🎯 โรคความดันโลหิตสูง (I10) | โรคเงียบ…ที่อันตรายกว่าที่คิด!"ไม่ปวด ไม่เจ็บ…แต่เสี่ยงหัวใจวาย-หลอดเลือดสมองแตกได้ ถ้าคุณรู้เร็ว ดูแลถูกต้อง รอดได้แน่นอน"
1.❤️ความหมาย :โรคความดันโลหิตสูง คือ ภาวะที่ความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง โดยมากเกิน 140/90 mmHg ขึ้นไป เรียกว่า “โรคเงียบ” เพราะไม่ค่อยมีอาการ แต่ส่งผลร้ายแรงต่อหัวใจ สมอง และไต
2.📌พยาธิสภาพ : เกิดจากแรงต้านในหลอดเลือดสูงขึ้น หัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้หัวใจหนา หลอดเลือดแข็ง และอวัยวะสำคัญถูกทำลาย
3.✨มักพบในช่วงอายุเท่าไร? :พบมากในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบในคนวัยทำงานมากขึ้น เพราะความเครียด อ้วน ขาดการออกกำลังกาย
4.🩺ปัจจัยเสี่ยง
🔹 พันธุกรรม อ้วนลงพุง ขาดการออกกำลังกาย
🔹 เครียดเรื้อรัง ทานเค็มจัด
🔹 ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
5🚨อาการที่ควรระวัง
🔹 ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ
🔹 บางราย ปวดหัว มึน เวียน เหนื่อยง่าย ใจสั่น
🔹 ตามัว หรือแน่นหน้าอก ควรรีบพบแพทย์
6.🩺การรักษา
🔹 คุมอาหาร ลดเค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
🔹 ลดความเครียด วัดความดันเป็นประจำ
🔹 ทานยาตามแพทย์สั่งต่อเนื่อง
7👩⚕️การพยาบาล (สำหรับพยาบาล)
🔹 สอนปรับพฤติกรรม เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน
🔹 ให้ยา ติดตามอาการสม่ำเสมอ
🔹 สร้างแรงจูงใจให้ผู้ป่วยดูแลตนเอง
8🌿การดูแลตนเอง (สำหรับบุคคลทั่วไป)
🔹 วัดความดันปีละครั้ง กินอาหารลดเค็ม เพิ่มผักผลไม้
🔹 เดินเร็ววันละ 30 นาที งดบุหรี่เหล้า
🔹 ลดน้ำหนัก ทำใจสบาย พักผ่อนให้เพียงพอ
………………………………………..
9. วินิจฉัยการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง (I10)
- I10F1 เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากความดันโลหิตสูงมาก (Risk for acute heart failure due to severe hypertension)
- I10F2 เสี่ยงต่อหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบจากความดันโลหิตสูง (Risk for cerebrovascular accident [stroke] due to hypertension)
- I10F3 มีอาการปวดศีรษะ มึนงง และตามัวจากความดันโลหิตสูง (Headache, dizziness, and blurred vision related to hypertension)
- I10F4 เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมจากความดันโลหิตสูงเรื้อรัง (Risk for chronic kidney disease due to prolonged hypertension)
- I10F5 ขาดความรู้เกี่ยวกับการควบคุมโรคความดันโลหิตสูงและป้องกันภาวะแทรกซ้อน (Deficient knowledge about hypertension management and complication prevention)
- I10F6 มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและการรักษา (Anxiety related to illness and treatment)
- I10F7 เสี่ยงต่อการไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษาเนื่องจากพฤติกรรมเดิม (Risk for non-adherence to treatment plan due to lifestyle habits)
- I10F8 เสี่ยงต่อภาวะโภชนาการเกินจากการเลือกรับประทานอาหารไม่เหมาะสม (Risk for imbalanced nutrition: more than body requirements related to unhealthy food choices)
- I10F9 ขาดการสนับสนุนทางสังคมในการดูแลตนเอง (Impaired social support for self-care management)
- I10F10 เตรียมพร้อมจำหน่ายโดยมีแผนดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Readiness for discharge with a continuing care plan at home)
……………………………………………………………………………………………..
