน 30 นาที
🔸 สีหน้าและท่าทางสงบ เหงื่อแห้งลง
🔸 สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ

🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

🩺 I25.1F2I-1: ประเมินระดับความเจ็บหน้าอกเป็นตัวเลข (0–10) ทุก 15–30 นาที
🩺 I25.1F2I-2: ให้ผู้ป่วยนอนพักในท่าศีรษะสูง ลดกิจกรรมที่เพิ่มความต้องการออกซิเจน
🩺 I25.1F2I-3: ให้ยา Nitroglycerin ตามแผนการรักษาและสังเกตผลข้างเคียง
🩺 I25.1F2I-4: เฝ้าระวังสัญญาณชีพ ความดัน และคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)
🩺 I25.1F2I-5: สอนการหายใจช้า ลึก เพื่อผ่อนคลายและลดความวิตกกังวล
🩺 I25.1F2I-6: จัดสภาพแวดล้อมเงียบ ลดสิ่งรบกวนรอบตัว เพื่อให้ผู้ป่วยสงบ

🔷 Response (การตอบสนอง)

I25.1F2R-1: ผู้ป่วยรายงานระดับความเจ็บลดลง ≤3/10 ภายใน 30 นาที
I25.1F2R-2: สีหน้าและท่าทางผู้ป่วยสงบ เหงื่อแห้งลง
I25.1F2R-3: ไม่มีอาการรุนแรงเพิ่ม เช่น หายใจลำบาก หรือหมดสติ
I25.1F2R-4: สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ

………………………………………………….

I25.1F3: ความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บหน้าอกและโรคหัวใจ (Anxiety related to chest pain and diagnosis of heart disease)

🔷 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “กลัวว่าจะตาย” “ไม่หายแน่ๆ” “ทำไมเป็นโรคนี้”

O:

  • สีหน้าเคร่งเครียด มือกำแน่น เหงื่อออก
  • พูดเร็ว กระสับกระส่าย เดินไปมา
  • ชีพจรเร็ว ความดันสูง

🔷 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยผ่อนคลาย ระดับความวิตกกังวลลดลง
ผู้ป่วยเข้าใจโรคและแผนการรักษา
มีท่าทีร่วมมือในการดูแลและติดตามรักษา

🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔸 ผู้ป่วยรายงานว่าวิตกกังวลลดลง รู้สึกผ่อนคลาย
🔸 สีหน้าท่าทางสงบ ไม่กระสับกระส่าย
🔸 สัญญาณชีพกลับสู่เกณฑ์ปกติ
🔸 แสดงความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการรักษา

🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

🩺 I25.1F3I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลด้วยคำถามสั้นๆ และสังเกตพฤติกรรม
🩺 I25.1F3I-2: อยู่ใกล้ผู้ป่วย พูดคุยด้วยน้ำเสียงสงบ อธิบายเหตุผลที่เจ็บหน้าอกและแผนการรักษา
🩺 I25.1F3I-3: สอนเทคนิคการหายใจลึกและช้าเพื่อลดความเครียด
🩺 I25.1F3I-4: จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบ ลดสิ่งรบกวนรอบข้าง
🩺 I25.1F3I-5: สนับสนุนให้ครอบครัวมาอยู่เป็นเพื่อน เพื่อให้กำลังใจ
🩺 I25.1F3I-6: แจ้งแพทย์หากผู้ป่วยยังวิตกกังวลรุนแรงเพื่อพิจารณาให้ยา

🔷 Response (การตอบสนอง)

I25.1F3R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกสงบลง ระดับความวิตกกังวลลดลง
I25.1F3R-2: สีหน้าและท่าทางผ่อนคลาย ไม่กระสับกระส่าย
I25.1F3R-3: ชีพจรและความดันกลับสู่เกณฑ์ปกติ
I25.1F3R-4: ผู้ป่วยร่วมมือกับแผนการรักษาและเข้าใจแนวทางดูแลตนเอง

……………………………………………………….

