1.ความหมายของโรค
- ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป → เร่งระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้หัวใจ ตับ สมอง ทำงานหนักเกินจำเป็น
2.พยาธิสภาพ
- เกิดจากการที่ฮอร์โมน T3 และ T4 สูงกว่าปกติ → ส่งผลให้เกิดการเผาผลาญพลังงานเร็วผิดปกติ ร่างกาย “ล้าแต่ดูเหมือนกระฉับกระเฉง”
3.ช่วงอายุที่พบบ่อย
- มักพบในผู้หญิงช่วงอายุ 20–40 ปี แต่ผู้ชายก็เป็นได้
4.ปัจจัยที่ทำให้เกิด
🔹กรรมพันธุ์
🔹โรคเกรฟส์ (Graves’ disease)
🔹การกินอาหารเสริมไอโอดีนเกิน
🔹ความเครียดเรื้อรัง
5.อาการที่สังเกตได้
💥 ใจสั่น เหนื่อยง่าย
💥 ผอมลงแม้กินมาก
💥 นอนไม่หลับ มือสั่น
💥 เหงื่อออกเยอะ ผิวบาง ผมร่วง
💥 ตาโปน (ในบางราย)
6.
การรักษา
💊 ยาต้านไทรอยด์
🧪 การกินไอโอดีนกัมมันตรังสี
🛌 ผ่าตัดต่อมไทรอยด์บางส่วน
‼ ต้องติดตามผลเลือดอย่างสม่ำเสมอ
7.
การพยาบาล
👩⚕️ เฝ้าระวังสัญญาณชีพ (ชีพจรเร็ว
หัวใจเต้นผิดจังหวะ)
💬 ให้คำแนะนำเรื่องยา อาหาร และการติดตามอาการ
📝 สังเกตภาวะแทรกซ้อน เช่น
ไทรอยด์เป็นพิษชนิดรุนแรง
8.การดูแลตัวเองสำหรับบุคคลทั่วไป
🍽 กินอาหารครบ 5 หมู่
หลีกเลี่ยงอาหารไอโอดีนสูง (เช่น สาหร่าย)
💤 พักผ่อนให้เพียงพอ
🧘 ลดความเครียด ด้วยกิจกรรมผ่อนคลาย
📌 สังเกตอาการตัวเอง หากใจสั่น
เหนื่อยง่ายผิดปกติ รีบพบแพทย์
………………………………………………
✅ วินิจฉัยการพยาบาลโรคไทรอยด์ทำงานเกิน : E05 (Hyperthyroidism)
- E05F1มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษชนิดรุนแรง เช่น ชีพจรเร็วมาก เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย หรือหมดสติ (Risk for thyroid storm)
- E05F2 มีภาวะอุณหภูมิในร่างกายสูงเกินปกติ จากกระบวนการเผาผลาญที่มากผิดปกติ (Hyperthermia related to increased metabolic rate)
- E05F3 มีภาวะวิตกกังวลเนื่องจากอาการของโรค เช่น ใจสั่น มือสั่น หรือกลัวผลข้างเคียงของยา (Anxiety related to symptoms or fear of complications)
- E05F4 มีภาวะโภชนาการต่ำกว่าความต้องการของร่างกาย เนื่องจากการเผาผลาญพลังงานสูงแม้รับประทานอาหารมาก (Imbalanced nutrition: less than body requirements)
- E05F5 มีการรบกวนการนอนหลับ จากอาการกระสับกระส่าย ใจเต้นเร็ว หรือความวิตกกังวล (Disturbed sleep pattern related to hyperactivity or anxiety)
- E05F6 มีการรับรู้เกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเองไม่เพียงพอ เช่น ไม่เข้าใจผลข้างเคียงของยา หรือการติดตามผลเลือด (Deficient knowledge regarding disease process and self-care)
- E05F7 มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยา เช่น ตับอักเสบหรือเม็ดเลือดขาวต่ำ (Risk for complications related to antithyroid medication)
- E05F8 มีศักยภาพในการดูแลตนเองที่ดีขึ้นเพื่อเตรียมวางแผนจำหน่ายและติดตามต่อเนื่อง เช่น การนัดตรวจเลือดและการควบคุมอาหาร (Readiness for enhanced self-care related to discharge planning and follow-up)
…………………………………………………………
E05F1: มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษชนิดรุนแรง
เช่น ชีพจรเร็วมาก เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย หรือหมดสติ (Risk for thyroid storm such as tachycardia, profuse sweating, agitation, or
loss of consciousness)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นใจสั่น เหนื่อยง่าย กระสับกระส่าย
- รู้สึกตัวไม่ดีเมื่ออากาศร้อนหรือหลังออกแรง
