เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

EP.90 Med. Topic 10 โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ : N20 [Urinary Calculus (Kidney Stones)]


 🌟 นิ่วในทางเดินปัสสาวะ (N20) เจ็บปวดแค่ไหน ใครก็ไม่อยากเจอ! 🌟

📌 รู้ไว้ก่อน…ป้องกันได้ รักษาทัน เจ็บน้อยกว่า

🔍 ความหมายของโรค

  • นิ่วในทางเดินปัสสาวะ คือ ก้อนผลึกแข็งที่เกิดจากสารในปัสสาวะตกตะกอน สะสมอยู่ในไต ท่อไต หรือกระเพาะปัสสาวะ
  • ➡️ มักทำให้ปวดบั้นเอว ปวดร้าวลงขาหนีบ หรือปัสสาวะขัด

🧬 พยาธิสภาพ

  • สารเคมีในปัสสาวะ เช่น แคลเซียม ออกซาเลต ฟอสเฟต รวมตัวกัน ตกผลึกเป็นก้อนนิ่ว ขวางทางเดินปัสสาวะ ปวดรุนแรง อักเสบ ติดเชื้อ

👵 พบมากในช่วงอายุเท่าไร

  • วัย 30–60 ปี พบมากในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง  โดยเฉพาะคนที่ดื่มน้ำน้อย กินเค็ม หรือกินโปรตีนสัตว์มาก

⚠️ ปัจจัยเสี่ยง

  • ดื่มน้ำน้อยเกินไป
  • ชอบกินเค็ม / อาหารแปรรูป
  • กินเนื้อสัตว์มาก
  • มีประวัตินิ่วในครอบครัว
  • โรคเกาต์ หรือโรคไตเรื้อรัง

🚨 อาการ

  • ปวดบั้นเอวรุนแรง (สลับข้าง)
  • ปวดร้าวลงขาหนีบ
  • ปัสสาวะขัด / ขุ่น / ปนเลือด
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีไข้ หนาวสั่น (ถ้ามีการติดเชื้อร่วม)

🏥 การรักษา

  • ดื่มน้ำมากขึ้น เพื่อขับนิ่วออกเอง (นิ่วขนาดเล็ก)
  • ยาละลายนิ่ว หรือบรรเทาปวด
  • สลายนิ่วด้วยคลื่นเสียง (ESWL)
  • ผ่าตัดหรือส่องกล้อง หากนิ่วก้อนใหญ่

💉 การพยาบาล

  • ประเมินระดับความปวด ให้ยาแก้ปวด
  • ส่งตรวจปัสสาวะ-เอกซเรย์
  • แนะนำการดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ
  • เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในไต
  • บันทึกจำนวน-ลักษณะปัสสาวะ

💧 การดูแลตัวเอง (บุคคลทั่วไป)

ดื่มน้ำให้ได้ 2–3 ลิตร/วัน
ลดเค็ม ลดเนื้อสัตว์แดง
อย่ากลั้นปัสสาวะ
สังเกตปัสสาวะ หากขุ่นหรือปวดรีบพบแพทย์
หากเคยเป็นนิ่ว ควรตรวจติดตามทุก 6 เดือน

📌 จำไว้! “ดื่มน้ำมากพอ = ลดโอกาสนิ่วได้จริง”
🎯 แชร์ให้คนใกล้ตัวรู้ทัน!
📲 ติดตามสาระสุขภาพดี ๆ ได้ที่เพจ การบันทึกทางการพยาบาลอิเล็กทรอนิกส์

………………………………………………………

🌟 วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ : N20

  1. N20F1 ปวดอย่างรุนแรงจากนิ่วอุดตันทางเดินปัสสาวะ (Acute pain related to urinary tract obstruction by stones)
  2. N20F2 เสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ (Risk for urinary tract infection)
  3. N20F3 เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมเฉียบพลัน (Risk for acute kidney injury)
  4. N20F4 มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการปวดและแนวทางรักษา (Anxiety related to pain and uncertainty of treatment)
  5. N20F5 ขาดความรู้ในการป้องกันนิ่วซ้ำ (Deficient knowledge related to prevention of recurrent stones)
  6. N20F6 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา (Risk for complications related to treatment interventions)
  7. N20F7 ต้องการการฟื้นฟูสุขภาพหลังการรักษา (Readiness for enhanced self-health management)
  8. N20F8 วางแผนจำหน่ายโดยเน้นการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน (Effective discharge planning with home care instructions)

………………………………………………..

