เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

EP.85 Med. Topic 5 bโรคหัวใจล้มเหลว : I50 [Heart Failure]


EP.85 Med. Topic 5 โรคหัวใจล้มเหลว : I50 [Heart Failure]

❤️ โรคหัวใจล้มเหลว: รู้ให้ทัน ป้องกันได้

1️⃣ โรคหัวใจล้มเหลวคืออะไร?

  • หัวใจล้มเหลว = หัวใจทำงานไม่เต็มที่ บีบตัวสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ไม่พอ ทำให้เหนื่อยง่าย บวม เพลีย จนชีวิตเสี่ยงอันตรายถ้าไม่รักษา

2️⃣ พยาธิสภาพแบบง่ายๆ

  • กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง หนา แข็ง หรือห้องหัวใจขยายมากเกินไป เลือดคั่งในปอดกับแขนขา ทำให้ร่างกายบวม ขาดออกซิเจน เหนื่อย

3️⃣ มักพบในวัยไหน?

  • ส่วนใหญ่เจอในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง หรือโรคหลอดเลือดหัวใจ

4️⃣ สาเหตุหลักๆ มีอะไรบ้าง?

  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  • ความดันโลหิตสูง
  • กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม
  • โรคลิ้นหัวใจ
  • เคยหัวใจวายมาก่อน

5️⃣ สัญญาณเตือนที่ต้องระวัง!

  • เหนื่อยง่ายแม้แค่เดินช้าๆ
  • นอนราบแล้วหายใจไม่ออก
  • ขาบวม ท้องอืด น้ำหนักขึ้นเร็ว
  • ใจเต้นแรง หรือเต้นผิดจังหวะ
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยตลอดเวลา

6️⃣ รักษายังไง?

  • กินยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • ควบคุมอาหาร ลดเค็ม ลดน้ำ
  • ควบคุมน้ำหนัก
  • บางรายอาจต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือผ่าตัด

7️⃣ บทบาทพยาบาลดูแลอย่างไร?

เฝ้าระวังอาการกำเริบ
สอนผู้ป่วยสังเกตอาการตัวเอง
ชั่งน้ำหนักทุกวัน
เน้นการกินยาสม่ำเสมอ
จัดท่านอนที่หายใจสะดวก
ให้กำลังใจและติดตามต่อเนื่อง

8️⃣ คนทั่วไปดูแลตัวเองเมื่อเสี่ยงหรือมีอาการยังไง?

💡 อย่ามองข้ามสัญญาณเตือน!
💡 ลดเค็ม เลือกอาหารดีต่อหัวใจ
💡 ออกกำลังกายพอดีๆ ตามสภาพ
💡 งดบุหรี่ งดแอลกอฮอล์
💡 ชั่งน้ำหนักทุกวัน ถ้าน้ำหนักขึ้นผิดปกติให้รีบพบแพทย์
💡 หายใจลำบาก หรือบวมมาก รีบไปโรงพยาบาลทันที!

.................................................................

วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว: I50

  1. I50F1 เสี่ยงต่อการแลกเปลี่ยนก๊าซในร่างกายบกพร่อง (Impaired gas exchange)
  2. I50F2 ความสามารถในการสูบฉีดเลือดของหัวใจลดลง (Decreased cardiac output)
  3. I50F3 เสี่ยงต่อภาวะน้ำเกิน (Excess fluid volume) เนื่องจากหัวใจล้มเหลว
  4. I50F4 ไม่สุขสบายจากอาการหายใจลำบาก เหนื่อยง่าย (Activity intolerance related to dyspnea and fatigue)
  5. I50F5 ความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและภาวะแทรกซ้อน (Anxiety related to disease condition and prognosis)
  6. I50F6 ขาดความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองเมื่อกลับบ้าน (Deficient knowledge regarding self-care at home)
  7. I50F7 เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำและภาวะแทรกซ้อนรุนแรง (Risk of recurrent heart failure and serious complications)
  8. I50F8 เตรียมความพร้อมสำหรับการจำหน่ายและการติดตามผล (Readiness for discharge and follow-up care)

...............................................................................................