- บอกว่า “นอนไม่หลับ ใจมันสั่นๆ เหงื่อแตกทั้งคืน”
O:
- ชีพจร > 120 ครั้ง/นาที
- ความดันโลหิตแปรปรวน
- อุณหภูมิร่างกาย ≥ 38.5°C
- เหงื่อออกมาก ผิวชื้น
- สับสน พูดวกไปวนมา กระวนกระวาย
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของ thyroid storm
- สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ไม่มีอาการกระสับกระส่ายหรือหมดสติ
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- อุณหภูมิ ≤ 37.5°C ภายใน 24 ชั่วโมง
- ชีพจร ≤ 100 ครั้ง/นาที
- ไม่มีเหงื่อออกผิดปกติ
- ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง
- ไม่มีภาวะช็อกหรือหมดสติ
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- E05F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพทุก 2–4 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังภาวะชีพจรเร็วหรือไข้สูง
- E05F1I-2: เฝ้าระวังระดับความรู้สึกตัว และประเมินอาการกระสับกระส่าย สับสน
- E05F1I-3: ให้ยาลดไข้หรือยาต้านไทรอยด์ตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด
- E05F1I-4: จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบ อากาศถ่ายเทดี ลดสิ่งกระตุ้นระบบประสาท
- E05F1I-5: ให้สารน้ำทางหลอดเลือดตามแผนการรักษา เพื่อรักษาสมดุลน้ำและเกลือแร่
- E05F1I-6: เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินใกล้ตัว เช่น เครื่องวัดชีพจร เครื่องช่วยหายใจ
- E05F1I-7: รายงานอาการผิดปกติหรือสัญญาณของ thyroid storm ทันทีแก่แพทย์
- E05F1I-8: ให้คำแนะนำญาติในการเฝ้าสังเกตอาการเร่งด่วน เช่น ตัวร้อนมาก ใจเต้นแรง หายใจลำบาก
✅ Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- E05F1R-1: ผู้ป่วยมีชีพจร ≤ 100 ครั้ง/นาที ภายใน 24 ชั่วโมง
- E05F1R-2: ไม่มีอาการไข้ เหงื่อออกมาก หรือช็อก
- E05F1R-3: ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี สื่อสารรู้เรื่อง ไม่มีอาการกระวนกระวาย
- E05F1R-4: ไม่มีอาการแสดงของ thyroid storm ตลอดระยะเวลาเฝ้าระวัง
- E05F1R-5: ญาติสามารถอธิบายอาการที่ต้องรีบแจ้งพยาบาลได้ถูกต้อง
…………………………………………………………
E05F2: มีภาวะอุณหภูมิในร่างกายสูงเกินปกติ
จากกระบวนการเผาผลาญที่มากผิดปกติ (Hyperthermia
related to increased metabolic rate)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นรู้สึกร้อนตลอดเวลา แม้อยู่ในห้องแอร์
- ผู้ป่วยบอกว่า “ตัวร้อน เหงื่อไหลตลอด”
- อ่อนเพลียง่าย เมื่อมีไข้สูง
O:
- อุณหภูมิร่างกาย > 37.5°C ต่อเนื่อง
- ผิวหนังแดง ร้อน ชื้น
- ชีพจรเร็ว > 100 ครั้ง/นาที
- อาจมีอาการกระสับกระส่าย หรือเบลอเล็กน้อยเมื่อไข้สูง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- อุณหภูมิของผู้ป่วยลดลงสู่เกณฑ์ปกติ
- ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากไข้สูง เช่น เพ้อ สับสน
- ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวขึ้น
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- อุณหภูมิ ≤ 37.5°C ภายใน 24 ชั่วโมง
- ชีพจร ≤ 100 ครั้ง/นาที
- ไม่มีอาการผิวแดง ร้อน เหงื่อออกมาก
- ผู้ป่วยพักผ่อนได้ดี ไม่เพ้อหรือสับสน
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- E05F2I-1: วัดอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง และบันทึกลงเวชระเบียน
- E05F2I-2: ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดตัวเพื่อลดไข้ เมื่ออุณหภูมิ ≥ 38°C