N20F1: ปวดอย่างรุนแรงจากนิ่วอุดตันทางเดินปัสสาวะ (Acute pain related to urinary tract obstruction by stones)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยรายงานว่า “ปวดบั้นเอวมาก ปวดร้าวลงขาหนีบ”
  • ผู้ป่วยให้คะแนนความปวดระดับ 8–9 จาก 10

O:

  • แสดงอาการกระสับกระส่าย จับบั้นเอวบ่อย
  • ปัสสาวะขัด สีขุ่น หรือมีเลือดปน
  • หน้าซีด เหงื่อออก
  • วัดชีพจรเร็ว และความดันอาจต่ำ
  • มีประวัตินิ่วในไตหรือทางเดินปัสสาวะ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยบรรเทาอาการปวดได้ภายใน 30–60 นาทีหลังให้ยา
  • ผู้ป่วยร่วมมือในการประเมินระดับความปวด
  • ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากอาการปวด เช่น ความดันต่ำหรือช็อก

📌 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)

  • ระดับความปวดลดลงเหลือน้อยกว่า 3 จาก 10
  • ผู้ป่วยแสดงสีหน้าและท่าทางสบายขึ้น
  • ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากความปวด เช่น หน้ามืด อาเจียนหรือความดันต่ำ
  • ผู้ป่วยสามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • N20F1I-1: ประเมินระดับความปวดโดยใช้ Pain Scale ทุก 1–2 ชั่วโมง
  • N20F1I-2: ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา เช่น NSAIDs หรือ Morphine ตามข้อบ่งชี้
  • N20F1I-3: จัดท่าผู้ป่วยให้นอนสบาย ลดแรงกดที่ไต เช่น นอนตะแคงงอเข่า
  • N20F1I-4: แนะนำเทคนิคการหายใจลึก และการผ่อนคลายเพื่อช่วยลดความตึงเครียด
  • N20F1I-5: ติดตามสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง หรือบ่อยขึ้นหากมีอาการรุนแรง
  • N20F1I-6: บันทึกลักษณะปัสสาวะและอาการปวดในแต่ละรอบการดูแล
  • N20F1I-7: เตรียมส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ปัสสาวะ U/A, KUB, Ultrasound
  • N20F1I-8: ให้ข้อมูลผู้ป่วยและญาติเรื่องอาการของนิ่ว อาการที่ควรแจ้งพยาบาลทันที เช่น ปวดรุนแรงขึ้น/ไข้สูง

✅ Response (การตอบสนอง)

  • N20F1R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าอาการปวดลดลงเหลือ ≤ 3 จาก 10 ภายใน 1 ชั่วโมง
  • N20F1R-2: ผู้ป่วยสามารถนอนหลับหรือพักผ่อนได้โดยไม่ถูกรบกวนจากความปวด
  • N20F1R-3: สีหน้าและพฤติกรรมของผู้ป่วยดูผ่อนคลายขึ้น
  • N20F1R-4: ไม่มีสัญญาณชีพผิดปกติ เช่น ชีพจรเร็วผิดปกติหรือความดันต่ำ
  • N20F1R-5: ผู้ป่วยร่วมมือในการรักษา และแจ้งเมื่อมีอาการปวดซ้ำ

…………………………………….

N20F2: เสี่ยงต่อการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ (Risk for urinary tract infection)

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยรายงานว่าปวดปัสสาวะ ขัด หรือแสบขณะปัสสาวะ
  • อาจรู้สึกหนาวสั่น หรือมีไข้ต่ำ

O:

  • ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นผิดปกติ หรือมีเลือดปน
  • วัดอุณหภูมิร่างกายพบว่า ≥ 37.5°C
  • ตรวจพบ Leukocyte หรือ Nitrite ในปัสสาวะ
  • นิ่วอุดตันระบบทางเดินปัสสาวะจากผลภาพถ่ายหรืออัลตราซาวด์

