โรคยอดฮิตของคนยุคเร่งรีบที่ไม่ควรมองข้าม
1. ความหมายของโรค
- ภาวะที่กรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาหลอดอาหาร ทำให้เกิดแสบร้อนกลางอกหรือเรอเปรี้ยว
2. พยาธิสภาพ
- หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ → กรดไหลย้อนขึ้นมาบ่อย → เยื่อบุหลอดอาหารอักเสบ
3. ช่วงอายุที่พบบ่อย
- วัยทำงาน 20–50 ปี แต่เกิดได้ทุกวัย
4. ปัจจัยเสี่ยง
- กินอาหารมัน เผ็ด เปรี้ยวจัด, ดื่มกาแฟ/แอลกอฮอล์, สูบบุหรี่, อ้วน, เครียด, กินแล้วนอนทันที
5. อาการ
- แสบร้อนกลางอก, เรอเปรี้ยว, จุกแน่นคอ, กลืนลำบาก, ไอเรื้อรัง
6. การรักษา
- ปรับพฤติกรรมการกินและการนอน
- ใช้ยาลดกรด/ยาลดการหลั่งกรดตามแพทย์สั่ง
- ผ่าตัดในรายรุนแรง
7. การพยาบาล
- ประเมินอาการและปัจจัยกระตุ้น
- ให้คำแนะนำการปรับพฤติกรรม
- ติดตามผลและประเมินภาวะแทรกซ้อน
8. การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป
- กินน้อยแต่บ่อย เลี่ยงอาหารกระตุ้น
- เว้น 2–3 ชม. ก่อนนอน
- ลดน้ำหนัก, งดบุหรี่–แอลกอฮอล์
- นอนยกหัวสูงเล็กน้อย
- จัดการความเครียด
...............................................
🏥 วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน (K21)
- K21F1 เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจเนื่องจากสำลักกรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร (Risk for airway obstruction related to aspiration of gastric acid or contents)
- K21F2 ปวดแสบร้อนกลางอกเนื่องจากกรดไหลย้อนขึ้นมาหลอดอาหาร (Acute epigastric or retrosternal burning pain related to gastric acid reflux into the esophagus)
- K21F3 กลืนลำบากหรือรู้สึกติดคอเนื่องจากเยื่อบุหลอดอาหารอักเสบ (Dysphagia or globus sensation related to esophageal mucosal inflammation)
- K21F4 ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อลดอาการกรดไหลย้อน (Deficient knowledge regarding self-care measures to reduce gastroesophageal reflux symptoms)
- K21F5 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดอาหารอักเสบเรื้อรังหรือหลอดอาหารตีบ (Risk for complications such as chronic esophagitis or esophageal stricture)
- K21F6 วิตกกังวลเกี่ยวกับอาการและผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน (Anxiety related to symptoms and their impact on daily activities)
- K21F7 ขาดความพร้อมในการดูแลตนเองต่อเนื่องหลังจำหน่าย (Readiness for enhanced self-health management after discharge)
- K21F8 ความเสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำการปรับพฤติกรรม (Risk for recurrence due to non-adherence to lifestyle modification recommendations)
………………………………………………………..
