เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

EP.87 Med. Topic 7 โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) : J44 [Chronic Obstructive Pulmonary Disease]

 


🎯รู้จัก “โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง” ก่อนสายเกินไป!
📌โรคที่ทำให้หายใจลำบาก…แต่ป้องกันได้

ความหมายของโรค COPD

  • โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) คือ โรคปอดเรื้อรังจากถุงลมโป่งพองและหลอดลมตีบแคบ ทำให้หายใจเข้า-ออกลำบาก ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง

พยาธิสภาพ

  • เกิดจากการอักเสบเรื้อรังในทางเดินหายใจและถุงลมปอด ทำให้ถุงลมเสียหาย ยืดหยุ่นน้อยลง และมีเสมหะอุดตัน
  • พบบ่อยในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้สูบบุหรี่จัด

ปัจจัยที่ทำให้เกิด

  • 🚬 สูบบุหรี่ (สาเหตุหลัก!)
  • 🏭 สัมผัสฝุ่น ควัน สารเคมี
  • 🌾 อยู่ในมลพิษทางอากาศนานๆ
  • 🧬 พันธุกรรมบางชนิด

อาการที่ต้องระวัง

  • 😮หอบเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะเวลาออกแรง
  • 😮ไอเรื้อรัง มีเสมหะเยอะ
  • 😮แน่นหน้าอก หายใจเสียงวี้ด

การรักษา

  • 🩺 หยุดบุหรี่ทันที!
  • 🩺 ใช้ยาพ่นขยายหลอดลมตามแพทย์สั่ง
  • 🩺 ออกกำลังกายแบบฝึกหายใจ
  • 🩺 ในรายรุนแรงอาจต้องให้ออกซิเจน

การพยาบาล (สำหรับพยาบาล)

  • สอนผู้ป่วยเลิกบุหรี่ และสังเกตอาการกำเริบ
  • จัดท่านั่งพิงเพื่อช่วยหายใจ
  • ดูแลให้ได้รับออกซิเจนพอดี ไม่มากเกินไป
  • สอนฝึกหายใจและไอลดเสมหะ

การดูแลตัวเอง (สำหรับบุคคลทั่วไป)

  • 🌱 หยุดบุหรี่เด็ดขาด
  • 🌱 เลี่ยงฝุ่น ควัน และมลพิษ
  • 🌱 ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ
  • 🌱 หากมีอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์

..................................................

🩺 วินิจฉัยการพยาบาลโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD : J44)

  1. ✅ J44F1 การแลกเปลี่ยนก๊าซบกพร่อง เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน (Impaired gas exchange related to airway obstruction and alveolar damage)
  2. ✅ J44F2 หายใจลำบากและมีเสมหะมากจากทางเดินหายใจตีบและอักเสบ (Ineffective airway clearance related to excessive secretions and airway narrowing)
  3. J44F3 เสี่ยงต่อการติดเชื้อปอดและระบบทางเดินหายใจ (Risk for infection related to impaired lung defense mechanisms and retained secretions)
  4. J44F4 ความทนทานต่อกิจกรรมลดลงจากการหายใจลำบากเรื้อรัง (Activity intolerance related to imbalance between oxygen supply and demand)
  5. ✅ J44F5 ความวิตกกังวลและกลัวตายจากอาการหอบและแน่นหน้าอก (Anxiety related to breathlessness and fear of suffocation)
  6. ✅ J44F6 ขาดความรู้ในการดูแลตนเองเกี่ยวกับโรคและการใช้ยา (Deficient knowledge related to disease process, self-care, and medication use)
  7. J44F7 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากระดับออกซิเจนในเลือดสูงเกิน (Risk for oxygen-induced hypercapnia related to inappropriate oxygen therapy)
  8. ✅ J44F8 วางแผนการดูแลระยะยาวและการปฏิบัติตัวหลังจำหน่าย (Readiness for enhanced self-management and discharge planning)

......................................................................