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยไม่แสดงอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
  • ควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อได้ทันท่วงที
  • ส่งเสริมให้ปัสสาวะได้อย่างเพียงพอ เพื่อลดการคั่งของเชื้อ

📌 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)

  • ไม่มีไข้ หนาวสั่น หรืออาการปวดขณะปัสสาวะ
  • ปัสสาวะใส ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีเลือดปน
  • ผล UA และ WBC ในปัสสาวะปกติ
  • ไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อในไต (เช่น ปวดหลัง ไข้สูง)

✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • N20F2I-1: สังเกตอาการแสดงของการติดเชื้อ เช่น ไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัดหรือขุ่น
  • N20F2I-2: วัดอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง หากมีไข้ให้รายงานแพทย์ทันที
  • N20F2I-3: ส่งตรวจปัสสาวะ (UA, C&S) ตามแผนการรักษา
  • N20F2I-4: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 2–3 ลิตร/วัน เว้นกรณีห้ามโดยแพทย์
  • N20F2I-5: ดูแลการให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษาอย่างถูกต้อง
  • N20F2I-6: เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น ไตอักเสบ หรือภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
  • N20F2I-7: แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ และถ่ายปัสสาวะทุก 2–3 ชั่วโมง
  • N20F2I-8: ให้ความรู้เรื่องสังเกตอาการติดเชื้อ และวิธีดูแลสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศ

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • N20F2R-1: ผู้ป่วยไม่มีไข้หรืออาการบ่งชี้การติดเชื้อ
  • N20F2R-2: ปัสสาวะใสขึ้น ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือเลือดปน
  • N20F2R-3: ผู้ป่วยสามารถดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอ และถ่ายปัสสาวะสม่ำเสมอ
  • N20F2R-4: ผล UA และ C&S ไม่มีการเจริญเติบโตของเชื้อ
  • N20F2R-5: ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีป้องกันการติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง

…………………………………………….

N20F3: เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมเฉียบพลัน (Risk for Acute Kidney Injury)

🔎 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยระบุว่าปัสสาวะได้น้อยลง
  • รู้สึกแน่นหรือปวดบริเวณบั้นเอว

O:

  • ปัสสาวะน้อยกว่า 0.5 มล./กก./ชม.
  • ตรวจพบค่าครีเอตินินในเลือดเพิ่มขึ้น
  • มีภาวะบวมบริเวณขา ใบหน้า
  • คลื่นไส้ อาเจียน

ปวดบั้นเอวข้างใดข้างหนึ่ง

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยไม่มีภาวะไตเสื่อมเฉียบพลัน
  • ปริมาณปัสสาวะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • การไหลเวียนของปัสสาวะไม่ถูกอุดกั้น
  • ผลตรวจการทำงานของไตคงที่หรือดีขึ้น

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ปัสสาวะ ≥ 0.5 มล./กก./ชม.
  • ค่า BUN, Creatinine ไม่เพิ่มขึ้น
  • ไม่มีอาการบวม
  • ไม่มีคลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดรุนแรง

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • N20F3I-1: ประเมินปริมาณปัสสาวะทุก 4–6 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังภาวะไตทำงานลดลง
  • N20F3I-2: เฝ้าระวังสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะความดันโลหิตและอุณหภูมิ
  • N20F3I-3: ส่งตรวจค่า BUN, Creatinine และ eGFR ตามแผนการรักษา
  • N20F3I-4: ส่งเสริมให้ดื่มน้ำวันละ 2–3 ลิตร (ถ้าไม่มีข้อห้าม) เพื่อป้องกันการคั่งของนิ่ว
  • N20F3I-5: ติดตามผลการ X-ray หรือ Ultrasound ช่องท้อง เพื่อประเมินการอุดกั้น
  • N20F3I-6: บันทึกอาการผิดปกติ เช่น ปวดเอว คลื่นไส้ อาเจียน
  • N20F3I-7: ดูแลให้ผู้ป่วยพักผ่อน ลดการใช้พลังงานร่างกาย
  • N20F3I-8: ประสานแพทย์ทันที หากพบอาการหรือผลตรวจบ่งชี้ภาวะไตเสื่อมเฉียบพลัน
  • N20F3I-9: เตรียมพร้อมกรณีแพทย์พิจารณาทำหัตถการ เช่น ใส่สายสวนไต หรือผ่าตัด

