พยาธิสภาพของโรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปากเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enteroviruses เช่น Coxsackievirus
A16 และ Enterovirus 71 ซึ่งมีผลต่อเยื่อบุผิวของผิวหนังและเยื่อเมือกในร่างกาย หลังจากไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทางปาก จะเริ่มเพิ่มจำนวนในทางเดินอาหารส่วนต้น ก่อนแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ เช่น ผิวหนังในมือ เท้า และเยื่อเมือกในช่องปาก ส่งผลให้เกิดตุ่มน้ำและแผลในลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งมักจะมีไข้ร่วมด้วย อาการรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ไวรัสแพร่ไปยังสมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง
การรักษาโรคมือเท้าปาก
การรักษาโรคมือเท้าปากเป็นการรักษาตามอาการ เนื่องจากไม่มีการรักษาเฉพาะเจาะจงสำหรับเชื้อไวรัสชนิดนี้ การดูแลทั่วไปประกอบด้วยการให้ยาลดไข้และยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ เช่น Paracetamol และการดูแลแผลในช่องปากเพื่อช่วยลดความเจ็บปวดเมื่อรับประทานอาหาร ผู้ป่วยควรได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น สมองอักเสบ หรือระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว
การพยาบาลผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก
การพยาบาลเน้นการดูแลแบบองค์รวม เริ่มจากการประเมินอาการสำคัญ เช่น ไข้ อาการเจ็บปาก และการดื่มน้ำ หากพบภาวะขาดน้ำหรือภาวะขาดสารอาหาร ควรจัดการให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดหรือสารอาหารเสริม ดูแลความสะอาดของร่างกายและแผล ตลอดจนส่งเสริมการปฏิบัติด้านสุขอนามัย เช่น การล้างมือของผู้ป่วยและผู้ดูแล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ สนับสนุนการฟื้นตัวด้วยการให้กำลังใจและให้คำแนะนำผู้ปกครองเกี่ยวกับการสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น ซึม หรือชัก พร้อมแนะนำให้กลับมาติดตามอาการตามนั
วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก
- B08.4F1 เสี่ยงต่อการขาดน้ำ (อาการไข้สูง เบื่ออาหาร เจ็บปาก ทำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำน้อยลง ผลตรวจเลือดแสดงค่าโซเดียมสูงขึ้น ปัสสาวะน้อย ผิวหนังแห้ง)
- B08.4F2 เสี่ยงต่อทางเดินหายใจไม่โล่ง (การบวมและแผลในเยื่อบุช่องปากที่อาจทำให้กลืนลำบากหรือมีสารคัดหลั่งมากเกินไป)
- B08.4F3 ภาวะไข้สูง (การติดเชื้อไวรัส อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส)
- B08.4F4 ความเจ็บปวดเฉียบพลัน (ตุ่มน้ำในช่องปากทำให้เจ็บเวลาทานอาหารและกลืน ผู้ป่วยร้องไห้บ่อย เบื่ออาหาร)
- B08.4F5 เสี่ยงต่อการติดเชื้อ (ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผิวหนังมีบาดแผลจากตุ่มพอง มีไข้สูง ตุ่มพองแตก มีหนอง)
- B08.4F6 เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากไข้สูง (ชักจากไข้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก)
- B08.4F7 เสี่ยงต่อภาวะระบบประสาทบกพร่อง (การติดเชื้อ Enterovirus 71 ที่อาจนำไปสู่เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือสมองอักเสบ)
- B08.4F8 การทำหน้าที่ของผิวหนังบกพร่อง (ตุ่มน้ำบริเวณมือและเท้า สังเกตได้จากอาการบวมแดงและการเกิดแผลพุพอง)
- B08.4F9 เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร (เบื่ออาหาร เจ็บปาก น้ำหนักลดลง)
- B08.4F10 อ่อนเพลีย (รูปแบบการนอนหลับที่ถูกรบกวนจากอาการของเด็กและการดูแลที่ต่อเนื่อง)
- B08.4F11 ความวิตกกังวลของผู้ปกครอง (การเจ็บป่วยของบุตรหลาน ผู้ปกครองแสดงความวิตกกังวล)
- B08.4F12 ขาดความรู้เกี่ยวกับโรค (ผู้ป่วยหรือญาติขาดความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ)
- B08.4F13 เสี่ยงต่อการปรับตัวของครอบครัวลดลง (ความเครียดจากการดูแลผู้ป่วยและการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ)
- B08.4F14 เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำหรือติดเชื้อใหม่ (การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อที่ไม่เหมาะสม)
- B08.4F15 พร้อมสำหรับการพัฒนาการดูแลสุขภาพตนเอง (อาการดีขึ้นและผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันได้)
- B08.4F16 พฤติกรรมที่มุ่งหวังในการรักษาและส่งเสริมสุขภาพให้ดี (ความสนใจของผู้ดูแลในการรักษาสุขภาพของเด็กและป้องกันการเจ็บป่วยในอนาคต)
หมายเหตุ: ตัวเลข F1, F2, F3 เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดขึ้นเพื่อให้การจัดลำดับวินิจฉัยการพยาบาลเป็นไปอย่างมีระบบ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
.............................................................
B08.4F1
เสี่ยงต่อการขาดน้ำ
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรายงานว่าเจ็บปาก ไม่อยากดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร
- ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลรายงานว่าปัสสาวะน้อยลง
O:
- ผู้ป่วยมีอาการไข้สูง (>38.5°C)
- ผลตรวจเลือดแสดงค่าโซเดียมสูงขึ้น (>145 mEq/L)
- สังเกตเห็นผิวหนังแห้ง และริมฝีปากแห้งแตก
- จำนวนปัสสาวะน้อย (<0.5 ml/kg/hr)
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะได้รับน้ำอย่างเพียงพอและไม่มีอาการขาดน้ำ
- ผู้ป่วยจะมีค่าทางห้องปฏิบัติการที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ เช่น ค่าโซเดียม (135–145 mEq/L)
- ผู้ป่วยจะมีจำนวนปัสสาวะอย่างน้อย 1 ml/kg/hr
- ผู้ป่วยจะแสดงอาการทางร่างกาย เช่น ผิวหนังชุ่มชื้น และริมฝีปากไม่แห้ง
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ป่วยมีค่าโซเดียมในเลือดกลับสู่เกณฑ์ปกติ
- จำนวนปัสสาวะเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ml/kg/hr
- อาการแสดงของการขาดน้ำลดลง (เช่น ผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น ริมฝีปากไม่แห้ง)
- ผู้ป่วยสามารถดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารเหลวได้เพียงพอ
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F1I-1: ประเมินภาวะขาดน้ำทุก 4 ชั่วโมง โดยการตรวจวัดปริมาณปัสสาวะ ความยืดหยุ่นของผิวหนัง และความชุ่มชื้นของเยื่อบุปาก
- B08.4F1I-2: ชั่งน้ำหนักตัวผู้ป่วยทุกเช้าในเวลาเดียวกัน เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก
- B08.4F1I-3: ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ (IV Fluids) ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำและสมดุลอิเล็กโทรไลต์
- B08.4F1I-4: กระตุ้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำทุก 1-2 ชั่วโมง โดยใช้น้ำที่มีสารละลายเกลือแร่ หรือ oral rehydration solution (ORS) เพื่อเพิ่มการรับน้ำ
- B08.4F1I-5: จัดหาสิ่งแวดล้อมที่สงบและไม่ทำให้ผู้ป่วยเหนื่อย เช่น เปิดพัดลมเพื่อระบายความร้อน
- B08.4F1I-6: สอนผู้ดูแลเกี่ยวกับสัญญาณของภาวะขาดน้ำ เช่น ริมฝีปากแห้ง ปัสสาวะน้อย หรือซึม
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F1R-1: จำนวนปัสสาวะผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ml/kg/hr ภายใน 24 ชั่วโมง
- B08.4F1R-2: น้ำหนักตัวผู้ป่วยคงที่หรือเพิ่มขึ้น ≤ 1 กิโลกรัม/วัน
- B08.4F1R-3: ค่าโซเดียมในเลือดลดลงและกลับสู่เกณฑ์ปกติภายใน 48 ชั่วโมง
- B08.4F1R-4: ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปากลดลง และสามารถดื่มน้ำได้เพียงพอต่อความต้องการ
- B08.4F1R-5: ผู้ดูแลสามารถสังเกตและรายงานอาการขาดน้ำได้อย่างเหมาะสม
............................................................