J44F1 การแลกเปลี่ยนก๊าซบกพร่อง เสี่ยงต่อภาวะพร่องออกซิเจน (Impaired gas exchange related to airway obstruction and alveolar damage)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก
  • บ่นรู้สึกหายใจไม่อิ่ม เวลานอนราบอาการหนักขึ้น

O:

  • อัตราการหายใจ > 24 ครั้ง/นาที
  • SpO₂ < 90% ขณะพัก
  • ฟังปอดได้ยินเสียงวี้ด (wheezing) หรือเสียงเสมหะ
  • ผิวหนังซีดหรือเขียวปลายมือปลายเท้า (cyanosis)
  • ท่านอนราบไม่สบาย ต้องนั่งพิง

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยแลกเปลี่ยนก๊าซได้เพียงพอ ไม่มีภาวะพร่องออกซิเจน
  • ✅ SpO₂ ≥ 90%
  • ไม่มีสัญญาณของภาวะหายใจล้มเหลว

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • อัตราการหายใจปกติ ≤ 20 ครั้ง/นาที
  • ✨ SpO₂ ≥ 90% ตลอดเวลา
  • สีผิวปกติ ไม่มีเขียวคล้ำ
  • ผู้ป่วยรายงานว่าหายใจสะดวกขึ้น

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • J44F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพ อัตราการหายใจ SpO₂ ทุก 1–2 ชั่วโมงแรก เพื่อเฝ้าระวังพร่องออกซิเจน
  • J44F1I-2: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) หรือนั่งพิง เพื่อลดภาระการทำงานของปอด
  • J44F1I-3: สอนการหายใจแบบปากจู๋ (pursed-lip breathing) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหายใจออก
  • J44F1I-4: ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนแพทย์ โดยเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ และติดตามผล
  • J44F1I-5: ช่วยผู้ป่วยระบายเสมหะโดยจัดท่าระบายเสมหะและกระตุ้นให้ไอ
  • J44F1I-6: ประเมินอาการซึม สับสน หรือเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจซึ่งอาจบ่งบอกภาวะพร่องออกซิเจนรุนแรง

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • J44F1R-1: อัตราการหายใจลดลง ≤ 20 ครั้ง/นาที
  • J44F1R-2: SpO₂ ≥ 90% ต่อเนื่อง ไม่มีภาวะพร่องออกซิเจน
  • J44F1R-3: ผู้ป่วยรายงานว่าหายใจโล่งและสบายขึ้น
  • J44F1R-4: สีผิวกลับมาเป็นปกติ ไม่มีเขียวคล้ำ
  • J44F1R-5: เสมหะถูกระบายออกได้ดี เสียงปอดดีขึ้น

............................................................................

J44F2 หายใจลำบากและมีเสมหะมากจากทางเดินหายใจตีบและอักเสบ (Ineffective airway clearance related to excessive secretions and airway narrowing)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่น “แน่นหน้าอก ไอมาก เสมหะเยอะ”
  • รู้สึกเหนื่อยมากเวลาหายใจหรือหลังไอ

O:

  • ได้ยินเสียงเสมหะในหลอดลม (rhonchi)
  • ผู้ป่วยไอ เสมหะเหนียวข้น
  • หายใจเร็วตื้น ใช้กล้ามเนื้อช่วยหายใจ
  • ท่านอนราบไม่สบาย ต้องนั่งพิง

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีทางเดินหายใจโล่ง ไม่มีเสมหะอุดตัน
  • หายใจคล่องขึ้น ไม่มีเสียงเสมหะในปอด
  • อัตราการหายใจใกล้ปกติ

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ไอและขับเสมหะออกมาได้เอง
  • เสียงปอดใสขึ้น ไม่มีเสียงเสมหะสะสม
  • อัตราการหายใจ ≤ 20 ครั้ง/นาที
  • ผู้ป่วยรายงานว่าหายใจสบายขึ้น

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • J44F2I-1: ประเมินลักษณะ ปริมาณ และสีเสมหะทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินความรุนแรงของอาการ
  • J44F2I-2: จัดท่านั่งพิงหรือ High Fowler’s position เพื่อลดภาระของปอดและช่วยให้เสมหะระบายออกง่าย
  • J44F2I-3: กระตุ้นให้ดื่มน้ำอุ่นมากๆ เพื่อทำให้เสมหะไม่เหนียวข้น
  • J44F2I-4: สอนการหายใจลึกและไออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อขับเสมหะ (Huff coughing)
  • J44F2I-5: ดูแลให้ใช้ยาพ่นขยายหลอดลมและยาละลายเสมหะตามแผนแพทย์
  • J44F2I-6: เฝ้าระวังสัญญาณติดเชื้อ เช่น เสมหะสีเขียว/เหลือง มีไข้