K21F1: เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจเนื่องจากสำลักกรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร
(Risk for airway obstruction related to aspiration of gastric acid or
contents)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นไอและรู้สึกแสบคอหลังรับประทานอาหาร
- รู้สึกหายใจติดขัดเมื่อนอนราบ
O:
- มีเสียงเสมหะในลำคอหรือปอด
- ไอหรือสำลักขณะนอน
- SpO₂ ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ
- ท่านอนราบทำให้มีอาการเพิ่ม
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยไม่มีการอุดกั้นทางเดินหายใจ
- ลดความเสี่ยงต่อการสำลักกรด
- ผู้ป่วยสามารถนอนพักและรับประทานอาหารได้อย่างปลอดภัย
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ไม่มีเสียงหวีดหรือเสมหะอุดกั้น
- SpO₂ ≥ 95%
- ไม่มีอาการไอหรือสำลักขณะนอน
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- K21F1I-1: จัดท่านอนศีรษะสูง 30–45 องศา เพื่อลดการไหลย้อนของกรด
- K21F1I-2: แนะนำหลีกเลี่ยงการนอนราบอย่างน้อย 2–3 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร
- K21F1I-3: ประเมินการหายใจและวัด SpO₂ ทุก 4 ชั่วโมง
- K21F1I-4: เตรียมอุปกรณ์ดูดเสมหะและให้ออกซิเจนฉุกเฉินใกล้ตัว
- K21F1I-5: ให้คำแนะนำเรื่องการกินมื้อเล็กและเลี่ยงอาหารกระตุ้น (มัน, เผ็ด, เปรี้ยว, คาเฟอีน, แอลกอฮอล์)
Response (การตอบสนอง)
- K21F1R-1: ผู้ป่วยหายใจโล่ง ไม่มีเสียงเสมหะอุดกั้น
- K21F1R-2: SpO₂ คงที่ ≥ 95%
- K21F1R-3: ไม่มีอาการไอหรือสำลักขณะพักหรือนอน
- K21F1R-4: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำการจัดท่านอนและการกินได้ถูกต้อง
……………………………………………………
K21F2: ปวดแสบร้อนกลางอกเนื่องจากกรดไหลย้อนขึ้นมาหลอดอาหาร
(Acute epigastric or retrosternal burning pain related to gastric acid
reflux into the esophagus)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นปวดแสบร้อนกลางอก โดยเฉพาะหลังอาหาร
- รู้สึกเรอเปรี้ยวหรือรสขมในปาก
- อาการรุนแรงขึ้นเมื่อนอนราบ
O:
- ผู้ป่วยจับหน้าอกหรือเอามือกดที่ลิ้นปี่
- สีหน้าแสดงความไม่สบาย
- อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความเจ็บปวด
- อาการปวดลดลงเมื่อจัดท่านั่งหรือศีรษะสูง
Goals (เป้าหมาย)
- ลดอาการปวดแสบร้อนกลางอก
- ผู้ป่วยรู้วิธีป้องกันและลดการเกิดอาการ
- ส่งเสริมให้ผู้ป่วยนอนหลับและรับประทานอาหารได้ตามปกติ
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานว่าอาการปวดลดลงหรือหายไป
- ไม่มีการปวดแสบร้อนกลางอกซ้ำภายใน 24 ชั่วโมงหลังปรับพฤติกรรม
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีป้องกันอาการได้ถูกต้อง
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- K21F2I-1: ประเมินความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดแสบร้อนกลางอกทุกครั้งที่มาโรงพยาบาลหรือเปลี่ยนแผนการรักษา
- K21F2I-2: จัดท่านั่งหรือศีรษะสูงอย่างน้อย 30–45 องศา เพื่อบรรเทาอาการ
- K21F2I-3: ให้รับประทานยาลดกรดหรือยาลดการหลั่งกรดตามแผนการรักษาของแพทย์
- K21F2I-4: แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้น เช่น ของมัน เผ็ด เปรี้ยว คาเฟอีน แอลกอฮอล์
- K21F2I-5: แนะนำให้รับประทานอาหารมื้อเล็ก และเว้น 2–3 ชั่วโมงก่อนนอน
- K21F2I-6: ให้คำแนะนำเรื่องการควบคุมน้ำหนักและจัดการความเครียด
Response (การตอบสนอง)
- K21F2R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าอาการปวดแสบร้อนกลางอกลดลงหรือหายไป
- K21F2R-2: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้โดยไม่เกิดอาการ
- K21F2R-3: ไม่มีอาการปวดซ้ำภายในช่วงเฝ้าสังเกต
- K21F2R-4: ผู้ป่วยบอกวิธีป้องกันอาการได้ถูกต้องและปฏิบัติได้จริง
……………………………………………………………………
K21F3: กลืนลำบากหรือรู้สึกติดคอเนื่องจากเยื่อบุหลอดอาหารอักเสบ
(Dysphagia or globus sensation related to esophageal mucosal
inflammation)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่ากลืนลำบาก กลืนแล้วเจ็บ
- รู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอหรือแน่นในคอ
- อาการรุนแรงขึ้นเมื่อกินอาหารร้อน เผ็ด หรือเปรี้ยว