✅ Response (การตอบสนอง)

  • N20F3R-1: ปัสสาวะ ≥ 0.5 มล./กก./ชม. อย่างต่อเนื่อง
  • N20F3R-2: ค่า BUN และ Creatinine คงที่หรือเริ่มลดลง
  • N20F3R-3: ไม่มีอาการปวดเอว คลื่นไส้ หรืออาเจียน
  • N20F3R-4: ไม่มีภาวะบวมบริเวณใบหน้า/ขา
  • N20F3R-5: ผู้ป่วยมีความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อไตเสื่อม

…………………………………….

N20F4: เสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมเฉียบพลัน (Risk for Acute Kidney Injury)

🩺 Assessment (การประเมิน)

S (Subjective data)

  • ผู้ป่วยบ่นแน่นหลังหรือปวดเอวรุนแรง
  • ปัสสาวะออกน้อย หรือรู้สึกปัสสาวะไม่สุด
  • รู้สึกคลื่นไส้ อ่อนเพลีย

O (Objective data)

  • ปัสสาวะขุ่นหรือมีเลือดปน
  • ปริมาณปัสสาวะ < 0.5 ml/kg/hr
  • BUN, Creatinine สูงกว่าปกติ
  • ตรวจพบ hydronephrosis จากอัลตราซาวด์หรือ CT
  • มีอาการบวมที่ใบหน้า/เท้า
  • Vital signs: BP สูง หรือต่ำผิดปกติ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไตเสื่อมเฉียบพลัน
  • ผู้ป่วยมีการขับถ่ายปัสสาวะเพียงพอและต่อเนื่อง
  • ค่า BUN และ Creatinine อยู่ในระดับปกติ
  • ลดความเจ็บปวดและอาการแทรกซ้อน

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ปัสสาวะออก ≥ 0.5 ml/kg/hr อย่างต่อเนื่อง
  • ค่า BUN/Creatinine ลดลงใกล้ค่าปกติ
  • ไม่มีอาการบวม ความดันปกติ
  • ผู้ป่วยรายงานอาการดีขึ้น ไม่มีอาการปวดรุนแรง
  • ไม่มีสัญญาณของภาวะไตวายเฉียบพลัน

💊 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • N20F4I-1 เฝ้าระวังปริมาณและลักษณะของปัสสาวะทุก 4 ชั่วโมง
  • N20F4I-2 วัด vital signs และดูอาการบวมที่ใบหน้า/เท้า ทุก 4 ชั่วโมง
  • N20F4I-3 ประเมินความเจ็บปวดและให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
  • N20F4I-4 ติดตามผล BUN, Creatinine, eGFR อย่างสม่ำเสมอ
  • N20F4I-5 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเพียงพอ หากไม่มีข้อห้าม
  • N20F4I-6 เตรียมพร้อมกรณีต้องใส่สายสวนปัสสาวะเพื่อระบาย
  • N20F4I-7 ให้ความรู้เรื่องอาการเตือนภาวะไตเสื่อม เช่น ปัสสาวะลดลง หน้าบวม
  • N20F4I-8 ติดตามอาการทางระบบประสาท เช่น ซึม สับสน ซึ่งอาจบ่งถึงภาวะไตวาย
  • N20F4I-9 ประสานทีมแพทย์กรณีมีภาวะไตเสื่อมหรือผลแลบผิดปกติ
  • N20F4I-10 บันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อประกอบการตัดสินใจทางคลินิก

✅ Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)

  • N20F4R-1 ปัสสาวะออกต่อเนื่องเพียงพอ ไม่มีเลือดปน
  • N20F4R-2 Vital signs คงที่ ไม่มีอาการบวม หรือภาวะความดันผิดปกติ
  • N20F4R-3 ค่า BUN/Creatinine ลดลงใกล้ปกติ
  • N20F4R-4 ผู้ป่วยรายงานว่าปวดลดลงและรู้สึกดีขึ้น
  • N20F4R-5 ผู้ป่วยสามารถระบุสัญญาณเตือนของภาวะไตเสื่อมได้

………………………………….