- E05F2I-3: เปิดพัดลมหรือปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นลงตามความเหมาะสม
- E05F2I-4: ให้ยาลดไข้ตามแผนการรักษาของแพทย์
- E05F2I-5: ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากขึ้น เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากเหงื่อ
- E05F2I-6: ประเมินสัญญาณชีพร่วมกับอุณหภูมิ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- E05F2I-7: จัดท่าผ่อนคลาย เช่น ศีรษะสูง เพื่อช่วยการไหลเวียนของเลือด
- E05F2I-8: ให้คำแนะนำผู้ป่วยและญัติให้สังเกตอาการที่ควรแจ้งพยาบาล เช่น หนาวสั่น สับสน
✅ Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- E05F2R-1: อุณหภูมิร่างกายลดลง ≤ 37.5°C ภายใน 24 ชั่วโมง
- E05F2R-2: ผู้ป่วยบอกว่ารู้สึกสบายตัวขึ้น เหงื่อลดลง
- E05F2R-3: ไม่มีอาการกระสับกระส่าย หรือสับสน
- E05F2R-4: ผู้ป่วยสามารถพักผ่อนได้โดยไม่ถูกรบกวนจากไข้
- E05F2R-5: สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ
………………………………………………………….
E05F3: มีภาวะวิตกกังวลเนื่องจากอาการของโรค
เช่น ใจสั่น มือสั่น หรือกลัวผลข้างเคียงของยา (Anxiety related to
symptoms or fear of complications)
✅ Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นกังวลเกี่ยวกับอาการใจสั่น มือสั่น และการใช้ยา
- พูดซ้ำว่า “กลัวว่าจะหายหรือเปล่า” หรือ “ยานี้จะอันตรายไหม”
- บ่นนอนไม่หลับ กระวนกระวายใจ
O:
- สีหน้าเคร่งเครียด ตอบสนองไว
- หายใจเร็วเล็กน้อย
- มือสั่น พูดเร็ว หรือพูดซ้ำเรื่องเดิม
- คะแนนประเมินความวิตกกังวล (เช่น GAD-7) อยู่ในระดับปานกลางถึงสูง
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยลดระดับความวิตกกังวลลง
- ผู้ป่วยเข้าใจโรคและการรักษา
- ผู้ป่วยสามารถผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานว่าความกังวลลดลงภายใน 48 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจเกี่ยวกับอาการและยาที่ได้รับ
- ผู้ป่วยสามารถพักผ่อนได้ดีขึ้น ไม่ร้องเรียนว่านอนไม่หลับ
- คะแนน GAD-7 ลดลงอย่างน้อย 2–4 คะแนนจาก baseline
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- E05F3I-1: สร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจ รับฟังความกังวลของผู้ป่วยโดยไม่ตัดสิน
- E05F3I-2: ประเมินระดับความวิตกกังวลด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม (เช่น GAD-7)
- E05F3I-3: อธิบายอาการที่เกิดจากภาวะไทรอยด์ และผลของยาในภาษาที่เข้าใจง่าย
- E05F3I-4: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก หรือการนั่งสมาธิสั้น ๆ
- E05F3I-5: ลดสิ่งกระตุ้นในห้อง เช่น เสียงดัง แสงจ้า เพื่อให้รู้สึกสงบ
- E05F3I-6: สนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการให้กำลังใจผู้ป่วย
- E05F3I-7: ประเมินคุณภาพการนอนหลับ และส่งเสริมกิจกรรมเบา ๆ ระหว่างวัน
- E05F3I-8: หากจำเป็น แจ้งแพทย์เพื่อพิจารณาการใช้ยาคลายกังวลระยะสั้น
✅ Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- E05F3R-1: ผู้ป่วยพูดคุยอย่างสงบ และไม่แสดงอาการกระวนกระวาย
- E05F3R-2: ผู้ป่วยสามารถอธิบายโรค อาการ และการใช้ยาได้ถูกต้อง
- E05F3R-3: ผู้ป่วยรายงานว่านอนหลับได้ดีขึ้น
- E05F3R-4: ไม่มีอาการหายใจเร็ว หรือแสดงความเครียดทางร่างกาย
- E05F3R-5: คะแนนความวิตกกังวลลดลงจากครั้งก่อนหน้า
……………………………………………………….
