✅ความหมายของโรคหืด (Asthma)
โรคหืด คือ โรคเรื้อรังของทางเดินหายใจ ที่เยื่อบุหลอดลมอักเสบง่าย
ทำให้ตีบแคบ หายใจลำบาก ไอ แน่นหน้าอก และมีเสียงวี๊ด
✅พยาธิสภาพ
หลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้น →
เยื่อบุบวม มีเสมหะ และหดเกร็ง → อากาศผ่านได้น้อย →
หอบเหนื่อย
เริ่มพบตั้งแต่เด็กเล็ก แต่ผู้ใหญ่ก็เป็นได้
โดยเฉพาะคนที่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว
✅ปัจจัยเสี่ยง/สิ่งกระตุ้น
🌱 ฝุ่น ควันบุหรี่ มลพิษ
🌱 ขนสัตว์ เกสรดอกไม้
🌱 อากาศเย็นจัด หรือออกกำลังกายหนัก
🌱 ความเครียด การติดเชื้อทางเดินหายใจ
✅อาการสำคัญ
😮 หายใจหอบถี่
😮 แน่นหน้าอก
😮 ไอตอนกลางคืน/เช้า
😮 มีเสียงหวีดขณะหายใจ
✅การรักษา
🩺 พบแพทย์เพื่อรับยาพ่นควบคุมอาการและยาพ่นบรรเทา
🩺 หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
🩺 รักษาตามแผนสม่ำเสมอ แม้ไม่มีอาการ
✅การพยาบาล (สำหรับพยาบาล)
👩⚕️ เฝ้าสังเกตอาการหอบเหนื่อยและเสียงหวีด
👩⚕️ สอนเทคนิคใช้ยาพ่นให้ถูกต้อง
👩⚕️ ให้กำลังใจ ลดความเครียดผู้ป่วย
👩⚕️ ช่วยวางแผนเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
✅วิธีดูแลตัวเองสำหรับบุคคลทั่วไป
🌟 ใช้ยาตามแพทย์สั่ง ไม่หยุดยาเอง
🌟 ทำบ้านให้สะอาด ลดฝุ่น/ไรฝุ่น
🌟 หลีกเลี่ยงบุหรี่ ควัน ขนสัตว์
🌟 ออกกำลังกายเบาๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
🌟 ถ้าหอบหนัก พูดไม่เป็นคำ
ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที!
…………………………………..
วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคหืด
(Asthma: J45)
- J45F1 การแลกเปลี่ยนก๊าซบกพร่อง (Impaired gas exchange) เกิดจากทางเดินหายใจตีบแคบและมีเสมหะ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเฝ้าระวังและช่วยให้อากาศผ่านได้ดีขึ้น
- J45F2 การหายใจมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ (Ineffective breathing pattern) สังเกตผู้ป่วยหอบถี่ ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจ เหนื่อยง่าย ควรดูแลให้ท่าที่หายใจสะดวกและประเมินสัญญาณชีพอย่างใกล้ชิด
- J45F3 เสมหะคั่งค้างในทางเดินหายใจ (Ineffective airway clearance) เนื่องจากมีเสมหะมากและเหนียวข้น อาจต้องกระตุ้นให้ไอ เอาเสมหะออก และให้ยาละลายเสมหะตามแผนการรักษา
- J45F4 วิตกกังวลเกี่ยวกับอาการหอบ (Anxiety related to dyspnea) อาการหอบเหนื่อยทำให้ผู้ป่วยกลัวและเครียด ต้องให้ข้อมูล สอนเทคนิคหายใจ และให้กำลังใจเพื่อลดความวิตกกังวล
- J45F5 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากอาการหอบรุนแรง (Risk for status asthmaticus and respiratory failure) ต้องเฝ้าระวังอาการรุนแรง เช่น ออกซิเจนต่ำ พูดไม่เป็นประโยค ซึมลง รีบรายงานแพทย์เมื่อมีสัญญาณอันตราย