O:
- สังเกตการกลืนช้าหรือหยุดกลางคัน
- น้ำหนักตัวลดลงจากการกินอาหารได้น้อยลง
- อาจมีเสียงไอหรือสำลักระหว่างกลืน
- สีหน้าผู้ป่วยแสดงความไม่สบายขณะกลืน
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยกลืนอาหารและน้ำได้โดยไม่เจ็บหรือสำลัก
- ลดการอักเสบของเยื่อบุหลอดอาหาร
- ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารเพียงพอ
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานว่ากลืนได้ง่ายขึ้นและปวดลดลง
- ไม่มีอาการสำลักหรือไอระหว่างกลืน
- น้ำหนักตัวคงที่หรือเพิ่มขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถเลือกอาหารที่เหมาะสมได้
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- K21F3I-1: ประเมินความรุนแรง ความถี่ และลักษณะของอาการกลืนลำบากทุกวัน
- K21F3I-2: แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อน นิ่ม หรือบดละเอียด ลดการระคายเคืองหลอดอาหาร
- K21F3I-3: ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องระหว่างมื้อเพื่อช่วยให้กลืนง่ายขึ้น
- K21F3I-4: แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด และแอลกอฮอล์
- K21F3I-5: ให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรงหรือศีรษะสูง 30–45 องศา ระหว่างและหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที
- K21F3I-6: ให้ยาลดกรดหรือลดการหลั่งกรดตามแผนการรักษาแพทย์เพื่อช่วยลดการอักเสบ
Response (การตอบสนอง)
- K21F3R-1: ผู้ป่วยกลืนอาหารได้ง่ายขึ้นและปวดลดลงชัดเจน
- K21F3R-2: ไม่มีอาการสำลักหรือไอระหว่างกลืน
- K21F3R-3: น้ำหนักตัวคงที่หรือเพิ่มขึ้น
- K21F3R-4: ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีเลือกอาหารที่เหมาะสมและปฏิบัติได้จริง
……………………………………………………….
K21F4: ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อลดอาการกรดไหลย้อน
(Deficient knowledge regarding self-care measures to reduce
gastroesophageal reflux symptoms)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่าไม่รู้ว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือพฤติกรรมใด
- สับสนวิธีจัดท่าหลังรับประทานอาหาร
- ไม่เข้าใจผลเสียของการนอนราบหลังอาหาร
O:
- ผู้ป่วยยังรับประทานอาหารมันจัด เผ็ดจัด หรือปริมาณมาก
- ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหรือการรับประทานอาหาร
- อาการกรดไหลย้อนเกิดซ้ำบ่อย
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีความรู้และทักษะดูแลตนเองเพื่อลดอาการกรดไหลย้อน
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำได้อย่างสม่ำเสมอ
- ลดความถี่และความรุนแรงของอาการ
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยอธิบายวิธีดูแลตนเองได้ถูกต้องอย่างน้อย 80% ของเนื้อหา
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำต่อเนื่อง ≥ 5 วันต่อสัปดาห์
- อาการกรดไหลย้อนลดลงอย่างชัดเจน
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- K21F4I-1: ประเมินระดับความรู้เดิมและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน
- K21F4I-2: ให้ความรู้เรื่องสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นอาการ เช่น อาหารมัน เผ็ด กาแฟ แอลกอฮอล์
- K21F4I-3: แนะนำให้รับประทานอาหารปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง แทนการกินมื้อใหญ่
- K21F4I-4: แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนอนราบภายใน 2–3 ชั่วโมงหลังอาหาร
- K21F4I-5: แนะนำการจัดท่านอนศีรษะสูง 30–45 องศาเพื่อลดการไหลย้อน
- K21F4I-6: แจกเอกสารหรือสื่อภาพประกอบ เพื่อให้ผู้ป่วยทบทวนที่บ้าน
- K21F4I-7: เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยซักถามและทวนความเข้าใจ
Response (การตอบสนอง)
- K21F4R-1: ผู้ป่วยอธิบายสาเหตุและวิธีป้องกันอาการกรดไหลย้อนได้ถูกต้อง
- K21F4R-2: ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการนอนได้ตามแนะนำ
- K21F4R-3: อาการกรดไหลย้อนลดลงทั้งความถี่และความรุนแรง
- K21F4R-4: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการดูแลตนเองมากขึ้น
………………………………………………………………………..
