เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568

EP.96 Med. Topic 16 โรคภาวะไขมันพอกตับ (ไม่ติดสุรา) : K76.0 [Fatty Liver, Non-Alcoholic]

 

🎯 รู้ทัน! ไขมันพอกตับ (ไม่ติดสุรา) : K76.0
โรคเงียบที่คนไทยเป็นกันเยอะ แต่ถ้ารู้เร็ว ปรับตัวทัน ลดเสี่ยงตับพังได้!

1️⃣ ความหมายของโรค

  • ไขมันพอกตับ (ไม่ติดสุรา)  คือ ภาวะที่มีไขมันสะสมในตับเกิน 5–10% ของน้ำหนักตับ ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์

2️⃣ พยาธิสภาพ

  • ไขมัน (ส่วนใหญ่เป็นไตรกลีเซอไรด์) สะสมในเซลล์ตับ ทำให้ตับอักเสบ เกิดพังผืด และเสี่ยงตับแข็ง

3️⃣ ส่วนใหญ่พบในช่วงอายุ

  • อายุ 30–60 ปี แต่ปัจจุบันพบในคนวัยทำงานและวัยรุ่นมากขึ้น

4️⃣ ปัจจัยเสี่ยง

  • อ้วนลงพุง
  • เบาหวาน / ไขมันในเลือดสูง
  • กินหวาน มัน แป้งขัดสีมาก
  • ขาดการออกกำลังกาย

5️⃣ อาการ

  • มักไม่มีอาการ แต่บางรายอาจ อ่อนเพลีย แน่นชายโครงขวา ตับโต

6️⃣ การรักษา

  • ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย (0.5–1 กก./สัปดาห์)
  • ปรับอาหาร ลดหวาน มัน ของทอด
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รักษาโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน

7️⃣ การพยาบาล

  • ให้ความรู้เรื่องอาหารและการออกกำลังกาย
  • ติดตามค่าตับ (LFTs) และอัลตราซาวด์
  • ประเมินน้ำหนัก รอบเอว และอาการแทรกซ้อน

8️⃣ การดูแลตัวเองสำหรับบุคคลทั่วไป

  • ควบคุมน้ำหนัก
  • เลือกกินผัก ผลไม้สด ธัญพืชไม่ขัดสี
  • ออกกำลังกาย ≥150 นาที/สัปดาห์
  • งดอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันทรานส์

……………………………………………..

วินิจฉัยการพยาบาลภาวะไขมันพอกตับ (ไม่ติดสุรา) : K76.0

  1. K76.0F1 มีภาวะความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากตับอักเสบและตับแข็ง (Risk for complications related to liver inflammation and cirrhosis)
  2. K76.0F2 มีภาวะโภชนาการผิดปกติ: มากกว่าความต้องการร่างกาย (Imbalanced nutrition: more than body requirements)
  3. K76.0F3 มีภาวะเสี่ยงต่อความเหนื่อยล้าจากการทำงานของตับบกพร่อง (Risk for fatigue related to impaired liver function)
  4. K76.0F4 มีภาวะความรู้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเอง (Deficient knowledge regarding disease process and self-care)
  5.  K76.0F5 มีภาวะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากภาวะตับผิดปกติ เช่น เลือดออกง่าย (Risk for injury related to liver dysfunction and coagulopathy)
  6. K76.0F6 มีภาวะความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและการรักษา (Anxiety related to disease condition and treatment)
  7. K76.0F7 มีภาวะความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนอนหลับ (Risk for disturbed sleep pattern)
  8. K76.0F8 มีภาวะเสี่ยงต่อการดูแลตนเองบกพร่องจากความเหนื่อยล้าและความรู้ไม่เพียงพอ (Risk for self-care deficit related to fatigue and deficient knowledge)

.............................................................

