เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

EP.81 Med. Topic 1 โรคความดันโลหิตสูง : I10 [Essential (Primary) Hypertension]

 

🎯 โรคความดันโลหิตสูง (I10) | โรคเงียบ…ที่อันตรายกว่าที่คิด!
"ไม่ปวด ไม่เจ็บ…แต่เสี่ยงหัวใจวาย-หลอดเลือดสมองแตกได้ ถ้าคุณรู้เร็ว ดูแลถูกต้อง รอดได้แน่นอน" 
1.❤️ความหมาย :โรคความดันโลหิตสูง คือ ภาวะที่ความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง โดยมากเกิน 140/90 mmHg ขึ้นไป เรียกว่า “โรคเงียบ” เพราะไม่ค่อยมีอาการ แต่ส่งผลร้ายแรงต่อหัวใจ สมอง และไต 
2.📌พยาธิสภาพ : เกิดจากแรงต้านในหลอดเลือดสูงขึ้น หัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้หัวใจหนา หลอดเลือดแข็ง และอวัยวะสำคัญถูกทำลาย 
3.มักพบในช่วงอายุเท่าไร? :พบมากในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบในคนวัยทำงานมากขึ้น เพราะความเครียด อ้วน ขาดการออกกำลังกาย 
4.🩺ปัจจัยเสี่ยง
🔹 พันธุกรรม อ้วนลงพุง ขาดการออกกำลังกาย
🔹 เครียดเรื้อรัง ทานเค็มจัด
🔹 ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 
5🚨อาการที่ควรระวัง
🔹 ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ
🔹 บางราย ปวดหัว มึน เวียน เหนื่อยง่าย ใจสั่น
🔹 ตามัว หรือแน่นหน้าอก ควรรีบพบแพทย์ 
6.🩺การรักษา
🔹 คุมอาหาร ลดเค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
🔹 ลดความเครียด วัดความดันเป็นประจำ
🔹 ทานยาตามแพทย์สั่งต่อเนื่อง 
7👩‍⚕️การพยาบาล (สำหรับพยาบาล)
🔹 สอนปรับพฤติกรรม เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน
🔹 ให้ยา ติดตามอาการสม่ำเสมอ
🔹 สร้างแรงจูงใจให้ผู้ป่วยดูแลตนเอง 
8🌿การดูแลตนเอง (สำหรับบุคคลทั่วไป)
🔹 วัดความดันปีละครั้ง กินอาหารลดเค็ม เพิ่มผักผลไม้
🔹 เดินเร็ววันละ 30 นาที งดบุหรี่เหล้า
🔹 ลดน้ำหนัก ทำใจสบาย พักผ่อนให้เพียงพอ
………………………………………..
9. วินิจฉัยการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง (I10)
  1. I10F1 เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากความดันโลหิตสูงมาก (Risk for acute heart failure due to severe hypertension)
  2. I10F2 เสี่ยงต่อหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบจากความดันโลหิตสูง (Risk for cerebrovascular accident [stroke] due to hypertension)
  3. I10F3 มีอาการปวดศีรษะ มึนงง และตามัวจากความดันโลหิตสูง (Headache, dizziness, and blurred vision related to hypertension)
  4. I10F4 เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมจากความดันโลหิตสูงเรื้อรัง (Risk for chronic kidney disease due to prolonged hypertension)
  5. I10F5 ขาดความรู้เกี่ยวกับการควบคุมโรคความดันโลหิตสูงและป้องกันภาวะแทรกซ้อน (Deficient knowledge about hypertension management and complication prevention)
  6. I10F6 มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและการรักษา (Anxiety related to illness and treatment)
  7. I10F7 เสี่ยงต่อการไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษาเนื่องจากพฤติกรรมเดิม (Risk for non-adherence to treatment plan due to lifestyle habits)
  8. I10F8 เสี่ยงต่อภาวะโภชนาการเกินจากการเลือกรับประทานอาหารไม่เหมาะสม (Risk for imbalanced nutrition: more than body requirements related to unhealthy food choices)
  9. I10F9 ขาดการสนับสนุนทางสังคมในการดูแลตนเอง (Impaired social support for self-care management)
  10. I10F10 เตรียมพร้อมจำหน่ายโดยมีแผนดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Readiness for discharge with a continuing care plan at home)

…………………………………………………………………………………………….. 