- J45F6 ขาดความรู้เกี่ยวกับการควบคุมโรคและการใช้ยาที่บ้าน (Deficient knowledge about disease control and home medication use) สอนวิธีใช้ยาพ่น วิธีหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น และวิธีปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
- J45F7 เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำหลังจำหน่าย (Risk for recurrence after discharge) วางแผนติดตามผล นัดตรวจต่อเนื่อง แนะนำให้ปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัดเมื่อกลับบ้าน
- J45F8 ความสามารถในการทำกิจวัตรลดลงจากอาการหอบ (Activity intolerance related to dyspnea) ช่วยวางแผนกิจกรรมให้เหมาะสม พักเป็นระยะ ไม่หักโหม เพื่อป้องกันอาการกำเริบ
J45F1: การแลกเปลี่ยนก๊าซบกพร่อง
(Impaired gas exchange)
🔷 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม หอบเหนื่อยมากขึ้น
O:
- ฟังปอดได้ยินเสียงหวีด, RR > 30 ครั้ง/นาที, SpO₂ < 90%, หน้าเขียวซีด, ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจ
🔷 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีการแลกเปลี่ยนก๊าซเพียงพอ หายใจคล่องขึ้น
- ค่าความอิ่มตัวออกซิเจน ≥ 95% ภายใน 30 นาที
- ไม่มีอาการหอบรุนแรงเพิ่มเติม
🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยหายใจได้เอง RR ลดลงเป็นปกติ 16–24 ครั้ง/นาที
- SpO₂
≥ 95% โดยไม่ต้องใช้ออกซิเจนสูง
- สีผิวกลับมาเป็นปกติ ไม่มีเสียงหวีดเวลาหายใจ
🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- J45F1I-1: เฝ้าสังเกตสัญญาณชีพ
ค่า SpO₂ และอาการหอบทุก 15–30 นาทีแรก
เพื่อติดตามความรุนแรง
- J45F1I-2: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อให้ปอดขยายตัวดีและหายใจสะดวกขึ้น
- J45F1I-3: ให้ออกซิเจนตามแผนการรักษา เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด
- J45F1I-4: ประเมินเสมหะและช่วยกระตุ้นให้ไอขับเสมหะหรือล้างทางเดินหายใจหากจำเป็น
- J45F1I-5: สอนเทคนิคหายใจแบบช้า ลึก (pursed-lip breathing) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหายใจ
- J45F1I-6: รายงานแพทย์ทันทีหากมีอาการรุนแรง
เช่น พูดไม่ได้ ซึมลง หรือ SpO₂
< 85%
🔷 Response (การตอบสนอง)
- J45F1R-1: ผู้ป่วยหายใจคล่องขึ้น RR อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- J45F1R-2: SpO₂ ≥ 95% และสีผิวกลับมาเป็นสีชมพู
- J45F1R-3: ไม่มีเสียงหวีดในปอดหรือเสียงลดลงชัดเจน
- J45F1R-4: ผู้ป่วยบอกว่าแน่นหน้าอกน้อยลงและรู้สึกดีขึ้น
………………………………………………….