K76.0F1: ภาวะความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากตับอักเสบและตับแข็ง (Risk for complications related to liver inflammation and cirrhosis)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • เบื่ออาหาร แน่นท้องหลังรับประทานอาหาร
  • กังวลเรื่องภาวะแทรกซ้อนของโรค

O:

  • น้ำหนักเกินหรือมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) สูง
  • ตรวจพบค่าการทำงานของตับ (LFT) สูง
  • มีตับโตจากการคลำตรวจ
  • ไขมันในเลือดสูงจากผลแล็บ
  • มีประวัติน้ำหนักเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยลดความเสี่ยงการเกิดตับอักเสบและตับแข็ง
  • ควบคุมน้ำหนักและระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตเพื่อลดการสะสมไขมันในตับ
  • มีความรู้และความร่วมมือในการดูแลสุขภาพตนเอง

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • น้ำหนักลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป 0.5–1 กก./สัปดาห์
  • ค่าการทำงานของตับใกล้เคียงปกติ
  • ไขมันในเลือดลดลงสู่เกณฑ์
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำด้านอาหารและการออกกำลังกายได้

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K76.0F1I-1: ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคและภาวะแทรกซ้อน เพื่อสร้างความตระหนักและป้องกัน
  • K76.0F1I-2: ประเมินน้ำหนักตัวและรอบเอวทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลง
  • K76.0F1I-3: แนะนำการรับประทานอาหารไขมันต่ำ ลดน้ำตาล และเพิ่มผักผลไม้
  • K76.0F1I-4: กระตุ้นให้มีกิจกรรมหรือออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
  • K76.0F1I-5: แนะนำให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • K76.0F1I-6: ติดตามผลตรวจเลือดและการทำงานของตับตามแพทย์สั่ง
  • K76.0F1I-7: แนะนำการควบคุมโรคร่วม เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือด
  • K76.0F1I-8: ให้คำปรึกษาด้านการลดความเครียดและปรับวิถีชีวิต

Response (การตอบสนอง)

  • K76.0F1R-1: น้ำหนักและรอบเอวลดลงต่อเนื่องในเกณฑ์ปลอดภัย
  • K76.0F1R-2: ค่าการทำงานของตับและไขมันในเลือดดีขึ้น
  • K76.0F1R-3: ผู้ป่วยรับประทานอาหารตามคำแนะนำได้สม่ำเสมอ
  • K76.0F1R-4: ผู้ป่วยออกกำลังกายได้ตามเป้าหมายและต่อเนื่อง
  • K76.0F1R-5: ไม่มีอาการหรือภาวะแทรกซ้อนใหม่จากตับ

..............................................................

K76.0F2: ภาวะโภชนาการผิดปกติ: มากกว่าความต้องการร่างกาย (Imbalanced nutrition: more than body requirements)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • รู้สึกอิ่มง่ายแต่รับประทานบ่อย
  • ชอบรับประทานอาหารหวาน มัน เค็ม
  • ไม่ค่อยออกกำลังกาย

O:

  • น้ำหนักเกินหรือ BMI > 25
  • รอบเอวเกินเกณฑ์มาตรฐาน (ชาย > 90 ซม., หญิง > 80 ซม.)
  • ผลตรวจไขมันในเลือดสูง
  • ผลตรวจตับพบไขมันสะสม
  • มีประวัติการเพิ่มน้ำหนักต่อเนื่องใน 6 เดือน

Goals (เป้าหมาย)

  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • ลดปริมาณพลังงานส่วนเกินที่ได้รับจากอาหาร
  • ปรับพฤติกรรมการรับประทานให้เหมาะสมกับความต้องการร่างกาย
  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดตับอักเสบและภาวะแทรกซ้อน

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • น้ำหนักลดลง 0.5–1 กก./สัปดาห์อย่างปลอดภัย
  • รอบเอวลดลงและเข้าใกล้เกณฑ์มาตรฐาน
  • ค่าไขมันในเลือดและการทำงานของตับดีขึ้น
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำด้านอาหารและการออกกำลังกายได้สม่ำเสมอ

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K76.0F2I-1: ประเมินน้ำหนัก ส่วนสูง และ BMI ทุกสัปดาห์เพื่อติดตามความคืบหน้า
  • K76.0F2I-2: ให้ความรู้เรื่องการจำกัดพลังงานและลดอาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง
  • K76.0F2I-3: แนะนำให้เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสีในมื้ออาหาร
  • K76.0F2I-4: วางแผนการรับประทานอาหารร่วมกับนักโภชนาการเพื่อกำหนดพลังงานเหมาะสม
  • K76.0F2I-5: แนะนำดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวานหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • K76.0F2I-6: กระตุ้นให้มีกิจกรรมทางกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
  • K76.0F2I-7: แนะนำการแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายมื้อเพื่อลดการกินเกิน
  • K76.0F2I-8: ให้คำปรึกษาด้านการจัดการความเครียดเพื่อลดการกินตามอารมณ์

Response (การตอบสนอง)

  • K76.0F2R-1: น้ำหนักและ BMI ลดลงต่อเนื่องในเกณฑ์ปลอดภัย
  • K76.0F2R-2: รอบเอวลดลงและใกล้เกณฑ์มาตรฐาน
  • K76.0F2R-3: ค่าการทำงานของตับและไขมันในเลือดดีขึ้น
  • K76.0F2R-4: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารตามแผนโภชนาการได้สม่ำเสมอ
  • K76.0F2R-5: ผู้ป่วยออกกำลังกายได้ต่อเนื่องตามเป้าหมาย

.......................................................................

