เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568

EP. 31👉👉ตัวอย่าง : การพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก (Dengue Fever) A90 - Dengue fever


ไข้เลือดออก…อย่าปล่อยให้สายเกินไป! 🦟🔥
พยาธิสภาพของโรคไข้เลือดออก:
ไข้เลือดออกเกิดจาก ไวรัสเด็งกี่ ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค!
🦟 เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ หลอดเลือดเปราะบางและรั่วซึม ส่งผลให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเกิด ภาวะช็อก และ เลือดออกผิดปกติ
💥 หากไม่รักษา อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต! อย่ารอจนกว่าจะสายเกินไป!
มาเรียนรู้วิธีการป้องกันและสังเกตอาการกันเถอะ!

💡 ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นไข้เลือดออก
🩸 ถูกยุงลายกัด โดยเฉพาะช่วงกลางวัน
🩸 อาศัยในพื้นที่ระบาด
🩸 เคยติดเชื้อไวรัสเด็งกี่มาก่อน
 
การรักษาโรคไข้เลือดออก
ยังไม่มียารักษาเฉพาะ ต้องดูแลแบบ ประคับประคอง
ดื่มน้ำมาก ๆ 🥤
เช็คอาการ ไข้สูง, อ่อนเพลีย, จุดเลือดออกใต้ผิวหนัง
🚑 กรณีรุนแรง อาจต้องให้สารน้ำทางเส้นเลือด
 
👩‍⚕️ การดูแลพยาบาล
🔎 เฝ้าระวังภาวะช็อก: มือเย็น ซีด ชีพจรเบาเร็ว
💧 กระตุ้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ หลีกเลี่ยงยาแอสไพรินและ NSAIDs
🏥 ให้คำแนะนำครอบครัว เตรียมส่งต่อหากอาการแย่ลง
📌 ป้องกันดีกว่ารักษา!
📌 กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ป้องกันตัวเองจากการถูกกัด แล้วเราจะปลอดภัยจากไข้เลือดออกไปด้วยกัน!
..................................................

วินิจฉัยการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก (Dengue Fever)

  1. A90F1: เสี่ยงต่อภาวะช็อก (Risk for Hypovolemic Shock) เนื่องจากการรั่วของพลาสมาจากหลอดเลือดฝอย
  2. A90F2: มีไข้สูง (Hyperthermia) เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสเด็งกี่
  3. A90F3: เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ (Risk for Dehydration) เนื่องจากการสูญเสียน้ำจากไข้สูงและอาเจียน
  4. A90F4: เสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกผิดปกติ (Risk for Bleeding) เนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำและความเปราะบางของหลอดเลือด
  5. A90F5: การไหลเวียนโลหิตไม่เพียงพอ (Ineffective Tissue Perfusion) เนื่องจากปริมาณเลือดในหลอดเลือดลดลงจากพลาสมารั่ว
  6. A90F6: เสี่ยงต่อการเสียชีวิต (Risk for Death) เนื่องจากการสูญเสียสมดุลของปริมาณเลือดและอวัยวะขาดออกซิเจน
  7. A90F7: เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ (Risk for Injury) เนื่องจากอาการอ่อนเพลียและเวียนศีรษะจากภาวะช็อก
  8. A90F8: เสี่ยงต่อภาวะสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์เสียไป (Risk for Imbalanced Fluid and Electrolytes) เนื่องจากกระบวนการฟื้นฟูจากพลาสมารั่ว
  9. A90F9: มีภาวะอ่อนเพลีย (Fatigue) เนื่องจากการสูญเสียพลังงานในระยะของโรค
  10. A90F10: เสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มเติม (Risk for Infection) เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ
  11. A90F11: ความรู้ไม่เพียงพอ (Deficient Knowledge) เกี่ยวกับการป้องกันและการดูแลตนเองที่บ้าน
  12. A90F12: เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำ (Risk for Recurrence) เนื่องจากขาดการป้องกันยุงลาย
  13. A90F13: ความวิตกกังวลของครอบครัว (Anxiety in Family Members) เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
  14. A90F14: ความพร้อมในการจัดการดูแลที่บ้าน (Readiness for Enhanced Self-Health Management) เนื่องจากได้รับคำแนะนำจากทีมสุขภาพ

หมายเหตุ: ตัวเลข F1, F2, F3 เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดขึ้นเพื่อให้การจัดลำดับวินิจฉัยการพยาบาลเป็นไปอย่างมีระบบ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

…………………………………..