I50F1 เสี่ยงต่อการแลกเปลี่ยนก๊าซในร่างกายบกพร่อง (Impaired gas exchange)

📌 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “หายใจลำบาก เหนื่อย”
  • บอกว่านอนราบแล้วหายใจไม่ออก

O:

  • หายใจเร็ว > 24 ครั้ง/นาที
  • ชีพจรเร็ว > 100 ครั้ง/นาที
  • ปากเขียว ปลายมือปลายเท้าเขียว
  • ฟังปอดมีเสียงครืดคราด (crackles)
  • ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว (SpO₂) < 90%

🎯 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยแลกเปลี่ยนก๊าซในร่างกายได้เพียงพอ
หายใจได้สะดวกขึ้น ไม่มีภาวะขาดออกซิเจน
ค่า SpO₂ ≥ 95% ภายใน 24 ชั่วโมง

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔹 อัตราการหายใจ ≤ 20 ครั้ง/นาที
🔹 ไม่มีอาการเขียว มือเท้าอุ่น สีผิวชมพู
🔹 SpO₂ ≥ 95% ตลอดเวลา
🔹 ไม่มีเสียงครืดคราดใหม่ในปอด

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • I50F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพ สังเกตอัตราการหายใจ สีผิว และค่า SpO₂ ทุก 2-4 ชั่วโมง
  • I50F1I-2: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อลดแรงดันในปอดและให้หายใจสะดวก
  • I50F1I-3: ให้ออกซิเจนตามแผนการรักษา เพื่อเพิ่มออกซิเจนในเลือด
  • I50F1I-4: เฝ้าระวังเสียงปอดและอาการบวมของร่างกาย เพื่อประเมินการคั่งน้ำ
  • I50F1I-5: สอนวิธีหายใจลึกๆ ช้าๆ และพักระหว่างกิจกรรมเพื่อลดความเหนื่อย
  • I50F1I-6: รายงานแพทย์ทันทีหากค่า SpO₂ ≤ 90% หรือผู้ป่วยอาการแย่ลง

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • I50F1R-1: ผู้ป่วยหายใจได้คล่องขึ้น ไม่เหนื่อยเมื่อนอนพัก
  • I50F1R-2: ค่า SpO₂ ≥ 95% สีผิวกลับมาเป็นปกติ
  • I50F1R-3: อัตราการหายใจ ≤ 20 ครั้ง/นาที ไม่มีอาการเขียว
  • I50F1R-4: ไม่มีเสียงครืดคราดใหม่ในปอดเมื่อประเมิน

...........................................................

I50F2 ความสามารถในการสูบฉีดเลือดของหัวใจลดลง (Decreased cardiac output)

📋 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นว่า “มึนศีรษะ เวียนหัว อ่อนเพลีย”
  • บอกว่า “มือเท้าเย็น เหนื่อยง่าย”

O:

  • ชีพจรเบา เร็ว > 100 ครั้ง/นาที
  • ความดันต่ำ ≤ 90/60 มม.ปรอท
  • ผิวซีด เย็น เหงื่อออก
  • ปัสสาวะน้อย < 30 มล./ชม.

🎯 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยมีการไหลเวียนเลือดเพียงพอต่อความต้องการร่างกาย
สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ไม่มีอาการของภาวะช็อก

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔹 ชีพจร ≤ 100 ครั้ง/นาที แข็งแรงสม่ำเสมอ
🔹 ความดัน ≥ 100/70 มม.ปรอท
🔹 มือเท้าอุ่น สีผิวชมพู
🔹 ปัสสาวะ ≥ 30 มล./ชม.

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • I50F2I-1: ประเมินสัญญาณชีพทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังภาวะช็อก
  • I50F2I-2: ประเมินการไหลเวียนเลือด ปัสสาวะ และความรู้สึกตัวเป็นระยะ
  • I50F2I-3: จัดให้ผู้ป่วยนอนพักในท่าที่สบาย เพื่อลดการทำงานของหัวใจ
  • I50F2I-4: จำกัดกิจกรรมหนัก ให้ผู้ป่วยพักระหว่างกิจกรรมเพื่อลดการใช้ออกซิเจน
  • I50F2I-5: ให้ออกซิเจนเสริมตามแผนการรักษา เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด
  • I50F2I-6: รายงานแพทย์ทันทีเมื่อพบสัญญาณชีพผิดปกติหรือมีอาการแย่ลง