B08.4F2
เสี่ยงต่อทางเดินหายใจไม่โล่ง
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรายงานว่าเจ็บปากและกลืนลำบาก
- ผู้ดูแลสังเกตว่าผู้ป่วยไอและมีน้ำลายไหลมากผิดปกติ
O:
- สังเกตเห็นแผลในเยื่อบุช่องปากและบริเวณลิ้น
- ผู้ป่วยมีสารคัดหลั่งสะสมในช่องปากและคอหอย
- อัตราการหายใจเร็วขึ้น (>20 ครั้ง/นาที) หรือหายใจลำบาก
- ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ (SpO2 < 95%)
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะมีทางเดินหายใจโล่งและไม่มีสารคัดหลั่งสะสม
- ผู้ป่วยจะไม่มีภาวะหายใจลำบากหรือออกซิเจนในเลือดต่ำ
- ผู้ป่วยสามารถกลืนอาหารและน้ำได้โดยไม่สำลัก
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ค่า SpO2 ของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและคงที่ที่ ≥ 95%
- ผู้ป่วยไม่มีเสียงหายใจผิดปกติ เช่น เสียง stridor หรือ wheezing
- สารคัดหลั่งในช่องปากลดลง และผู้ป่วยสามารถกลืนได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F2I-1: ประเมินสภาพทางเดินหายใจของผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง โดยสังเกตการเคลื่อนไหวของทรวงอกและเสียงหายใจ
- B08.4F2I-2: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อลดแรงกดดันในช่องปอดและช่วยให้หายใจสะดวก
- B08.4F2I-3: ดูดสารคัดหลั่งออกจากช่องปากและคอหอยเมื่อจำเป็น เพื่อป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจ
- B08.4F2I-4: ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือกลั้วปาก เพื่อลดการระคายเคืองของแผลในช่องปาก
- B08.4F2I-5: ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ (Humidifier) ในห้องผู้ป่วย เพื่อลดความแห้งของทางเดินหายใจ
- B08.4F2I-6: สอนผู้ป่วยและผู้ดูแลให้รู้จักวิธีจัดการสารคัดหลั่ง เช่น การกลั้วปากบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ระคายเคือง
- B08.4F2I-7: แจ้งแพทย์ทันทีหากพบสัญญาณอาการรุนแรง เช่น การหายใจลำบากหรือค่า SpO2 ต่ำกว่า 90%
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F2R-1: ค่า SpO2 ของผู้ป่วยคงที่ ≥ 95% ภายใน 24 ชั่วโมง
- B08.4F2R-2: ผู้ป่วยไม่มีเสียงหายใจผิดปกติ เช่น stridor หรือ wheezing
- B08.4F2R-3: ผู้ป่วยสามารถกลืนอาหารและน้ำได้โดยไม่สำลัก
- B08.4F2R-4: สารคัดหลั่งในช่องปากลดลงจนอยู่ในระดับปกติ
- B08.4F2R-5: ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการจัดการสารคัดหลั่งได้อย่างเหมาะสม
..........................................................................
B08.4F3
ภาวะไข้สูง
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกหนาวสั่นและอ่อนเพลีย
- ผู้ดูแลแจ้งว่าผู้ป่วยมีอาการไข้สูง
O:
- อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38°C
- ผิวหนังแดง ร้อน และแห้ง
- ผู้ป่วยแสดงอาการกระสับกระส่ายหรืออ่อนแรง
- ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการแสดงค่าการอักเสบสูง (เช่น CRP สูงขึ้น)
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิร่างกายลดลง ≤ 37.5°C ภายใน 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากไข้สูง เช่น อาการชักหรือการขาดน้ำ
- ผู้ป่วยจะแสดงอาการทางร่างกายปกติ เช่น ผิวหนังไม่แดงหรือร้อน
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- อุณหภูมิร่างกายผู้ป่วยลดลง ≤ 37.5°C
- ผู้ป่วยไม่มีอาการชักหรือภาวะแทรกซ้อนจากไข้สูง
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานน้ำและอาหารได้เพียงพอ
- ผู้ป่วยมีผิวหนังชุ่มชื้นและไม่มีอาการแสดงของการขาดน้ำ
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F3I-1: ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุก 2-4 ชั่วโมง เพื่อประเมินความรุนแรงของไข้
- B08.4F3I-2: ให้การเช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำอุ่น โดยเน้นบริเวณที่มีหลอดเลือดใหญ่ เช่น หน้าผาก คอ และรักแร้
- B08.4F3I-3: จัดสิ่งแวดล้อมให้เย็นสบาย เช่น ใช้พัดลมระบายอากาศ หรือปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสม
- B08.4F3I-4: ให้ยาลดไข้ (Antipyretic) เช่น Paracetamol ตามคำสั่งแพทย์ และติดตามผลการตอบสนอง
- B08.4F3I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- B08.4F3I-6: สอนผู้ป่วยและผู้ดูแลเกี่ยวกับวิธีการลดไข้ที่บ้าน เช่น การเช็ดตัวและการรับประทานยาลดไข้
- B08.4F3I-7: แจ้งแพทย์ทันทีหากผู้ป่วยมีอาการชัก สับสน หรืออาการรุนแรงขึ้น
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F3R-1: อุณหภูมิร่างกายผู้ป่วยลดลง ≤ 37.5°C ภายใน 24 ชั่วโมง
- B08.4F3R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการชักหรืออาการแทรกซ้อนอื่น ๆ
- B08.4F3R-3: ผู้ป่วยสามารถรับประทานน้ำได้เพียงพอ (อย่างน้อย 2 ลิตร/วัน ขึ้นกับอายุและน้ำหนักตัว)
- B08.4F3R-4: ผิวหนังผู้ป่วยมีความชุ่มชื้นและไม่แสดงอาการแห้งหรือแดงร้อน
- B08.4F3R-5: ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการลดไข้ได้อย่างถูกต้อง
...........................................................