A90F1: เสี่ยงต่อภาวะช็อก (Risk for Hypovolemic Shock) เนื่องจากการรั่วของพลาสมาจากหลอดเลือดฝอย

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยรายงานว่ามีอาการอ่อนเพลียมากและกระหายน้ำ
  • รู้สึกเวียนศีรษะเมื่อเปลี่ยนท่า

O:

  • สัญญาณชีพ: ชีพจรเต้นเร็ว >100 ครั้ง/นาที ความดันโลหิตต่ำ (<90/60 มม.ปรอท)
  • ผิวหนังเย็นและซีด เหงื่อออก
  • ปัสสาวะลดลง (<0.5 มล./กก./ชั่วโมง)
  • ฮีมาโตคริตเพิ่มขึ้น

Goals:

  • ผู้ป่วยไม่มีภาวะช็อกตลอดระยะเวลาการดูแล
  • ผู้ป่วยมีปริมาณปัสสาวะ0.5 มล./กก./ชั่วโมง
  • สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ (ชีพจร 60-100 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต90/60 มม.ปรอท)

Evaluate Criteria:

  • ผู้ป่วยไม่มีอาการของภาวะช็อก เช่น ชีพจรเร็วหรือผิวหนังเย็นซีด
  • ปริมาณปัสสาวะ0.5 มล./กก./ชั่วโมง
  • ฮีมาโตคริตลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ

Intervention:

  • A90F1I-1: ประเมินสัญญาณชีพทุก 1 ชั่วโมงเพื่อตรวจหาภาวะช็อกในระยะเริ่มต้น
  • A90F1I-2: วัดปริมาณปัสสาวะทุก 2 ชั่วโมง และบันทึกเพื่อประเมินการทำงานของไต
  • A90F1I-3: ให้สารน้ำทางหลอดเลือด (IV fluid) ตามแผนการรักษาของแพทย์ เช่น Ringer’s lactate หรือ Normal saline
  • A90F1I-4: ประเมินฮีมาโตคริตทุก 6 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของการรั่วของพลาสมา
  • A90F1I-5: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) ในกรณีที่ไม่มีข้อห้าม เพื่อช่วยให้หายใจสะดวก
  • A90F1I-6: ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับสัญญาณเตือนของภาวะช็อก เช่น ชีพจรเร็ว เหงื่อออก หรือปัสสาวะน้อย
  • A90F1I-7: ติดต่อแพทย์ทันทีเมื่อพบสัญญาณของภาวะช็อก เช่น ชีพจรอ่อนเร็วและความดันโลหิตต่ำ

Response:

  • A90F1R-1: สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ (ชีพจร 60-100 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต90/60 มม.ปรอท)
  • A90F1R-2: ปริมาณปัสสาวะ0.5 มล./กก./ชั่วโมง
  • A90F1R-3: ฮีมาโตคริตลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • A90F1R-4: ผู้ป่วยไม่มีอาการช็อก เช่น ผิวซีด เหงื่อออก หรือชีพจรเร็วผิดปกติ
  • A90F1R-5: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถระบุสัญญาณเตือนของภาวะช็อกได้อย่างถูกต้อง

…………………………………..