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • I50F2R-1: ชีพจรและความดันอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีสัญญาณช็อก
  • I50F2R-2: มือเท้าอุ่น สีผิวเป็นปกติ ไม่มีซีดหรือเขียว
  • I50F2R-3: ปัสสาวะ ≥ 30 มล./ชม. แสดงถึงการไหลเวียนเลือดเพียงพอ
  • I50F2R-4: ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยตอบสนองได้ปกติ อาการเวียนหัวลดลง

.......................................................................

I50F3 เสี่ยงต่อภาวะน้ำเกิน (Excess fluid volume) 

📋 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นว่า “รู้สึกตัวบวม ใส่รองเท้าแน่นขึ้น”
  • บอกว่า “หายใจอึดอัด ท้องอืด”

O:

  • สังเกตขาบวม เท้าบวม กดบุ๋ม
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 กก./วัน
  • รอบเอว รอบข้อเท้าใหญ่ขึ้น
  • ปัสสาวะลดลงน้อยกว่า 400-500 มล./วัน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำเกินในร่างกาย
น้ำหนักตัวคงที่ในเกณฑ์ที่แพทย์กำหนด
อาการบวมลดลง รู้สึกสบายขึ้น

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔹 น้ำหนักไม่เพิ่มเกิน 0.5-1 กก./วัน
🔹 ไม่มีอาการบวมเพิ่มขึ้น
🔹 ปัสสาวะใกล้เคียงปกติ ≥ 0.5 มล./กก./ชม.
🔹 ผู้ป่วยบอกว่า “รู้สึกหายใจสบายขึ้น”

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • I50F3I-1: ชั่งน้ำหนักตัวทุกเช้าเวลาเดียวกัน เพื่อเฝ้าระวังการคั่งของน้ำ
  • I50F3I-2: ประเมินอาการบวม รอบข้อเท้า รอบเอวทุกวัน
  • I50F3I-3: บันทึกปริมาณน้ำเข้าและออกในแต่ละวัน (I&O) อย่างสม่ำเสมอ
  • I50F3I-4: จำกัดปริมาณน้ำและโซเดียมตามแผนการรักษา
  • I50F3I-5: สอนให้สังเกตอาการบวม น้ำหนักเพิ่ม และรายงานเมื่อผิดปกติ
  • I50F3I-6: รายงานแพทย์หากน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก หรือมีอาการบวมมากขึ้น

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • I50F3R-1: น้ำหนักคงที่หรือเพิ่มไม่เกิน 0.5-1 กก./วัน
  • I50F3R-2: อาการบวมลดลง รอบข้อเท้า/เอวลดลง
  • I50F3R-3: ปัสสาวะในปริมาณปกติ มือเท้าไม่เย็น
  • I50F3R-4: ผู้ป่วยบอกว่า “รู้สึกดีขึ้น หายใจสบายกว่าเดิม”

......................................................................

I50F4 ไม่สุขสบายจากอาการหายใจลำบาก เหนื่อยง่าย (Activity intolerance related to dyspnea and fatigue)

📋 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นว่า “เหนื่อยง่ายเวลาเดิน”
  • บอกว่า “ทำงานบ้านนิดเดียวก็เหนื่อยแล้ว”

O:

  • หายใจเร็ว > 24 ครั้ง/นาที ขณะทำกิจกรรม
  • ชีพจรเร็ว > 100 ครั้ง/นาที
  • สีผิวซีด เหงื่อออก
  • ต้องหยุดพักบ่อยระหว่างกิจกรรม

🎯 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมในระดับที่เหมาะสมโดยไม่เหนื่อยมาก
สัญญาณชีพคงที่ระหว่างและหลังทำกิจกรรม
รู้วิธีปรับพฤติกรรมและพักเมื่อจำเป็น

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔹 สามารถทำกิจกรรมเบาๆ ได้โดยไม่เหนื่อยมาก
🔹 อัตราการหายใจ ≤ 20 ครั้ง/นาที หลังพัก
🔹 ไม่มีอาการเขียวหรือเวียนหัว
🔹 ผู้ป่วยบอกว่า “รู้วิธีหยุดพักเมื่อเริ่มเหนื่อย”