J45F2 การหายใจมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ
(Ineffective breathing pattern)
🔷 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรายงานหายใจลำบาก หอบเหนื่อยง่าย
O:
- RR > 30 ครั้ง/นาที,
ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจ, ซึมเล็กน้อย, ปอดมีเสียงหวีด, SpO₂
< 92%
🔷 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยหายใจได้มีประสิทธิภาพขึ้น
- RR ลดลงสู่ช่วงปกติ 16–24 ครั้ง/นาที
- SpO₂
≥ 95% โดยไม่ต้องใช้ออกซิเจนสูง
🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- RR ลดลงและหายใจได้สม่ำเสมอ
- ไม่มีการใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจมากเกินไป
- SpO₂
อยู่ในเกณฑ์ปกติ ≥ 95%
- ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้นเมื่อหายใจ
🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- J45F2I-1: เฝ้าติดตามอัตราหายใจและ
SpO₂ ทุก 15-30 นาทีจนอาการดีขึ้น
- J45F2I-2: จัดท่านั่งศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อช่วยให้ปอดขยายตัวเต็มที่
- J45F2I-3: สอนเทคนิคหายใจช้าและลึก (pursed-lip breathing) เพื่อลดความเหนื่อย
- J45F2I-4: ดูแลให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล เพราะจะช่วยให้หายใจดีขึ้น
- J45F2I-5: ให้ยาตามแพทย์สั่ง เช่น ยาพ่นขยายหลอดลม และประเมินผลตอบสนอง
- J45F2I-6: เตรียมพร้อมช่วยเหลือหากผู้ป่วยมีอาการหายใจล้มเหลวหรือต้องให้ออกซิเจนฉุกเฉิน
- J45F2I-7: แจ้งแพทย์ทันทีหากอาการแย่ลง
เช่น หายใจเร็วมาก ซึมลง หรือ SpO₂
ต่ำกว่า 90%
🔷 Response (การตอบสนอง)
- J45F2R-1: RR ลดลงและหายใจได้ลึกขึ้น มีจังหวะสม่ำเสมอ
- J45F2R-2: SpO₂ ≥ 95% และสีผิวชมพูขึ้น
- J45F2R-3: ผู้ป่วยรู้สึกหายใจสบายขึ้น ไม่ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจมาก
- J45F2R-4: ไม่มีอาการซึมหรือเวียนศีรษะจากภาวะขาดออกซิเจน
………………………………………………………………..
J45F3 เสมหะคั่งค้างในทางเดินหายใจ
(Ineffective airway clearance)
🔷 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นมีเสมหะมาก กลืนลำบาก ไอไม่สะดวก
O:
- ฟังปอดได้ยินเสียงหวีด
มีเสมหะในทางเดินหายใจ, ไอไม่ออก
หรือไอแล้วไม่ขับเสมหะ, RR เร็วกว่า 24 ครั้ง/นาที
🔷 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถขับเสมหะออกได้ดี
- ทางเดินหายใจสะอาด หายใจคล่องขึ้น
- ไม่มีอาการอุดกั้นทางเดินหายใจ
🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- เสมหะถูกขับออกได้เป็นปกติ
- เสียงหายใจดีขึ้น ไม่มีเสียงหวีดมาก
- RR ลดลง สัญญาณชีพคงที่
- ผู้ป่วยรู้สึกหายใจสะดวกขึ้น
🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- J45F3I-1: ประเมินความถี่และลักษณะของเสมหะทุก 4 ชั่วโมง
- J45F3I-2: กระตุ้นให้ผู้ป่วยไอและช่วยให้ไอได้เต็มที่
- J45F3I-3: ช่วยทำความสะอาดทางเดินหายใจโดยการใช้เทคนิคการเคาะปอด (chest physiotherapy) ตามคำสั่งแพทย์
- J45F3I-4: ให้น้ำเพียงพอ เพื่อช่วยให้เสมหะเจือจางและขับออกง่ายขึ้น
- J45F3I-5: ให้ยาละลายเสมหะหรือยาขยายหลอดลมตามแผนรักษา
- J45F3I-6: สังเกตอาการหายใจลำบากหรือขาดออกซิเจน และแจ้งแพทย์ทันทีหากอาการแย่ลง
- J45F3I-7: สอนผู้ป่วยเทคนิคการหายใจและไออย่างถูกวิธี
🔷 Response (การตอบสนอง)
- J45F3R-1: ผู้ป่วยสามารถไอและขับเสมหะออกได้ดี
- J45F3R-2: เสียงหายใจดีขึ้น ไม่มีเสียงหวีดหรือลดลงอย่างชัดเจน
- J45F3R-3: RR ลดลงอยู่ในช่วงปกติ 16–24 ครั้ง/นาที
- J45F3R-4: ผู้ป่วยรู้สึกหายใจคล่องและสบายขึ้น
…………………………………………………………………
J45F4 วิตกกังวลเกี่ยวกับอาการหอบ