I10F1: เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจากความดันโลหิตสูงมาก
(Risk for acute heart failure due to severe hypertension)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
O:
- นอนไม่ราบ ต้องหนุนหมอนสูง
- ความดันโลหิต ≥ 180/120 mmHg
- อัตราการหายใจ > 24 ครั้ง/นาที
- มีอาการบวมที่เท้าและหน้าแข้ง
✅ Goals (เป้าหมาย)
- ฟังเสียงปอดพบมีเสียงครืดคราด
- ป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
- ลดอาการคั่งน้ำและหายใจลำบาก
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- คงสมดุลของเหลวในร่างกาย
- น้ำหนักลด ≤ 1 กิโลกรัม/วัน
- ไม่มีอาการบวมเพิ่ม และหายใจสบายขึ้น
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ความดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย
- I10F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพ ความดันโลหิต ชีพจร และการหายใจทุก 2–4 ชั่วโมง
- I10F1I-2: สังเกตอาการบวม น้ำหนักตัว และปริมาณปัสสาวะทุกวัน
- I10F1I-3: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อลดคั่งน้ำในปอด
- I10F1I-4: จำกัดปริมาณน้ำและโซเดียมในอาหารตามแผนแพทย์
- I10F1I-5: ให้ยาลดความดันโลหิตและยาขับปัสสาวะตามแผนแพทย์
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F1I-6: สอนผู้ป่วยและครอบครัวเรื่องสัญญาณเตือนหัวใจล้มเหลวและวิธีดูแลตนเอง
- I10F1R-1: น้ำหนักลดลง ≤ 1 กิโลกรัม/วัน
- I10F1R-2: ไม่มีอาการบวมใหม่ และอาการบวมเดิมลดลง
- I10F1R-3: ผู้ป่วยหายใจสบายขึ้น นอนราบได้มากขึ้น
- I10F1R-4: ความดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์กำหนด
- I10F1R-5: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจและปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง
..............................................................................
I10F2: เสี่ยงต่อหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบจากความดันโลหิตสูง (Risk for cerebrovascular accident [stroke] due to hypertension)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ตามัว พูดไม่ชัดเป็นพัก ๆ
O:
- ชา หรืออ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่งของร่างกาย
- ความดันโลหิต ≥ 180/120 mmHg
- มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือชีพจรไม่สม่ำเสมอ
✅ Goals (เป้าหมาย)
- มีอาการเดินเซ หรือเสียการทรงตัว
- ลดความเสี่ยงของหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบ
- ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรับรู้สัญญาณเตือนอาการเส้นเลือดสมองและปฏิบัติตัวได้
- ความดันโลหิตลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่แพทย์กำหนด
- ไม่มีอาการทางสมองเพิ่มขึ้น เช่น พูดไม่ชัด หน้าเบี้ยว อ่อนแรง
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจสัญญาณเตือนและแนวทางป้องกัน
- I10F2I-1: ประเมินสัญญาณชีพและอาการทางระบบประสาททุก 1–2 ชั่วโมง
- I10F2I-2: เฝ้าระวังสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง เช่น หน้าเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด
- I10F2I-3: ให้ยาลดความดันโลหิตตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด
- I10F2I-4: จำกัดโซเดียมและอาหารไขมันสูงตามคำแนะนำ
- I10F2I-5: แนะนำการจัดท่านอนศีรษะสูงเล็กน้อยเพื่อให้เลือดไหลเวียนดี
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F2I-6: สอนผู้ป่วยและครอบครัวถึงสัญญาณเตือน FAST (Face, Arm, Speech, Time) และให้รีบไปโรงพยาบาลเมื่อพบ
- I10F2R-1: ความดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
- I10F2R-2: ไม่มีอาการใหม่ของหลอดเลือดสมอง เช่น หน้าเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง
- I10F2R-3: ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น อาการปวดหัวเวียนหัวลดลง
- I10F2R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจและปฏิบัติเมื่อพบสัญญาณเตือนได้ถูกต้อง
..............................................................................