 I25.1F4: เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา เช่น ภาวะเลือดออกหลังทำหัตถการ (Risk for complications related to treatment such as bleeding after procedure)

🔷 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “เจ็บแผลตรงขาหนีบ” “เหมือนมีเลือดซึมออกมา”

O:

  • มีผ้าปิดแผลที่ตำแหน่งเจาะ (เช่น ขาหนีบ/แขน)
  • สังเกตพบเลือดซึมหรือช้ำรอบแผล
  • ความดันโลหิตต่ำลง ชีพจรเร็วขึ้น
  • ผิวหนังซีด เย็น ปัสสาวะน้อยลง

🔷 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยไม่มีภาวะเลือดออกผิดปกติจากแผลหัตถการ
สัญญาณชีพคงที่
แผลแห้ง ไม่มีเลือดออกเพิ่ม

🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔸 แผลแห้ง ไม่มีเลือดซึมหรือบวมเพิ่ม
🔸 สีผิวรอบแผลปกติ ไม่ช้ำเพิ่ม
🔸 สัญญาณชีพปกติ
🔸 ผู้ป่วยแจ้งทันทีเมื่อรู้สึกผิดปกติที่แผล

🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

🩺 I25.1F4I-1: ประเมินแผลหัตถการทุก 15–30 นาทีใน 2 ชั่วโมงแรก และตามแผนหลังจากนั้น
🩺 I25.1F4I-2: ประเมินสีผิว อุณหภูมิ และการเต้นของชีพจรบริเวณปลายแขน/ขา
🩺 I25.1F4I-3: เฝ้าระวังสัญญาณชีพทุก 15–30 นาทีในช่วงแรกเพื่อหาภาวะเลือดออกภายใน
🩺 I25.1F4I-4: แนะนำผู้ป่วยให้นอนนิ่งข้างเดิม ไม่งอขา/งอแขนฝั่งที่เจาะใน 4–6 ชั่วโมงแรก
🩺 I25.1F4I-5: กดแผลให้แน่นและเปลี่ยนผ้าปิดแผลถ้าพบเลือดซึม
🩺 I25.1F4I-6: แจ้งแพทย์ทันทีถ้าเลือดออกมาก ซีดลง หรือชีพจรเต้นเร็วผิดปกติ

🔷 Response (การตอบสนอง)

I25.1F4R-1: แผลแห้ง ไม่มีเลือดซึมหรือบวมเพิ่ม
I25.1F4R-2: สีผิวรอบแผลและปลายแขน/ขาเป็นปกติ อุ่นดี
I25.1F4R-3: สัญญาณชีพคงที่ ไม่มีภาวะช็อก
I25.1F4R-4: ผู้ป่วยให้ความร่วมมือนอนนิ่งและแจ้งเมื่อรู้สึกผิดปกติ

…………………………………………………….

I25.1F5: ขาดความรู้เกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเองหลังจำหน่าย (Deficient knowledge related to disease process and self-care after discharge)

🔷 Assessment (การประเมิน)

S:

ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่รู้ต้องกินยานานแค่ไหน” “กลับบ้านแล้วทำอะไรได้บ้าง”

O:

สอบถามแล้วตอบคำถามเกี่ยวกับโรคและการดูแลผิดพลาดหรือไม่ทราบ

ครอบครัวไม่ทราบบทบาทในการดูแลช่วยเหลือ

ไม่มีแผนการติดตามนัดที่ชัดเจน

🔷 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจโรคและการดูแลตนเอง
ปฏิบัติตามแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง
ลดโอกาสเกิดโรคซ้ำหลังกลับบ้าน

🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔸 ผู้ป่วยอธิบายเกี่ยวกับโรค สาเหตุ อาการเตือน และการป้องกันได้ถูกต้อง
🔸 แสดงวิธีดูแลตนเอง เช่น กินยา ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายได้ถูกต้อง
🔸 เข้ารับการตรวจตามนัด และแจ้งเมื่อมีอาการผิดปกติ

🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

🩺 I25.1F5I-1: ประเมินความรู้เดิมของผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับโรคและการดูแล
🩺 I25.1F5I-2: อธิบายสาเหตุของโรค อาการเตือน และความสำคัญของการควบคุมปัจจัยเสี่ยง
🩺 I25.1F5I-3: สอนการใช้ยาอย่างถูกต้อง เช่น เวลา ขนาด และผลข้างเคียงที่ต้องระวัง
🩺 I25.1F5I-4: แนะนำเรื่องอาหารสุขภาพ ลดเค็ม ไขมัน และน้ำตาล
🩺 I25.1F5I-5: แนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสม และการเลิกบุหรี่/แอลกอฮอล์
🩺 I25.1F5I-6: สอนสังเกตอาการเสี่ยง เช่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยผิดปกติ และแนะนำให้พบแพทย์ทันที
🩺 I25.1F5I-7: จัดทำแผนติดตามการนัดหมาย และเบอร์ติดต่อเมื่อมีข้อสงสัย