(Anxiety related to dyspnea)
🔷 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่ารู้สึกกลัว หายใจไม่ออก เครียดและตื่นตระหนก
O:
- หายใจเร็ว กระสับกระส่าย มือเย็น เหงื่อออกมาก พูดติดขัด
🔷 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยรู้สึกสงบและลดความวิตกกังวล
- หายใจได้ช้าและสม่ำเสมอ
- มีความเข้าใจและปฏิบัติตนเมื่อมีอาการหอบได้ดีขึ้น
🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมการหายใจได้
- อัตราหายใจลดลงเป็นปกติ (16–24 ครั้ง/นาที)
- ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกสงบขึ้น
- ไม่มีอาการวิตกกังวลเพิ่มขึ้น
🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- J45F4I-1: พูดคุยและให้ข้อมูลผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการหอบและวิธีรับมือ
- J45F4I-2: สอนเทคนิคหายใจลึกและช้า (deep breathing) เพื่อช่วยลดอาการหอบ
- J45F4I-3: สร้างบรรยากาศเงียบสงบและปลอดภัยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย
- J45F4I-4: ให้กำลังใจและสนับสนุนผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- J45F4I-5: สังเกตอาการวิตกกังวลและความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างใกล้ชิด
- J45F4I-6: ช่วยจัดการสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผู้ป่วยเครียด เช่น ลดเสียงดังหรือสิ่งรบกวน
- J45F4I-7: ประสานงานกับทีมแพทย์เพื่อปรับการรักษาหากจำเป็น
🔷 Response (การตอบสนอง)
- J45F4R-1: ผู้ป่วยสามารถควบคุมการหายใจได้ดีขึ้น
- J45F4R-2: RR ลดลงสู่ช่วงปกติ 16–24 ครั้ง/นาที
- J45F4R-3: ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกสงบขึ้นและวิตกกังวลลดลง
- J45F4R-4: ไม่มีอาการกระสับกระส่ายหรือเหงื่อออกมากผิดปกติ
…………………………………………………………..
J45F5 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากอาการหอบรุนแรง
(Risk for status asthmaticus and respiratory failure)
🔷 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรู้สึกหายใจไม่ออกมากขึ้น พูดได้ไม่เต็มประโยค รู้สึกง่วงซึมหรือสับสน
O:
- RR > 30 ครั้ง/นาที,
SpO₂ < 90%, ซึมลง, ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจมาก,
สีผิวซีดหรือเขียวคล้ำ
🔷 Goals (เป้าหมาย)
- ป้องกันภาวะหอบรุนแรงลุกลามและภาวะหายใจล้มเหลว
- รักษาระดับออกซิเจนในเลือดให้ ≥ 95%
- ผู้ป่วยมีสติรู้ตัวและหายใจได้ดีขึ้น
🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- RR ลดลงเข้าสู่ช่วงปกติ 16–24 ครั้ง/นาที
- SpO₂
≥ 95% โดยใช้ออกซิเจนตามคำสั่งแพทย์
- ผู้ป่วยรู้ตัวดี พูดได้เป็นประโยคชัดเจน
- ไม่มีอาการซึมหรือสับสน
🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- J45F5I-1: เฝ้าติดตามสัญญาณชีพ
อัตราหายใจ SpO₂ และระดับความรู้สติอย่างใกล้ชิดทุก 15 นาที
- J45F5I-2: ให้ออกซิเจนทางหน้ากากหรือท่อจมูกตามแผนการรักษา
- J45F5I-3: แจ้งแพทย์ทันทีเมื่อพบสัญญาณอันตราย
เช่น พูดไม่ได้ ซึมลง หรือ SpO₂
< 90%
- J45F5I-4: เตรียมช่วยเหลือการหายใจฉุกเฉิน เช่น การใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือพยุงทางเดินหายใจ
- J45F5I-5: ประเมินผลการตอบสนองต่อยา และสังเกตอาการแพ้ยา
- J45F5I-6: ให้กำลังใจผู้ป่วยและครอบครัวเพื่อลดความวิตกกังวล
- J45F5I-7: จัดสภาพแวดล้อมให้สงบ และลดสิ่งรบกวน
🔷 Response (การตอบสนอง)
- J45F5R-1: RR ลดลงสู่ช่วงปกติ และหายใจได้สม่ำเสมอ
- J45F5R-2: SpO₂ ≥ 95% และสีผิวเป็นปกติ
- J45F5R-3: ผู้ป่วยรู้สึกหายใจสบายขึ้น สามารถพูดเป็นประโยคได้
- J45F5R-4: ไม่มีอาการซึมหรือสับสน
…………………………………………………..