A90F2: มีไข้สูง (Hyperthermia) เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสเด็งกี่

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกร้อนมาก และไม่สบายตัว
  • อ่อนเพลียและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

O:

  • อุณหภูมิร่างกาย > 38.5°C
  • ผิวหนังแดง ร้อน และแห้ง
  • ชีพจรเต้นเร็ว > 100 ครั้ง/นาที
  • ผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่น

Goals:

  • อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยลดลงอยู่ในช่วงปกติ (36.5-37.5°C) ภายใน 24 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยแสดงอาการสบายตัวขึ้น เช่น ไม่มีอาการหนาวสั่นหรือปวดศีรษะจากไข้
  • ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายวิธีการลดไข้ที่เหมาะสมได้

Evaluate Criteria:

  • อุณหภูมิร่างกาย37.5°C
  • ผู้ป่วยไม่มีอาการหนาวสั่นและรู้สึกสบายตัว
  • ผู้ป่วยและครอบครัวปฏิบัติตามคำแนะนำในการลดไข้ได้อย่างถูกต้อง

Intervention:

  • A90F2I-1: วัดอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง และบันทึกเพื่อติดตามแนวโน้มของไข้
  • A90F2I-2: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว (tepid sponge) โดยเฉพาะที่หน้าผาก รักแร้ และขาหนีบ เพื่อช่วยลดไข้
  • A90F2I-3: ให้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ตามแผนการรักษาของแพทย์ และเฝ้าระวังผลข้างเคียง
  • A90F2I-4: กระตุ้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำอย่างเพียงพอ (อย่างน้อย 1.5-2 ลิตร/วัน) เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • A90F2I-5: จัดห้องให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือใช้พัดลมช่วยลดความร้อน โดยหลีกเลี่ยงการให้ลมเป่าตรงผู้ป่วย
  • A90F2I-6: ประเมินสัญญาณชีพ เช่น ชีพจรและความดันโลหิต ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบผลของการลดไข้
  • A90F2I-7: ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับการดูแลตนเอง เช่น การเช็ดตัวลดไข้และหลีกเลี่ยงยากลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน

Response:

  • A90F2R-1: อุณหภูมิร่างกายลดลง37.5°C ภายใน 4-6 ชั่วโมงหลังจากให้การพยาบาล
  • A90F2R-2: ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของไข้ เช่น หนาวสั่นหรือชีพจรเต้นเร็วผิดปกติ
  • A90F2R-3: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถเช็ดตัวลดไข้ได้อย่างถูกต้อง
  • A90F2R-4: ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวและพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ
  • A90F2R-5: ไม่มีผลข้างเคียงจากยาลดไข้ เช่น อาการคลื่นไส้หรือปวดท้อง

………………………………….

A90F3: เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ (Risk for Dehydration) เนื่องจากการสูญเสียน้ำจากไข้สูงและอาเจียน

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกกระหายน้ำและปากแห้ง
  • อ่อนเพลียมาก และไม่มีแรง

O:

  • ผิวหนังแห้งและไม่ยืดหยุ่น (skin turgor ลดลง)
  • น้ำลายเหนียว ปากแห้ง ลิ้นแตก
  • ปัสสาวะสีเข้ม ปริมาณน้อย (> 0.5 ml/kg/hr)
  • ชีพจรเต้นเร็ว (> 100 ครั้ง/นาที) ความดันโลหิตลดต่ำ

Goals:

  • ผู้ป่วยมีความสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ (hydration status) อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ผู้ป่วยปัสสาวะ0.5 ml/kg/hr และสีของปัสสาวะใสขึ้น
  • ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวหนังแห้ง

Evaluate Criteria:

  • ปัสสาวะ0.5 ml/kg/hr
  • ผิวหนังและเยื่อเมือกมีความชุ่มชื้นปกติ
  • อัตราชีพจรและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ

Intervention:

  • A90F3I-1: ประเมินสถานะการขาดน้ำ เช่น skin turgor ปากแห้ง สีปัสสาวะ และปริมาณปัสสาวะทุก 4 ชั่วโมง
  • A90F3I-2: ให้สารน้ำตามแผนการรักษา เช่น ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ (IV fluid) หรือการรับประทานน้ำอย่างเพียงพอ
  • A90F3I-3: สอนผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับความสำคัญของการดื่มน้ำเพิ่มขึ้น เช่น น้ำเปล่า น้ำเกลือแร่ หรือซุปใส
  • A90F3I-4: กระตุ้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำทุก 1-2 ชั่วโมง และบันทึกปริมาณน้ำที่ดื่มในแต่ละวัน
  • A90F3I-5: ติดตามอาการแสดงของภาวะขาดน้ำรุนแรง เช่น ความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นเร็ว ปัสสาวะน้อยหรือไม่ปัสสาวะเลย
  • A90F3I-6: บันทึกน้ำเข้า-ออก (intake/output chart) ทุก 8 ชั่วโมง เพื่อติดตามสมดุลน้ำในร่างกาย
  • A90F3I-7: หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้ระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารรสเผ็ดและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

Response:

  • A90F3R-1: ผู้ป่วยมีปริมาณปัสสาวะ0.5 ml/kg/hr และปัสสาวะสีใสขึ้น
  • A90F3R-2: ผิวหนังและเยื่อเมือกของผู้ป่วยกลับมาชุ่มชื้นปกติ
  • A90F3R-3: ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของภาวะขาดน้ำ เช่น ความดันโลหิตต่ำหรือชีพจรเต้นเร็วผิดปกติ
  • A90F3R-4: ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันภาวะขาดน้ำได้
  • A90F3R-5: ไม่มีอาการแทรกซ้อนจากภาวะขาดน้ำ เช่น การเกิดภาวะช็อกหรือไตวาย

…………………………….

A90F4: เสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกผิดปกติ (Risk for Bleeding) เนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำและความเปราะบางของหลอดเลือด

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยอาจรายงานอาการเลือดออกง่าย เช่น เลือดออกตามไรฟัน, แผลหายช้า, หรือมีรอยฟกช้ำง่าย

O:

  • การตรวจสอบเกล็ดเลือดต่ำ (Platelet count) และการตรวจเลือด
  • พบอาการซีดหรือเลือดออกจากจมูก, ปาก, หรือที่ผิวหนัง

Goals:

  • ลดความเสี่ยงจากการเกิดเลือดออกผิดปกติ
  • ควบคุมภาวะเกล็ดเลือดต่ำเพื่อป้องกันการเกิดเลือดออก
  • ปรับปรุงการรักษาและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

Evaluate Criteria:

  • ผลการตรวจเลือดโดยการวัดเกล็ดเลือดจะต้องอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ผู้ป่วยไม่มีการเกิดเลือดออกใหม่หรืออาการรุนแรงขึ้น
  • ภาวะซีดและการบวมลดลง

Intervention:

  • A90F4I-1: ประเมินจำนวนเกล็ดเลือด (Platelet count) ทุกวันและจัดทำบันทึกเพื่อเฝ้าระวังการลดลง
  • A90F4I-2: ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณเลือดและเพิ่มการไหลเวียนเลือด
  • A90F4I-3: หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เช่น ยาละลายลิ่มเลือด
  • A90F4I-4: เฝ้าระวังและหลีกเลี่ยงการทำการตรวจหรือการเจาะที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เช่น การเจาะเลือดหลายครั้ง
  • A90F4I-5: ควบคุมการนอนให้เหมาะสม เช่น นอนศีรษะสูง (High Fowler's position) เพื่อลดการเกิดเลือดออกในร่างกาย

Response:

  • A90F4R-1: เกล็ดเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ (≥ 150,000 cells/µL)
  • A90F4R-2: ไม่มีอาการเลือดออกใหม่ หรือการเกิดรอยฟกช้ำ
  • A90F4R-3: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้และอาการซีดลดลง
  • A90F4R-4: ไม่มีอาการบวมที่ขาหรืออวัยวะอื่น เพิ่มเติม

……………………………………………………

A90F5: การไหลเวียนโลหิตไม่เพียงพอ (Ineffective Tissue Perfusion) เนื่องจากปริมาณเลือดในหลอดเลือดลดลงจากพลาสมารั่ว