B08.4F4
ความเจ็บปวดเฉียบพลัน
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยร้องไห้และบอกว่ารู้สึกเจ็บในปาก
- ผู้ดูแลแจ้งว่าผู้ป่วยไม่ยอมรับประทานอาหารหรือน้ำ
O:
- พบตุ่มน้ำและแผลในเยื่อบุช่องปาก เช่น ลิ้น เพดานปาก และกระพุ้งแก้ม
- ผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวลดลงและแสดงอาการอ่อนแรง
- ผู้ป่วยร้องไห้หรือแสดงพฤติกรรมกระสับกระส่ายเมื่อรับประทานอาหารหรือน้ำ
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะแสดงอาการเจ็บลดลงภายใน 24-48 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารและน้ำได้เพียงพอโดยไม่มีอาการเจ็บเพิ่ม
- ผู้ป่วยจะมีน้ำหนักตัวคงที่หรือเพิ่มขึ้น
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บในช่องปากลดลง (ร้องไห้หรือบ่นเจ็บลดลง)
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารอ่อนและดื่มน้ำได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- ผู้ป่วยไม่มีน้ำหนักตัวลดลงหรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F4I-1: ประเมินระดับความเจ็บปวดของผู้ป่วย โดยใช้เครื่องมือประเมินความเจ็บปวดที่เหมาะสมกับอายุ (เช่น Wong-Baker Faces Pain Scale)
- B08.4F4I-2: จัดหาอาหารอ่อน เช่น ซุป ข้าวต้ม หรือนม เพื่อช่วยลดการระคายเคืองในช่องปาก
- B08.4F4I-3: สอนผู้ดูแลให้เช็ดปากผู้ป่วยด้วยสำลีชุบน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นหลังรับประทานอาหาร เพื่อลดการสะสมของสิ่งระคายเคือง
- B08.4F4I-4: ให้การบรรเทาอาการเจ็บด้วยการใช้ยาทาเฉพาะที่ เช่น Lidocaine Gel หรือยาที่เหมาะสมตามคำสั่งแพทย์
- B08.4F4I-5: ส่งเสริมการดื่มน้ำเย็นหรือเครื่องดื่มเย็น เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บในช่องปาก
- B08.4F4I-6: สอนผู้ดูแลให้หลีกเลี่ยงอาหารที่รสเผ็ด เปรี้ยว หรือร้อนจัด เนื่องจากอาจทำให้แผลในช่องปากระคายเคือง
- B08.4F4I-7: ส่งเสริมการพักผ่อนเพียงพอและจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบเพื่อลดความเครียดและอาการเจ็บ
- B08.4F4I-8: แจ้งแพทย์ทันทีหากผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารหรือน้ำได้ หรือมีอาการเจ็บเพิ่ม
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F4R-1: ผู้ป่วยรายงานว่าความเจ็บในช่องปากลดลง และสามารถรับประทานอาหารได้ดีขึ้น
- B08.4F4R-2: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
- B08.4F4R-3: น้ำหนักตัวผู้ป่วยคงที่หรือเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์
- B08.4F4R-4: ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลช่องปากผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง
...............................................................
B08.4F5
เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลแจ้งว่ามีตุ่มพองแตกและเริ่มมีหนองในบริเวณผิวหนัง
- ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลียและไข้สูง
O:
- พบตุ่มพองแตกในหลายบริเวณ มีอาการบวมแดงและหนอง
- อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38.5°C
- ตรวจ CBC พบค่า WBC สูงกว่าปกติ บ่งชี้ถึงการติดเชื้อ
- มีอาการอ่อนเพลีย ผิวหนังบริเวณแผลมีลักษณะเปียกชื้นและบวม
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อเพิ่มเติมภายใน 72 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะมีบาดแผลที่ผิวหนังสะอาดและเริ่มฟื้นฟู
- ผู้ป่วยและผู้ดูแลจะสามารถปฏิบัติการดูแลแผลและป้องกันการติดเชื้อได้อย่างเหมาะสม
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- บาดแผลของผู้ป่วยไม่มีอาการบวมแดงหรือหนองเพิ่ม
- อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยลดลง ≤ 37.5°C
- ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงการติดเชื้อในระบบอื่น เช่น การหายใจผิดปกติ หรือปัสสาวะผิดปกติ
- ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถทำความสะอาดและดูแลแผลได้อย่างถูกวิธี
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F5I-1: ประเมินบาดแผลบริเวณผิวหนังทุก 4-6 ชั่วโมง เพื่อตรวจหาสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น บวม แดง หนอง หรือกลิ่นผิดปกติ
- B08.4F5I-2: ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือปกติ (normal saline) หรือสารละลายฆ่าเชื้อที่เหมาะสมวันละ 2 ครั้ง
- B08.4F5I-3: ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซปลอดเชื้อและเปลี่ยนทุกครั้งที่เปียกหรือสกปรก
- B08.4F5I-4: ใช้ยาฆ่าเชื้อเฉพาะที่ เช่น ครีมหรือเจลที่มีส่วนผสมของ antibiotics ตามคำสั่งแพทย์
- B08.4F5I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยสวมเสื้อผ้าที่สะอาดและหลีกเลี่ยงการเกาแผล
- B08.4F5I-6: ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยในการขับสารพิษและลดไข้
- B08.4F5I-7: จัดสิ่งแวดล้อมให้สะอาด ปลอดภัย และลดโอกาสการปนเปื้อนของเชื้อโรค
- B08.4F5I-8: ให้คำแนะนำผู้ดูแลเกี่ยวกับวิธีล้างมือที่ถูกต้องก่อนและหลังการสัมผัสบาดแผล
- B08.4F5I-9: แจ้งแพทย์ทันทีหากพบอาการติดเชื้อที่แย่ลง เช่น ไข้สูงขึ้น แผลลุกลาม หรืออาการซึม
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F5R-1: ผู้ป่วยไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อเพิ่มเติมในบาดแผล เช่น ไม่มีอาการบวมแดงหรือหนองใหม่
- B08.4F5R-2: อุณหภูมิร่างกายผู้ป่วยลดลง ≤ 37.5°C ภายใน 48-72 ชั่วโมง
- B08.4F5R-3: ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถทำความสะอาดและดูแลแผลได้อย่างถูกต้อง
- B08.4F5R-4: บาดแผลเริ่มแห้งและแสดงอาการของการสมานแผล
- B08.4F5R-5: ผู้ป่วยไม่มีอาการซึมหรืออ่อนเพลียเพิ่มเติม
................................................................