K76.0F3: ภาวะเสี่ยงต่อความเหนื่อยล้าจากการทำงานของตับบกพร่อง (Risk for fatigue related to impaired liver function)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • รู้สึกอ่อนเพลียหลังทำกิจกรรมเล็กน้อย
  • เหนื่อยง่ายแม้พักผ่อนเพียงพอ
  • กังวลเกี่ยวกับสุขภาพและสมรรถภาพร่างกาย

O:

  • สีผิวและตาเหลืองเล็กน้อย (บางราย)
  • ตรวจพบค่าการทำงานของตับ (LFT) ผิดปกติ
  • มีตับโตจากการตรวจร่างกาย
  • น้ำหนักเกินหรือมีไขมันในเลือดสูง
  • อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นหลังออกแรงเล็กน้อย

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยลดความรู้สึกเหนื่อยล้าและมีพลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
  • วางแผนการพักผ่อนและการทำกิจกรรมให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
  • ลดปัจจัยที่กระตุ้นให้ตับทำงานหนักเกินไป
  • ป้องกันการเสื่อมของการทำงานของตับ

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานความเหนื่อยล้าลดลง
  • สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้โดยไม่เหนื่อยเกินไป
  • ค่าการทำงานของตับอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นหรือคงที่
  • ผู้ป่วยมีการพักผ่อนเพียงพอและต่อเนื่อง

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K76.0F3I-1: ประเมินระดับความเหนื่อยล้าและกิจกรรมที่ทำให้เหนื่อยเพิ่มขึ้น
  • K76.0F3I-2: วางแผนสลับการทำงานและการพักผ่อนอย่างเหมาะสม
  • K76.0F3I-3: แนะนำการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ 6–8 ชั่วโมง/วัน
  • K76.0F3I-4: แนะนำรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และช่วยฟื้นฟูตับ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
  • K76.0F3I-5: แนะนำการออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินช้า โยคะ ตามความสามารถ
  • K76.0F3I-6: ให้ความรู้เรื่องการหลีกเลี่ยงสารพิษและแอลกอฮอล์เพื่อลดภาระตับ
  • K76.0F3I-7: กระตุ้นให้ติดตามผลการทำงานของตับตามนัดแพทย์
  • K76.0F3I-8: ให้คำแนะนำการผ่อนคลายความเครียด เช่น หายใจลึก ทำสมาธิ

Response (การตอบสนอง)

  • K76.0F3R-1: ผู้ป่วยรายงานความเหนื่อยล้าลดลงอย่างชัดเจน
  • K76.0F3R-2: สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้มากขึ้นโดยไม่เหนื่อยเกินไป
  • K76.0F3R-3: ค่าการทำงานของตับคงที่หรือดีขึ้น
  • K76.0F3R-4: ผู้ป่วยนอนหลับได้เพียงพอและต่อเนื่อง
  • K76.0F3R-5: ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มภาระตับได้สำเร็จ

...................................................................

K76.0F4: ภาวะความรู้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเอง (Deficient knowledge regarding disease process and self-care)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • เข้าใจผิดว่าโรคไขมันพอกตับไม่มีอันตราย
  • ไม่ทราบว่าต้องควบคุมอาหารและน้ำหนัก
  • ไม่รู้ผลเสียของการดื่มแอลกอฮอล์หรือกินอาหารไขมันสูง

O:

  • รับประทานอาหารไขมันสูงและหวานเป็นประจำ
  • ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์/พยาบาล
  • ไม่มาตรวจติดตามตามนัด
  • ไม่มีการปรับพฤติกรรมการออกกำลังกาย

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีความรู้ถูกต้องเกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเอง
  • ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตได้เหมาะสม
  • ลดความเสี่ยงการเกิดตับอักเสบและตับแข็งในอนาคต

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยอธิบายโรคและวิธีดูแลตนเองได้ถูกต้อง
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนโภชนาการและการออกกำลังกายได้
  • การมาตรวจติดตามและผลตรวจสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้น
  • ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพลงอย่างชัดเจน