J45F6 ขาดความรู้เกี่ยวกับการควบคุมโรคและการใช้ยาที่บ้าน
🔷 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่าสับสนกับวิธีใช้ยาพ่น และไม่แน่ใจว่าจะหลีกเลี่ยงอะไรดี
O:
- สังเกตผู้ป่วยใช้ยาพ่นผิดวิธี หรือไม่ได้ใช้ตามคำแนะนำ
- ไม่มีแผนปฏิบัติการเมื่อมีอาการกำเริบ
🔷 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยเข้าใจและใช้ยาพ่นได้ถูกต้อง
- ผู้ป่วยสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้โรคกำเริบ
- ผู้ป่วยรู้วิธีปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการหอบ
🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถสาธิตวิธีใช้ยาพ่นอย่างถูกต้อง
- รายงานการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่เหมาะสม
- ผู้ป่วยรู้วิธีจัดการอาการหอบเมื่อเกิดขึ้น
- ไม่มีอาการหอบกำเริบซ้ำบ่อย
🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- J45F6I-1: ให้คำแนะนำและสอนวิธีใช้ยาพ่นอย่างถูกต้องและปลอดภัย
- J45F6I-2: อธิบายถึงสิ่งกระตุ้นทั่วไป เช่น ฝุ่น ควัน บุหรี่ อากาศเย็น และวิธีหลีกเลี่ยง
- J45F6I-3: สอนแผนปฏิบัติเมื่อเกิดอาการ เช่น ใช้ยาพ่นฉุกเฉินและการไปพบแพทย์
- J45F6I-4: แจกเอกสารหรือสื่อช่วยจำเกี่ยวกับการใช้ยาและการดูแลตนเอง
- J45F6I-5: ติดตามและประเมินความเข้าใจของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- J45F6I-6: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการจัดการโรคตนเอง
🔷 Response (การตอบสนอง)
- J45F6R-1: ผู้ป่วยสามารถใช้ยาพ่นได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
- J45F6R-2: ผู้ป่วยรายงานการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นอย่างเหมาะสม
- J45F6R-3: ผู้ป่วยรู้วิธีปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการหอบ และลดการเกิดอาการซ้ำ
- J45F6R-4: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการจัดการโรคด้วยตนเอง
…………………………………………………….
J45F7 เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำหลังจำหน่าย
(Risk for recurrence after discharge)
🔷 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยกังวลเรื่องอาการจะกลับมาอีก มีคำถามเกี่ยวกับการดูแลตนเอง
O:
- ประวัติหอบซ้ำหลายครั้งก่อนหน้า ใช้ยาพ่นไม่สม่ำเสมอ หรือละเลยนัดหมายแพทย์
🔷 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษาและนัดตรวจติดตามอย่างเคร่งครัด
- ลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำและการนอนโรงพยาบาลซ้ำ
- ผู้ป่วยมีความรู้และความมั่นใจในการจัดการโรคตนเอง
🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
- รายงานการใช้ยาและปฏิบัติตัวถูกต้อง
- ไม่มีอาการหอบกำเริบซ้ำในช่วงติดตาม
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายแผนการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง
🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- J45F7I-1: วางแผนการนัดติดตามและแจ้งเตือนผู้ป่วยล่วงหน้า
- J45F7I-2: ให้คำแนะนำชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ยาและการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
- J45F7I-3: สอนวิธีสังเกตอาการเตือนล่วงหน้าและการปฏิบัติเมื่อเกิดอาการ
- J45F7I-4: จัดทำเอกสารหรือคู่มือการดูแลตนเองให้ผู้ป่วย
- J45F7I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแล
- J45F7I-6: ติดตามผลการรักษาและความเข้าใจผ่านการโทรศัพท์หรือเยี่ยมบ้านถ้าจำเป็น
