เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568

91. ภาวะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

EP.98 Med. Topic 18 โรคกระเพาะอาหารอักเสบ : K29 [Gastritis]

 

📌 รู้ทัน! โรคกระเพาะอาหารอักเสบ : K29 (Gastritis)

ปวดท้องไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้าละเลยอาจกลายเป็นแผลในกระเพาะ!

1. ความหมายของโรค

  • ภาวะที่เยื่อบุกระเพาะอาหารอักเสบจากการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ

2. พยาธิสภาพ

  • เยื่อบุกระเพาะถูกทำลาย บวม แดง อาจมีเลือดออก ทำให้ปวดและย่อยอาหารผิดปกติ

3. ช่วงอายุที่พบบ่อย

  • พบได้ทุกวัย แต่พบบ่อยในวัย 20–50 ปี

4. ปัจจัยเสี่ยง

  • กินอาหารไม่เป็นเวลา
  • กินเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด
  • ดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ สูบบุหรี่
  • เครียดเรื้อรัง
  • ใช้ยากลุ่ม NSAIDs บ่อย
  • ติดเชื้อ H. pylori

5. อาการ

  • ปวดหรือแสบท้อง
  • จุกแน่น อืด ท้องเฟ้อ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • บางรายมีอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายดำ (อันตราย!)

6. การรักษา

  • ปรับพฤติกรรมการกิน
  • รับยาลดกรด เคลือบกระเพาะ
  • ยาปฏิชีวนะในรายติดเชื้อ H. pylori
  • หลีกเลี่ยงอาหารและพฤติกรรมกระตุ้น

7. การพยาบาล

  • ประเมินอาการปวดและภาวะแทรกซ้อน
  • ให้คำแนะนำเรื่องการกินและการใช้ยา
  • เฝ้าระวังอาเจียน/ถ่ายเป็นเลือด
  • ลดความเครียดผู้ป่วย

8. การดูแลตัวเองสำหรับบุคคลทั่วไป

  • กินอาหารให้ตรงเวลา
  • หลีกเลี่ยงเผ็ด เปรี้ยวจัด แอลกอฮอล์
  • ลดกาแฟ–บุหรี่
  • จัดการความเครียด
  • หากมีอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายดำ รีบพบแพทย์ทันที

……………………………………………………….

🏥 วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารอักเสบ : K29 [Gastritis]

  1. K29F1 ปวดท้องและไม่สุขสบายจากการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร (Pain and discomfort related to inflammation of the gastric mucosa)
  2. K29F2 คลื่นไส้ อาเจียน เสี่ยงต่อการขาดสารน้ำและเกลือแร่ (Nausea and vomiting with risk of fluid and electrolyte imbalance)
  3. K29F3 เสี่ยงต่อการเสียเลือดเฉียบพลันจากเยื่อบุกระเพาะมีเลือดออก  (Risk of acute blood loss related to gastric mucosal bleeding)
  4. K29F4 วิตกกังวลจากอาการป่วยและความไม่แน่นอนของโรค (Anxiety related to illness and uncertainty about disease outcome)
  5. K29F5 ขาดความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการกำเริบของโรค (Deficient knowledge regarding self-care to prevent disease recurrence)
  6. K29F6 เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำจากพฤติกรรมการกินและการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม (Risk of recurrence related to inappropriate eating habits and medication use)
  7. K29F7 ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันลดลงจากอาการเจ็บป่วย (Decreased ability to perform daily activities due to illness)
  8. K29F8 ต้องการการวางแผนจำหน่ายและการติดตามอาการต่อเนื่อง (Need for discharge planning and continuous follow-up)

……………………………………………………….

K29F1: ปวดท้องและไม่สุขสบายจากการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร (Pain and discomfort related to inflammation of the gastric mucosa)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นปวดแสบ ปวดตื้อบริเวณลิ้นปี่
  • รู้สึกไม่สบายท้องหลังรับประทานอาหาร
  • บ่นว่าปวดมากขึ้นเมื่อท้องว่าง

O:

  • สีหน้าแสดงความเจ็บปวด ขมวดคิ้ว
  • คลำท้องพบกดเจ็บบริเวณลิ้นปี่
  • น้ำหนักตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • กินอาหารได้น้อยลง

Goals (เป้าหมาย)

  • ลดความปวดและความไม่สุขสบายลงอย่างชัดเจน
  • ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการ
  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการปวดเรื้อรัง

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่าปวดลดลงหรือหายไป
  • สีหน้าและพฤติกรรมแสดงความสุขสบายขึ้น
  • รับประทานอาหารได้เพียงพอต่อมื้อ
  • ไม่มีอาการปวดรุนแรงซ้ำ

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K29F1I-1: ประเมินระดับความปวดด้วย Pain scale ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อวางแผนการดูแล
  • K29F1I-2: จัดท่านั่งเอนศีรษะสูง 30–45 องศา ลดแรงดันในกระเพาะและบรรเทาอาการปวด
  • K29F1I-3: ให้รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย และแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ หลายมื้อ
  • K29F1I-4: ให้ยาลดกรดหรือยาที่แพทย์สั่งตรงเวลาเพื่อบรรเทาอาการปวดและระคายเคือง
  • K29F1I-5: แนะนำหลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด คาเฟอีน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • K29F1I-6: จัดสภาพแวดล้อมเงียบ ลดสิ่งรบกวน เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนเพียงพอ
  • K29F1I-7: แนะนำเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึกๆ ช้าๆ เมื่อเริ่มรู้สึกปวด

Response (การตอบสนอง)

  • K29F1R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าความปวดลดลงจากเดิม ≥ 50% ภายใน 24 ชั่วโมง
  • K29F1R-2: สีหน้าและพฤติกรรมแสดงความผ่อนคลายขึ้น
  • K29F1R-3: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้มากขึ้นและไม่คลื่นไส้
  • K29F1R-4: ไม่มีอาการปวดรุนแรงซ้ำระหว่างอยู่โรงพยาบาล
  • K29F1R-5: ผู้ป่วยบอกวิธีดูแลตัวเองเพื่อลดอาการปวดได้ถูกต้อง