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • I50F4I-1: ประเมินระดับความทนต่อกิจกรรมและสัญญาณชีพก่อน ระหว่าง หลังทำกิจกรรม
  • I50F4I-2: วางแผนกิจกรรมให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เริ่มจากเบาๆ
  • I50F4I-3: แนะนำให้ผู้ป่วยหยุดพักทันทีเมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือหายใจลำบาก
  • I50F4I-4: จัดสิ่งแวดล้อมให้สะดวก ลดความเหนื่อย เช่น ของใช้ใกล้มือ
  • I50F4I-5: สนับสนุนด้านจิตใจ ให้กำลังใจเมื่อผู้ป่วยทำได้ดี
  • I50F4I-6: สอนเทคนิคการหายใจลึกและช้าเพื่อลดอาการเหนื่อย

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • I50F4R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมเบาๆ ได้โดยไม่เหนื่อยมาก
  • I50F4R-2: สัญญาณชีพคงที่หลังทำกิจกรรม ไม่มีเขียวหรือหน้ามืด
  • I50F4R-3: ผู้ป่วยบอกว่า “รู้วิธีจัดสรรพลังงานและหยุดพักเมื่อจำเป็น”
  • I50F4R-4: ผู้ป่วยแสดงสีหน้ามั่นใจและร่วมมือในการทำกิจกรรม

.........................................................

I50F5 ความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและภาวะแทรกซ้อน (Anxiety related to disease condition and prognosis)

📋 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยพูดว่า “กลัวว่าจะหายใจไม่ออกอีก”
  • บอกว่า “กลัวหัวใจจะหยุดทำงานตอนนอน”

O:

  • สีหน้าเคร่งเครียด กระสับกระส่าย
  • พูดจาเสียงสั่น ไม่มองหน้า
  • ชีพจรเร็ว > 100 ครั้ง/นาที เหงื่อออกมาก
  • นอนหลับไม่สนิท

🎯 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกกังวลน้อยลง
มีสีหน้าผ่อนคลาย พูดคุยสื่อสารได้ปกติ
รู้วิธีผ่อนคลายและเข้าใจแผนการรักษา

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔹 ผู้ป่วยบอกว่า “รู้สึกสบายใจขึ้น”
🔹 พูดคุยสื่อสารได้โดยไม่ร้องไห้หรือเสียงสั่น
🔹 สีหน้าผ่อนคลาย หลับพักผ่อนได้ดีขึ้น
🔹 ชีพจร ≤ 100 ครั้ง/นาที

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • I50F5I-1: สร้างบรรยากาศที่สงบ ให้ความเป็นส่วนตัวและรับฟังความกังวลของผู้ป่วย
  • I50F5I-2: ประเมินระดับความวิตกกังวลจากสีหน้า คำพูด และพฤติกรรม
  • I50F5I-3: อธิบายอาการของโรคและแผนการรักษาให้เข้าใจง่าย ลดความกลัว
  • I50F5I-4: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก นับเลขช้าๆ
  • I50F5I-5: สนับสนุนให้ครอบครัวอยู่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจ
  • I50F5I-6: รายงานแพทย์หากพบภาวะวิตกกังวลรุนแรงหรือต้องการการช่วยเหลือเพิ่มเติม

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • I50F5R-1: ผู้ป่วยบอกว่า “รู้สึกสบายใจขึ้น” และเข้าใจโรคของตนเองมากขึ้น
  • I50F5R-2: สีหน้าผ่อนคลาย พูดคุยปกติ ไม่ร้องไห้หรือกระสับกระส่าย
  • I50F5R-3: หลับพักผ่อนได้ดีขึ้น ชีพจรลดลงอยู่ในเกณฑ์
  • I50F5R-4: ผู้ป่วยร่วมมือในการรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำได้ดี

..................................................................