I10F3: มีอาการปวดศีรษะ มึนงง และตามัวจากความดันโลหิตสูง (Headache, dizziness, and blurred vision related to hypertension)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- ปวดศีรษะ หนักศีรษะ มึนงง มองไม่ชัด
O:
- รู้สึกโคลงเคลง เดินไม่ตรง
- ความดันโลหิต ≥ 160/100 mmHg
- เดินเซ สูญเสียการทรงตัวเล็กน้อย
✅ Goals (เป้าหมาย)
- ขยี้ตา หรือกะพริบตาบ่อย
- อาการปวดศีรษะ มึนงง และตามัวลดลง
- ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ควบคุม
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรู้วิธีปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการเหล่านี้
- ความดันโลหิตลดลงอยู่ในเป้าหมาย
- อาการปวดศีรษะ มึนงง ตามัวลดลงหรือหายไป
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ผู้ป่วยบอกได้ถึงวิธีดูแลตนเองและเมื่อใดควรไปพบแพทย์
- I10F3I-1: ประเมินความรุนแรงของอาการและระดับความดันโลหิตทุก 2–4 ชั่วโมง
- I10F3I-2: ให้ผู้ป่วยพักในท่าที่สบาย ในสภาพแวดล้อมเงียบสงบและแสงพอดี
- I10F3I-3: ให้ยาลดความดันโลหิตตามแผนแพทย์อย่างถูกต้อง
- I10F3I-4: แนะนำให้ลุกนั่งหรือเปลี่ยนท่าช้า ๆ เพื่อป้องกันเวียนศีรษะจากแรงดันเลือด
- I10F3I-5: ให้ประคบเย็นที่หน้าผากหรือนวดเบา ๆ เพื่อบรรเทาปวดศีรษะ
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F3I-6: สอนสัญญาณเตือนที่รุนแรง เช่น ตามัวครึ่งซีก พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที
- I10F3R-1: ความดันโลหิตลดลงสู่ระดับเป้าหมาย
- I10F3R-2: อาการปวดศีรษะ มึนงง และตามัวลดลงหรือหายไป
- I10F3R-3: เดินทรงตัวได้ดีขึ้น ไม่มีอาการโคลงเคลง
- I10F3R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจวิธีปฏิบัติตัวและสัญญาณเตือนที่ต้องรีบพบแพทย์
..............................................................................
I10F4: เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมจากความดันโลหิตสูงเรื้อรัง (Risk for chronic kidney disease due to prolonged hypertension)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- ปัสสาวะน้อยลง มีฟอง หรือบวมขา
O:
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- ความดันโลหิต ≥ 140/90 mmHg เรื้อรัง
- ซีรั่มครีเอตินินสูง ค่า GFR ต่ำ
✅ Goals (เป้าหมาย)
- พบอาการบวมน้ำที่เท้าหรือรอบตา
- ชะลอการเสื่อมของไตจากความดันสูงเรื้อรัง
- รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรับรู้และปฏิบัติตัวลดความเสี่ยงไตเสื่อมได้
- ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย
- ผลตรวจค่าการทำงานของไตคงที่ ไม่แย่ลง
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ผู้ป่วยเข้าใจและทำตามคำแนะนำการดูแลไต
- I10F4I-1: ประเมินปริมาณ ปัสสาวะ สี กลิ่น และบวมที่เท้าเป็นประจำ
- I10F4I-2: ตรวจติดตามค่าการทำงานของไต (เช่น BUN, Creatinine, GFR) ตามแพทย์สั่ง
- I10F4I-3: ให้ยาลดความดันโลหิตตามแผนการรักษาเพื่อควบคุมไม่ให้สูงเกิน
- I10F4I-4: แนะนำการจำกัดโซเดียม โปรตีน และดื่มน้ำอย่างเหมาะสม
- I10F4I-5: สอนสัญญาณอันตรายของไตเสื่อม เช่น ปัสสาวะเป็นฟองมากขึ้น บวม อ่อนเพลีย ให้รีบพบแพทย์
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F4I-6: ส่งเสริมให้มาตรวจติดตามสม่ำเสมอตามนัดแพทย์
- I10F4R-1: ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย
- I10F4R-2: ผลการตรวจไตคงที่ ไม่แย่ลง
- I10F4R-3: อาการบวมหรือปัสสาวะผิดปกติลดลง
- I10F4R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจวิธีดูแลเพื่อลดเสี่ยงไตเสื่อมและมาพบแพทย์สม่ำเสมอ
..............................................................................