N20F5  ขาดความรู้ในการป้องกันนิ่วซ้ำ

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยกล่าวว่า “ไม่รู้ว่ากินอะไรถึงจะไม่เป็นนิ่วอีก”
  • ผู้ป่วยถามถึงสาเหตุและวิธีป้องกันนิ่ว

O:

  • ไม่พบการปฏิบัติตัวในการป้องกันนิ่ว เช่น ดื่มน้ำน้อย
  • ไม่มีเอกสารหรือการสอนเรื่องนิ่วในประวัติการรักษา
  • ผู้ป่วยเพิ่งเคยเป็นนิ่วครั้งแรก หรือเคยเป็นซ้ำหลายครั้ง

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีความรู้เรื่องการป้องกันนิ่วซ้ำ และสามารถปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง

📊 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีป้องกันนิ่วซ้ำได้อย่างน้อย 3 ข้อ
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง เช่น ดื่มน้ำมากขึ้น เลี่ยงอาหารเสี่ยง
  • ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากนิ่วซ้ำ

✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • N20F5I-1: ประเมินความรู้พื้นฐานของผู้ป่วยเกี่ยวกับนิ่ว และสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่ว
  • N20F5I-2: จัดเตรียมสื่อการสอน เช่น แผ่นพับ หรือวิดีโอเกี่ยวกับการป้องกันนิ่ว
  • N20F5I-3: ให้ความรู้เรื่องการดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน (ยกเว้นข้อห้ามทางการแพทย์)
  • N20F5I-4: สอนให้เลี่ยงอาหารที่มีออกซาเลตสูง เช่น ชาเข้ม ช็อกโกแลต ผักโขม
  • N20F5I-5: สอนเรื่องการลดการบริโภคเกลือและโปรตีนสัตว์
  • N20F5I-6: กระตุ้นให้จดบันทึกปริมาณน้ำที่ดื่มและการขับถ่ายประจำวัน
  • N20F5I-7: ส่งเสริมให้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะและติดตามผล
  • N20F5I-8: เปิดโอกาสให้ซักถาม และประเมินความเข้าใจของผู้ป่วย
  • N20F5I-9: สื่อสารกับทีมสหวิชาชีพ หากพบว่าผู้ป่วยมีภาวะซับซ้อนที่ต้องดูแลเฉพาะทาง
  • N20F5I-10: นัดติดตามผลความรู้และพฤติกรรมของผู้ป่วยในการเยี่ยมครั้งต่อไป

💬 Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)

  • N20F5R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายสาเหตุของนิ่ว และการป้องกันนิ่วซ้ำได้
  • N20F5R-2: ผู้ป่วยปรับพฤติกรรม เช่น ดื่มน้ำมากขึ้น และลดอาหารเสี่ยง
  • N20F5R-3: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการดูแลตัวเอง และสามารถวางแผนชีวิตประจำวันได้
  • N20F5R-4: ผู้ป่วยแสดงความร่วมมือในการนัดติดตาม และแสดงความสนใจในการดูแลตนเอง
  • N20F5R-5: ไม่พบภาวะนิ่วซ้ำในช่วงติดตามผล

…………………………………………

N20F6 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา

✅ Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการรักษา
  • ผู้ป่วยมีคำถามเกี่ยวกับการดูแลหลังทำหัตถการ

O:

  • ผู้ป่วยได้รับการวางแผนรักษาด้วยการสลายนิ่ว/ผ่าตัด
  • มีสายสวนปัสสาวะ/แผลจากการผ่าตัด
  • ยังไม่พบสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน เช่น มีไข้ หนาวสั่น ปวดมากผิดปกติ

✅ Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนจากการรักษา
  • ผู้ป่วยรู้วิธีดูแลตนเองหลังทำหัตถการ
  • สังเกตพบอาการผิดปกติได้ทัน

✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ไม่มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะขัด หรือเลือดออกผิดปกติ
  • แผลสะอาด ไม่บวมแดงหรือมีหนอง
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนได้ถูกต้อง

✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • N20F6I-1: ประเมินแผลผ่าตัด สายสวน หรือจุดเจาะว่าสะอาด แห้ง ไม่อักเสบ
  • N20F6I-2: วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง และประเมินอาการของภาวะแทรกซ้อน
  • N20F6I-3: เฝ้าระวังปัสสาวะ สี กลิ่น ปริมาณ ความเจ็บขณะปัสสาวะ
  • N20F6I-4: ดูแลให้ได้รับยาและน้ำเกลือตามแผนการรักษา
  • N20F6I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากขึ้น (ถ้าไม่ห้ามน้ำ) เพื่อช่วยขับนิ่ว
  • N20F6I-6: ให้ความรู้เรื่องอาการเตือน เช่น ปวดมาก มีไข้ ปัสสาวะขัดหรือแดง
  • N20F6I-7: แนะนำวิธีปฏิบัติตัวหลังทำหัตถการ เช่น ดูแลแผล หลีกเลี่ยงยกของหนัก
  • N20F6I-8: ประสานงานแพทย์ทันทีหากพบอาการเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
  • N20F6I-9: บันทึกอาการ สัญญาณชีพ และผลการเฝ้าระวังอย่างละเอียด
  • N20F6I-10: สนับสนุนด้านจิตใจ คลายกังวลของผู้ป่วยและญาติ

✅ Response (การตอบสนอง)

  • N20F6R-1: ผู้ป่วยไม่มีไข้ แผลสะอาด ไม่มีอาการปวดรุนแรง
  • N20F6R-2: ปัสสาวะออกดี สีใส ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือเลือด
  • N20F6R-3: ผู้ป่วยสามารถอธิบายการดูแลหลังหัตถการและอาการเตือนภาวะแทรกซ้อนได้
  • N20F6R-4: ผู้ป่วยและญาติแสดงความมั่นใจในการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน
  • N20F6R-5: ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังการรักษา

………………………………………….

N20F7  ต้องการการฟื้นฟูสุขภาพหลังการรักษา

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยแสดงความต้องการดูแลตนเองและป้องกันนิ่วซ้ำ
  • มีคำถามเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังรักษา

O:

  • ไม่มีอาการปวดหรือภาวะแทรกซ้อนหลังการรักษา
  • ปริมาณปัสสาวะปกติและไม่มีเลือดปน
  • ผลตรวจสุขภาพทั่วไปเป็นปกติ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีความรู้และทักษะในการดูแลตนเองหลังการรักษา
  • ป้องกันการเกิดนิ่วซ้ำและภาวะแทรกซ้อน
  • ส่งเสริมสุขภาพโดยรวมดีขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีป้องกันนิ่วซ้ำและดูแลสุขภาพได้
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องอาหารและน้ำดื่ม
  • ไม่มีอาการนิ่วซ้ำหรือภาวะแทรกซ้อนในระยะติดตาม
  • รายงานคุณภาพชีวิตดีขึ้นและมีพลังงานเพิ่มขึ้น

✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • N20F7I-1: ประเมินความเข้าใจและความพร้อมของผู้ป่วยในการดูแลตนเอง
  • N20F7I-2: ให้ความรู้เรื่องการดื่มน้ำเพียงพออย่างต่อเนื่อง (2-3 ลิตร/วัน)
  • N20F7I-3: แนะนำอาหารที่เหมาะสม ลดโซเดียมและโปรตีนสัตว์
  • N20F7I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยออกกำลังกายอย่างเหมาะสมตามสภาพร่างกาย
  • N20F7I-5: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการนัดติดตามผลและการตรวจสุขภาพ
  • N20F7I-6: ส่งเสริมการบันทึกพฤติกรรมสุขภาพ เช่น การดื่มน้ำ การปัสสาวะ
  • N20F7I-7: สร้างแรงจูงใจและสนับสนุนด้านจิตใจเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
  • N20F7I-8: ประสานงานกับทีมสุขภาพเพื่อการติดตามและสนับสนุนต่อเนื่อง
  • N20F7I-9: แนะนำเทคนิคการจัดการความเครียดและการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
  • N20F7I-10: ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยเป็นระยะ

✅ Response (การตอบสนอง)

  • N20F7R-1: ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจในการป้องกันนิ่วซ้ำและสามารถปฏิบัติได้
  • N20F7R-2: ปริมาณน้ำดื่มและพฤติกรรมสุขภาพดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • N20F7R-3: ไม่มีอาการนิ่วซ้ำหรือภาวะแทรกซ้อนในช่วงติดตาม
  • N20F7R-4: ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตและพลังงานดีขึ้น
  • N20F7R-5: ผู้ป่วยมีความมั่นใจและพึงพอใจในการดูแลสุขภาพตนเอง

…………………………………………….