E05F4: ภาวะโภชนาการต่ำกว่าความต้องการของร่างกาย
เนื่องจากอัตราการเผาผลาญสูง แม้รับประทานอาหารมาก (Imbalanced nutrition:
less than body requirements)
📋 Assessment (การประเมิน)
S:
- บอกว่ารับประทานอาหารเพิ่มขึ้น แต่รู้สึกผอมลง เหนื่อยง่าย
- รู้สึกไม่สบายตัวเมื่อไม่ได้กินอาหารตามเวลา
O:
- น้ำหนักลดอย่างต่อเนื่อง
- รับประทานอาหารบ่อยแต่ไม่เพิ่มน้ำหนัก
- ผลแลบแสดงภาวะขาดสารอาหารบางชนิด (เช่น อัลบูมินต่ำ)
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- น้ำหนักคงที่หรือเพิ่มขึ้นภายในระยะเวลาเหมาะสม
- ไม่มีอาการอ่อนเพลียจากภาวะโภชนาการบกพร่อง
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือน้ำหนักคงที่
- รับประทานอาหารได้เพียงพอต่อมื้อ
- ระดับอัลบูมินและสารอาหารในเลือดดีขึ้น
- ไม่แสดงอาการอ่อนเพลียหรือเวียนศีรษะ
🛠 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- E05F4I-1: ประเมินพฤติกรรมการรับประทานอาหารและความชอบของผู้ป่วย
- E05F4I-2: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลของภาวะไทรอยด์ทำงานเกินต่อระบบเผาผลาญ
- E05F4I-3: วางแผนร่วมกับนักโภชนาการ เพื่อจัดเมนูอาหารที่ให้พลังงานสูงและย่อยง่าย
- E05F4I-4: กระตุ้นให้รับประทานอาหารบ่อยครั้งขึ้น เช่น ทุก 2–3 ชั่วโมง
- E05F4I-5: จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการกิน เช่น สงบ ปลอดเสียงรบกวน
- E05F4I-6: สังเกตอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือปัญหาที่อาจลดความอยากอาหาร
- E05F4I-7: ติดตามน้ำหนักตัว สัญญาณชีพ และค่าผลเลือดที่เกี่ยวข้องเป็นประจำ
💬 Response (การตอบสนอง)
- E05F4R-1: ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ดีขึ้นในแต่ละมื้อ
- E05F4R-2: น้ำหนักตัวเริ่มเพิ่มขึ้นหรือคงที่
- E05F4R-3: ผู้ป่วยมีพลังงานมากขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย
- E05F4R-4: ระดับสารอาหารในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- E05F4R-5: แสดงความเข้าใจในการเลือกอาหารที่เหมาะสมกับภาวะของตนเอง
………………………………………………………………………
E05F5: มีการรบกวนการนอนหลับ
จากอาการกระสับกระส่าย ใจเต้นเร็ว หรือความวิตกกังวล (Disturbed sleep
pattern related to hyperactivity or anxiety)