……………………………………………………………………

K29F2: คลื่นไส้ อาเจียน เสี่ยงต่อการขาดสารน้ำและเกลือแร่ (Nausea and vomiting with risk of fluid and electrolyte imbalance)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นคลื่นไส้ตลอดเวลา
  • รู้สึกไม่อยากอาหาร
  • เวียนศีรษะเมื่ออาเจียนบ่อย

O:

  • อาเจียน 2–3 ครั้งใน 24 ชั่วโมง
  • สังเกตเห็นผิวแห้ง ปากแห้ง ลิ้นแห้ง
  • ชีพจรเต้นเร็วเล็กน้อย
  • ปริมาณปัสสาวะลดลง

Goals (เป้าหมาย)

  • ลดอาการคลื่นไส้และอาเจียน
  • รักษาสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
  • ผู้ป่วยรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้เพียงพอ

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่าคลื่นไส้และอาเจียนลดลงหรือหายไป
  • สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ปัสสาวะใสและมีปริมาณเพียงพอ
  • ไม่มีภาวะขาดน้ำหรือเกลือแร่

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K29F2I-1: ประเมินความถี่ ปริมาณ และลักษณะของการอาเจียนทุกครั้ง เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน
  • K29F2I-2: วัดสัญญาณชีพและติดตามปริมาณปัสสาวะทุก 4–6 ชั่วโมง
  • K29F2I-3: ให้จิบน้ำหรือสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ แทนการดื่มรวดเดียว
  • K29F2I-4: จัดท่านั่งเอนหรือศีรษะสูงหลังอาเจียน เพื่อป้องกันการสำลัก
  • K29F2I-5: ให้ยาลดคลื่นไส้หรือยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • K29F2I-6: หลีกเลี่ยงอาหารมันจัด กลิ่นแรง หรือย่อยยากจนกว่าอาการจะดีขึ้น
  • K29F2I-7: แนะนำให้พักผ่อนในสภาพแวดล้อมสงบ ลดสิ่งกระตุ้นการคลื่นไส้

Response (การตอบสนอง)

  • K29F2R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าคลื่นไส้ลดลงหรือหายไป
  • K29F2R-2: ไม่มีอาเจียนซ้ำใน 12 ชั่วโมงล่าสุด
  • K29F2R-3: สัญญาณชีพคงที่ ปัสสาวะใสและเพียงพอ
  • K29F2R-4: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารอ่อนและดื่มน้ำได้โดยไม่คลื่นไส้
  • K29F2R-5: ไม่มีอาการขาดน้ำหรือเกลือแร่

……………………………………………………………………

K29F3: เสี่ยงต่อการเสียเลือดเฉียบพลันจากเยื่อบุกระเพาะมีเลือดออก (Risk of acute blood loss related to gastric mucosal bleeding)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย
  • รู้สึกหน้ามืดเมื่อเปลี่ยนท่าทางเร็ว

O:

  • อาเจียนเป็นเลือดหรือมีลักษณะคล้ายกากกาแฟ
  • อุจจาระสีดำคล้ำ
  • ชีพจรเร็ว ความดันโลหิตต่ำเล็กน้อย
  • ซีดที่เยื่อบุตาและริมฝีปาก
  • ผลเลือด Hb/Hct ลดลงจากค่าก่อนหน้า

Goals (เป้าหมาย)

  • ป้องกันการเสียเลือดเพิ่มและภาวะแทรกซ้อน
  • รักษาสัญญาณชีพให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ผู้ป่วยรับรู้และรายงานอาการผิดปกติได้ทันที

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ไม่มีอาการเลือดออกทางปากหรืออุจจาระเพิ่มขึ้น
  • สัญญาณชีพคงที่
  • ค่า Hb/Hct อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
  • ผู้ป่วยบอกสัญญาณเตือนการเสียเลือดได้ถูกต้อง

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K29F3I-1: ประเมินอาการเลือดออก เช่น อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระดำ ทุกครั้งที่มีอาการ
  • K29F3I-2: ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 1–2 ชั่วโมงในระยะเสี่ยงสูง
  • K29F3I-3: จัดให้นอนพักศีรษะต่ำเล็กน้อยหรือราบ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง
  • K29F3I-4: งดอาหารและน้ำทางปากจนกว่าแพทย์ประเมินว่าปลอดภัย
  • K29F3I-5: เตรียมอุปกรณ์สำหรับการให้สารน้ำหรือเลือดทางหลอดเลือดดำตามแพทย์สั่ง
  • K29F3I-6: บันทึกปริมาณเลือดที่สูญเสียจากอาเจียนหรืออุจจาระอย่างแม่นยำ
  • K29F3I-7: แนะนำผู้ป่วยและญาติให้สังเกตสัญญาณอันตราย เช่น เวียนศีรษะ หน้ามืด อาเจียนเป็นเลือด

Response (การตอบสนอง)

  • K29F3R-1: ไม่มีอาการอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายดำเพิ่มขึ้น
  • K29F3R-2: สัญญาณชีพคงที่ตลอดการดูแล
  • K29F3R-3: ค่า Hb/Hct คงที่หรือเพิ่มขึ้น
  • K29F3R-4: ผู้ป่วยรับรู้และรายงานอาการผิดปกติได้ทันที
  • K29F3R-5: ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการเสียเลือดเฉียบพลัน

…………………………………………………………….