B08.4F6
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากไข้สูง
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลรายงานว่าเด็กมีไข้สูงต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยมีประวัติการชักจากไข้ในอดีต
O:
- อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วย > 38.5°C
- ผู้ป่วยมีอาการซึม ไม่มีสมาธิ และหงุดหงิด
- ผู้ป่วยมีผิวหนังแดงและร้อนบริเวณลำตัว
- ผู้ป่วยมีการสั่นกล้ามเนื้อ (twitching) ซึ่งอาจเป็นอาการเริ่มต้นของการชัก
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 38°C ภายใน 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะไม่เกิดอาการชักจากไข้สูงในช่วงการรักษา
- ผู้ป่วยและผู้ดูแลจะสามารถเฝ้าระวังและจัดการภาวะไข้ได้อย่างเหมาะสม
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยคงที่ ≤ 37.5°C
- ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของการชัก เช่น การสั่นกระตุกหรือหมดสติ
- ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการลดไข้และป้องกันการชักได้
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F6I-1: ประเมินอุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยทุก 2-4 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของไข้
- B08.4F6I-2: เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำอุ่น (tepid sponging) ทุก 4 ชั่วโมงหรือตามความจำเป็น
- B08.4F6I-3: ให้ยาลดไข้ตามคำสั่งแพทย์ เช่น Paracetamol และติดตามผลลัพธ์
- B08.4F6I-4: ดูแลให้ผู้ป่วยสวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย และจัดสิ่งแวดล้อมให้เย็นและมีการระบายอากาศดี
- B08.4F6I-5: ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยลดไข้และป้องกันภาวะขาดน้ำ
- B08.4F6I-6: สังเกตสัญญาณเริ่มต้นของการชัก เช่น การกระตุกของกล้ามเนื้อ และแจ้งแพทย์ทันทีหากพบ
- B08.4F6I-7: ให้ความรู้ผู้ดูแลเกี่ยวกับวิธีการลดไข้ที่บ้าน เช่น การเช็ดตัว การให้ยาลดไข้ และการสังเกตอาการชัก
- B08.4F6I-8: เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน เช่น Ambu bag และเครื่องดูดเสมหะ ในกรณีที่เกิดการชัก
- B08.4F6I-9: ประสานงานกับแพทย์เพื่อประเมินความจำเป็นในการให้ยากันชัก (anticonvulsants)
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F6R-1: อุณหภูมิร่างกายผู้ป่วยลดลง ≤ 37.5°C ภายใน 24 ชั่วโมง
- B08.4F6R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการชักหรืออาการแสดงเริ่มต้นของการชัก
- B08.4F6R-3: ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการลดไข้ได้อย่างถูกต้อง
- B08.4F6R-4: ผู้ดูแลสามารถระบุสัญญาณเตือนของการชักและจัดการเบื้องต้นได้อย่างเหมาะสม
- B08.4F6R-5: สิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยปลอดภัยและส่งเสริมการฟื้นตัว
....................................................
B08.4F7
เสี่ยงต่อภาวะระบบประสาทบกพร่อง
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรายงานว่ามีอาการปวดศีรษะรุนแรง
- ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลระบุว่าผู้ป่วยมีความรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน
O:
- ผู้ป่วยมีไข้สูง > 39°C ต่อเนื่อง
- พบอาการคอแข็ง (nuchal rigidity) และอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ (myoclonus)
- การตอบสนองทางประสาทลดลง เช่น ซึม ไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นได้อย่างเหมาะสม
- การเคลื่อนไหวของผู้ป่วยผิดปกติ เช่น เดินเซ หรือเสียการทรงตัว
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการของการติดเชื้อในระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือสมองอักเสบ
- ผู้ป่วยจะมีการตอบสนองทางประสาทที่เหมาะสมและไม่มีอาการเสื่อมถอยของระบบประสาท
- ผู้ป่วยและผู้ดูแลจะสามารถรับรู้สัญญาณอันตรายและรายงานได้ทันที
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ป่วยไม่มีอาการคอแข็ง หรืออาการแสดงของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- ผู้ป่วยไม่มีภาวะซึม หรือการตอบสนองที่ลดลง
- ผู้ดูแลสามารถอธิบายสัญญาณอันตรายและการจัดการเบื้องต้นได้
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F7I-1: ประเมินสัญญาณชีพและระดับการตอบสนองของผู้ป่วย (GCS: Glasgow Coma Scale) ทุก 2-4 ชั่วโมง
- B08.4F7I-2: ติดตามอาการทางระบบประสาท เช่น อาการคอแข็ง อาการคลื่นไส้ อาเจียน และการกระตุกของกล้ามเนื้อ
- B08.4F7I-3: ดูแลให้ผู้ป่วยพักผ่อนในท่านอนที่ศีรษะสูงเล็กน้อย (Semi-Fowler’s position) เพื่อลดแรงดันในสมอง
- B08.4F7I-4: เฝ้าระวังและบันทึกอาการของความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น การพูดไม่ชัด หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติ
- B08.4F7I-5: ประสานงานกับแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การเจาะน้ำไขสันหลัง (Lumbar puncture) หรือการสแกนสมอง (CT/MRI)
- B08.4F7I-6: ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและรักษาการทำงานของระบบไหลเวียน
- B08.4F7I-7: ให้ยาตามแผนการรักษา เช่น ยาลดไข้หรือยาต้านไวรัส และติดตามผลของยา
- B08.4F7I-8: ให้คำแนะนำผู้ดูแลเกี่ยวกับสัญญาณอันตราย เช่น ซึม ไม่รู้สึกตัว การชัก และวิธีการรายงานอาการ
- B08.4F7I-9: เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน เช่น Ambu bag เครื่องดูดเสมหะ และอุปกรณ์ช่วยหายใจ
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F7R-1: ผู้ป่วยไม่มีอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือสมองอักเสบ
- B08.4F7R-2: ผู้ป่วยมีระดับการตอบสนองทางประสาทที่เหมาะสม (GCS ≥ 14)
- B08.4F7R-3: ผู้ดูแลสามารถสังเกตสัญญาณอันตรายและแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที
- B08.4F7R-4: ผู้ป่วยไม่มีภาวะชักหรืออาการผิดปกติของระบบประสาท
- B08.4F7R-5: การติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือภาพถ่ายทางการแพทย์ยืนยันว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนในระบบประสาท
..............................................................
B08.4F8
การทำหน้าที่ของผิวหนังบกพร่อง
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรายงานว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณตุ่มน้ำ
- รู้สึกคันบริเวณที่เกิดตุ่มน้ำ
O:
- พบตุ่มน้ำใสบริเวณมือ เท้า และปาก ขนาด 2-5 มม.