🔷 Response (การตอบสนอง)

I25.1F5R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวอธิบายโรคและวิธีป้องกันได้ถูกต้อง
I25.1F5R-2: ผู้ปฏิบัติตามแผนการใช้ยาและอาหารได้อย่างสม่ำเสมอ
I25.1F5R-3: ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจในการดูแลตนเองหลังกลับบ้าน
I25.1F5R-4: ผู้ป่วยมาตามนัดและแจ้งเมื่อมีอาการผิดปกติ

…………………………………………………….

I25.1F6: มีความเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำหากไม่ควบคุมปัจจัยเสี่ยง (Risk for recurrence related to uncontrolled risk factors)

🔷 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “ยังสูบบุหรี่บ้าง” “ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “ยังทานของมัน ของเค็ม”

O:

  • ระดับไขมันในเลือดยังสูง ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง
  • น้ำหนักเกิน/โรคอ้วน
  • ไม่มีแผนปรับพฤติกรรมหลังจำหน่ายที่ชัดเจน

🔷 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยเข้าใจปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบ
เริ่มปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง
ลดโอกาสเกิดโรคซ้ำ

🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔸 ผู้ป่วยอธิบายปัจจัยเสี่ยงและแนวทางควบคุมได้ถูกต้อง
🔸 เริ่มปรับพฤติกรรม เช่น ควบคุมอาหาร เลิกบุหรี่ ออกกำลังกาย
🔸 ผลการตรวจติดตามดีขึ้นตามเกณฑ์

🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

🩺 I25.1F6I-1: ประเมินประวัติพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ กินอาหารไขมันสูง
🩺 I25.1F6I-2: ให้ความรู้เรื่องปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดัน ไขมัน เบาหวาน และผลเสียหากไม่ควบคุม
🩺 I25.1F6I-3: กระตุ้นให้วางแผนเลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ และสนับสนุนหาทางเลือกแทน
🩺 I25.1F6I-4: แนะนำการควบคุมอาหาร ลดเค็ม ลดไขมัน และเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ
🩺 I25.1F6I-5: ส่งเสริมการออกกำลังกายสม่ำเสมอที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
🩺 I25.1F6I-6: นัดติดตามตรวจระดับไขมัน ความดัน และน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง

🔷 Response (การตอบสนอง)

I25.1F6R-1: ผู้ป่วยอธิบายได้ว่าปัจจัยเสี่ยงของตนคืออะไร และต้องแก้ไขอย่างไร
I25.1F6R-2: เริ่มปรับพฤติกรรม เช่น งดบุหรี่ ควบคุมอาหาร หรือเริ่มออกกำลังกาย
I25.1F6R-3: น้ำหนักและค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการเริ่มดีขึ้นตามเกณฑ์
I25.1F6R-4: ผู้ป่วยแสดงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามแผนควบคุมความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

………………………………………………………..

I25.1F7: ภาวะซึมเศร้าหรือหมดกำลังใจหลังวินิจฉัยโรคหัวใจ

(Depressed mood related to chronic heart disease)

🔷 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “รู้สึกท้อแท้ เหนื่อยใจ ไม่อยากทำอะไร”

O:

  • สีหน้าเศร้า เบื่ออาหาร นอนมากหรือน้อยเกินไป
  • ขาดแรงจูงใจในการรักษาและดูแลตนเอง
  • พฤติกรรมเก็บตัว ไม่คุยกับคนรอบข้าง

🔷 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นและแสดงท่าทีที่สดชื่น
ผู้ป่วยมีแรงจูงใจในการปฏิบัติตามแผนการรักษา
ลดอาการซึมเศร้าและป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางจิตใจ

🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔸 ผู้ป่วยแสดงอารมณ์ดีขึ้น สีหน้าแจ่มใสขึ้น
🔸 มีการร่วมมือในการรักษาและดูแลตนเอง
🔸 ผู้ป่วยพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างมากขึ้น
🔸 ไม่มีอาการคิดฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตนเอง

🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

🩺 I25.1F7I-1: ประเมินอารมณ์และความเสี่ยงคิดทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย
🩺 I25.1F7I-2: สนับสนุนและให้กำลังใจผู้ป่วยด้วยคำพูดและการฟังอย่างตั้งใจ
🩺 I25.1F7I-3: ส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น เดินเล่น ฟังเพลง หรือทำงานอดิเรก
🩺 I25.1F7I-4: ประสานงานกับทีมสุขภาพจิต เพื่อประเมินและให้การดูแลเพิ่มเติม
🩺 I25.1F7I-5: สอนผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับโรคและวิธีดูแลจิตใจ
🩺 I25.1F7I-6: ติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและรายงานแพทย์หากมีอาการรุนแรง

🔷 Response (การตอบสนอง)

I25.1F7R-1: ผู้ป่วยแสดงอารมณ์ดีขึ้น สีหน้าแจ่มใสขึ้น
I25.1F7R-2: ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมและดูแลตนเองได้ดีขึ้น
I25.1F7R-3: ผู้ป่วยพูดคุยกับบุคคลรอบข้างมากขึ้น
I25.1F7R-4: ไม่มีพฤติกรรมหรือความคิดที่เป็นอันตรายต่อตนเอง

…………………………………………………………..

I25.1F8: ขาดการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมในการดูแลระยะยาว

(Ineffective family or social support related to long-term care needs)

🔷 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่มีใครช่วยดูแล” “รู้สึกโดดเดี่ยว”

O:

  • ครอบครัวไม่พร้อมให้ความช่วยเหลือ
  • ขาดผู้ดูแลประจำหรือผู้ช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวัน
  • ผู้ป่วยขาดการติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้าง

🔷 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือในการดูแลตนเอง
ผู้ป่วยมีความรู้สึกปลอดภัยและไม่โดดเดี่ยว
ครอบครัวและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล

🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔸 ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุน
🔸 มีผู้ดูแลช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวัน
🔸 ผู้ป่วยมีการติดต่อกับครอบครัวหรือกลุ่มสังคม
🔸 ครอบครัวและผู้ดูแลเข้าร่วมการวางแผนการดูแล

🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

🩺 I25.1F8I-1: ประเมินสถานการณ์ครอบครัวและเครือข่ายสังคมของผู้ป่วย
🩺 I25.1F8I-2: สร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวเกี่ยวกับบทบาทในการดูแลผู้ป่วย
🩺 I25.1F8I-3: ประสานงานกับทีมสังคมสงเคราะห์หรือชุมชนเพื่อหาการช่วยเหลือเพิ่มเติม
🩺 I25.1F8I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มช่วยเหลือหรือกิจกรรมสังคม
🩺 I25.1F8I-5: ให้คำแนะนำแก่ครอบครัวในการจัดการความเครียดและแรงกดดัน
🩺 I25.1F8I-6: ติดตามประเมินการสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างสม่ำเสมอ

🔷 Response (การตอบสนอง)

I25.1F8R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกได้รับการช่วยเหลือและไม่โดดเดี่ยว
I25.1F8R-2: ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีบทบาทช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวัน
I25.1F8R-3: ผู้ป่วยมีการติดต่อและมีส่วนร่วมกับสังคมมากขึ้น
I25.1F8R-4: ครอบครัวร่วมมือกับทีมสุขภาพในการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

…………………………………………………………..

เอกสารอ้างอิง (References)

  • สมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. (2563).คู่มือการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
  • กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2564). แนวทางการพยาบาลโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ. เอกสารเผยแพร่ทางการแพทย์. กรุงเทพฯ.
  • American Heart Association. (2021).2021 AHA/ACC Guideline for the Management of Patients With Coronary Artery Disease. Circulation, 144(1), e123–e150.https://doi.org/10.1161/CIR.0000000000000958
  • Libby, P., et al. (2021).Coronary artery disease. In Harrison's Principles of Internal Medicine (20th ed., pp. 1497-1509). McGraw-Hill Education.

…………………………………………..