K29F4 วิตกกังวลจากอาการป่วยและความไม่แน่นอนของโรค  (Anxiety related to illness and uncertainty about disease outcome)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • รู้สึกกังวล อึดอัดใจเกี่ยวกับอาการป่วย
  • กลัวโรคจะรุนแรงหรือรักษาไม่หาย
  • บ่นว่านอนไม่หลับเพราะคิดมาก

O:

  • สีหน้าเคร่งเครียด
  • พูดซ้ำเกี่ยวกับอาการป่วย
  • นั่งกระสับกระส่าย
  • ชีพจรเต้นเร็วเล็กน้อย

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวลลง
  • ผู้ป่วยเข้าใจโรคและการดูแลตนเอง
  • สามารถพักผ่อนและนอนหลับได้เพียงพอ

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยบอกว่ารู้สึกกังวลน้อยลง
  • สีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น
  • สามารถบอกวิธีดูแลโรคกระเพาะได้ถูกต้อง
  • นอนหลับได้อย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงต่อวัน

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K29F4I1: อธิบายโรคกระเพาะอาหารอักเสบ สาเหตุ อาการ และการรักษาให้ผู้ป่วยเข้าใจง่าย
  • K29F4I2: เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความกังวลและรับฟังอย่างตั้งใจ
  • K29F4I3: แนะนำเทคนิคผ่อนคลาย เช่น หายใจลึกๆ ช้าๆ หรือฟังเพลงเบาๆ
  • K29F4I4: ให้ข้อมูลการรับประทานอาหารที่เหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด คาเฟอีน
  • K29F4I5: ส่งเสริมให้พักผ่อนเพียงพอและจัดสภาพแวดล้อมเงียบสงบ
  • K29F4I6: ประเมินระดับความวิตกกังวลทุกครั้งที่ให้การพยาบาล

Response (การตอบสนอง)

  • K29F4R1: ผู้ป่วยบอกว่ารู้สึกกังวลลดลง
  • K29F4R2: สีหน้าสงบขึ้น พูดคุยปกติ
  • K29F4R3: สามารถอธิบายโรคและวิธีดูแลตนเองได้
  • K29F4R4: พักผ่อนและนอนหลับได้ดีขึ้น

…………………………………………………..

K29F5 : ขาดความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการกำเริบของโรค (Deficient knowledge regarding self-care to prevent disease recurrence)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่าไม่ทราบวิธีปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการกำเริบของโรค
  • ผู้ป่วยรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา
  • ผู้ป่วยยังดื่มกาแฟ/ชา/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

O:

  • สังเกตพบผู้ป่วยรับประทานอาหารรสจัดและเผ็ด
  • พบอาการปวดท้อง แสบท้องเป็นพัก ๆ
  • สีหน้าแสดงความไม่สบายท้อง

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยเข้าใจสาเหตุและวิธีป้องกันการกำเริบของโรค
  • ผู้ป่วยสามารถปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตได้ถูกต้อง
  • ลดความถี่ของอาการปวดท้องหรือแสบท้อง

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีป้องกันการกำเริบของโรคได้อย่างถูกต้อง ≥ 80%
  • ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมการกินและลดปัจจัยเสี่ยง
  • อาการปวดหรือแสบท้องลดลง

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K29F5I1 ให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นโรค เช่น อาหารรสจัด เผ็ด เปรี้ยว กาแฟ แอลกอฮอล์
  • K29F5I2 แนะนำให้รับประทานอาหารตรงเวลาและครบ 3 มื้อ
  • K29F5I3 แนะนำหลีกเลี่ยงการงดอาหารนานเกิน 4-6 ชั่วโมง
  • K29F5I4 แนะนำลดหรือหลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์
  • K29F5I5 แนะนำการจัดการความเครียด เช่น ทำกิจกรรมผ่อนคลาย
  • K29F5I6 ให้คำแนะนำการใช้ยาลดกรดหรือยาตามแผนการรักษาอย่างถูกต้อง
  • K29F5I7 ให้เอกสารหรือสื่อภาพประกอบเพื่อเสริมความเข้าใจ

Response (การตอบสนอง)

  • K29F5R1 ผู้ป่วยอธิบายสาเหตุและการป้องกันการกำเริบได้ถูกต้อง
  • K29F5R2 ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินได้เหมาะสม
  • K29F5R3 ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงอาหารและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้โรคกำเริบ
  • K29F5R4 อาการปวดหรือแสบท้องลดลงอย่างชัดเจน

…………………………………………………………….

K29F6: เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำจากพฤติกรรมการกินและการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม (Risk of recurrence related to inappropriate eating habits and medication use)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่ายังรับประทานอาหารรสจัด เผ็ด เปรี้ยว หรือดื่มแอลกอฮอล์
  • ไม่แน่ใจวิธีใช้ยาตามคำสั่งแพทย์
  • บางครั้งลืมกินยา หรือหยุดยาเอง

O:

  • พฤติกรรมการกินไม่สม่ำเสมอ หรือกินจุกจิกของทอด ของมัน
  • ตรวจสอบยาที่ใช้ไม่ครบถ้วน หรือใช้ผิดวิธี
  • อาการปวดท้องหรือแสบท้องเป็นพัก ๆ

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำได้อย่างถูกต้อง
  • ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ยาได้เหมาะสม
  • ลดความถี่และความรุนแรงของอาการกระเพาะอักเสบ

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรับประทานอาหารและใช้ยาได้ตามคำแนะนำ ≥ 80%
  • อาการปวดหรือแสบท้องลดลงอย่างชัดเจน
  • ไม่มีอาการกำเริบซ้ำในระยะเวลาที่กำหนด

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K29F6I1: สอนผู้ป่วยเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น อาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ของทอด ของมัน และแอลกอฮอล์
  • K29F6I2: แนะนำให้รับประทานอาหารตรงเวลาและหลีกเลี่ยงการกินจุกจิก
  • K29F6I3: ให้ความรู้เรื่องการใช้ยาอย่างถูกต้องตามแพทย์สั่ง
  • K29F6I4: ตรวจสอบและช่วยเตรียมยาตามตารางเวลาให้ผู้ป่วย
  • K29F6I5: แนะนำให้บันทึกอาการและการใช้ยาเพื่อการติดตามผล
  • K29F6I6: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเลิกบุหรี่และลดหรือหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
  • K29F6I7: ให้คำแนะนำเรื่องการจัดการความเครียด เพื่อป้องกันการกระตุ้นโรค

Response (การตอบสนอง)

  • K29F6R1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำได้ถูกต้อง
  • K29F6R2: รับประทานอาหารและใช้ยาได้ตามแผนที่กำหนด
  • K29F6R3: อาการปวดหรือแสบท้องลดลงอย่างชัดเจน
  • K29F6R4: ไม่มีอาการกำเริบหรือกลับเป็นซ้ำในช่วงเวลาที่ดูแล
  • K29F6R5: ผู้ป่วยมีความรู้และทัศนคติที่ดีต่อการดูแลตนเอง

……………………………………………………….