- ผิวหนังรอบตุ่มน้ำมีรอยแดงและบวม
- อุณหภูมิร่างกาย ≥ 38°C
- ผู้ป่วยมีอาการซึมและไม่อยากอาหาร
Goals
(เป้าหมาย)
- ตุ่มน้ำแห้งและไม่มีการติดเชื้อเพิ่มเติม
- ผิวหนังรอบตุ่มน้ำฟื้นฟูและไม่มีรอยแผลเป็น
- ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ดีขึ้นและไม่มีภาวะขาดน้ำ
- อุณหภูมิร่างกายกลับสู่ค่าปกติภายใน 48 ชั่วโมง
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ตุ่มน้ำแห้งและไม่มีหนองหรือสัญญาณการติดเชื้อ
- ผิวหนังบริเวณมือ เท้า และปากไม่มีอาการบวมแดง
- ผู้ป่วยมีความอยากอาหารและสามารถดื่มน้ำได้เพียงพอ
- อุณหภูมิร่างกายลดลง ≤ 37.5°C
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F8I-1: ประเมินลักษณะตุ่มน้ำและบันทึกขนาด ความรุนแรง และบริเวณที่พบ เพื่อเฝ้าระวังการลุกลาม
- B08.4F8I-2: ทำความสะอาดตุ่มน้ำด้วยน้ำเกลือปราศจากเชื้อหรือน้ำต้มสุก เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
- B08.4F8I-3: ป้ายยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมตามคำสั่งแพทย์ เช่น Povidone-Iodine หรือยาป้องกันติดเชื้อ
- B08.4F8I-4: แนะนำให้ผู้ปกครองหรือตัวผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการแกะเกาตุ่มน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
- B08.4F8I-5: ให้การดูแลเพื่อบรรเทาอาการไข้ เช่น เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหรือให้ยาลดไข้ตามคำสั่งแพทย์
- B08.4F8I-6: กระตุ้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำให้เพียงพอหรือให้น้ำเกลือแร่ในกรณีที่รับประทานอาหารไม่ได้
- B08.4F8I-7: ให้คำแนะนำด้านโภชนาการ โดยจัดอาหารอ่อน ย่อยง่าย และเย็น เช่น โจ๊ก น้ำซุป หรือไอศกรีม เพื่อลดอาการระคายเคืองในปาก
- B08.4F8I-8: เฝ้าระวังอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแทรกซ้อนหรือภาวะขาดน้ำ
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F8R-1: ตุ่มน้ำแห้งภายใน 3-5 วัน และไม่มีอาการติดเชื้อเพิ่มเติม
- B08.4F8R-2: ผิวหนังรอบตุ่มน้ำไม่มีอาการบวมแดงและเริ่มฟื้นฟู
- B08.4F8R-3: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้และไม่มีอาการขาดน้ำ
- B08.4F8R-4: อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วย ≤ 37.5°C ภายใน 48 ชั่วโมง
...........................................................
B08.4F9
เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยรายงานว่าไม่อยากรับประทานอาหารเนื่องจากเจ็บปาก
- ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยล้าหลังรับประทานอาหาร
O:
- สังเกตเห็นแผลในช่องปากที่ทำให้รับประทานอาหารยาก
- น้ำหนักตัวลดลงมากกว่า 5% ของน้ำหนักตัวภายใน 1 สัปดาห์
- ผิวหนังแห้ง มีลักษณะของภาวะขาดน้ำ
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- น้ำหนักตัวของผู้ป่วยคงที่หรือเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ที่เหมาะสม
- ผู้ป่วยไม่มีภาวะขาดสารอาหารหรือภาวะขาดน้ำ
- ผู้ป่วยรายงานว่าความเจ็บปากลดลงและสามารถรับประทานอาหารได้สะดวกขึ้น
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ ≥ 80% ของความต้องการพลังงานรายวัน
- น้ำหนักตัวของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือคงที่ภายใน 3-5 วัน
- ไม่มีสัญญาณของภาวะขาดสารอาหารหรือขาดน้ำ (เช่น ผิวหนังชุ่มชื้น ไม่มีอาการปากแห้ง)
- ผู้ป่วยรายงานว่าอาการเจ็บปากลดลงและสามารถรับประทานอาหารได้
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F9I-1: ประเมินน้ำหนักตัวผู้ป่วยทุกเช้าในเวลาเดียวกัน เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก
- B08.4F9I-2: ตรวจสอบและบันทึกลักษณะของแผลในช่องปากเพื่อติดตามความรุนแรง
- B08.4F9I-3: แนะนำการรับประทานอาหารที่ไม่ระคายเคือง เช่น อาหารอ่อนหรือเย็น (ไอศกรีม โยเกิร์ต หรือเจลลี่)
- B08.4F9I-4: จัดให้ผู้ป่วยจิบน้ำหรือน้ำเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- B08.4F9I-5: ป้ายยาชาเฉพาะที่ในช่องปากตามคำสั่งแพทย์เพื่อลดความเจ็บปวดขณะรับประทานอาหาร
- B08.4F9I-6: กระตุ้นให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง เพื่อลดภาระของการรับประทานในครั้งเดียว
- B08.4F9I-7: ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการเพื่อให้ครอบครัวจัดอาหารที่เหมาะสมตามวัยและสภาพของผู้ป่วย
- B08.4F9I-8: เฝ้าระวังอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อเพิ่มเติมหรือการเสื่อมถอยของสุขภาพ
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F9R-1: น้ำหนักตัวของผู้ป่วยคงที่หรือเพิ่มขึ้น ≥ 0.5 กิโลกรัมภายใน 3 วัน
- B08.4F9R-2: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ ≥ 80% ของความต้องการพลังงานรายวัน
- B08.4F9R-3: แผลในช่องปากลดลง และผู้ป่วยรายงานว่าอาการเจ็บปากดีขึ้น
- B08.4F9R-4: ไม่มีอาการของภาวะขาดสารอาหารหรือขาดน้ำ
....................................................................