I10F5: ขาดความรู้เกี่ยวกับการควบคุมโรคความดันโลหิตสูงและป้องกันภาวะแทรกซ้อน (Deficient knowledge about hypertension management and complication prevention)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่รู้ต้องดูแลตัวเองยังไง”
O:
- เข้าใจผิดว่าความดันสูงไม่อันตรายเพราะไม่มีอาการ
- พฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น กินเค็ม สูบบุหรี่
✅ Goals (เป้าหมาย)
- ไม่มาตรวจติดตามนัดสม่ำเสมอ
- ผู้ป่วยและครอบครัวมีความรู้เรื่องโรค ความเสี่ยง และวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อน
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องตามคำแนะนำ
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีควบคุมความดันได้ถูกต้อง
- ปฏิบัติตามแผนการรักษา เช่น กินยา มาตรวจตามนัด
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ลดเค็ม งดบุหรี่
- I10F5I-1: ประเมินความเข้าใจเดิมของผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับโรคและความเสี่ยง
- I10F5I-2: อธิบายให้เข้าใจง่ายถึงสาเหตุ ความเสี่ยง และผลของความดันสูงที่ควบคุมไม่ได้
- I10F5I-3: สอนวิธีวัดความดันด้วยตนเองและจดบันทึกค่า
- I10F5I-4: แนะนำพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ลดเค็ม เดินวันละ 30 นาที งดบุหรี่ เหล้า
- I10F5I-5: อธิบายความสำคัญของการกินยาตามแพทย์สั่งและมาตรวจตามนัด
- I10F5I-6: ให้เอกสารหรือสื่อประกอบ เพื่อให้ทบทวนความรู้ได้เองที่บ้าน
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F5I-7: เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยถามข้อสงสัยและตอบอย่างเข้าใจง่าย
- I10F5R-1: ผู้ป่วยอธิบายสาเหตุและความเสี่ยงของโรคได้ถูกต้อง
- I10F5R-2: ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผน เช่น กินยา ตรวจติดตาม ลดพฤติกรรมเสี่ยง
- I10F5R-3: ผู้ป่วยสามารถวัดและบันทึกค่าความดันด้วยตนเองได้
- I10F5R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจสัญญาณเตือนและรู้วิธีรับมือเมื่อความดันสูงมาก
..............................................................................
I10F6: มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและการรักษา (Anxiety related to illness and treatment)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- “กลัวว่าจะหายไหม”
O:
- “กังวลเรื่องผลข้างเคียงของยา”
- กระสับกระส่าย ใจสั่น เหงื่อออก
- พูดซ้ำเรื่องเดิม สอบถามบ่อย
✅ Goals (เป้าหมาย)
- นอนไม่หลับ
- ลดระดับความวิตกกังวลของผู้ป่วยให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อโรคและการรักษา
- ผู้ป่วยแสดงอาการสงบขึ้น สีหน้าและพฤติกรรมผ่อนคลาย
- พูดคุยเกี่ยวกับโรคและการรักษาได้โดยไม่หลีกเลี่ยง
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ปฏิบัติตามแผนการรักษาได้ต่อเนื่อง
- I10F6I-1: สังเกตพฤติกรรมทางอารมณ์และระดับความวิตกกังวลเป็นระยะ
- I10F6I-2: สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร รับฟังและตอบคำถามด้วยความเข้าใจ
- I10F6I-3: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและการรักษาในแบบที่เข้าใจง่าย
- I10F6I-4: แนะนำวิธีผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก นั่งสมาธิสั้นๆ
- I10F6I-5: สนับสนุนให้ครอบครัวช่วยให้กำลังใจและอยู่ข้างผู้ป่วย
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F6I-6: จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ลดสิ่งรบกวนที่ไม่จำเป็น
- I10F6R-1: ผู้ป่วยมีสีหน้าและท่าทีสงบลง ไม่กระสับกระส่าย
- I10F6R-2: ผู้ป่วยพูดคุยเรื่องโรคและแผนการรักษาได้โดยไม่ลังเล
- I10F6R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำการรักษาได้ดี
- I10F6R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจแนวทางรักษาและรู้วิธีลดความเครียด
..............................................................................