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • J44F2R-1: ผู้ป่วยสามารถไอและขับเสมหะออกได้เอง
  • J44F2R-2: หายใจคล่องขึ้น สีผิวปกติ ไม่มีเขียวคล้ำ
  • J44F2R-3: เสียงปอดใสขึ้น ไม่มีเสียงรบกวนจากเสมหะ
  • J44F2R-4: ผู้ป่วยรายงานว่าหายใจสบายขึ้น และนอนพักได้ดี

.....................................................

J44F3 เสี่ยงต่อการติดเชื้อปอดและระบบทางเดินหายใจ (Risk for infection related to impaired lung defense mechanisms and retained secretions)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่น “เสมหะมาก อ่อนเพลีย”
  • รู้สึกตัวร้อนๆ หนาวสั่น (ถ้ามีอาการติดเชื้อเกิดขึ้นแล้ว)

O:

  • เสมหะขุ่น เหลือง/เขียว หรือมีกลิ่น
  • อุณหภูมิร่างกาย ≥ 37.8°C
  • ฟังปอดได้ยินเสียงรบกวนมากขึ้น (crackles, rhonchi)
  • ไอถี่ขึ้น เหนื่อยง่าย

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยไม่แสดงอาการติดเชื้อ
  • ไม่มีไข้ เสมหะใสหรือปริมาณลดลง
  • ปอดสะอาดขึ้น เสียงปอดดี

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • อุณหภูมิร่างกาย ≤ 37.5°C
  • เสมหะใสหรือขาว ปริมาณลดลง
  • ไม่มีสัญญาณติดเชื้อ เช่น ไข้ หนาวสั่น
  • สีผิวปกติ ไม่เขียวคล้ำ

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • J44F3I-1: ประเมินสัญญาณชีพและอุณหภูมิทุก 4–6 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังไข้หรือติดเชื้อ
  • J44F3I-2: สอนการล้างมือและสุขอนามัยเพื่อลดเชื้อโรค
  • J44F3I-3: จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงฝุ่นและควัน
  • J44F3I-4: ส่งเสมหะตรวจทางห้องปฏิบัติการเมื่อสงสัยติดเชื้อ
  • J44F3I-5: ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะและยาตามแผนแพทย์อย่างถูกต้อง
  • J44F3I-6: กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อให้เสมหะไม่ข้นและระบายออกง่าย
  • J44F3I-7: สอนญาติสังเกตอาการติดเชื้อ เช่น ไข้สูง ไอมากขึ้น หอบเหนื่อยเพิ่มขึ้น

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • J44F3R-1: ผู้ป่วยไม่มีไข้และไม่มีสัญญาณติดเชื้อ
  • J44F3R-2: เสมหะใสขึ้น ปริมาณลดลง
  • J44F3R-3: อุณหภูมิร่างกายคงที่ ≤ 37.5°C
  • J44F3R-4: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้น หายใจสบายขึ้น
  • J44F3R-5: ผลเพาะเชื้อเสมหะไม่พบเชื้อรุนแรง (ถ้าส่งตรวจ)

....................................................................

J44F4 ความทนทานต่อกิจกรรมลดลงจากการหายใจลำบากเรื้อรัง (Activity intolerance related to imbalance between oxygen supply and demand)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่น “เหนื่อยง่าย เวลาลุกเดินหรือทำกิจกรรม”
  • รู้สึกหายใจไม่ทันเวลาทำงานบ้านหรือเปลี่ยนท่า

O:

  • อัตราการหายใจและชีพจรเพิ่มขึ้นเมื่อเคลื่อนไหว
  • SpO₂ ลดลงขณะทำกิจกรรม
  • สังเกตมีอาการอ่อนแรง เหงื่อออกมาก

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมได้ในขอบเขตความสามารถ โดยไม่เหนื่อยมากเกินไป
  • สัญญาณชีพคงที่ระหว่างทำกิจกรรม
  • ไม่มีอาการหอบหรือหน้าซีด


📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยทำกิจกรรมประจำวันได้ โดยหยุดพักเป็นระยะ
  • ชีพจรและอัตราการหายใจกลับสู่ปกติใน ≤ 3 นาทีหลังหยุดกิจกรรม
  • ผู้ป่วยรายงานว่าเหนื่อยน้อยลงเมื่อฝึกสม่ำเสมอ

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • J44F4I-1: ประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมและผลกระทบต่อสัญญาณชีพทุกครั้งก่อน/หลัง
  • J44F4I-2: สอนให้จัดกิจกรรมประจำวันให้มีช่วงพักสลับกับการเคลื่อนไหว
  • J44F4I-3: สอนการหายใจแบบปากจู๋ขณะทำกิจกรรมเพื่อลดเหนื่อย
  • J44F4I-4: ให้ผู้ป่วยนั่งพักทันทีเมื่อมีอาการเหนื่อยมากหรือวิงเวียน
  • J44F4I-5: วางแผนกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละวัน เช่น เดินสั้นๆ ฝึกกล้ามเนื้อเบาๆ
  • J44F4I-6: ประเมินสภาพจิตใจ เนื่องจากความทนทานต่ำอาจทำให้ท้อหรือซึมเศร้า
  • J44F4I-7: ให้กำลังใจและชมเชยเมื่อผู้ป่วยทำกิจกรรมได้สำเร็จ

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • J44F4R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมพื้นฐานได้โดยพักเป็นระยะ
  • J44F4R-2: ไม่มีสัญญาณชีพผิดปกติหรือเหนื่อยมากหลังทำกิจกรรม
  • J44F4R-3: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกมั่นใจและเหนื่อยน้อยลงเมื่อฝึกสม่ำเสมอ
  • J44F4R-4: สีผิวปกติ ไม่มีเขียวคล้ำหรือเวียนศีรษะ
  • J44F4R-5: ผู้ป่วยแสดงทัศนคติที่ดีและร่วมมือในการฝึกกิจกรรม

..................................................................

J44F5 ความวิตกกังวลและกลัวตายจากอาการหอบและแน่นหน้าอก (Anxiety related to breathlessness and fear of suffocation)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่น “กลัวตาย หายใจไม่ออก ใจสั่น”
  • บอกว่ารู้สึกหวิว วิตกกังวลมากเวลาหอบ

O:

  • สังเกตหน้าตาตื่นตระหนก กระสับกระส่าย
  • พูดเร็วหรือเสียงสั่น เหงื่อออก มือเย็น
  • ชีพจรเร็ว อัตราการหายใจสูง

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย ลดความกังวล
  • ควบคุมอารมณ์และร่วมมือในการรักษาได้ดี
  • ไม่มีพฤติกรรมตื่นตระหนก

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • สีหน้าและท่าทางสงบลง สื่อสารได้ดี
  • อัตราการหายใจและชีพจรกลับสู่ค่าปกติ
  • รายงานว่ารู้สึกผ่อนคลาย และมั่นใจขึ้น

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • J44F5I-1: อยู่กับผู้ป่วย พูดคุยให้กำลังใจด้วยน้ำเสียงสงบ
  • J44F5I-2: อธิบายอาการหอบและขั้นตอนการรักษาให้เข้าใจง่าย เพื่อลดความกลัว
  • J44F5I-3: สอนเทคนิคการหายใจแบบช้าและลึก หรือหายใจแบบปากจู๋เพื่อลดตื่นตระหนก
  • J44F5I-4: จัดสภาพแวดล้อมเงียบ สงบ อากาศถ่ายเทสะดวก ลดสิ่งรบกวน
  • J44F5I-5: เฝ้าสังเกตสัญญาณชีพและอาการทางจิตใจสม่ำเสมอ
  • J44F5I-6: ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องการดูแลรักษาเพื่อสร้างความมั่นใจ
  • J44F5I-7: ประสานทีมสหวิชาชีพ เช่น จิตแพทย์ หากความวิตกกังวลรุนแรง

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • J44F5R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกมั่นใจและสงบมากขึ้น
  • J44F5R-2: สีหน้าและท่าทางสงบ อารมณ์คงที่
  • J44F5R-3: อัตราการหายใจและชีพจรกลับสู่ค่าปกติ
  • J44F5R-4: ร่วมมือกับแผนการรักษาโดยไม่ปฏิเสธหรือร้องไห้
  • J44F5R-5: พูดคุยสื่อสารถึงความรู้สึกและความต้องการได้ชัดเจน

...........................................................................