I50F6 ขาดความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองเมื่อกลับบ้าน (Deficient knowledge regarding self-care at home)

📋 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่รู้ว่าต้องกินยาอย่างไร”
  • บอกว่า “กลับบ้านแล้วต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง”

O:

  • ผู้ป่วยแสดงสีหน้างุนงงเมื่ออธิบายแผนดูแล
  • ตอบคำถามผิดพลาดเกี่ยวกับการควบคุมอาหารและน้ำ
  • ไม่มีสมุดบันทึกอาการ/น้ำหนัก

🎯 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยเข้าใจและปฏิบัติการดูแลตนเองได้ถูกต้องเมื่อกลับบ้าน
รู้วิธีควบคุมอาหาร ยา น้ำหนัก และติดตามอาการ
ลดความเสี่ยงกลับเป็นซ้ำและภาวะแทรกซ้อน

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔹 ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีควบคุมอาหาร น้ำ ยาได้ถูกต้อง
🔹 มีแผนบันทึกน้ำหนักและสังเกตอาการผิดปกติ
🔹 แสดงความมั่นใจที่จะดูแลตนเองต่อเนื่องที่บ้าน

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • I50F6I-1: ประเมินความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเอง
  • I50F6I-2: อธิบายวิธีรับประทานยาอย่างถูกต้อง เวลาและขนาดยา
  • I50F6I-3: สอนการจำกัดปริมาณน้ำและโซเดียมในอาหาร
  • I50F6I-4: แนะนำให้ชั่งน้ำหนักทุกวันและบันทึก เพื่อเฝ้าระวังภาวะน้ำเกิน
  • I50F6I-5: สอนสัญญาณอาการที่ต้องรีบพบแพทย์ เช่น เหนื่อยมากขึ้น น้ำหนักขึ้นรวดเร็ว บวมเพิ่ม
  • I50F6I-6: แจกคู่มือและเบอร์โทรฉุกเฉินสำหรับขอคำปรึกษาเมื่อจำเป็น

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • I50F6R-1: ผู้ป่วยอธิบายได้ว่าต้องกินยาอย่างไรและทำไม
  • I50F6R-2: บอกได้ว่าต้องจำกัดโซเดียมและน้ำอย่างไรในแต่ละวัน
  • I50F6R-3: แสดงแผนการจดบันทึกน้ำหนักและสัญญาณเตือน
  • I50F6R-4: แสดงความมั่นใจและขอบคุณที่ได้รับคำแนะนำ

...................................................................

I50F7 เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำและภาวะแทรกซ้อนรุนแรง (Risk of recurrent heart failure and serious complications)

📋 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “กลับบ้านแล้วไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไรบ้าง”
  • พูดว่า “บางทีก็ลืมกินยา ลืมชั่งน้ำหนัก”

O:

  • ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเดิม เช่น ดื่มน้ำมากเกิน กินเค็ม
  • น้ำหนักตัวขึ้นลงเร็ว สัญญาณชีพยังไม่นิ่ง
  • ขาดการนัดติดตามในครั้งก่อน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยปฏิบัติตัวตามแผนสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยง
มีแผนติดตามการรักษาต่อเนื่องหลังจำหน่าย
ลดโอกาสกลับมาแอดมิทซ้ำจากภาวะแทรกซ้อน

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔹 ผู้ป่วยสามารถบอกแผนติดตามการรักษาได้ครบถ้วน
🔹 ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำได้อย่างถูกต้อง
🔹 น้ำหนักและสัญญาณชีพคงที่ ไม่แสดงสัญญาณแย่ลง
🔹 มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • I50F7I-1: ประเมินพฤติกรรมสุขภาพเดิม และสาเหตุที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ
  • I50F7I-2: อธิบายความสำคัญของการควบคุมอาหาร ยา น้ำหนัก และกิจกรรมเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
  • I50F7I-3: วางแผนติดตามผลอย่างเป็นระบบ พร้อมนัดหมายครั้งต่อไปให้ชัดเจน
  • I50F7I-4: สอนสัญญาณอาการเตือนเมื่อโรคกำเริบ เช่น หอบ น้ำหนักเพิ่มมาก ต้องรีบพบแพทย์
  • I50F7I-5: สนับสนุนให้ครอบครัวช่วยดูแลพฤติกรรมสุขภาพหลังจำหน่าย
  • I50F7I-6: ส่งต่อทีมสหวิชาชีพหากพบปัญหาความเสี่ยงสูงหรือความไม่ร่วมมือ

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • I50F7R-1: ผู้ป่วยบอกแผนการติดตามและการปฏิบัติตัวได้ครบถ้วน
  • I50F7R-2: ปฏิบัติตัวได้ตามคำแนะนำ เช่น ควบคุมอาหาร น้ำหนัก และกินยาตามแผน
  • I50F7R-3: สัญญาณชีพและน้ำหนักคงที่ ไม่มีอาการกำเริบ
  • I50F7R-4: มาพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแล

.................................................................