K29F7: ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันลดลงจากอาการเจ็บป่วย

(Decreased ability to perform daily activities due to illness)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่าเหนื่อยง่าย ทำกิจวัตรได้ไม่เต็มที่
  • รู้สึกอ่อนแรงหลังรับประทานอาหาร
  • ร้องขอความช่วยเหลือในการทำงานบ้านบางอย่าง

O:

  • พักผ่อนมากขึ้นกว่าเดิม
  • เดินหรือเคลื่อนไหวช้าลง
  • น้ำหนักตัวลดลงเล็กน้อย
  • มีอาการปวดท้องบ่อยครั้ง

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองมากขึ้น
  • ลดอาการอ่อนเพลียและเจ็บปวด
  • ส่งเสริมความมั่นใจในการดูแลตนเอง

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่าสามารถทำกิจวัตรได้ดีขึ้น
  • อาการอ่อนเพลียลดลง
  • มีความมั่นใจในการทำกิจกรรมประจำวัน
  • ลดการร้องขอความช่วยเหลือที่ไม่จำเป็น

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K29F7I1: ประเมินระดับความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันรายวัน
  • K29F7I2: สนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่สามารถทำเองได้
  • K29F7I3: สอนเทคนิคการประหยัดแรง เช่น การจัดลำดับความสำคัญของงาน
  • K29F7I4: ให้คำแนะนำเรื่องการพักผ่อนและบริหารเวลาอย่างเหมาะสม
  • K29F7I5: ประเมินและจัดการอาการปวดท้องอย่างเหมาะสม
  • K29F7I6: ให้กำลังใจและเสริมสร้างความมั่นใจในการดูแลตนเอง
  • K29F7I7: ประสานงานกับญาติหรือผู้ดูแลช่วยเหลือเมื่อต้องการ

Response (การตอบสนอง)

  • K29F7R1: ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้นและมีความมั่นใจ
  • K29F7R2: อาการอ่อนเพลียและเจ็บปวดลดลง
  • K29F7R3: ผู้ป่วยสามารถประหยัดแรงและจัดการงานได้เหมาะสม
  • K29F7R4: ลดความต้องการความช่วยเหลือที่ไม่จำเป็น
  • K29F7R5: ผู้ป่วยรู้สึกมีพลังและตั้งใจดูแลตัวเองมากขึ้น

…………………………………………………………….

K29F8: ต้องการการวางแผนจำหน่ายและการติดตามอาการต่อเนื่อง (Need for discharge planning and continuous follow-up)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยกังวลเรื่องการดูแลหลังออกจากโรงพยาบาล
  • สับสนหรือไม่มั่นใจในการปฏิบัติตัวหลังจำหน่าย
  • มีคำถามเกี่ยวกับการใช้ยาและการติดตามอาการ

O:

  • ไม่มีข้อมูลการติดตามหลังจำหน่ายที่ชัดเจน
  • ผู้ป่วยขาดญาติหรือผู้ดูแลที่สามารถช่วยดูแลได้
  • พบว่าผู้ป่วยยังมีอาการปวดท้องหรือคลื่นไส้เล็กน้อย

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยและญาติได้รับข้อมูลและความรู้ในการดูแลตนเองหลังจำหน่าย
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามแผนการรักษาและนัดติดตามอย่างเคร่งครัด
  • ลดความเสี่ยงการกลับเป็นซ้ำและภาวะแทรกซ้อน

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยและญาติสามารถอธิบายวิธีดูแลตนเองและสัญญาณเตือนอาการได้
  • ผู้ป่วยนัดพบแพทย์หรือติดตามตามแผนที่กำหนด
  • อาการไม่กำเริบหลังจำหน่าย
  • ผู้ป่วยรู้วิธีจัดการเมื่อมีอาการผิดปกติ

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K29F8I1: วางแผนและให้ข้อมูลจำเป็นเกี่ยวกับการดูแลหลังจำหน่าย
  • K29F8I2: สอนการใช้ยาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวที่บ้าน
  • K29F8I3: จัดตารางนัดหมายติดตามอาการและตรวจสุขภาพตามแพทย์สั่ง
  • K29F8I4: เตรียมเอกสารให้ข้อมูลและเบอร์ติดต่อฉุกเฉินแก่ผู้ป่วยและญาติ
  • K29F8I5: ประเมินความเข้าใจของผู้ป่วยและญาติในการดูแลตนเองก่อนจำหน่าย
  • K29F8I6: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยสังเกตและรายงานอาการผิดปกติทันที
  • K29F8I7: ประสานงานกับทีมสหวิชาชีพเพื่อการดูแลต่อเนื่อง

Response (การตอบสนอง)

  • K29F8R1: ผู้ป่วยและญาติเข้าใจและสามารถปฏิบัติตัวได้หลังจำหน่าย
  • K29F8R2: ผู้ป่วยนัดติดตามอาการตามแผนอย่างเคร่งครัด
  • K29F8R3: ไม่มีอาการกำเริบหลังจำหน่าย
  • K29F8R4: ผู้ป่วยรู้วิธีขอความช่วยเหลือเมื่อมีอาการผิดปกติ
  • K29F8R5: ผู้ป่วยและญาติรู้สึกมั่นใจในการดูแลตนเองที่บ้าน

……………………………………………………………….

เอกสารอ้างอิง

  • สมาคมแพทย์ระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย. (2564). แนวทางการดูแลรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แพทยศาสตร์.
  • กองเวชศาสตร์ครอบครัว กรมการแพทย์. (2563). การดูแลผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารอักเสบ. เอกสารเผยแพร่กระทรวงสาธารณสุข.
  • Lanza, F. L., Chan, F. K. L., & Quigley, E. M. M. (2009). Guidelines for the Diagnosis and Treatment of Helicobacter pylori Infection. American Journal of Gastroenterology, 104(2), 328–338. https://doi.org/10.1038/ajg.2008.168
  • Talley, N. J., & Ford, A. C. (2015). Chronic Gastritis. The New England Journal of Medicine, 373(17), 1640–1648. https://doi.org/10.1056/NEJMra1501505

……………………………………………………………….


วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568

EP.97 Med. Topic 17 โรคกรดไหลย้อน : K21 [Gastroesophageal Reflux Disease (GERD)]


 🎯 รู้ทัน! โรคกรดไหลย้อน : K21 (GERD)

โรคยอดฮิตของคนยุคเร่งรีบที่ไม่ควรมองข้าม

1. ความหมายของโรค

  • ภาวะที่กรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาหลอดอาหาร ทำให้เกิดแสบร้อนกลางอกหรือเรอเปรี้ยว

2. พยาธิสภาพ

  • หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ กรดไหลย้อนขึ้นมาบ่อย เยื่อบุหลอดอาหารอักเสบ

3. ช่วงอายุที่พบบ่อย

  • วัยทำงาน 20–50 ปี แต่เกิดได้ทุกวัย

4. ปัจจัยเสี่ยง

  • กินอาหารมัน เผ็ด เปรี้ยวจัด, ดื่มกาแฟ/แอลกอฮอล์, สูบบุหรี่, อ้วน, เครียด, กินแล้วนอนทันที

5. อาการ

  • แสบร้อนกลางอก, เรอเปรี้ยว, จุกแน่นคอ, กลืนลำบาก, ไอเรื้อรัง

6. การรักษา

  • ปรับพฤติกรรมการกินและการนอน
  • ใช้ยาลดกรด/ยาลดการหลั่งกรดตามแพทย์สั่ง
  • ผ่าตัดในรายรุนแรง

7. การพยาบาล

  • ประเมินอาการและปัจจัยกระตุ้น
  • ให้คำแนะนำการปรับพฤติกรรม
  • ติดตามผลและประเมินภาวะแทรกซ้อน

8. การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป

  • กินน้อยแต่บ่อย เลี่ยงอาหารกระตุ้น
  • เว้น 2–3 ชม. ก่อนนอน
  • ลดน้ำหนัก, งดบุหรี่–แอลกอฮอล์
  • นอนยกหัวสูงเล็กน้อย
  • จัดการความเครียด

...............................................

🏥 วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน (K21)

  1. K21F1 เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจเนื่องจากสำลักกรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร (Risk for airway obstruction related to aspiration of gastric acid or contents)
  2. K21F2 ปวดแสบร้อนกลางอกเนื่องจากกรดไหลย้อนขึ้นมาหลอดอาหาร (Acute epigastric or retrosternal burning pain related to gastric acid reflux into the esophagus)
  3. K21F3 กลืนลำบากหรือรู้สึกติดคอเนื่องจากเยื่อบุหลอดอาหารอักเสบ (Dysphagia or globus sensation related to esophageal mucosal inflammation)
  4. K21F4 ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อลดอาการกรดไหลย้อน (Deficient knowledge regarding self-care measures to reduce gastroesophageal reflux symptoms)
  5. K21F5 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดอาหารอักเสบเรื้อรังหรือหลอดอาหารตีบ (Risk for complications such as chronic esophagitis or esophageal stricture)
  6. K21F6 วิตกกังวลเกี่ยวกับอาการและผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน (Anxiety related to symptoms and their impact on daily activities)
  7. K21F7 ขาดความพร้อมในการดูแลตนเองต่อเนื่องหลังจำหน่าย (Readiness for enhanced self-health management after discharge)
  8. K21F8 ความเสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำการปรับพฤติกรรม (Risk for recurrence due to non-adherence to lifestyle modification recommendations)

………………………………………………………..Bottom of Form

K21F1: เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจเนื่องจากสำลักกรดหรือน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร (Risk for airway obstruction related to aspiration of gastric acid or contents)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นไอและรู้สึกแสบคอหลังรับประทานอาหาร
  • รู้สึกหายใจติดขัดเมื่อนอนราบ

O:

  • มีเสียงเสมหะในลำคอหรือปอด
  • ไอหรือสำลักขณะนอน
  • SpO₂ ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ
  • ท่านอนราบทำให้มีอาการเพิ่ม

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยไม่มีการอุดกั้นทางเดินหายใจ
  • ลดความเสี่ยงต่อการสำลักกรด
  • ผู้ป่วยสามารถนอนพักและรับประทานอาหารได้อย่างปลอดภัย

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ไม่มีเสียงหวีดหรือเสมหะอุดกั้น
  • SpO₂ ≥ 95%
  • ไม่มีอาการไอหรือสำลักขณะนอน

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K21F1I-1: จัดท่านอนศีรษะสูง 30–45 องศา เพื่อลดการไหลย้อนของกรด
  • K21F1I-2: แนะนำหลีกเลี่ยงการนอนราบอย่างน้อย 2–3 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร
  • K21F1I-3: ประเมินการหายใจและวัด SpO₂ ทุก 4 ชั่วโมง
  • K21F1I-4: เตรียมอุปกรณ์ดูดเสมหะและให้ออกซิเจนฉุกเฉินใกล้ตัว
  • K21F1I-5: ให้คำแนะนำเรื่องการกินมื้อเล็กและเลี่ยงอาหารกระตุ้น (มัน, เผ็ด, เปรี้ยว, คาเฟอีน, แอลกอฮอล์)

Response (การตอบสนอง)

  • K21F1R-1: ผู้ป่วยหายใจโล่ง ไม่มีเสียงเสมหะอุดกั้น
  • K21F1R-2: SpO₂ คงที่ ≥ 95%
  • K21F1R-3: ไม่มีอาการไอหรือสำลักขณะพักหรือนอน
  • K21F1R-4: ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำการจัดท่านอนและการกินได้ถูกต้อง

……………………………………………………

K21F2: ปวดแสบร้อนกลางอกเนื่องจากกรดไหลย้อนขึ้นมาหลอดอาหาร (Acute epigastric or retrosternal burning pain related to gastric acid reflux into the esophagus)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบ่นปวดแสบร้อนกลางอก โดยเฉพาะหลังอาหาร
  • รู้สึกเรอเปรี้ยวหรือรสขมในปาก
  • อาการรุนแรงขึ้นเมื่อนอนราบ