🩺 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยบ่นนอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ
- รู้สึกกระสับกระส่าย นอนไม่หลับเพราะใจเต้นแรง หรือกังวล
- รู้สึกเหนื่อยเพราะนอนหลับไม่สนิท
O:
- สังเกตพบผู้ป่วยเปลี่ยนท่าทางบ่อยในเวลากลางคืน
- มีชีพจรเร็ว ขณะพัก
- ใต้ตาคล้ำ หรือมีอาการอ่อนเพลียในตอนเช้า
- วัดคุณภาพการนอนด้วย sleep log หรือถาม-ตอบ พบเวลานอนน้อยกว่า 5 ชม./คืน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้อย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงต่อคืน
- ลดอาการกระสับกระส่ายและใจสั่นก่อนนอน
- ผู้ป่วยรู้วิธีผ่อนคลายก่อนนอน
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมินผล)
- ผู้ป่วยรายงานว่านอนหลับดีขึ้น พักผ่อนได้
- อาการกระสับกระส่ายลดลง
- ไม่มีอาการใจเต้นเร็วตอนกลางคืน
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการนอน
💊 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- E05F5I-1: ประเมินปัญหาการนอนหลับ เช่น เวลาที่ใช้เข้านอน เวลาตื่น และสิ่งที่รบกวนการนอน
- E05F5I-2: ส่งเสริมบรรยากาศห้องพักให้นอนหลับได้ เช่น ห้องมืด เงียบ อุณหภูมิเหมาะสม
- E05F5I-3: แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงคาเฟอีน/แอลกอฮอล์/อาหารรสจัดก่อนนอน
- E05F5I-4: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจช้า ๆ ลึก ๆ ก่อนนอน
- E05F5I-5: แนะนำกิจกรรมที่ช่วยให้หลับ เช่น อ่านหนังสือเบา ๆ หรือฟังเสียงธรรมชาติ
- E05F5I-6: ให้ความรู้เกี่ยวกับผลของการพักผ่อนไม่เพียงพอต่อร่างกาย
- E05F5I-7: ประเมินผลข้างเคียงจากยาไทรอยด์ เช่น ใจสั่น หรือกระตุ้นระบบประสาท
- E05F5I-8: ร่วมกับทีมแพทย์เพื่อปรับยาในรายที่นอนไม่หลับรุนแรง
✅ Response (การตอบสนอง)
- E05F5R-1: ผู้ป่วยสามารถนอนหลับต่อเนื่องได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อคืน
- E05F5R-2: ผู้ป่วยบอกว่าอาการใจสั่นและกระสับกระส่ายลดลงก่อนนอน
- E05F5R-3: ผู้ป่วยปฏิบัติตามวิธีผ่อนคลายก่อนนอนได้อย่างสม่ำเสมอ
- E05F5R-4: ผู้ป่วยมีความรู้เกี่ยวกับวิธีดูแลตนเองเมื่อนอนหลับยาก
- E05F5R-5: ผลการประเมินคุณภาพการนอนหลังดูแลแสดงให้เห็นว่าดีขึ้น
…………………………………………………………….