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K76.0F4I-1: ประเมินความรู้ ความเข้าใจ และความเชื่อเดิมของผู้ป่วยเกี่ยวกับโรค
  • K76.0F4I-2: ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับโรค ภาวะแทรกซ้อน และความสำคัญของการปฏิบัติตัว
  • K76.0F4I-3: อธิบายความสำคัญของการควบคุมน้ำหนักและอาหารไขมันต่ำ น้ำตาลต่ำ
  • K76.0F4I-4: แนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
  • K76.0F4I-5: ให้ความรู้เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารพิษต่อ ตับ
  • K76.0F4I-6: ใช้สื่อการสอน เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือเอกสาร เพื่อช่วยให้เข้าใจง่าย
  • K76.0F4I-7: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการดูแลผู้ป่วย
  • K76.0F4I-8: กระตุ้นให้มาตรวจติดตามและตรวจเลือดตามนัดแพทย์

Response (การตอบสนอง)

  • K76.0F4R-1: ผู้ป่วยอธิบายโรคและวิธีดูแลตนเองได้ถูกต้อง
  • K76.0F4R-2: ผู้ป่วยควบคุมน้ำหนักและเลือกอาหารได้เหมาะสม
  • K76.0F4R-3: ผู้ป่วยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • K76.0F4R-4: ผู้ป่วยมาตรวจติดตามตามนัดอย่างต่อเนื่อง
  • K76.0F4R-5: พฤติกรรมเสี่ยงลดลงและผลตรวจสุขภาพดีขึ้น

.........................................................................

K76.0F5: ภาวะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากภาวะตับผิดปกติ เช่น เลือดออกง่าย (Risk for injury related to liver dysfunction and coagulopathy)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยกังวลเรื่องเลือดออกง่ายและฟกช้ำ
  • รายงานว่ามีเลือดออกจากเหงือกหรือจมูกบ่อยขึ้น

O:

  • มีรอยช้ำตามร่างกายโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ผลตรวจเลือดพบเกล็ดเลือดต่ำ / ค่า PT, INR ผิดปกติ
  • มีรอยเลือดออกใต้ผิวหนัง (petechiae, ecchymosis)
  • มีเลือดออกจากแผลนานกว่าปกติ

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยไม่เกิดการบาดเจ็บหรือเลือดออกเพิ่ม
  • ผู้ป่วยรู้วิธีป้องกันการบาดเจ็บและการกระแทก
  • ค่าการแข็งตัวของเลือดอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ไม่มีรอยฟกช้ำหรือเลือดออกใหม่
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตัวเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงได้
  • ค่าเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือดดีขึ้นหรือคงที่
  • ไม่มีภาวะเลือดออกภายในหรืออาเจียนเป็นเลือด

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K76.0F5I-1: ประเมินประวัติการบาดเจ็บ เลือดออก และผลตรวจเลือดเป็นประจำ
  • K76.0F5I-2: ให้ความรู้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงต่อการกระแทกหรือบาดเจ็บ
  • K76.0F5I-3: แนะนำใช้แปรงสีฟันขนอ่อนและโกนหนวดด้วยเครื่องไฟฟ้าเพื่อลดการเกิดแผล
  • K76.0F5I-4: สังเกตสัญญาณเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกเหงือก ปัสสาวะหรืออุจจาระปนเลือด
  • K76.0F5I-5: ดูแลสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคมและป้องกันการลื่นล้ม
  • K76.0F5I-6: ติดตามผลตรวจเลือด ค่าเกล็ดเลือด PT/INR และรายงานแพทย์เมื่อผิดปกติ
  • K76.0F5I-7: แนะนำให้มาตรวจตามนัดและปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์เรื่องการใช้ยา
  • K76.0F5I-8: ประสานแพทย์เพื่อพิจารณาการให้วิตามิน K หรือเกล็ดเลือดหากจำเป็น

Response (การตอบสนอง)

  • K76.0F5R-1: ผู้ป่วยไม่มีการบาดเจ็บหรือเลือดออกเพิ่ม
  • K76.0F5R-2: ผู้ป่วยปฏิบัติตัวหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงได้ถูกต้อง
  • K76.0F5R-3: สิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยปลอดภัย
  • K76.0F5R-4: ผลตรวจเลือดอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
  • K76.0F5R-5: ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากเลือดออกภายใน

.............................................................