O:

  • ผู้ป่วยจับหน้าอกหรือเอามือกดที่ลิ้นปี่
  • สีหน้าแสดงความไม่สบาย
  • อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความเจ็บปวด
  • อาการปวดลดลงเมื่อจัดท่านั่งหรือศีรษะสูง

Goals (เป้าหมาย)

  • ลดอาการปวดแสบร้อนกลางอก
  • ผู้ป่วยรู้วิธีป้องกันและลดการเกิดอาการ
  • ส่งเสริมให้ผู้ป่วยนอนหลับและรับประทานอาหารได้ตามปกติ

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่าอาการปวดลดลงหรือหายไป
  • ไม่มีการปวดแสบร้อนกลางอกซ้ำภายใน 24 ชั่วโมงหลังปรับพฤติกรรม
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีป้องกันอาการได้ถูกต้อง

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K21F2I-1: ประเมินความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดแสบร้อนกลางอกทุกครั้งที่มาโรงพยาบาลหรือเปลี่ยนแผนการรักษา
  • K21F2I-2: จัดท่านั่งหรือศีรษะสูงอย่างน้อย 30–45 องศา เพื่อบรรเทาอาการ
  • K21F2I-3: ให้รับประทานยาลดกรดหรือยาลดการหลั่งกรดตามแผนการรักษาของแพทย์
  • K21F2I-4: แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้น เช่น ของมัน เผ็ด เปรี้ยว คาเฟอีน แอลกอฮอล์
  • K21F2I-5: แนะนำให้รับประทานอาหารมื้อเล็ก และเว้น 2–3 ชั่วโมงก่อนนอน
  • K21F2I-6: ให้คำแนะนำเรื่องการควบคุมน้ำหนักและจัดการความเครียด

Response (การตอบสนอง)

  • K21F2R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าอาการปวดแสบร้อนกลางอกลดลงหรือหายไป
  • K21F2R-2: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้โดยไม่เกิดอาการ
  • K21F2R-3: ไม่มีอาการปวดซ้ำภายในช่วงเฝ้าสังเกต
  • K21F2R-4: ผู้ป่วยบอกวิธีป้องกันอาการได้ถูกต้องและปฏิบัติได้จริง

……………………………………………………………………

K21F3: กลืนลำบากหรือรู้สึกติดคอเนื่องจากเยื่อบุหลอดอาหารอักเสบ (Dysphagia or globus sensation related to esophageal mucosal inflammation)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่ากลืนลำบาก กลืนแล้วเจ็บ
  • รู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอหรือแน่นในคอ
  • อาการรุนแรงขึ้นเมื่อกินอาหารร้อน เผ็ด หรือเปรี้ยว

O:

  • สังเกตการกลืนช้าหรือหยุดกลางคัน
  • น้ำหนักตัวลดลงจากการกินอาหารได้น้อยลง
  • อาจมีเสียงไอหรือสำลักระหว่างกลืน
  • สีหน้าผู้ป่วยแสดงความไม่สบายขณะกลืน

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยกลืนอาหารและน้ำได้โดยไม่เจ็บหรือสำลัก
  • ลดการอักเสบของเยื่อบุหลอดอาหาร
  • ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารเพียงพอ

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่ากลืนได้ง่ายขึ้นและปวดลดลง
  • ไม่มีอาการสำลักหรือไอระหว่างกลืน
  • น้ำหนักตัวคงที่หรือเพิ่มขึ้น
  • ผู้ป่วยสามารถเลือกอาหารที่เหมาะสมได้

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K21F3I-1: ประเมินความรุนแรง ความถี่ และลักษณะของอาการกลืนลำบากทุกวัน
  • K21F3I-2: แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อน นิ่ม หรือบดละเอียด ลดการระคายเคืองหลอดอาหาร
  • K21F3I-3: ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องระหว่างมื้อเพื่อช่วยให้กลืนง่ายขึ้น
  • K21F3I-4: แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด และแอลกอฮอล์
  • K21F3I-5: ให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรงหรือศีรษะสูง 30–45 องศา ระหว่างและหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที
  • K21F3I-6: ให้ยาลดกรดหรือลดการหลั่งกรดตามแผนการรักษาแพทย์เพื่อช่วยลดการอักเสบ

Response (การตอบสนอง)

  • K21F3R-1: ผู้ป่วยกลืนอาหารได้ง่ายขึ้นและปวดลดลงชัดเจน
  • K21F3R-2: ไม่มีอาการสำลักหรือไอระหว่างกลืน
  • K21F3R-3: น้ำหนักตัวคงที่หรือเพิ่มขึ้น
  • K21F3R-4: ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีเลือกอาหารที่เหมาะสมและปฏิบัติได้จริง

……………………………………………………….

K21F4: ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อลดอาการกรดไหลย้อน (Deficient knowledge regarding self-care measures to reduce gastroesophageal reflux symptoms)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่าไม่รู้ว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือพฤติกรรมใด
  • สับสนวิธีจัดท่าหลังรับประทานอาหาร
  • ไม่เข้าใจผลเสียของการนอนราบหลังอาหาร

O:

  • ผู้ป่วยยังรับประทานอาหารมันจัด เผ็ดจัด หรือปริมาณมาก
  • ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหรือการรับประทานอาหาร
  • อาการกรดไหลย้อนเกิดซ้ำบ่อย

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีความรู้และทักษะดูแลตนเองเพื่อลดอาการกรดไหลย้อน
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำได้อย่างสม่ำเสมอ
  • ลดความถี่และความรุนแรงของอาการ

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยอธิบายวิธีดูแลตนเองได้ถูกต้องอย่างน้อย 80% ของเนื้อหา
  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำต่อเนื่อง ≥ 5 วันต่อสัปดาห์
  • อาการกรดไหลย้อนลดลงอย่างชัดเจน