I10F1: เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากความดันโลหิตสูงมาก
(Risk for acute heart failure due to severe hypertension) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
  • นอนไม่ราบ ต้องหนุนหมอนสูง
O:
  • ความดันโลหิต 180/120 mmHg
  • อัตราการหายใจ > 24 ครั้ง/นาที
  • มีอาการบวมที่เท้าและหน้าแข้ง
  • ฟังเสียงปอดพบมีเสียงครืดคราด
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
  • ลดอาการคั่งน้ำและหายใจลำบาก
  • คงสมดุลของเหลวในร่างกาย
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • น้ำหนักลด 1 กิโลกรัม/วัน
  • ไม่มีอาการบวมเพิ่ม และหายใจสบายขึ้น
  • ความดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพ ความดันโลหิต ชีพจร และการหายใจทุก 2–4 ชั่วโมง
  • I10F1I-2: สังเกตอาการบวม น้ำหนักตัว และปริมาณปัสสาวะทุกวัน
  • I10F1I-3: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อลดคั่งน้ำในปอด
  • I10F1I-4: จำกัดปริมาณน้ำและโซเดียมในอาหารตามแผนแพทย์
  • I10F1I-5: ให้ยาลดความดันโลหิตและยาขับปัสสาวะตามแผนแพทย์
  • I10F1I-6: สอนผู้ป่วยและครอบครัวเรื่องสัญญาณเตือนหัวใจล้มเหลวและวิธีดูแลตนเอง
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F1R-1: น้ำหนักลดลง 1 กิโลกรัม/วัน
  • I10F1R-2: ไม่มีอาการบวมใหม่ และอาการบวมเดิมลดลง
  • I10F1R-3: ผู้ป่วยหายใจสบายขึ้น นอนราบได้มากขึ้น
  • I10F1R-4: ความดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์กำหนด
  • I10F1R-5: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจและปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง

.............................................................................. 

I10F2: เสี่ยงต่อหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบจากความดันโลหิตสูง (Risk for cerebrovascular accident [stroke] due to hypertension) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ตามัว พูดไม่ชัดเป็นพัก ๆ
  • ชา หรืออ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่งของร่างกาย
O:
  • ความดันโลหิต 180/120 mmHg
  • มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือชีพจรไม่สม่ำเสมอ
  • มีอาการเดินเซ หรือเสียการทรงตัว
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ลดความเสี่ยงของหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบ
  • ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
  • ผู้ป่วยรับรู้สัญญาณเตือนอาการเส้นเลือดสมองและปฏิบัติตัวได้
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • ความดันโลหิตลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่แพทย์กำหนด
  • ไม่มีอาการทางสมองเพิ่มขึ้น เช่น พูดไม่ชัด หน้าเบี้ยว อ่อนแรง
  • ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจสัญญาณเตือนและแนวทางป้องกัน
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F2I-1: ประเมินสัญญาณชีพและอาการทางระบบประสาททุก 1–2 ชั่วโมง
  • I10F2I-2: เฝ้าระวังสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง เช่น หน้าเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด
  • I10F2I-3: ให้ยาลดความดันโลหิตตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด
  • I10F2I-4: จำกัดโซเดียมและอาหารไขมันสูงตามคำแนะนำ
  • I10F2I-5: แนะนำการจัดท่านอนศีรษะสูงเล็กน้อยเพื่อให้เลือดไหลเวียนดี
  • I10F2I-6: สอนผู้ป่วยและครอบครัวถึงสัญญาณเตือน FAST (Face, Arm, Speech, Time) และให้รีบไปโรงพยาบาลเมื่อพบ
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F2R-1: ความดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
  • I10F2R-2: ไม่มีอาการใหม่ของหลอดเลือดสมอง เช่น หน้าเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง
  • I10F2R-3: ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น อาการปวดหัวเวียนหัวลดลง
  • I10F2R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจและปฏิบัติเมื่อพบสัญญาณเตือนได้ถูกต้อง

 .............................................................................. 