K21F5: เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
เช่น หลอดอาหารอักเสบเรื้อรังหรือหลอดอาหารตีบ (Risk for complications
such as chronic esophagitis or esophageal stricture)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยกังวลว่าอาการกรดไหลย้อนเป็นบ่อยอาจทำให้เกิดโรคร้ายแรง
- รายงานว่ามีอาการแสบร้อนกลางอกบ่อยเกินสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง
O:
- อาการกรดไหลย้อนเกิดซ้ำเรื้อรัง
- ยังมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น รับประทานอาหารกระตุ้นอาการ
- ไม่มีหลักฐานว่ามีการติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ
- ผลตรวจแสดงการอักเสบของเยื่อบุหลอดอาหารระดับต้น
Goals (เป้าหมาย)
- ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะสั้นและระยะยาว
- ลดความรุนแรงและความถี่ของการไหลย้อน
- ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันได้อย่างต่อเนื่อง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยไม่มีอาการกลืนลำบากเรื้อรัง
- ไม่มีผลตรวจยืนยันภาวะหลอดอาหารตีบหรืออักเสบรุนแรง
- อาการกรดไหลย้อนลดลง ≥ 50% ภายใน 4 สัปดาห์
- ผู้ป่วยมาตรวจติดตามตามนัดทุกครั้ง
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- K21F5I-1: ประเมินความถี่ ความรุนแรง และปัจจัยกระตุ้นอาการอย่างต่อเนื่อง
- K21F5I-2: ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหากปล่อยอาการเรื้อรัง
- K21F5I-3: แนะนำการปรับพฤติกรรมเพื่อลดการระคายเคืองหลอดอาหาร เช่น หลีกเลี่ยงอาหารมัน เผ็ด เปรี้ยวจัด
- K21F5I-4: ส่งเสริมการรับประทานยาลดกรดหรือยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ
- K21F5I-5: วางแผนติดตามผลการรักษาและนัดตรวจซ้ำเป็นระยะ
- K21F5I-6: ประสานแพทย์เพื่อพิจารณาส่องกล้องหากมีอาการกลืนลำบาก เจ็บหน้าอกรุนแรง หรืออาเจียนเป็นเลือด
Response (การตอบสนอง)
- K21F5R-1: ผู้ป่วยเข้าใจความเสี่ยงและความสำคัญของการป้องกันภาวะแทรกซ้อน
- K21F5R-2: ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมและปฏิบัติตามคำแนะนำได้ต่อเนื่อง
- K21F5R-3: อาการกรดไหลย้อนลดลงและไม่มีอาการกลืนลำบาก
- K21F5R-4: ผลตรวจติดตามไม่พบภาวะแทรกซ้อน
…………………………………………………………..