K76.0F6 – ภาวะความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและการรักษา (Anxiety related to disease condition and treatment)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่ากังวลเกี่ยวกับโรคและผลการรักษา
  • รู้สึกกลัวว่าภาวะตับจะทรุดลง
  • กังวลเรื่องการปรับพฤติกรรมการกินและใช้ชีวิต

O:

  • สีหน้าเคร่งเครียด พูดเร็วหรือเสียงสั่น
  • กระสับกระส่าย นอนหลับยาก
  • วัดชีพจรเร็วเล็กน้อย ความดันโลหิตสูงขึ้น
  • มีการถามซ้ำเกี่ยวกับโรคและการรักษา

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีระดับความวิตกกังวลลดลง
  • ผู้ป่วยเข้าใจข้อมูลโรคและการรักษาอย่างถูกต้อง
  • ผู้ป่วยสามารถร่วมมือในการดูแลรักษาได้

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกกังวลน้อยลง
  • สีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น
  • ผู้ป่วยตอบคำถามเกี่ยวกับโรคและการดูแลได้ถูกต้อง
  • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมร่วมมือในการรักษา

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K76.0F6I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลและปัจจัยกระตุ้นเป็นประจำ
  • K76.0F6I-2: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและแผนการรักษาอย่างชัดเจน เข้าใจง่าย
  • K76.0F6I-3: ใช้น้ำเสียงสงบและท่าทีเป็นมิตรเพื่อลดความตึงเครียด
  • K76.0F6I-4: กระตุ้นให้ผู้ป่วยซักถามข้อสงสัยและตอบอย่างตรงไปตรงมา
  • K76.0F6I-5: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึกๆ หรือฟังเพลงเบาๆ
  • K76.0F6I-6: สนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วมให้กำลังใจผู้ป่วย
  • K76.0F6I-7: ลดสิ่งรบกวนในห้องพัก เช่น เสียงดังหรือการเข้าออกโดยไม่จำเป็น
  • K76.0F6I-8: ประเมินการนอนหลับ และหาวิธีช่วยให้ผู้ป่วยพักผ่อนได้ดีขึ้น

Response (การตอบสนอง)

  • K76.0F6R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าความกังวลลดลงอย่างชัดเจน
  • K76.0F6R-2: สีหน้าและท่าทางผ่อนคลายขึ้น
  • K76.0F6R-3: ผู้ป่วยสามารถอธิบายโรคและแนวทางการรักษาได้ถูกต้อง
  • K76.0F6R-4: ผู้ป่วยมีส่วนร่วมและร่วมมือกับการรักษาอย่างเต็มที่
  • K76.0F6R-5: ผู้ป่วยพักผ่อนได้เพียงพอและนอนหลับดีขึ้น

................................................................................

รหัส: K76.0F7 – ภาวะความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนอนหลับ (Risk for disturbed sleep pattern)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่านอนหลับยาก หลับไม่สนิท
  • มีความกังวลเกี่ยวกับโรคหรือการรักษา
  • รู้สึกเพลียในตอนเช้า

O:

  • พบผู้ป่วยตื่นบ่อยตอนกลางคืน
  • สีหน้าอ่อนเพลีย ขอบตาคล้ำ
  • อาจพบการงีบหลับระหว่างวัน
  • วัดสัญญาณชีพอาจพบชีพจรเร็วเล็กน้อย

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยนอนหลับได้เพียงพออย่างต่อเนื่อง
  • ผู้ป่วยมีความรู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอน
  • ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีปรับพฤติกรรมการนอนที่เหมาะสม

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่านอนหลับได้ 6–8 ชั่วโมงต่อคืน
  • ไม่มีการตื่นบ่อยหรือหลับไม่สนิท
  • อาการเพลียและง่วงระหว่างวันลดลง
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำด้านการนอนหลับได้จริง