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K21F4I-1: ประเมินระดับความรู้เดิมและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน
  • K21F4I-2: ให้ความรู้เรื่องสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นอาการ เช่น อาหารมัน เผ็ด กาแฟ แอลกอฮอล์
  • K21F4I-3: แนะนำให้รับประทานอาหารปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง แทนการกินมื้อใหญ่
  • K21F4I-4: แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนอนราบภายใน 2–3 ชั่วโมงหลังอาหาร
  • K21F4I-5: แนะนำการจัดท่านอนศีรษะสูง 30–45 องศาเพื่อลดการไหลย้อน
  • K21F4I-6: แจกเอกสารหรือสื่อภาพประกอบ เพื่อให้ผู้ป่วยทบทวนที่บ้าน
  • K21F4I-7: เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยซักถามและทวนความเข้าใจ

Response (การตอบสนอง)

  • K21F4R-1: ผู้ป่วยอธิบายสาเหตุและวิธีป้องกันอาการกรดไหลย้อนได้ถูกต้อง
  • K21F4R-2: ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการนอนได้ตามแนะนำ
  • K21F4R-3: อาการกรดไหลย้อนลดลงทั้งความถี่และความรุนแรง
  • K21F4R-4: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการดูแลตนเองมากขึ้น

………………………………………………………………………..

K21F5: เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดอาหารอักเสบเรื้อรังหรือหลอดอาหารตีบ (Risk for complications such as chronic esophagitis or esophageal stricture)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยกังวลว่าอาการกรดไหลย้อนเป็นบ่อยอาจทำให้เกิดโรคร้ายแรง
  • รายงานว่ามีอาการแสบร้อนกลางอกบ่อยเกินสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง

O:

  • อาการกรดไหลย้อนเกิดซ้ำเรื้อรัง
  • ยังมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น รับประทานอาหารกระตุ้นอาการ
  • ไม่มีหลักฐานว่ามีการติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ
  • ผลตรวจแสดงการอักเสบของเยื่อบุหลอดอาหารระดับต้น

Goals (เป้าหมาย)

  • ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะสั้นและระยะยาว
  • ลดความรุนแรงและความถี่ของการไหลย้อน
  • ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันได้อย่างต่อเนื่อง

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยไม่มีอาการกลืนลำบากเรื้อรัง
  • ไม่มีผลตรวจยืนยันภาวะหลอดอาหารตีบหรืออักเสบรุนแรง
  • อาการกรดไหลย้อนลดลง ≥ 50% ภายใน 4 สัปดาห์
  • ผู้ป่วยมาตรวจติดตามตามนัดทุกครั้ง

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K21F5I-1: ประเมินความถี่ ความรุนแรง และปัจจัยกระตุ้นอาการอย่างต่อเนื่อง
  • K21F5I-2: ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหากปล่อยอาการเรื้อรัง
  • K21F5I-3: แนะนำการปรับพฤติกรรมเพื่อลดการระคายเคืองหลอดอาหาร เช่น หลีกเลี่ยงอาหารมัน เผ็ด เปรี้ยวจัด
  • K21F5I-4: ส่งเสริมการรับประทานยาลดกรดหรือยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ
  • K21F5I-5: วางแผนติดตามผลการรักษาและนัดตรวจซ้ำเป็นระยะ
  • K21F5I-6: ประสานแพทย์เพื่อพิจารณาส่องกล้องหากมีอาการกลืนลำบาก เจ็บหน้าอกรุนแรง หรืออาเจียนเป็นเลือด

Response (การตอบสนอง)

  • K21F5R-1: ผู้ป่วยเข้าใจความเสี่ยงและความสำคัญของการป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  • K21F5R-2: ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมและปฏิบัติตามคำแนะนำได้ต่อเนื่อง
  • K21F5R-3: อาการกรดไหลย้อนลดลงและไม่มีอาการกลืนลำบาก
  • K21F5R-4: ผลตรวจติดตามไม่พบภาวะแทรกซ้อน

…………………………………………………………..

K21F6: วิตกกังวลเกี่ยวกับอาการและผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน (Anxiety related to symptoms and their impact on daily activities)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่ากังวลเรื่องอาการกรดไหลย้อนจะรุนแรงหรือเรื้อรัง
  • กลัวผลกระทบต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน
  • นอนไม่หลับเพราะคิดมากเกี่ยวกับโรค

O:

  • สังเกตอาการวิตกกังวล เช่น มือสั่น หายใจเร็ว ใจสั่น
  • การนอนหลับผิดปกติ
  • อาการเกร็งกล้ามเนื้อหรือกระสับกระส่าย
  • รายงานว่ามีความเครียดสูง

Goals (เป้าหมาย)

  • ลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการและผลกระทบ
  • ผู้ป่วยสามารถจัดการความเครียดได้ดีขึ้น
  • ปรับปรุงคุณภาพการนอนและการใช้ชีวิตประจำวัน

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่าระดับความวิตกกังวลลดลง
  • ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ
  • ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมผ่อนคลายและมีสมาธิได้ดีขึ้น
  • ผู้ป่วยมีการใช้เทคนิคการจัดการความเครียดอย่างน้อย 1 วิธี

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K21F6I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลด้วยเครื่องมือมาตรฐานหรือการสัมภาษณ์
  • K21F6I-2: ให้คำแนะนำและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคและการดูแลตนเองเพื่อลดความกังวล
  • K21F6I-3: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายเบาๆ
  • K21F6I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยพูดคุยและแสดงความรู้สึกต่อผู้ดูแลหรือกลุ่มสนับสนุน
  • K21F6I-5: ติดตามผลและประเมินความวิตกกังวลเป็นระยะ

Response (การตอบสนอง)

  • K21F6R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าระดับความวิตกกังวลลดลงอย่างชัดเจน
  • K21F6R-2: ผู้ป่วยนอนหลับได้ดีขึ้นและรู้สึกสดชื่นมากขึ้น
  • K21F6R-3: ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคผ่อนคลายได้อย่างถูกต้องและเป็นประจำ
  • K21F6R-4: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมและทัศนคติที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการจัดการโรค

……………………………………………………………………………….