I10F7: เสี่ยงต่อการไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษาเนื่องจากพฤติกรรมเดิม (Risk for non-adherence to treatment plan due to lifestyle habits)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- “กินยาบ้างไม่กินบ้าง เพราะรู้สึกดีขึ้น”
O:
- “ไม่อยากเลิกกินเค็มหรือสูบบุหรี่”
- ค่าความดันยังสูงต่อเนื่อง
✅ Goals (เป้าหมาย)
- พบว่าผู้ป่วยไม่มาตรวจตามนัด หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงเดิม
- ผู้ป่วยตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาและปรับพฤติกรรม
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ปฏิบัติตามแผนการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยรับประทานยาตามแพทย์สั่งสม่ำเสมอ
- ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เค็มจัด สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- มาตรวจติดตามตามนัด
- I10F7I-1: ประเมินพฤติกรรมและเหตุผลที่ไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษา
- I10F7I-2: สร้างความเข้าใจถึงผลเสียของการไม่ควบคุมโรคและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- I10F7I-3: วางแผนร่วมกับผู้ป่วยให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความเป็นจริง
- I10F7I-4: สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่น ลดเค็มทีละน้อย
- I10F7I-5: กระตุ้นและให้กำลังใจเมื่อผู้ป่วยปฏิบัติได้สำเร็จ
- I10F7I-6: แนะนำให้ครอบครัวช่วยสนับสนุนและสังเกตพฤติกรรมผู้ป่วย
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F7I-7: นัดติดตามประเมินความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ
- I10F7R-1: ผู้ป่วยรับประทานยาและมาตรวจตามนัดสม่ำเสมอ
- I10F7R-2: ผู้ป่วยลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ลดการกินเค็มและงดบุหรี่ได้
- I10F7R-3: ผู้ป่วยแสดงทัศนคติที่ดีต่อการรักษาและพยายามปรับตัว
- I10F7R-4: ครอบครัวมีส่วนร่วมและช่วยกระตุ้นผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม
..............................................................................
I10F8: เสี่ยงต่อภาวะโภชนาการเกินจากการเลือกรับประทานอาหารไม่เหมาะสม (Risk for imbalanced nutrition: more than body requirements related to unhealthy food choices)
..............................................................................✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- บอกชอบอาหารเค็ม มัน หวาน
O:
- ขาดความรู้เรื่องอาหารสุขภาพ
- น้ำหนักเกินเกณฑ์ BMI > 25
- รอบเอวเกินเกณฑ์ (ชาย >90 ซม., หญิง >80 ซม.)
✅ Goals (เป้าหมาย)
- ค่าคลอเรสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์สูง
- ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- ปรับพฤติกรรมการกินอาหารให้เหมาะสมและยั่งยืน
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากโภชนาการเกิน
- น้ำหนักลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประมาณ 0.5-1 กก./สัปดาห์
- ผู้ป่วยรับประทานอาหารสุขภาพเพิ่มขึ้น เช่น ผัก ผลไม้
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- มีพฤติกรรมลดอาหารเค็ม มัน หวาน อย่างต่อเนื่อง
- I10F8I-1: ประเมินนิสัยการกินอาหารและความรู้เรื่องโภชนาการ
- I10F8I-2: ให้ความรู้เรื่องอาหารสุขภาพและผลเสียของอาหารเค็มมันหวาน
- I10F8I-3: สอนวิธีวางแผนมื้ออาหารและเลือกอาหารที่เหมาะสม
- I10F8I-4: ส่งเสริมการบันทึกอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
- I10F8I-5: สนับสนุนการออกกำลังกายเพื่อช่วยลดน้ำหนัก
- I10F8I-6: ให้กำลังใจและชื่นชมความพยายามในการปรับพฤติกรรม
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F8I-7: นัดติดตามผลน้ำหนักและพฤติกรรมการกินเป็นระยะ
- I10F8R-1: น้ำหนักลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามเป้าหมาย
- I10F8R-2: ผู้ป่วยเลือกรับประทานอาหารสุขภาพมากขึ้น
- I10F8R-3: พฤติกรรมลดอาหารเค็ม มัน หวาน ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- I10F8R-4: ผู้ป่วยมีความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการปรับพฤติกรรม
I10F9 ขาดการสนับสนุนทางสังคมในการดูแลตนเอง (Impaired social support for self-care management)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- “ไม่มีใครช่วยเตือนให้กินยา”
O:
- “รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีกำลังใจดูแลตัวเอง”
- ไม่มาตรวจตามนัด
- ปฏิบัติตามแผนรักษาไม่สม่ำเสมอ
✅ Goals (เป้าหมาย)
- ครอบครัวไม่ร่วมสนับสนุน
- ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนทางสังคมเพิ่มขึ้น
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษาและดูแลตนเองได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยมีคนช่วยดูแลหรือให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ
- มาตรวจและรับยาตามนัด
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ปฏิบัติตามคำแนะนำดูแลตนเองดีขึ้น
- I10F9I-1: ประเมินระดับการสนับสนุนทางสังคมและความต้องการของผู้ป่วย
- I10F9I-2: ให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจกับครอบครัวเกี่ยวกับความสำคัญของการดูแลผู้ป่วย
- I10F9I-3: แนะนำกลุ่มสนับสนุน เช่น กลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูง หรือกลุ่มจิตสังคม
- I10F9I-4: กระตุ้นและสนับสนุนผู้ป่วยให้สื่อสารความต้องการและความรู้สึกกับคนรอบข้าง
- I10F9I-5: จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับครอบครัวหรือเพื่อน
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F9I-6: นัดติดตามเพื่อประเมินการได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือในการรักษา
- I10F9R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ามีคนช่วยเหลือและให้กำลังใจ
- I10F9R-2: ผู้ป่วยมาตรวจและรับยาตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
- I10F9R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำดูแลตนเองดีขึ้น
- I10F9R-4: ครอบครัวและเครือข่ายสังคมมีส่วนร่วมในการดูแล
..............................................................................