J44F6 ขาดความรู้ในการดูแลตนเองเกี่ยวกับโรคและการใช้ยา (Deficient knowledge related to disease process, self-care, and medication use)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่รู้ต้องดูแลตัวเองยังไง”
  • บอกสับสนเรื่องการใช้ยาพ่นและยารับประทาน

O:

  • ใช้ยาพ่นไม่ถูกวิธี
  • มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ต่อเนื่อง
  • ไม่มีแผนการจัดการอาการเมื่อมีอาการกำเริบ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยเข้าใจวิธีดูแลตนเอง ลดอาการกำเริบ
  • ใช้ยาถูกต้องตามแผน
  • ปฏิบัติตนเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันโรคกำเริบได้

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยอธิบายวิธีดูแลตนเองได้ถูกต้อง
  • ใช้ยาพ่นและยารับประทานถูกวิธีและครบถ้วน
  • ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เลิกบุหรี่

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • J44F6I-1: ประเมินความรู้เดิมของผู้ป่วยเกี่ยวกับโรค วิธีใช้ยา และการดูแลตนเอง
  • J44F6I-2: อธิบายลักษณะโรค กระตุ้นให้เข้าใจว่าเป็นโรคเรื้อรังและต้องดูแลต่อเนื่อง
  • J44F6I-3: สอนวิธีใช้ยาพ่น ยารับประทาน และวิธีเก็บรักษายาอย่างถูกต้อง
  • J44F6I-4: แนะนำวิธีสังเกตอาการกำเริบและวิธีรับมือเบื้องต้น
  • J44F6I-5: ให้คำแนะนำเลิกบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันและมลพิษ
  • J44F6I-6: แจกเอกสารแนะนำหรือสื่อที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับการดูแลตนเอง
  • J44F6I-7: แนะนำตารางติดตามนัดและการมาพบแพทย์สม่ำเสมอ

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • J44F6R-1: ผู้ป่วยอธิบายวิธีใช้ยาและวิธีดูแลตนเองได้ถูกต้อง
  • J44F6R-2: ผู้ป่วยใช้ยาถูกวิธีและตรงตามเวลา
  • J44F6R-3: ลดหรือเลิกพฤติกรรมเสี่ยง เช่น บุหรี่
  • J44F6R-4: ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจในการจัดการอาการเมื่อมีอาการกำเริบ
  • J44F6R-5: เข้ารับการติดตามตามนัดสม่ำเสมอ

..................................................................

J44F7 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากระดับออกซิเจนในเลือดสูงเกิน (Risk for oxygen-induced hypercapnia related to inappropriate oxygen therapy)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่น “มึนงง เหนื่อยง่ายมากขึ้น” หลังได้รับออกซิเจน
  • รู้สึกหายใจตื้นๆ

O:

  • สังเกตมีสัญญาณของคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง เช่น ซึม สับสน
  • ระดับ SpO₂ สูงขึ้นผิดปกติ แต่ PaCO₂ สูงในผลแล็บ
  • หายใจตื้นและช้าลง

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนในระดับที่ปลอดภัย เหมาะสม
  • ไม่มีอาการของคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง
  • คงระดับ SpO₂ ที่เหมาะสม (88–92%)

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ✨ SpO₂ อยู่ในช่วง 88–92%
  • ไม่มีอาการซึม สับสนหรือหายใจตื้น
  • ค่าก๊าซในเลือด (ABG) ปกติ

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • J44F7I-1: ประเมิน SpO₂ และอาการทางคลินิกทุก 1–2 ชั่วโมง หลังให้ O₂
  • J44F7I-2: ปรับการให้ O₂ ตามแผนแพทย์ เริ่มจากอัตราต่ำสุดที่ได้ผล (1–2 L/min)
  • J44F7I-3: เฝ้าระวังอาการซึม สับสน หายใจตื้น อัตราการหายใจลดลง
  • J44F7I-4: ส่งตรวจ ABG ตามแผนแพทย์เพื่อติดตาม PaCO₂
  • J44F7I-5: สอนผู้ป่วยและญาติเรื่องอันตรายของการให้ O₂ สูงเกินไปใน COPD
  • J44F7I-6: บันทึกระดับ O₂ และการตอบสนองของผู้ป่วยอย่างละเอียด