K21F7: ขาดความพร้อมในการดูแลตนเองต่อเนื่องหลังจำหน่าย (Readiness for enhanced self-health management after discharge)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยแสดงความกังวลว่าจะดูแลตนเองไม่ถูกต้องหลังกลับบ้าน
  • แจ้งว่าไม่แน่ใจวิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดอาการกรดไหลย้อน
  • ขาดความมั่นใจในการปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์

O:

  • ผู้ป่วยยังไม่สามารถอธิบายขั้นตอนการดูแลตนเองได้ครบถ้วน
  • ไม่มีแผนการติดตามผลหรือการนัดหมายหลังจำหน่าย
  • ยังไม่เตรียมอุปกรณ์หรือยาเพียงพอสำหรับใช้ที่บ้าน

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยมีความพร้อมและมั่นใจในการดูแลตนเองหลังกลับบ้าน
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำการรักษาและพฤติกรรมได้อย่างสม่ำเสมอ
  • ลดการกลับมารักษาซ้ำเนื่องจากอาการกำเริบ

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายขั้นตอนการดูแลตนเองได้ถูกต้องครบถ้วน
  • มีแผนการนัดหมายและติดตามผลหลังจำหน่าย
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาและพฤติกรรมสุขภาพได้ดี
  • ไม่มีอาการกำเริบภายใน 1 เดือนหลังจำหน่าย

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K21F7I-1: ประเมินความเข้าใจและความมั่นใจของผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลตนเองก่อนจำหน่าย
  • K21F7I-2: ให้คำแนะนำและสอนวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง เช่น การกิน การนอน และการใช้ยา
  • K21F7I-3: จัดทำแผนการติดตามผลและนัดหมายตรวจสุขภาพหลังจำหน่าย
  • K21F7I-4: มอบเอกสารหรือคู่มือดูแลตนเองที่เข้าใจง่ายให้ผู้ป่วยและญาติ
  • K21F7I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยตั้งคำถามและซักถามความเข้าใจทุกครั้งก่อนจำหน่าย
  • K21F7I-6: ประสานงานกับทีมสุขภาพอื่น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือหลังจำหน่าย เช่น พยาบาลชุมชน

Response (การตอบสนอง)

  • K21F7R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายขั้นตอนดูแลตนเองได้ครบถ้วนและมั่นใจ
  • K21F7R-2: ผู้ป่วยมีแผนติดตามผลและนัดหมายอย่างชัดเจน
  • K21F7R-3: ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาและพฤติกรรมได้ดี
  • K21F7R-4: ไม่มีอาการกำเริบหรือกลับมารักษาซ้ำภายใน 1 เดือน

…………………………………………………

K21F8: ความเสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำการปรับพฤติกรรม (Risk for recurrence due to non-adherence to lifestyle modification recommendations)

Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยบอกว่าไม่แน่ใจหรือไม่เห็นความสำคัญของการปรับพฤติกรรม
  • แจ้งว่ามีปัญหาด้านเวลาหรือแรงจูงใจในการปฏิบัติตามคำแนะนำ

O:

  • ผู้ป่วยยังรับประทานอาหารมันจัด เผ็ดจัด หรือดื่มกาแฟ/แอลกอฮอล์บ่อย
  • ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องเวลานอนหรือท่านอนศีรษะสูง
  • มีอาการกรดไหลย้อนกลับมาเป็นระยะบ่อย

Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยปฏิบัติตามคำแนะนำการปรับพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ
  • ลดความถี่และความรุนแรงของอาการกรดไหลย้อน
  • ป้องกันการกลับเป็นซ้ำและภาวะแทรกซ้อน

Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานปฏิบัติตามคำแนะนำ ≥ 80% ของเวลาที่ผ่านมา
  • อาการกรดไหลย้อนลดลงอย่างชัดเจน
  • ไม่มีอาการกำเริบบ่อยหรือนานกว่าปกติ
  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายความสำคัญของการปรับพฤติกรรมได้

Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • K21F8I-1: ประเมินอุปสรรคและแรงจูงใจในการปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ป่วย
  • K21F8I-2: ให้ความรู้และอธิบายข้อดีของการปรับพฤติกรรมต่อสุขภาพในระยะยาว
  • K21F8I-3: ร่วมวางแผนการปรับพฤติกรรมที่เหมาะสมและเป็นไปได้ในชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
  • K21F8I-4: สนับสนุนและให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
  • K21F8I-5: ติดตามผลการปฏิบัติตามคำแนะนำและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
  • K21F8I-6: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวหรือผู้ดูแลในการช่วยดูแล

Response (การตอบสนอง)

  • K21F8R-1: ผู้ป่วยรายงานปฏิบัติตามคำแนะนำได้มากขึ้นและสม่ำเสมอ
  • K21F8R-2: อาการกรดไหลย้อนลดลงทั้งความถี่และความรุนแรง
  • K21F8R-3: ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการปรับพฤติกรรม
  • K21F8R-4: มีการสนับสนุนจากครอบครัวหรือผู้ดูแลในการดูแลผู้ป่วย

………………………………………………………..

 เอกสารอ้างอิง (References)

  • สมาคมโรคระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย. (2563). แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัยและรักษาโรคกรดไหลย้อน (GERD). กรุงเทพฯ: สมาคมโรคระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย.
  • พงศ์พัฒน์ สุทธิสาโรจน์ และคณะ. (2564). การดูแลผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนในภาคปฏิบัติการพยาบาล. วารสารพยาบาลศาสตร์, 39(2), 123-131.
  • Kahrilas, P. J., Shaheen, N. J., Vaezi, M. F. (2019). American Gastroenterological Association Medical Position Statement on the management of gastroesophageal reflux disease. Gastroenterology, 157(1), 305-308.e3. https://doi.org/10.1053/j.gastro.2019.04.053
  • Katz, P. O., Gerson, L. B., Vela, M. F. (2022). Guidelines for the diagnosis and management of gastroesophageal reflux disease. American Journal of Gastroenterology, 117(1), 27-56. https://doi.org/10.14309/ajg.0000000000001869

……………………………………………………………

Bottom of Form