I10F3: มีอาการปวดศีรษะ มึนงง และตามัวจากความดันโลหิตสูง (Headache, dizziness, and blurred vision related to hypertension) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • ปวดศีรษะ หนักศีรษะ มึนงง มองไม่ชัด
  • รู้สึกโคลงเคลง เดินไม่ตรง
O:
  • ความดันโลหิต 160/100 mmHg
  • เดินเซ สูญเสียการทรงตัวเล็กน้อย
  • ขยี้ตา หรือกะพริบตาบ่อย
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • อาการปวดศีรษะ มึนงง และตามัวลดลง
  • ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ควบคุม
  • ผู้ป่วยรู้วิธีปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการเหล่านี้
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • ความดันโลหิตลดลงอยู่ในเป้าหมาย
  • อาการปวดศีรษะ มึนงง ตามัวลดลงหรือหายไป
  • ผู้ป่วยบอกได้ถึงวิธีดูแลตนเองและเมื่อใดควรไปพบแพทย์
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F3I-1: ประเมินความรุนแรงของอาการและระดับความดันโลหิตทุก 2–4 ชั่วโมง
  • I10F3I-2: ให้ผู้ป่วยพักในท่าที่สบาย ในสภาพแวดล้อมเงียบสงบและแสงพอดี
  • I10F3I-3: ให้ยาลดความดันโลหิตตามแผนแพทย์อย่างถูกต้อง
  • I10F3I-4: แนะนำให้ลุกนั่งหรือเปลี่ยนท่าช้า ๆ เพื่อป้องกันเวียนศีรษะจากแรงดันเลือด
  • I10F3I-5: ให้ประคบเย็นที่หน้าผากหรือนวดเบา ๆ เพื่อบรรเทาปวดศีรษะ
  • I10F3I-6: สอนสัญญาณเตือนที่รุนแรง เช่น ตามัวครึ่งซีก พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F3R-1: ความดันโลหิตลดลงสู่ระดับเป้าหมาย
  • I10F3R-2: อาการปวดศีรษะ มึนงง และตามัวลดลงหรือหายไป
  • I10F3R-3: เดินทรงตัวได้ดีขึ้น ไม่มีอาการโคลงเคลง
  • I10F3R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจวิธีปฏิบัติตัวและสัญญาณเตือนที่ต้องรีบพบแพทย์

 .............................................................................. 

I10F4: เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมจากความดันโลหิตสูงเรื้อรัง (Risk for chronic kidney disease due to prolonged hypertension) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • ปัสสาวะน้อยลง มีฟอง หรือบวมขา
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
O:
  • ความดันโลหิต 140/90 mmHg เรื้อรัง
  • ซีรั่มครีเอตินินสูง ค่า GFR ต่ำ
  • พบอาการบวมน้ำที่เท้าหรือรอบตา
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ชะลอการเสื่อมของไตจากความดันสูงเรื้อรัง
  • รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม
  • ผู้ป่วยรับรู้และปฏิบัติตัวลดความเสี่ยงไตเสื่อมได้
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย
  • ผลตรวจค่าการทำงานของไตคงที่ ไม่แย่ลง
  • ผู้ป่วยเข้าใจและทำตามคำแนะนำการดูแลไต
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F4I-1: ประเมินปริมาณ ปัสสาวะ สี กลิ่น และบวมที่เท้าเป็นประจำ
  • I10F4I-2: ตรวจติดตามค่าการทำงานของไต (เช่น BUN, Creatinine, GFR) ตามแพทย์สั่ง
  • I10F4I-3: ให้ยาลดความดันโลหิตตามแผนการรักษาเพื่อควบคุมไม่ให้สูงเกิน
  • I10F4I-4: แนะนำการจำกัดโซเดียม โปรตีน และดื่มน้ำอย่างเหมาะสม
  • I10F4I-5: สอนสัญญาณอันตรายของไตเสื่อม เช่น ปัสสาวะเป็นฟองมากขึ้น บวม อ่อนเพลีย ให้รีบพบแพทย์
  • I10F4I-6: ส่งเสริมให้มาตรวจติดตามสม่ำเสมอตามนัดแพทย์
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F4R-1: ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย
  • I10F4R-2: ผลการตรวจไตคงที่ ไม่แย่ลง
  • I10F4R-3: อาการบวมหรือปัสสาวะผิดปกติลดลง
  • I10F4R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจวิธีดูแลเพื่อลดเสี่ยงไตเสื่อมและมาพบแพทย์สม่ำเสมอ

 .............................................................................. 