I50F8 เตรียมความพร้อมสำหรับการจำหน่ายและการติดตามผล (Readiness for discharge and follow-up care)

📋 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยพูดว่า “ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าจะกลับบ้านแล้วดูแลตัวเองได้”
  • บอกว่า “กลัวลืมกินยา”

O:

  • ยังไม่เข้าใจแผนการนัดติดตาม
  • ไม่สามารถบอกชื่อยาและวิธีใช้ได้ครบถ้วน
  • แสดงสีหน้ากังวลเมื่อพูดถึงการกลับบ้าน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

ผู้ป่วยและครอบครัวมีความพร้อมกลับบ้าน เข้าใจแผนการดูแลตนเองและการติดตามผล
ทราบวิธีกินยา สังเกตอาการแย่ลง และช่องทางติดต่อฉุกเฉิน
มั่นใจในการดูแลตนเองหลังจำหน่าย

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

🔹 ผู้ป่วยบอกแผนการนัดหมายและเบอร์ฉุกเฉินได้ถูกต้อง
🔹 ทราบชื่อยา วิธีใช้ และเวลาในการกินยา
🔹 สามารถอธิบายอาการเตือนที่ต้องรีบไปโรงพยาบาลได้
🔹 สีหน้าผ่อนคลาย มั่นใจมากขึ้น

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • I50F8I-1: ประเมินความเข้าใจและความพร้อมของผู้ป่วยและครอบครัวในการกลับบ้าน
  • I50F8I-2: สอนเรื่องยา ชื่อยา ขนาด เวลา และผลข้างเคียงที่ควรสังเกต
  • I50F8I-3: สอนสัญญาณเตือนอาการแย่ลง เช่น เหนื่อยมากขึ้น น้ำหนักเพิ่มเร็ว บวมมากขึ้น
  • I50F8I-4: แจ้งแผนการนัดหมายครั้งต่อไป และวิธีติดต่อล่วงหน้า
  • I50F8I-5: แจกเบอร์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลหรือทีมรักษา และอธิบายวิธีขอความช่วยเหลือ
  • I50F8I-6: ให้โอกาสผู้ป่วยซักถาม และย้ำข้อมูลสำคัญให้เข้าใจตรงกัน

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • I50F8R-1: ผู้ป่วยบอกแผนการนัดหมาย ยา และเบอร์ฉุกเฉินได้ครบถ้วน
  • I50F8R-2: สามารถอธิบายอาการแย่ลงที่ควรไปโรงพยาบาลได้
  • I50F8R-3: สีหน้าผ่อนคลายและมั่นใจในการกลับบ้าน
  • I50F8R-4: ครอบครัวให้การสนับสนุนและเข้าใจแผนการดูแลร่วมกัน

..................................................................................

📚 เอกสารอ้างอิง

  • สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย. (2564). แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับภาวะหัวใจล้มเหลว พ.ศ. 2564. กรุงเทพฯ: สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย. Thai Heart Association - Heart Failure Guideline 2021
  • กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2561). แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวในประเทศไทย พ.ศ. 2561. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก. กรมการแพทย์
  • McDonagh, T. A., Metra, M., Adamo, M., et al. (2021). 2021 ESC Guidelines for the diagnosis and treatment of acute and chronic heart failure. European Heart Journal, 42(36), 3599–3726.https://doi.org/10.1093/eurheartj/ehab368
  • Heidenreich, P. A., Bozkurt, B., Aguilar, D., et al. (2022). 2022 AHA/ACC/HFSA Guideline for the Management of Heart Failure. Journal of the American College of Cardiology, 79(17), e263–e421.https://doi.org/10.1016/j.jacc.2021.12.012