I10F10 เตรียมพร้อมจำหน่ายโดยมีแผนดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Readiness for discharge with a continuing care plan at home)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- “ฉันรู้สึกพร้อมดูแลตัวเองที่บ้าน”
O:
- “ไม่แน่ใจว่าจะจัดการยาหรือดูแลอย่างไร”
- เข้าใจวิธีการใช้ยาและติดตามอาการ
- มีแผนการดูแลและตารางนัดหมายตรวจตามแพทย์
✅ Goals (เป้าหมาย)
- ครอบครัวพร้อมช่วยเหลือหรือมีแหล่งสนับสนุน
- ผู้ป่วยและครอบครัวมีความรู้และความมั่นใจในการดูแลตนเองที่บ้าน
- มีแผนการดูแลต่อเนื่องครบถ้วนและปฏิบัติได้จริง
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและลดการกลับมาโรงพยาบาล
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีใช้ยาและการดูแลตนเองได้ถูกต้อง
- ผู้ป่วยมีแผนดูแลและนัดหมายครบถ้วน
✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- ไม่มีอาการผิดปกติที่ต้องกลับมาโรงพยาบาลในระยะสั้น
- I10F10I-1: ประเมินความรู้และความเข้าใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับการรักษาและการดูแลตนเอง
- I10F10I-2: สอนวิธีใช้ยาอย่างถูกต้อง รวมถึงผลข้างเคียงที่ควรระวัง
- I10F10I-3: จัดทำแผนการดูแลต่อเนื่องที่บ้านพร้อมนัดหมายตรวจติดตาม
- I10F10I-4: แนะนำให้ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีส่วนร่วมในการดูแล
- I10F10I-5: ให้ข้อมูลแหล่งสนับสนุน เช่น คลินิก โรงพยาบาล หรือกลุ่มผู้ป่วย
- I10F10I-6: ตรวจสอบความพร้อมทางร่างกายและจิตใจก่อนจำหน่าย
✅ Response (การตอบสนอง)
- I10F10I-7: นัดติดตามและประเมินผลหลังจำหน่าย
- I10F10R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวแสดงความเข้าใจและมั่นใจในการดูแลตนเอง
- I10F10R-2: ผู้ป่วยใช้ยาและปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้อง
- I10F10R-3: มีการนัดหมายและมาตรวจตามแผนอย่างสม่ำเสมอ
- I10F10R-4: ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือกลับมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
..............................................................................
📚 เอกสารอ้างอิง
…………………………………………………..
- สถาบันโรคระบบไหลเวียนโลหิต กรมการแพทย์. (2563). แนวทางเวชปฏิบัติความดันโลหิตสูงในผู้ใหญ่.URL: https://circulationthai.org/download/hypertension-guidelines-2020.pdf
- สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย. (2562). แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคไตและความดันโลหิตสูง. วารสารโรคไต.URL: https://www.thai-kidney.org
- Whelton, P.K., Carey, R.M., Aronow, W.S., et al. (2018). 2017 ACC/AHA/AAPA/ABC/ACPM/AGS/APhA/ASH/ASPC/NMA/PCNA Guideline for the Prevention, Detection, Evaluation, and Management of High Blood Pressure in Adults. Journal of the American College of Cardiology, 71(19), e127–e248.DOI: 10.1016/j.jacc.2017.11.006
- James, P.A., Oparil, S., Carter, B.L., et al. (2014). 2014 Evidence-Based Guideline for the Management of High Blood Pressure in Adults: Report From the Panel Members Appointed to the Eighth Joint National Committee (JNC 8). JAMA, 311(5), 507–520.DOI: 10.1001/jama.2013.284427