I10F5: ขาดความรู้เกี่ยวกับการควบคุมโรคความดันโลหิตสูงและป้องกันภาวะแทรกซ้อน (Deficient knowledge about hypertension management and complication prevention) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่รู้ต้องดูแลตัวเองยังไง”
  • เข้าใจผิดว่าความดันสูงไม่อันตรายเพราะไม่มีอาการ
O:
  • พฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น กินเค็ม สูบบุหรี่
  • ไม่มาตรวจติดตามนัดสม่ำเสมอ
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ผู้ป่วยและครอบครัวมีความรู้เรื่องโรค ความเสี่ยง และวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  • ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องตามคำแนะนำ
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีควบคุมความดันได้ถูกต้อง
  • ปฏิบัติตามแผนการรักษา เช่น กินยา มาตรวจตามนัด
  • ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ลดเค็ม งดบุหรี่
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F5I-1: ประเมินความเข้าใจเดิมของผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับโรคและความเสี่ยง
  • I10F5I-2: อธิบายให้เข้าใจง่ายถึงสาเหตุ ความเสี่ยง และผลของความดันสูงที่ควบคุมไม่ได้
  • I10F5I-3: สอนวิธีวัดความดันด้วยตนเองและจดบันทึกค่า
  • I10F5I-4: แนะนำพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ลดเค็ม เดินวันละ 30 นาที งดบุหรี่ เหล้า
  • I10F5I-5: อธิบายความสำคัญของการกินยาตามแพทย์สั่งและมาตรวจตามนัด
  • I10F5I-6: ให้เอกสารหรือสื่อประกอบ เพื่อให้ทบทวนความรู้ได้เองที่บ้าน
  • I10F5I-7: เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยถามข้อสงสัยและตอบอย่างเข้าใจง่าย
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F5R-1: ผู้ป่วยอธิบายสาเหตุและความเสี่ยงของโรคได้ถูกต้อง
  • I10F5R-2: ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผน เช่น กินยา ตรวจติดตาม ลดพฤติกรรมเสี่ยง
  • I10F5R-3: ผู้ป่วยสามารถวัดและบันทึกค่าความดันด้วยตนเองได้
  • I10F5R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจสัญญาณเตือนและรู้วิธีรับมือเมื่อความดันสูงมาก

 .............................................................................. 

I10F6: มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและการรักษา (Anxiety related to illness and treatment) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • กลัวว่าจะหายไหม”
  • กังวลเรื่องผลข้างเคียงของยา”
O:
  • กระสับกระส่าย ใจสั่น เหงื่อออก
  • พูดซ้ำเรื่องเดิม สอบถามบ่อย
  • นอนไม่หลับ
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ลดระดับความวิตกกังวลของผู้ป่วยให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม
  • ผู้ป่วยมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อโรคและการรักษา
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • ผู้ป่วยแสดงอาการสงบขึ้น สีหน้าและพฤติกรรมผ่อนคลาย
  • พูดคุยเกี่ยวกับโรคและการรักษาได้โดยไม่หลีกเลี่ยง
  • ปฏิบัติตามแผนการรักษาได้ต่อเนื่อง
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F6I-1: สังเกตพฤติกรรมทางอารมณ์และระดับความวิตกกังวลเป็นระยะ
  • I10F6I-2: สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร รับฟังและตอบคำถามด้วยความเข้าใจ
  • I10F6I-3: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและการรักษาในแบบที่เข้าใจง่าย
  • I10F6I-4: แนะนำวิธีผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก นั่งสมาธิสั้นๆ
  • I10F6I-5: สนับสนุนให้ครอบครัวช่วยให้กำลังใจและอยู่ข้างผู้ป่วย
  • I10F6I-6: จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ลดสิ่งรบกวนที่ไม่จำเป็น
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F6R-1: ผู้ป่วยมีสีหน้าและท่าทีสงบลง ไม่กระสับกระส่าย
  • I10F6R-2: ผู้ป่วยพูดคุยเรื่องโรคและแผนการรักษาได้โดยไม่ลังเล
  • I10F6R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำการรักษาได้ดี
  • I10F6R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจแนวทางรักษาและรู้วิธีลดความเครียด

 .............................................................................. 