N20F8 วางแผนจำหน่ายโดยเน้นการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน

📝 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการดูแลตนเองที่บ้าน
  • ถามถึงวิธีปฏิบัติตัวหลังจำหน่าย

O:

  • อาการปวดลดลง ปัสสาวะปกติ
  • ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังการรักษา
  • รับคำแนะนำจากทีมแพทย์และพยาบาลก่อนจำหน่าย

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยและครอบครัวมีความรู้และทักษะในการดูแลตนเองที่บ้าน
  • ป้องกันนิ่วซ้ำและภาวะแทรกซ้อน
  • ผู้ป่วยติดตามนัดหมายและรับบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายการดูแลตนเองและป้องกันนิ่วซ้ำได้
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องอาหาร น้ำ และยา
  • ผู้ป่วยไม่มีอาการผิดปกติหลังจำหน่าย
  • ผู้ป่วยมาพบแพทย์หรือติดตามผลตามนัดหมาย

✅ Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • N20F8I-1: ให้คำแนะนำเรื่องการดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร (ถ้าไม่มีข้อห้าม)
  • N20F8I-2: สอนวิธีการรับประทานอาหารที่ลดความเสี่ยงนิ่ว เช่น ลดเค็ม ลดโปรตีนสัตว์
  • N20F8I-3: แนะนำการสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดรุนแรง ปัสสาวะขัด หรือมีเลือดปน
  • N20F8I-4: ให้ความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดหรือหัตถการ (ถ้ามี)
  • N20F8I-5: ส่งเสริมให้ติดตามนัดหมายและตรวจสุขภาพตามคำแนะนำ
  • N20F8I-6: สนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลและสังเกตอาการ
  • N20F8I-7: จัดทำสื่อความรู้หรือแผ่นพับสำหรับผู้ป่วยและครอบครัว
  • N20F8I-8: ประเมินความเข้าใจของผู้ป่วยและครอบครัวก่อนจำหน่าย
  • N20F8I-9: วางแผนการติดตามผลระยะยาวร่วมกับทีมสุขภาพ
  • N20F8I-10: เปิดโอกาสให้ซักถามและแก้ไขข้อสงสัย

✅ Response (การตอบสนอง)

  • N20F8R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายและปฏิบัติตามคำแนะนำได้
  • N20F8R-2: ไม่มีอาการผิดปกติหลังจำหน่าย
  • N20F8R-3: ผู้ป่วยเข้ารับการติดตามตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
  • N20F8R-4: ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลและสังเกตอาการ
  • N20F8R-5: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการดูแลสุขภาพตนเองที่บ้าน

………………………………………………..

เอกสารอ้างอิง

  • กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ.”กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์กรมการแพทย์, 2564.(แนวทางนี้ครอบคลุมการวินิจฉัย รักษา และการพยาบาลโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ) [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก:  http://www.dms.moph.go.th
  • สมาคมพยาบาลโรคไตแห่งประเทศไทย.การดูแลผู้ป่วยโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ.” วารสารพยาบาลโรคไต. ปีที่ 12, ฉบับที่ 3, 2563, หน้า 45-52.(บทความเน้นการดูแลพยาบาลและการฟื้นฟูผู้ป่วย)
  • Pearle MS, Calhoun EA, Curhan GC. "Urolithiasis." In: Jameson JL, Fauci AS, Kasper DL, Hauser SL, Loscalzo J, editors. Harrison’s Principles of Internal Medicine. 20th ed. New York: McGraw-Hill; 2018.
  • Turk C, Petrik A, Sarica K, et al. "EAU Guidelines on Diagnosis and Conservative Management of Urolithiasis." European Urology. 2016;69(3):468-474.