B08.4F10
อ่อนเพลีย
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยร้องไห้หรือไม่สามารถหลับสนิทเพราะรู้สึกเจ็บปากและเจ็บตามร่างกาย
- ผู้ปกครองรายงานว่าเด็กไม่สามารถนอนหลับได้ตลอดคืน เนื่องจากอาการไม่สบายตัวจากโรค
O:
- ผู้ป่วยแสดงอาการเหนื่อยล้าและง่วงซึมในระหว่างวัน
- พบแผลในช่องปากและที่มือ เท้า บางครั้งเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน
- อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38°C
- การเฝ้าระวังการนอนหลับพบว่าเด็กตื่นบ่อยและไม่สามารถนอนหลับได้ตามปกติ
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้อย่างต่อเนื่องและตื่นขึ้นมาโดยรู้สึกสดชื่น
- ผู้ป่วยมีความเหนื่อยล้าลดลงภายใน 2-3 วัน
- อาการเจ็บปากและแผลลดลง ทำให้ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้สะดวกขึ้น
- อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยลดลงเป็นปกติภายใน 48 ชั่วโมง
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้ตลอดคืนโดยไม่ถูกรบกวนจากอาการเจ็บปาก
- ผู้ป่วยมีความตื่นตัวในระหว่างวันและไม่มีอาการเหนื่อยล้า
- แผลในช่องปากและที่มือ เท้าฟื้นฟูดีขึ้นและไม่มีอาการบวมแดง
- อุณหภูมิร่างกายลดลง ≤ 37.5°C ภายใน 48 ชั่วโมง
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F10I-1: ประเมินรูปแบบการนอนหลับของผู้ป่วยทุกคืน โดยบันทึกเวลานอนและความถี่ในการตื่น
- B08.4F10I-2: จัดท่านอนให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านอนที่สบาย (ท่านอนศีรษะสูงหรือท่านอนตะแคง) เพื่อลดอาการเจ็บปาก
- B08.4F10I-3: ให้ยาลดไข้และยาแก้ปวดตามคำสั่งแพทย์เพื่อบรรเทาอาการและส่งเสริมการนอนหลับ
- B08.4F10I-4: จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการนอนหลับ เช่น ปิดไฟให้มืดและเงียบ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหลับสนิท
- B08.4F10I-5: ให้การดูแลที่อบอุ่นและผ่อนคลาย เช่น การนวดเบาๆ หรือการใช้ผ้าห่มอุ่น เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับได้ดีขึ้น
- B08.4F10I-6: เฝ้าระวังอาการข้างเคียงจากการใช้ยา และตรวจสอบการตอบสนองของผู้ป่วย
- B08.4F10I-7: ปรับปรุงการดูแลในระยะยาว เช่น การตรวจสอบสภาวะจิตใจของผู้ปกครองและการสนับสนุนการดูแล
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F10R-1: ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้ต่อเนื่อง ≥ 6 ชั่วโมงโดยไม่ถูกรบกวนจากอาการเจ็บปาก
- B08.4F10R-2: ความเหนื่อยล้าของผู้ป่วยลดลง และผู้ป่วยตื่นขึ้นมารู้สึกสดชื่นและมีพลัง
- B08.4F10R-3: แผลในช่องปากและที่มือ เท้าฟื้นฟูดีขึ้นและไม่มีอาการติดเชื้อแทรกซ้อน
- B08.4F10R-4: อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วย ≤ 37.5°C ภายใน 48 ชั่วโมง
..............................................................
B08.4F11
ความวิตกกังวลของผู้ปกครอง
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ปกครองแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของบุตรหลาน เช่น การถามซ้ำๆ เกี่ยวกับอาการและการรักษา
- ผู้ปกครองแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของโรค
- ผู้ปกครองมีอาการเครียดหรือวิตกกังวลในกรณีที่เด็กไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้ตามปกติ
O:
- ผู้ปกครองแสดงอาการเครียด เช่น การกระวนกระวายหรือการพูดเสียงดัง
- ผู้ปกครองตั้งคำถามซ้ำๆ เกี่ยวกับการดูแลรักษาและการฟื้นฟูของบุตรหลาน
- ผู้ปกครองอาจมีอาการของความเครียดจากการดูแลผู้ป่วย เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ปกครองสามารถแสดงความเข้าใจเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของบุตรหลานและมีการจัดการความเครียดที่มีประสิทธิภาพ
- ผู้ปกครองสามารถรับรู้และเข้าใจการดูแลรักษาที่ถูกต้องเพื่อบรรเทาความวิตกกังวล
- ผู้ปกครองลดระดับความเครียดและมีทักษะในการช่วยเหลือบุตรหลานในระหว่างการรักษา
- Evaluation Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ปกครองสามารถแสดงการตอบสนองที่สงบลงและเข้าใจในกระบวนการดูแลรักษาผู้ป่วย
- ผู้ปกครองมีการจัดการความเครียดและมีการพักผ่อนเพียงพอ
- ความวิตกกังวลของผู้ปกครองลดลงหลังจากการพูดคุยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรค
- ผู้ปกครองสามารถแสดงความเข้าใจในแผนการรักษาและการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F11I-1: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคมือเท้าปากแก่ผู้ปกครอง เพื่อให้เข้าใจถึงลักษณะอาการ การรักษา และการดูแลที่เหมาะสม
- B08.4F11I-2: สนับสนุนและให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองในการจัดการกับความเครียด เช่น การฝึกหายใจลึกๆ หรือการนั่งพัก
- B08.4F11I-3: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลและการสนับสนุนจิตใจ เช่น การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือพูดคุยกับผู้ที่มีประสบการณ์ในกรณีเดียวกัน
- B08.4F11I-4: เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงในระดับความวิตกกังวลของผู้ปกครอง และให้การสนับสนุนเพิ่มเติมหากจำเป็น
- B08.4F11I-5: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการฟื้นฟูของผู้ป่วยและการป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังการรักษา เพื่อให้ผู้ปกครองรู้สึกมั่นใจ
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F11R-1: ผู้ปกครองสามารถแสดงความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาและลดระดับความวิตกกังวลลง
- B08.4F11R-2: ความเครียดและความวิตกกังวลของผู้ปกครองลดลง และผู้ปกครองสามารถใช้ทักษะในการจัดการกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- B08.4F11R-3: ผู้ปกครองมีการพักผ่อนเพียงพอและสามารถสนับสนุนการดูแลบุตรหลานได้ดีขึ้น
..................................................................
B08.4F12
ขาดความรู้เกี่ยวกับโรค
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยหรือญาติไม่ทราบหรือเข้าใจเกี่ยวกับโรคมือเท้าปาก และวิธีการแพร่กระจายเชื้อ
- ผู้ป่วยหรือญาติแสดงความสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่เชื้อ
- ผู้ปกครองไม่ทราบวิธีการดูแลและป้องกันการแพร่กระจายของโรค
O:
- การตั้งคำถามซ้ำๆ เกี่ยวกับวิธีการรักษาและการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
- ไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ เช่น การล้างมือหรือการป้องกันการสัมผัสกับผู้ป่วย
- ผู้ปกครองหรือผู้ป่วยไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับการป้องกันโรค
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยหรือญาติสามารถเข้าใจลักษณะและสาเหตุของโรคมือเท้าปาก รวมถึงวิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
- ผู้ป่วยหรือญาติสามารถใช้มาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
- ผู้ป่วยหรือญาติสามารถอธิบายวิธีการดูแลและรักษาโรคมือเท้าปากได้
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ป่วยหรือญาติสามารถให้คำตอบที่ถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะของโรคและวิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
- ผู้ป่วยหรือญาติสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ เช่น การล้างมืออย่างถูกวิธี
- ผู้ป่วยหรือญาติสามารถอธิบายวิธีการดูแลรักษาผู้ป่วยได้ตามข้อแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F12I-1: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคมือเท้าปากแก่ผู้ป่วยหรือญาติ เช่น ลักษณะของโรค วิธีการแพร่กระจายเชื้อ และวิธีการป้องกันการติดเชื้อ เช่น การล้างมือบ่อยๆ
- B08.4F12I-2: แนะนำวิธีการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน เช่น การให้ยาอย่างถูกต้อง การดูแลแผล และการดูแลสุขภาพช่องปาก
- B08.4F12I-3: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ เช่น การแยกผู้ป่วยออกจากสมาชิกในครอบครัว การใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัย
- B08.4F12I-4: ใช้สื่อการเรียนการสอน เช่น ใบปลิวหรือโปสเตอร์ เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- B08.4F12I-5: ประเมินความเข้าใจของผู้ป่วยหรือญาติหลังจากการให้ข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยหรือญาติเข้าใจวิธีการดูแลและป้องกันโรค
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F12R-1: ผู้ป่วยหรือญาติสามารถอธิบายลักษณะของโรคและวิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ถูกต้อง
- B08.4F12R-2: ผู้ป่วยหรือญาติสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ เช่น การล้างมือบ่อยๆ
- B08.4F12R-3: ผู้ป่วยหรือญาติแสดงความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยที่บ้านและสามารถดูแลรักษาได้ตามคำแนะนำ
..............................................................