- J45F7I-7: ประสานงานกับทีมสุขภาพอื่น ๆ เพื่อให้การดูแลครบวงจร
🔷 Response (การตอบสนอง)
- J45F7R-1: ผู้ป่วยมาตามนัดและรายงานการใช้ยาอย่างถูกต้อง
- J45F7R-2: ไม่มีอาการหอบกำเริบซ้ำในระหว่างติดตาม
- J45F7R-3: ผู้ป่วยเข้าใจและสามารถดูแลตนเองได้ดีขึ้น
- J45F7R-4: ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจและมีความพร้อมในการจัดการโรค
…………………………………………………………
J45F8 ความสามารถในการทำกิจวัตรลดลงจากอาการหอบ
(Activity intolerance related to dyspnea)
🔷 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยง่ายเมื่อทำกิจกรรมประจำวัน บ่นไม่มีแรง
O:
- เหนื่อยหอบขณะเคลื่อนไหว ชีพจรเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก
🔷 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างเหมาะสมโดยไม่เหนื่อยเกินไป
- ลดโอกาสการเกิดอาการหอบกำเริบจากกิจกรรม
- เพิ่มความแข็งแรงและความอดทนต่อกิจกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป
🔷 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมได้โดยมีอาการเหนื่อยลดลง
- อัตราหายใจและชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติขณะและหลังทำกิจกรรม
- ไม่มีอาการหอบกำเริบระหว่างกิจกรรม
🔷 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- J45F8I-1: วางแผนกิจกรรมประจำวันให้มีช่วงพักบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงหักโหม
- J45F8I-2: สอนเทคนิคการหายใจระหว่างทำกิจกรรม เช่น หายใจช้าและลึก
- J45F8I-3: สนับสนุนให้ผู้ป่วยเริ่มกิจกรรมเบา ๆ และเพิ่มระดับอย่างช้า ๆ ตามความสามารถ
- J45F8I-4: ประเมินอาการเหนื่อยหอบและชีพจรก่อน ระหว่าง และหลังทำกิจกรรม
- J45F8I-5: เตือนให้ผู้ป่วยหยุดพักทันทีเมื่อเริ่มมีอาการเหนื่อยหรือหายใจลำบาก
- J45F8I-6: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาพ่นก่อนทำกิจกรรมถ้าจำเป็น
- J45F8I-7: กระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายแบบเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความอดทน
🔷 Response (การตอบสนอง)
- J45F8R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมได้มากขึ้นโดยมีอาการเหนื่อยลดลง
- J45F8R-2: RR และชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติขณะและหลังทำกิจกรรม
- J45F8R-3: ไม่มีอาการหอบกำเริบระหว่างกิจกรรม
- J45F8R-4: ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกมั่นใจและพร้อมทำกิจกรรมมากขึ้น
………………………………………………..
เอกสารอ้างอิง
- สมาคมโรคภูมิแพ้แห่งประเทศไทย. (2563). แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลและรักษาโรคหืดในผู้ใหญ่และเด็ก.แหล่งที่มา: https://www.thaiallergy.org/thai/asthma-guidelines
- กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2564). คู่มือการดูแลผู้ป่วยโรคหืดสำหรับบุคลากรทางการแพทย์. แหล่งที่มา: https://www.dms.go.th/asthma_manual
- Global Initiative for Asthma (GINA). (2024). Global Strategy for Asthma Management and Prevention.Available at: https://ginasthma.org/gina-reports/National Heart, Lung, and Blood Institute (NHLBI). (2020). Expert Panel Report 3: Guidelines for the Diagnosis and Management of Asthma.
- Available at: https://www.nhlbi.nih.gov/health-topics/guidelines-for-diagnosis-management-of-asthma
……………………………………………..