I10F7: เสี่ยงต่อการไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษาเนื่องจากพฤติกรรมเดิม (Risk for non-adherence to treatment plan due to lifestyle habits) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • กินยาบ้างไม่กินบ้าง เพราะรู้สึกดีขึ้น”
  • ไม่อยากเลิกกินเค็มหรือสูบบุหรี่”
O:
  • ค่าความดันยังสูงต่อเนื่อง
  • พบว่าผู้ป่วยไม่มาตรวจตามนัด หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงเดิม
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ผู้ป่วยตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาและปรับพฤติกรรม
  • ปฏิบัติตามแผนการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • ผู้ป่วยรับประทานยาตามแพทย์สั่งสม่ำเสมอ
  • ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เค็มจัด สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า
  • มาตรวจติดตามตามนัด
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F7I-1: ประเมินพฤติกรรมและเหตุผลที่ไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษา
  • I10F7I-2: สร้างความเข้าใจถึงผลเสียของการไม่ควบคุมโรคและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
  • I10F7I-3: วางแผนร่วมกับผู้ป่วยให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความเป็นจริง
  • I10F7I-4: สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่น ลดเค็มทีละน้อย
  • I10F7I-5: กระตุ้นและให้กำลังใจเมื่อผู้ป่วยปฏิบัติได้สำเร็จ
  • I10F7I-6: แนะนำให้ครอบครัวช่วยสนับสนุนและสังเกตพฤติกรรมผู้ป่วย
  • I10F7I-7: นัดติดตามประเมินความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F7R-1: ผู้ป่วยรับประทานยาและมาตรวจตามนัดสม่ำเสมอ
  • I10F7R-2: ผู้ป่วยลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ลดการกินเค็มและงดบุหรี่ได้
  • I10F7R-3: ผู้ป่วยแสดงทัศนคติที่ดีต่อการรักษาและพยายามปรับตัว
  • I10F7R-4: ครอบครัวมีส่วนร่วมและช่วยกระตุ้นผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม

 .............................................................................. 

I10F8: เสี่ยงต่อภาวะโภชนาการเกินจากการเลือกรับประทานอาหารไม่เหมาะสม (Risk for imbalanced nutrition: more than body requirements related to unhealthy food choices) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • บอกชอบอาหารเค็ม มัน หวาน
  • ขาดความรู้เรื่องอาหารสุขภาพ
O:
  • น้ำหนักเกินเกณฑ์ BMI > 25
  • รอบเอวเกินเกณฑ์ (ชาย >90 ซม., หญิง >80 ซม.)
  • ค่าคลอเรสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์สูง
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • ปรับพฤติกรรมการกินอาหารให้เหมาะสมและยั่งยืน
  • ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากโภชนาการเกิน
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • น้ำหนักลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประมาณ 0.5-1 กก./สัปดาห์
  • ผู้ป่วยรับประทานอาหารสุขภาพเพิ่มขึ้น เช่น ผัก ผลไม้
  • มีพฤติกรรมลดอาหารเค็ม มัน หวาน อย่างต่อเนื่อง
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F8I-1: ประเมินนิสัยการกินอาหารและความรู้เรื่องโภชนาการ
  • I10F8I-2: ให้ความรู้เรื่องอาหารสุขภาพและผลเสียของอาหารเค็มมันหวาน
  • I10F8I-3: สอนวิธีวางแผนมื้ออาหารและเลือกอาหารที่เหมาะสม
  • I10F8I-4: ส่งเสริมการบันทึกอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
  • I10F8I-5: สนับสนุนการออกกำลังกายเพื่อช่วยลดน้ำหนัก
  • I10F8I-6: ให้กำลังใจและชื่นชมความพยายามในการปรับพฤติกรรม
  • I10F8I-7: นัดติดตามผลน้ำหนักและพฤติกรรมการกินเป็นระยะ
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F8R-1: น้ำหนักลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามเป้าหมาย
  • I10F8R-2: ผู้ป่วยเลือกรับประทานอาหารสุขภาพมากขึ้น
  • I10F8R-3: พฤติกรรมลดอาหารเค็ม มัน หวาน ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • I10F8R-4: ผู้ป่วยมีความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการปรับพฤติกรรม

.............................................................................. 

I10F9 ขาดการสนับสนุนทางสังคมในการดูแลตนเอง (Impaired social support for self-care management) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • ไม่มีใครช่วยเตือนให้กินยา”
  • รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีกำลังใจดูแลตัวเอง”
O:
  • ไม่มาตรวจตามนัด
  • ปฏิบัติตามแผนรักษาไม่สม่ำเสมอ
  • ครอบครัวไม่ร่วมสนับสนุน
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนทางสังคมเพิ่มขึ้น
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษาและดูแลตนเองได้ดีขึ้น
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • ผู้ป่วยมีคนช่วยดูแลหรือให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ
  • มาตรวจและรับยาตามนัด
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำดูแลตนเองดีขึ้น
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F9I-1: ประเมินระดับการสนับสนุนทางสังคมและความต้องการของผู้ป่วย
  • I10F9I-2: ให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจกับครอบครัวเกี่ยวกับความสำคัญของการดูแลผู้ป่วย
  • I10F9I-3: แนะนำกลุ่มสนับสนุน เช่น กลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูง หรือกลุ่มจิตสังคม
  • I10F9I-4: กระตุ้นและสนับสนุนผู้ป่วยให้สื่อสารความต้องการและความรู้สึกกับคนรอบข้าง
  • I10F9I-5: จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับครอบครัวหรือเพื่อน
  • I10F9I-6: นัดติดตามเพื่อประเมินการได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือในการรักษา
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F9R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ามีคนช่วยเหลือและให้กำลังใจ
  • I10F9R-2: ผู้ป่วยมาตรวจและรับยาตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
  • I10F9R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำดูแลตนเองดีขึ้น
  • I10F9R-4: ครอบครัวและเครือข่ายสังคมมีส่วนร่วมในการดูแล