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K76.0F7I-1: ประเมินปัญหาการนอนและปัจจัยที่รบกวนการนอน
  • K76.0F7I-2: แนะนำให้จัดเวลานอนและตื่นให้สม่ำเสมอทุกวัน
  • K76.0F7I-3: ลดกิจกรรมกระตุ้นสมองก่อนนอน เช่น ใช้โทรศัพท์หรือดูทีวี
  • K76.0F7I-4: แนะนำให้หลีกเลี่ยงคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารมื้อหนักก่อนนอน
  • K76.0F7I-5: จัดสภาพแวดล้อมห้องนอนให้เงียบ มืด และอุณหภูมิพอเหมาะ
  • K76.0F7I-6: สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึก ฟังเพลงเบา หรือสมาธิสั้นๆก่อนนอน
  • K76.0F7I-7: ประเมินผลการนอนหลับทุกวัน และปรับแผนดูแลตามความเหมาะสม
  • Response (การตอบสนอง)
  • K76.0F7R-1: ผู้ป่วยรายงานว่านอนหลับได้ดีขึ้นและต่อเนื่อง
  • K76.0F7R-2: อาการเพลียและง่วงกลางวันลดลง
  • K76.0F7R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามวิธีการปรับพฤติกรรมการนอนได้อย่างถูกต้อง
  • K76.0F7R-4: ผู้ป่วยมีสีหน้าสดชื่นและอารมณ์ดีขึ้น

..................................................................................

K76.0F8 – ภาวะเสี่ยงต่อการดูแลตนเองบกพร่องจากความเหนื่อยล้าและความรู้ไม่เพียงพอ (Risk for self-care deficit related to fatigue and deficient knowledge)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นว่าเหนื่อยง่าย ทำกิจวัตรประจำวันได้น้อย
  • ผู้ป่วยบอกว่าไม่เข้าใจวิธีดูแลสุขภาพเพื่อลดไขมันพอกตับ
  • รู้สึกหมดแรงหลังทำงานบ้านหรือเดินระยะสั้น

O:

  • พบผู้ป่วยหยุดพักบ่อยระหว่างทำกิจกรรม
  • สีหน้าอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรงเล็กน้อย
  • สังเกตว่าผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้เพียงพอตามความสามารถ
  • ผู้ป่วยมีความรู้และทักษะการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง
  • ผู้ป่วยลดความเหนื่อยล้าด้วยการปรับพฤติกรรมและพักผ่อนเหมาะสม

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เองอย่างน้อย 80%
  • ผู้ป่วยอธิบายวิธีการดูแลตนเองเพื่อลดไขมันพอกตับได้ถูกต้อง
  • ระดับความเหนื่อยล้าลดลง (รายงานจากผู้ป่วย)
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านอาหารและการออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K76.0F8I-1: ประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันและระดับความเหนื่อยล้า
  • K76.0F8I-2: จัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมประจำวันเพื่อลดการใช้แรงเกินจำเป็น
  • K76.0F8I-3: แนะนำให้พักระหว่างทำกิจกรรมและหลีกเลี่ยงการใช้แรงติดต่อกันนาน
  • K76.0F8I-4: ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไขมันพอกตับและวิธีลดความเสี่ยงการลุกลาม
  • K76.0F8I-5: สอนวิธีเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เช่น ลดไขมันอิ่มตัว ลดน้ำตาล
  • K76.0F8I-6: แนะนำการออกกำลังกายเบา ๆ ที่ปลอดภัย เช่น เดินช้า โยคะ
  • K76.0F8I-7: ประเมินความเข้าใจและทักษะการปฏิบัติหลังให้คำแนะนำ

Response (การตอบสนอง)

  • K76.0F8R-1: ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้มากขึ้นโดยไม่เหนื่อยเกินไป
  • K76.0F8R-2: ผู้ป่วยอธิบายวิธีดูแลตนเองเพื่อลดไขมันพอกตับได้ถูกต้อง
  • K76.0F8R-3: ผู้ป่วยรายงานว่าระดับความเหนื่อยล้าลดลง
  • K76.0F8R-4: ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนอาหารและออกกำลังกายที่แนะนำได้ต่อเนื่อง

.............................................................................

เอกสารอ้างอิง

  • กรมการแพทย์. (2565). แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มสุรา (Non-Alcoholic Fatty Liver Disease: NAFLD). สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.
  • สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย. (2564). คู่มือการวินิจฉัยทางการพยาบาลและการวางแผนการพยาบาล. กรุงเทพมหานคร: สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย.
  • Chalasani, N., Younossi, Z., Lavine, J. E., et al. (2018). The diagnosis and management of non‐alcoholic fatty liver disease: Practice guidance from the American Association for the Study of Liver Diseases. Hepatology, 67(1), 328–357. https://doi.org/10.1002/hep.29367
  • World Health Organization. (2021). Non-alcoholic fatty liver disease: Public health implications and management strategies. Geneva: World Health Organization.

......................................................................