B08.4F13
เสี่ยงต่อการปรับตัวของครอบครัวลดลง
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลผู้ป่วยแสดงความเครียดจากการดูแลผู้ป่วยที่ต้องมีการเฝ้าระวังและดูแลอย่างใกล้ชิด
- ความวิตกกังวลจากการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ เช่น การแยกตัวผู้ป่วยออกจากคนอื่น
- ความยากลำบากในการปฏิบัติตามการดูแลที่ต้องเข้มงวด เช่น การสวมหน้ากากอนามัยและการล้างมือบ่อยๆ
- การรับภาระในการดูแลผู้ป่วยทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและเครียดในครอบครัว
O:
- พฤติกรรมของผู้ดูแลที่แสดงถึงความเครียด เช่น พูดถึงความยากลำบากในการดูแล
- พบว่าไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้ออย่างถูกต้อง เช่น ไม่ล้างมือบ่อยหรือไม่มีการแยกผู้ป่วยจากสมาชิกในครอบครัว
- สภาพจิตใจของผู้ดูแลหรือครอบครัวดูเครียดและวิตกกังวลจากการรักษาผู้ป่วย
Goals
(เป้าหมาย)
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลสามารถจัดการกับความเครียดจากการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีความรู้และทักษะในการช่วยลดความเครียดและรักษาสมดุลของครอบครัว
- ความเครียดของครอบครัวหรือผู้ดูแลลดลง และสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เบียดเบียน
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง เช่น การล้างมือบ่อยๆ การสวมหน้ากาก
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีการบ่งชี้ถึงการลดลงของความเครียด เช่น พูดถึงการปรับตัวที่ดีขึ้น
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลสามารถจัดการเวลาของตนเองเพื่อให้มีเวลาพักผ่อนและลดความเครียด
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลแสดงความเข้าใจในกระบวนการรักษาและการควบคุมการติดเชื้อ
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F13I-1: ประเมินระดับความเครียดของครอบครัวหรือผู้ดูแลและให้การสนับสนุนทางจิตใจ เช่น การให้คำแนะนำในการจัดการความเครียด
- B08.4F13I-2: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ เช่น การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย การแยกตัวผู้ป่วย
- B08.4F13I-3: แนะนำวิธีการดูแลตัวเองของผู้ดูแล เช่น การพักผ่อน การออกกำลังกายเพื่อบรรเทาความเครียด
- B08.4F13I-4: ใช้การสื่อสารอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความกังวล เช่น การให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการควบคุมการติดเชื้อและการดูแลผู้ป่วย
- B08.4F13I-5: ให้ความช่วยเหลือในการจัดการกิจวัตรประจำวัน เพื่อให้ผู้ดูแลสามารถมีเวลาเพื่อฟื้นฟูจิตใจและสุขภาพ
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F13R-1: ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง เช่น การล้างมือและการแยกผู้ป่วย
- B08.4F13R-2: ความเครียดของผู้ดูแลลดลง ผู้ดูแลมีความสามารถในการจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น
- B08.4F13R-3: ผู้ดูแลแสดงความพึงพอใจและความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วย และสามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อได้
- B08.4F13R-4: ผู้ดูแลสามารถจัดการเวลาตัวเองและมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ
....................................................................
B08.4F14
เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำหรือติดเชื้อใหม่
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลไม่เข้าใจหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ เช่น ไม่ล้างมือบ่อยๆ หรือไม่แยกผู้ป่วยจากคนในครอบครัว
- ผู้ดูแลแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อซ้ำหรือติดเชื้อใหม่
- ผู้ดูแลหรือครอบครัวไม่สามารถปฏิบัติตามการแนะนำในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในบ้านหรือสถานพยาบาล
O:
- สังเกตเห็นการละเลยในปฏิบัติการล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย หรือการแยกตัวผู้ป่วยจากสมาชิกในครอบครัว
- การติดเชื้อซ้ำในผู้ป่วยหรือมีการระบาดในครอบครัว
- ไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยที่เหมาะสมในการดูแลผู้ป่วย
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง
- การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในครอบครัวและชุมชนมีประสิทธิภาพ
- ลดความเสี่ยงของการกลับเป็นซ้ำหรือติดเชื้อใหม่จากการดูแลที่ไม่เหมาะสม
- ผู้ดูแลและสมาชิกในครอบครัวเข้าใจถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ดูแลและผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้ออย่างถูกต้อง เช่น การล้างมือ การแยกผู้ป่วยจากคนในครอบครัว
- ครอบครัวไม่มีการติดเชื้อซ้ำหรือติดเชื้อใหม่ในช่วงเวลาใกล้เคียง
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลสามารถอธิบายและแสดงการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อที่ถูกต้อง
- ไม่มีการระบาดใหม่ในครอบครัวหรือชุมชนจากการดูแลที่ไม่เหมาะสม
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F14I-1: ให้ข้อมูลแก่ผู้ดูแลและผู้ป่วยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ เช่น การล้างมือบ่อยๆ การแยกผู้ป่วยจากสมาชิกในครอบครัว
- B08.4F14I-2: ให้การสนับสนุนทางจิตใจแก่ผู้ดูแล เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของการควบคุมการติดเชื้อและการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
- B08.4F14I-3: สอนวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องในการป้องกันการแพร่เชื้อ เช่น การใช้หน้ากากอนามัยและการทำความสะอาดสิ่งของที่ผู้ป่วยสัมผัส
- B08.4F14I-4: ตรวจสอบและให้คำแนะนำการล้างมือที่ถูกต้อง รวมถึงแนะนำการล้างมือบ่อยๆ และระยะเวลาที่เพียงพอในการล้างมือ
- B08.4F14I-5: ส่งเสริมให้ผู้ดูแลสามารถแบ่งเวลาระหว่างการดูแลผู้ป่วยและการดูแลตนเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อใหม่
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F14R-1: ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง เช่น การล้างมือและการแยกผู้ป่วยจากสมาชิกในครอบครัว
- B08.4F14R-2: ครอบครัวไม่พบการติดเชื้อซ้ำหรือติดเชื้อใหม่ในช่วงระยะเวลาการดูแล
- B08.4F14R-3: ผู้ดูแลและสมาชิกในครอบครัวแสดงความเข้าใจและความมั่นใจในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อ
- B08.4F14R-4: ไม่มีการระบาดใหม่ในครอบครัวหรือชุมชนจากการดูแลที่ไม่เหมาะสม
.......................................................................