E05F6 : มีการรับรู้เกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเองไม่เพียงพอ
(Deficient knowledge regarding disease process and self-care)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าต้องตรวจเลือดบ่อยแค่ไหน”
- “ไม่แน่ใจว่ายาเม็ดนี้ไว้กินตอนไหน”
O:
- ผู้ป่วยแสดงความสับสนเกี่ยวกับแผนการรักษา
- ไม่มีเอกสารความรู้เกี่ยวกับยาและการปฏิบัติตน
- ไม่ปฏิบัติตามนัดเพื่อเจาะเลือดติดตามค่าไทรอยด์
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ยา และการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง
- สามารถอธิบายวิธีปฏิบัติตนและเหตุผลของการเจาะเลือดติดตามผลได้
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายโรค อาการข้างเคียง และแผนการรักษาได้ถูกต้อง 80%
- ปฏิบัติตามนัดเพื่อรับยาและตรวจเลือด
- แสดงพฤติกรรมการดูแลตนเองที่ถูกต้อง
🩹 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- E05F6I-1: ประเมินระดับความรู้ ความเข้าใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคและยา
- E05F6I-2: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาการของโรค ผลข้างเคียง และความสำคัญของการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- E05F6I-3: อธิบายวิธีรับประทานยาและการสังเกตอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ใจสั่น น้ำหนักลด
- E05F6I-4: ให้เอกสารหรือสื่อการเรียนรู้ที่เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้ป่วย
- E05F6I-5: กระตุ้นให้ตั้งคำถาม และตอบข้อสงสัยของผู้ป่วยอย่างชัดเจน
- E05F6I-6: นัดหมายเพื่อเจาะเลือด และเน้นความสำคัญของการติดตามค่าฮอร์โมน
- E05F6I-7: แจ้งญาติหรือผู้ดูแลให้มีส่วนร่วมในการดูแล และช่วยติดตามพฤติกรรมผู้ป่วย
- E05F6I-8: ประเมินซ้ำหลังให้ความรู้ เพื่อดูว่าผู้ป่วยเข้าใจมากขึ้นหรือไม่
✅ Response (การตอบสนอง)
- E05F6R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายโรค อาการ และวิธีดูแลตนเองได้ถูกต้อง
- E05F6R-2: รับประทานยาได้ตรงเวลาและต่อเนื่อง
- E05F6R-3: มาตามนัดเพื่อตรวจเลือดตามแผนการรักษา
- E05F6R-4: มีความมั่นใจในการดูแลตนเองมากขึ้น
- E05F6R-5: ญาติ/ผู้ดูแลมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
………………………………………………………………..
E05F7: มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยา
เช่น ตับอักเสบหรือเม็ดเลือดขาวต่ำ (Risk for complications related to
antithyroid medication)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา
- ผู้ป่วยบอกว่ามีอาการคลื่นไส้หลังรับประทานยา
O:
- ผู้ป่วยได้รับยาต้านไทรอยด์ (เช่น PTU หรือ Methimazole)
- ตรวจพบค่าเม็ดเลือดขาวต่ำ หรือ ALT/AST สูง (ตามผลแล็บล่าสุด)
- มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง หรือมีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนของยาต้านไทรอยด์
- ผู้ป่วยสามารถสังเกตอาการเตือนและรายงานต่อพยาบาลหรือแพทย์ได้อย่างเหมาะสม
✅ Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ไม่มีอาการตับอักเสบหรือเม็ดเลือดขาวต่ำ
- ผลเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ผู้ป่วยรายงานอาการผิดปกติได้อย่างถูกต้อง
- ไม่มีไข้หรืออาการแสดงการติดเชื้อ
🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- E05F7I-1: ให้ข้อมูลเรื่องผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากยาต้านไทรอยด์ เช่น ตับอักเสบ เม็ดเลือดขาวต่ำ
- E05F7I-2: สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ ตัวเหลือง ตาเหลือง หรืออ่อนเพลียผิดปกติ
- E05F7I-3: ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น CBC, LFT อย่างสม่ำเสมอตามแผนการรักษา
- E05F7I-4: ให้ผู้ป่วยหยุดยาและรีบพบแพทย์ทันที หากมีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บคอหรือไข้สูง
- E05F7I-5: ประสานงานแพทย์ทันทีหากพบค่าผิดปกติ เช่น ALT/AST สูงมาก หรือ WBC ต่ำกว่าเกณฑ์
- E05F7I-6: บันทึกข้อมูลการได้รับยาและผลข้างเคียงลงในเวชระเบียนอย่างครบถ้วน