K21F6: วิตกกังวลเกี่ยวกับอาการและผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
(Anxiety related to symptoms and their impact on daily activities)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่ากังวลเรื่องอาการกรดไหลย้อนจะรุนแรงหรือเรื้อรัง
- กลัวผลกระทบต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน
- นอนไม่หลับเพราะคิดมากเกี่ยวกับโรค
O:
- สังเกตอาการวิตกกังวล เช่น มือสั่น หายใจเร็ว ใจสั่น
- การนอนหลับผิดปกติ
- อาการเกร็งกล้ามเนื้อหรือกระสับกระส่าย
- รายงานว่ามีความเครียดสูง
Goals (เป้าหมาย)
- ลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการและผลกระทบ
- ผู้ป่วยสามารถจัดการความเครียดได้ดีขึ้น
- ปรับปรุงคุณภาพการนอนและการใช้ชีวิตประจำวัน
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานว่าระดับความวิตกกังวลลดลง
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ
- ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมผ่อนคลายและมีสมาธิได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยมีการใช้เทคนิคการจัดการความเครียดอย่างน้อย 1 วิธี
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- K21F6I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลด้วยเครื่องมือมาตรฐานหรือการสัมภาษณ์
- K21F6I-2: ให้คำแนะนำและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเองเพื่อลดความกังวล
- K21F6I-3: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายเบาๆ
- K21F6I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยพูดคุยและแสดงความรู้สึกต่อผู้ดูแลหรือกลุ่มสนับสนุน
- K21F6I-5: ติดตามผลและประเมินความวิตกกังวลเป็นระยะ
Response (การตอบสนอง)
- K21F6R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าระดับความวิตกกังวลลดลงอย่างชัดเจน
- K21F6R-2: ผู้ป่วยนอนหลับได้ดีขึ้นและรู้สึกสดชื่นมากขึ้น
- K21F6R-3: ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคผ่อนคลายได้อย่างถูกต้องและเป็นประจำ
- K21F6R-4: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมและทัศนคติที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการจัดการโรค
……………………………………………………………………………….
K21F7: ขาดความพร้อมในการดูแลตนเองต่อเนื่องหลังจำหน่าย
(Readiness for enhanced self-health management after discharge)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยแสดงความกังวลว่าจะดูแลตนเองไม่ถูกต้องหลังกลับบ้าน
- แจ้งว่าไม่แน่ใจวิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดอาการกรดไหลย้อน
- ขาดความมั่นใจในการปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์
O:
- ผู้ป่วยยังไม่สามารถอธิบายขั้นตอนการดูแลตนเองได้ครบถ้วน
- ไม่มีแผนการติดตามผลหรือการนัดหมายหลังจำหน่าย
- ยังไม่เตรียมอุปกรณ์หรือยาเพียงพอสำหรับใช้ที่บ้าน
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีความพร้อมและมั่นใจในการดูแลตนเองหลังกลับบ้าน
- ปฏิบัติตามคำแนะนำการรักษาและพฤติกรรมได้อย่างสม่ำเสมอ
- ลดการกลับมารักษาซ้ำเนื่องจากอาการกำเริบ
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายขั้นตอนการดูแลตนเองได้ถูกต้องครบถ้วน
- มีแผนการนัดหมายและติดตามผลหลังจำหน่าย
- ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาและพฤติกรรมสุขภาพได้ดี
- ไม่มีอาการกำเริบภายใน 1 เดือนหลังจำหน่าย
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- K21F7I-1: ประเมินความเข้าใจและความมั่นใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลตนเองก่อนจำหน่าย
- K21F7I-2: ให้คำแนะนำและสอนวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง เช่น การกิน การนอน และการใช้ยา
- K21F7I-3: จัดทำแผนการติดตามผลและนัดหมายตรวจสุขภาพหลังจำหน่าย
- K21F7I-4: มอบเอกสารหรือคู่มือดูแลตนเองที่เข้าใจง่ายให้ผู้ป่วยและญาติ