B08.4F15
พร้อมสำหรับการพัฒนาการดูแลสุขภาพตนเอง
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ดูแลหรือผู้ป่วยแสดงความรู้สึกดีขึ้น เช่น อาการเจ็บปวดลดลง และมีอาการดีขึ้นหลังจากการรักษา
- ผู้ดูแลมีความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วยและสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้
- ผู้ดูแลถามคำถามและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่เชื้อและดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
O:
- ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงที่น่าเป็นห่วง เช่น การมีไข้สูง, แผลในปาก, หรือการอ่อนเพลีย
- ผู้ป่วยเริ่มกลับมามีพฤติกรรมปกติ เช่น การทานอาหารและน้ำได้ตามปกติ
- ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันได้ดี เช่น การล้างมือบ่อยๆ การแยกผู้ป่วยจากคนในครอบครัว
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยไม่มีอาการซ้ำหรือแย่ลง
- ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง
- ผู้ดูแลมีความมั่นใจและสามารถดูแลผู้ป่วยได้ตามมาตรฐานการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
- ผู้ป่วยและผู้ดูแลพร้อมสำหรับการดูแลสุขภาพตนเองหลังจากออกจากโรงพยาบาล
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ป่วยไม่มีอาการทางคลินิกที่บ่งชี้ถึงการกลับเป็นซ้ำหรือการติดเชื้อใหม่
- ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อได้ถูกต้อง เช่น การล้างมือ การแยกผู้ป่วย
- ผู้ดูแลสามารถอธิบายและแสดงการปฏิบัติที่ถูกต้องในการดูแลผู้ป่วยและการป้องกันการแพร่เชื้อ
- ผู้ป่วยสามารถกลับสู่กิจวัตรประจำวันได้ เช่น ทานอาหารได้ตามปกติ หรือกลับไปเล่นกับเพื่อนในบ้าน
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F15I-1: สอนผู้ดูแลเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ เช่น การล้างมือบ่อยๆ และการแยกผู้ป่วยจากคนในครอบครัว
- B08.4F15I-2: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสังเกตอาการของผู้ป่วยเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำหรือการติดเชื้อใหม่
- B08.4F15I-3: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การให้ผู้ป่วยทานอาหารที่มีคุณค่า การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ และการพักผ่อนที่เหมาะสม
- B08.4F15I-4: ส่งเสริมให้ผู้ดูแลรู้สึกมั่นใจในการดูแลผู้ป่วยและมีการสนับสนุนจากทีมแพทย์เมื่อจำเป็น
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F15R-1: ผู้ป่วยไม่มีอาการที่บ่งชี้ถึงการกลับเป็นซ้ำ เช่น ไม่มีไข้สูงหรือแผลในปากที่รุนแรง
- B08.4F15R-2: ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อได้อย่างถูกต้อง เช่น การล้างมือ การแยกผู้ป่วยจากสมาชิกในครอบครัว
- B08.4F15R-3: ผู้ดูแลมีความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วยและสามารถแสดงวิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้อย่างถูกต้อง
- B08.4F15R-4: ผู้ป่วยสามารถกลับสู่กิจวัตรประจำวันได้ เช่น ทานอาหารได้ตามปกติ และเริ่มมีพฤติกรรมปกติอย่างสมบูรณ์
...........................................................................
B08.4F16
พฤติกรรมที่มุ่งหวังในการรักษาและส่งเสริมสุขภาพให้ดี
Assessment
(การประเมิน)
S:
- ผู้ดูแลแสดงความสนใจในการรักษาสุขภาพของเด็กและมีการแสดงออกถึงความต้องการคำแนะนำในการป้องกันการเจ็บป่วยในอนาคต
- ผู้ดูแลสอบถามเกี่ยวกับวิธีการรักษาและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคและการดูแลเด็กอย่างถูกต้อง
- ผู้ดูแลแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยในอนาคตของเด็กและการป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ
O:
- ผู้ดูแลให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามคำแนะนำและการรักษาสุขภาพของเด็ก
- ผู้ดูแลสามารถอธิบายการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อและดูแลสุขภาพของเด็กได้
- ผู้ดูแลแสดงความสนใจในการเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรคและสุขภาพของเด็กในระยะยาว
Goals
(เป้าหมาย)
- ผู้ดูแลมีความรู้และสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อในอนาคตได้
- ผู้ดูแลมีความมั่นใจในการดูแลสุขภาพของเด็กและป้องกันการเจ็บป่วยในอนาคต
- ผู้ดูแลสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการดูแลเด็กที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้ดูแลมีการแสวงหาสุขภาพที่ดีและพัฒนาการดูแลตนเองในระยะยาว
Evaluation
Criteria (เกณฑ์ประเมินผล)
- ผู้ดูแลสามารถแสดงวิธีการป้องกันการติดเชื้อในอนาคตและการดูแลสุขภาพของเด็กได้
- ผู้ดูแลมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคและดูแลสุขภาพของเด็กในอนาคต
- ผู้ดูแลสามารถติดตามอาการของเด็กและหากมีอาการผิดปกติสามารถขอคำปรึกษาได้ทันที
- ผู้ดูแลสามารถรักษาพฤติกรรมที่ดีในการดูแลสุขภาพและป้องกันการเจ็บป่วยในอนาคต
Intervention
(การปฏิบัติการพยาบาล)
- B08.4F16I-1: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อในอนาคตและการดูแลสุขภาพของเด็ก เช่น การล้างมือบ่อยๆ และการหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยที่มีอาการ
- B08.4F16I-2: สอนวิธีการเฝ้าระวังอาการผิดปกติในเด็กและการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพ เพื่อให้ผู้ดูแลสามารถตัดสินใจได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
- B08.4F16I-3: แนะนำการให้วัคซีนที่จำเป็นและการดูแลสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันโรคในอนาคต
- B08.4F16I-4: ส่งเสริมให้ผู้ดูแลทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีให้กับเด็ก เช่น การกินอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกาย
Response
(การตอบสนอง)
- B08.4F16R-1: ผู้ดูแลสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อในอนาคตและสามารถดูแลสุขภาพของเด็กได้อย่างถูกต้อง
- B08.4F16R-2: ผู้ดูแลสามารถอธิบายการปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลสุขภาพและป้องกันการเจ็บป่วยในอนาคต
- B08.4F16R-3: ผู้ดูแลมีความมั่นใจในการแสวงหาสุขภาพที่ดีให้กับเด็กและพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับ
- B08.4F16R-4: ผู้ดูแลมีความสามารถในการติดตามและประเมินสภาพของเด็กและสามารถขอคำปรึกษาหรือแนะนำการป้องกันได้เมื่อจำเป็น
...............................................................................
อำภัย
อินดี