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • J44F7R-1: ผู้ป่วยไม่มีอาการซึม สับสน หรือหายใจตื้น
  • J44F7R-2: SpO₂ คงที่ในช่วงเป้าหมาย (88–92%)
  • J44F7R-3: ผล ABG แสดงค่า PaCO₂ ปกติหรือดีขึ้น
  • J44F7R-4: ผู้ป่วยและญาติสามารถบอกได้ว่าการให้ O₂ สูงเกินไปเป็นอันตรายได้
  • J44F7R-5: ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง

...............................................................................

J44F8 วางแผนการดูแลระยะยาวและการปฏิบัติตัวหลังจำหน่าย (Readiness for enhanced self-management and discharge planning)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยถาม “ต้องทำอะไรบ้างหลังกลับบ้าน?”
  • แสดงความกังวลเรื่องการดูแลตนเองและใช้ยา

O:

  • ความรู้เกี่ยวกับโรคและยาไม่ครบถ้วน
  • ยังไม่มีแผนการดูแลระยะยาวหรือกำหนดนัดพบแพทย์
  • มีข้อจำกัดด้านกิจกรรมและสิ่งแวดล้อมที่บ้าน

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจวิธีดูแลตนเองหลังจำหน่าย
  • ปฏิบัติตามแผนการรักษาและนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
  • ลดความเสี่ยงการเกิดอาการกำเริบซ้ำ

📈 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยอธิบายแผนการดูแลตนเองและการใช้ยาได้ถูกต้อง
  • เข้ารับการติดตามตามนัดและปฏิบัติตัวได้เหมาะสม
  • ไม่มีอาการกำเริบหลังจำหน่ายในระยะเวลาที่ติดตาม

📝 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • J44F8I-1: ประเมินความพร้อมและความเข้าใจของผู้ป่วยและครอบครัวก่อนจำหน่าย
  • J44F8I-2: ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ยา การดูแลตนเอง และวิธีสังเกตอาการผิดปกติ
  • J44F8I-3: จัดทำแผนการนัดหมายติดตามผลกับแพทย์และพยาบาลอย่างชัดเจน
  • J44F8I-4: แนะนำการปรับสิ่งแวดล้อมที่บ้านให้เหมาะสมกับผู้ป่วย COPD
  • J44F8I-5: สอนเทคนิคการจัดการความเครียดและฝึกการหายใจเพื่อป้องกันอาการกำเริบ
  • J44F8I-6: จัดเตรียมสื่อการเรียนรู้และหมายเลขติดต่อกรณีฉุกเฉิน
  • J44F8I-7: กระตุ้นให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในการวางแผนและตัดสินใจ

🩷 Response (การตอบสนอง)

  • J44F8R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจและสามารถอธิบายการดูแลตนเองได้
  • J44F8R-2: ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องยาและนัดหมายได้ดี
  • J44F8R-3: ไม่มีอาการกำเริบหรืออุบัติการณ์ฉุกเฉินหลังจำหน่าย
  • J44F8R-4: ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจและมีทัศนคติดีต่อการดูแลตนเอง
  • J44F8R-5: ครอบครัวให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในการดูแลอย่างเหมาะสม

............................................................

เอกสารอ้างอิง ภาษาไทย

  • สมาคมโรคระบบทางเดินหายใจแห่งประเทศไทย."แนวทางการวินิจฉัยและการรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)"วารสารโรคระบบทางเดินหายใจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 3, 2564, หน้า 150-165.
  • กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. "แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ในประเทศไทย"เอกสารเผยแพร่สำหรับบุคลากรสาธารณสุข, 2563.
  • Global Initiative for Chronic Obstructive Lung Disease (GOLD). "Global Strategy for the Diagnosis, Management, and Prevention of Chronic Obstructive Pulmonary Disease." 2023 Report. Available at: goldcopd.org
  • Barnes, P.J., et al. (2022). "Chronic Obstructive Pulmonary Disease." The Lancet, Volume 399, Issue 10341, Pages 2001-2015. DOI: 10.1016/S0140-6736(22)00502-1

..................................................................