.............................................................................. 

I10F10 เตรียมพร้อมจำหน่ายโดยมีแผนดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Readiness for discharge with a continuing care plan at home) 

✅ Assessment (การประเมิน)
S:

  • ฉันรู้สึกพร้อมดูแลตัวเองที่บ้าน”
  • ไม่แน่ใจว่าจะจัดการยาหรือดูแลอย่างไร”
O:
  • เข้าใจวิธีการใช้ยาและติดตามอาการ
  • มีแผนการดูแลและตารางนัดหมายตรวจตามแพทย์
  • ครอบครัวพร้อมช่วยเหลือหรือมีแหล่งสนับสนุน
✅ Goals (เป้าหมาย)
  • ผู้ป่วยและครอบครัวมีความรู้และความมั่นใจในการดูแลตนเองที่บ้าน
  • มีแผนการดูแลต่อเนื่องครบถ้วนและปฏิบัติได้จริง
  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและลดการกลับมาโรงพยาบาล
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีใช้ยาและการดูแลตนเองได้ถูกต้อง
  • ผู้ป่วยมีแผนดูแลและนัดหมายครบถ้วน
  • ไม่มีอาการผิดปกติที่ต้องกลับมาโรงพยาบาลในระยะสั้น
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
  • I10F10I-1: ประเมินความรู้และความเข้าใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับการรักษาและการดูแลตนเอง
  • I10F10I-2: สอนวิธีใช้ยาอย่างถูกต้อง รวมถึงผลข้างเคียงที่ควรระวัง
  • I10F10I-3: จัดทำแผนการดูแลต่อเนื่องที่บ้านพร้อมนัดหมายตรวจติดตาม
  • I10F10I-4: แนะนำให้ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีส่วนร่วมในการดูแล
  • I10F10I-5: ให้ข้อมูลแหล่งสนับสนุน เช่น คลินิก โรงพยาบาล หรือกลุ่มผู้ป่วย
  • I10F10I-6: ตรวจสอบความพร้อมทางร่างกายและจิตใจก่อนจำหน่าย
  • I10F10I-7: นัดติดตามและประเมินผลหลังจำหน่าย
✅ Response (การตอบสนอง)
  • I10F10R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวแสดงความเข้าใจและมั่นใจในการดูแลตนเอง
  • I10F10R-2: ผู้ป่วยใช้ยาและปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้อง
  • I10F10R-3: มีการนัดหมายและมาตรวจตามแผนอย่างสม่ำเสมอ
  • I10F10R-4: ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือกลับมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น

.............................................................................. 

📚 เอกสารอ้างอิง

  1. สถาบันโรคระบบไหลเวียนโลหิต กรมการแพทย์. (2563). แนวทางเวชปฏิบัติความดันโลหิตสูงในผู้ใหญ่.URL: https://circulationthai.org/download/hypertension-guidelines-2020.pdf
  2. สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย. (2562). แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตและความดันโลหิตสูง. วารสารโรคไต.URL: https://www.thai-kidney.org
  3. Whelton, P.K., Carey, R.M., Aronow, W.S., et al. (2018). 2017 ACC/AHA/AAPA/ABC/ACPM/AGS/APhA/ASH/ASPC/NMA/PCNA Guideline for the Prevention, Detection, Evaluation, and Management of High Blood Pressure in Adults. Journal of the American College of Cardiology, 71(19), e127–e248.DOI: 10.1016/j.jacc.2017.11.006
  4. James, P.A., Oparil, S., Carter, B.L., et al. (2014). 2014 Evidence-Based Guideline for the Management of High Blood Pressure in Adults: Report From the Panel Members Appointed to the Eighth Joint National Committee (JNC 8). JAMA, 311(5), 507–520.DOI: 10.1001/jama.2013.284427
…………………………………………………..