- K21F7I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยตั้งคำถามและซักถามความเข้าใจทุกครั้งก่อนจำหน่าย
- K21F7I-6: ประสานงานกับทีมสุขภาพอื่น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือหลังจำหน่าย เช่น พยาบาลชุมชน
Response (การตอบสนอง)
- K21F7R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายขั้นตอนดูแลตนเองได้ครบถ้วนและมั่นใจ
- K21F7R-2: ผู้ป่วยมีแผนติดตามผลและนัดหมายอย่างชัดเจน
- K21F7R-3: ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาและพฤติกรรมได้ดี
- K21F7R-4: ไม่มีอาการกำเริบหรือกลับมารักษาซ้ำภายใน 1 เดือน
…………………………………………………
K21F8: ความเสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำการปรับพฤติกรรม
(Risk for recurrence due to non-adherence to lifestyle modification
recommendations)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบอกว่าไม่แน่ใจหรือไม่เห็นความสำคัญของการปรับพฤติกรรม
- แจ้งว่ามีปัญหาด้านเวลาหรือแรงจูงใจในการปฏิบัติตามคำแนะนำ
O:
- ผู้ป่วยยังรับประทานอาหารมันจัด เผ็ดจัด หรือดื่มกาแฟ/แอลกอฮอล์บ่อย
- ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องเวลานอนหรือท่านอนศีรษะสูง
- มีอาการกรดไหลย้อนกลับมาเป็นระยะบ่อย
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำการปรับพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ
- ลดความถี่และความรุนแรงของอาการกรดไหลย้อน
- ป้องกันการกลับเป็นซ้ำและภาวะแทรกซ้อน
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานปฏิบัติตามคำแนะนำ ≥ 80% ของเวลาที่ผ่านมา
- อาการกรดไหลย้อนลดลงอย่างชัดเจน
- ไม่มีอาการกำเริบบ่อยหรือนานกว่าปกติ
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการปรับพฤติกรรมได้
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- K21F8I-1: ประเมินอุปสรรคและแรงจูงใจในการปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ป่วย
- K21F8I-2: ให้ความรู้และอธิบายข้อดีของการปรับพฤติกรรมต่อสุขภาพในระยะยาว
- K21F8I-3: ร่วมวางแผนการปรับพฤติกรรมที่เหมาะสมและเป็นไปได้ในชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
- K21F8I-4: สนับสนุนและให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- K21F8I-5: ติดตามผลการปฏิบัติตามคำแนะนำและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
- K21F8I-6: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวหรือผู้ดูแลในการช่วยดูแล
Response (การตอบสนอง)
- K21F8R-1: ผู้ป่วยรายงานปฏิบัติตามคำแนะนำได้มากขึ้นและสม่ำเสมอ
- K21F8R-2: อาการกรดไหลย้อนลดลงทั้งความถี่และความรุนแรง
- K21F8R-3: ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการปรับพฤติกรรม
- K21F8R-4: มีการสนับสนุนจากครอบครัวหรือผู้ดูแลในการดูแลผู้ป่วย
………………………………………………………..
- สมาคมโรคระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย. (2563). แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัยและรักษาโรคกรดไหลย้อน (GERD). กรุงเทพฯ: สมาคมโรคระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย.
- พงศ์พัฒน์ สุทธิสาโรจน์ และคณะ. (2564). การดูแลผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนในภาคปฏิบัติการพยาบาล. วารสารพยาบาลศาสตร์, 39(2), 123-131.
- Kahrilas, P. J., Shaheen, N. J., Vaezi, M. F. (2019). American Gastroenterological Association Medical Position Statement on the management of gastroesophageal reflux disease. Gastroenterology, 157(1), 305-308.e3. https://doi.org/10.1053/j.gastro.2019.04.053
- Katz, P. O., Gerson, L. B., Vela, M. F. (2022). Guidelines for the diagnosis and management of gastroesophageal reflux disease. American Journal of Gastroenterology, 117(1), 27-56. https://doi.org/10.14309/ajg.0000000000001869
……………………………………………………………