💬 Response (การตอบสนอง)
- E05F7R-1: ผู้ป่วยสามารถบอกอาการเตือนของภาวะแทรกซ้อนได้ถูกต้อง
- E05F7R-2: ผู้ป่วยไม่มีไข้หรืออาการติดเชื้อระหว่างรับการรักษา
- E05F7R-3: ผลตรวจ CBC และ LFT อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- E05F7R-4: ไม่มีอาการแสดงของตับอักเสบหรือเม็ดเลือดขาวต่ำ
- E05F7R-5: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาได้ถูกต้อง และมาพบแพทย์ตามนัด
………………………………………………………………………
E05F8 มีศักยภาพในการดูแลตนเองที่ดีขึ้น
เพื่อเตรียมวางแผนจำหน่ายและติดตามต่อเนื่อง (Readiness for enhanced
self-care related to discharge planning and follow-up)
🔍 Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยแสดงความตั้งใจและพร้อมเรียนรู้การดูแลตนเอง
- ถามคำถามเกี่ยวกับการนัดตรวจเลือดและการควบคุมอาหาร
O:
- ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำในการรับยาและการตรวจเลือด
- มีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโรคและผลข้างเคียงของยา
- มีการบันทึกนัดหมายติดตามหรือแผนการรักษาอย่างชัดเจน
🎯 Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีความรู้และทักษะเพียงพอในการดูแลตนเองหลังจำหน่าย
- ปฏิบัติตามนัดตรวจเลือดและคำแนะนำด้านโภชนาการได้อย่างสม่ำเสมอ
- ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนหลังจำหน่าย
📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีดูแลตนเองและแผนการติดตามผลได้ถูกต้อง
- ปฏิบัติตามนัดตรวจเลือดและคำแนะนำด้านอาหาร
- ไม่มีอาการหรือสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนหลังจำหน่าย
- มีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม
🛠 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- E05F8I-1: ประเมินความรู้และทักษะในการดูแลตนเองของผู้ป่วย
- E05F8I-2: ให้คำแนะนำชัดเจนเกี่ยวกับการนัดตรวจเลือดและการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- E05F8I-3: สอนการควบคุมอาหารที่เหมาะสม เช่น รับประทานอาหารที่มีพลังงานเพียงพอและหลีกเลี่ยงสารก่อกระตุ้น
- E05F8I-4: จัดทำสื่อการเรียนรู้หรือใบแนะนำสำหรับดูแลตนเองที่เข้าใจง่าย
- E05F8I-5: กระตุ้นให้ผู้ป่วยตั้งคำถามและพูดคุยข้อสงสัยก่อนจำหน่าย
- E05F8I-6: แนะนำวิธีสังเกตอาการผิดปกติและการติดต่อทีมสาธารณสุขทันทีเมื่อพบอาการเหล่านั้น
- E05F8I-7: ประสานงานกับทีมสุขภาพเพื่อจัดการนัดหมายและติดตามหลังจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
✅ Response (การตอบสนอง)
- E05F8R-1: ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจและพร้อมในการดูแลตนเองหลังจำหน่าย
- E05F8R-2: ผู้ป่วยสามารถอธิบายแผนการนัดตรวจเลือดและการควบคุมอาหารได้
- E05F8R-3: ปฏิบัติตามนัดหมายและคำแนะนำได้ครบถ้วน
- E05F8R-4: ไม่มีอาการผิดปกติหรือภาวะแทรกซ้อนหลังจำหน่าย
- E05F8R-5: มีการติดต่อทีมสุขภาพเมื่อมีอาการหรือข้อสงสัยเกิดขึ้น
………………………………………………………………
เอกสารอ้างอิง
- กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2562). แนวทางเวชปฏิบัติภาวะไทรอยด์ทำงานเกินในผู้ใหญ่. กรุงเทพฯ: สำนักโรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม์.
- สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย. (2563). คู่มือการดูแลผู้ป่วยภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน. กรุงเทพฯ: สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย.
- Ross DS, Burch HB, Cooper DS, et al. (2016). 2016 American Thyroid Association Guidelines for Diagnosis and Management of Hyperthyroidism and Other Causes of Thyrotoxicosis. Thyroid. 26(10):1343-1421.
- Bahn RS, Burch HB, Cooper DS, et al. (2011). Hyperthyroidism and Other Causes of Thyrotoxicosis: Management Guidelines of the American Thyroid Association and American Association of Clinical Endocrinologists. Thyroid. 21(6):593-646.
…………………………………………………………...........................