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยอาจรายงานอาการเวียนศีรษะ, อ่อนเพลีย, หายใจเร็ว, หรือรู้สึกคลื่นไส้

O:

  • การประเมินอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart rate) ที่อาจสูงขึ้นจากภาวะขาดน้ำ
  • การตรวจวัดความดันโลหิตที่ต่ำ (Hypotension)
  • การตรวจวัดอัตราการหายใจที่เร็วขึ้น (Tachypnea)
  • การตรวจสอบการไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติ เช่น ข้อเท้าบวม, ผิวหนังเย็นและซีด

Goals:

  • ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตในร่างกายเพื่อให้เพียงพอต่อการส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง
  • ควบคุมอาการเวียนศีรษะ, ความดันโลหิตต่ำ และภาวะขาดน้ำ
  • สร้างความมั่นใจในการรักษาผู้ป่วยให้ได้รับการไหลเวียนเลือดที่เพียงพอ

Evaluate Criteria:

  • ความดันโลหิตของผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม (60-100 beats/min)
  • การหายใจปกติ และไม่มีอาการหายใจลำบาก
  • ผู้ป่วยไม่มีการบวมใหม่ และมีการปรับปรุงของการไหลเวียนโลหิต

Intervention:

  • A90F5I-1: ประเมินความดันโลหิตและการหายใจทุกชั่วโมงเพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลง
  • A90F5I-2: ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ (IV fluid) เพื่อลดการขาดน้ำและเพิ่มปริมาณเลือดในหลอดเลือด
  • A90F5I-3: ให้ยา vasopressors ตามคำสั่งแพทย์เพื่อเพิ่มความดันโลหิตในกรณีที่มีภาวะช็อก
  • A90F5I-4: ปรับท่านอนของผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อช่วยการหายใจและการไหลเวียนเลือด
  • A90F5I-5: ควบคุมการเฝ้าระวังความเสี่ยงจากภาวะตกเลือดและการป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการไหลเวียนเลือดไม่เพียงพอ

Response:

  • A90F5R-1: ความดันโลหิตมีการปรับตัวขึ้นอยู่ในเกณฑ์ปกติ (≥ 90/60 mmHg)
  • A90F5R-2: อัตราการเต้นของหัวใจลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ (60-100 beats/min)
  • A90F5R-3: อาการเวียนศีรษะและความเหนื่อยล้าลดลง
  • A90F5R-4: ผู้ป่วยไม่มีอาการบวมที่เพิ่มขึ้นและผิวหนังกลับมามีอุณหภูมิที่เหมาะสม

………………………………………………

A90F6: เสี่ยงต่อการเสียชีวิต (Risk for Death) เนื่องจากการสูญเสียสมดุลของปริมาณเลือดและอวัยวะขาดออกซิเจน

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยอาจรายงานอาการเวียนศีรษะรุนแรง, หายใจลำบาก, เหนื่อยง่าย หรือรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียมาก

O:

  • การตรวจวัดความดันโลหิตที่ต่ำมาก (Hypotension)
  • การประเมินอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ เช่น เต้นเร็ว (Tachycardia)
  • การตรวจวัดอัตราการหายใจที่เร็วผิดปกติ
  • การตรวจพบอาการซีด หรือขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อ เช่น ปากและปลายมือปลายเท้าซีด
  • ตรวจร่างกายเพื่อหาจุดที่มีการเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกจากช่องปาก, จมูก หรือใต้ผิวหนัง

Goals:

  • ลดความเสี่ยงจากการสูญเสียสมดุลของปริมาณเลือดและอวัยวะขาดออกซิเจน
  • ฟื้นฟูสมดุลของการไหลเวียนเลือดและออกซิเจนให้กับอวัยวะสำคัญ
  • ป้องกันภาวะช็อกและการเสียชีวิตจากภาวะเลือดออกและขาดออกซิเจน

Evaluate Criteria:

  • ความดันโลหิตกลับมาปกติ (>90/60 mmHg)
  • อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • อาการซีดและอาการขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อลดลง
  • ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวกและไม่พบภาวะช็อก

Intervention:

  • A90F6I-1: ประเมินสัญญาณชีพ (ความดันโลหิต, อัตราการเต้นของหัวใจ, อัตราการหายใจ) ทุก 30 นาทีเพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
  • A90F6I-2: ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ (IV fluids) เพื่อเพิ่มปริมาณเลือดและรักษาสมดุลของปริมาณเลือดในร่างกาย
  • A90F6I-3: ให้ยา vasopressors ตามคำสั่งแพทย์เพื่อเพิ่มความดันโลหิตในกรณีที่มีภาวะช็อก
  • A90F6I-4: ให้ออกซิเจนผ่านทางหน้ากาก (Oxygen therapy) เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกาย
  • A90F6I-5: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) และประเมินการตอบสนองจากการเปลี่ยนแปลงท่านอน
  • A90F6I-6: เฝ้าระวังการเกิดภาวะเลือดออกที่อาจเกิดขึ้นจากหลอดเลือดที่เปราะบาง และเตรียมอุปกรณ์เพื่อการหยุดเลือด

Response:

  • A90F6R-1: ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม (>90/60 mmHg)
  • A90F6R-2: อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจกลับสู่ระดับปกติ (60-100 beats/min, 12-20 breaths/min)
  • A90F6R-3: ผู้ป่วยมีสีผิวที่กลับมาปกติ ไม่มีอาการซีดหรือขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อ
  • A90F6R-4: ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวกและไม่มีอาการเวียนศีรษะหรืออ่อนเพลียรุนแรง
  • A90F6R-5: ไม่มีการเกิดเลือดออกหรือมีการหายเลือดออกที่ควบคุมได้

……………………………………

A90F7: เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ (Risk for Injury) เนื่องจากอาการอ่อนเพลียและเวียนศีรษะจากภาวะช็อก

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยอาจรายงานอาการเวียนศีรษะ, อ่อนเพลีย, คลื่นไส้ หรือรู้สึกไม่มั่นคงในการเดิน

O:

  • การตรวจพบความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) หรือการหายใจเร็ว (Tachypnea)
  • การตรวจสอบการทรงตัวหรือการเดินที่ไม่เสถียร
  • การประเมินการขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อ เช่น ปากและปลายมือปลายเท้าซีด
  • การสังเกตอาการบาดเจ็บจากการหกล้มหรือการชนสิ่งของ

Goals:

  • ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากอาการเวียนศีรษะและอ่อนเพลีย
  • ฟื้นฟูความแข็งแรงและการทรงตัวของผู้ป่วย
  • ควบคุมความดันโลหิตและอาการเวียนศีรษะให้กลับสู่สภาพปกติ

Evaluate Criteria:

  • ผู้ป่วยไม่ตกจากเตียงหรือพื้น
  • ความดันโลหิตและอัตราการหายใจกลับสู่ระดับปกติ
  • การทรงตัวและการเดินของผู้ป่วยดีขึ้น
  • ผู้ป่วยไม่มีการบาดเจ็บจากการหกล้ม

Intervention:

  • A90F7I-1: ประเมินระดับความรู้สึกตัวและสัญญาณชีพของผู้ป่วยทุก 30 นาทีเพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลง
  • A90F7I-2: จัดท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) เพื่อช่วยลดอาการเวียนศีรษะและส่งเสริมการไหลเวียนเลือดที่ดี
  • A90F7I-3: แนะนำให้ผู้ป่วยนั่งหรือนอนพักโดยไม่ลุกเดินเพื่อหลีกเลี่ยงการล้ม
  • A90F7I-4: เตรียมอุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น ราวจับ หรือไม้เท้า ให้พร้อมใช้งานในกรณีที่ผู้ป่วยต้องลุกเดิน
  • A90F7I-5: จัดเตรียมสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ เช่น ขจัดอุปกรณ์หรือสิ่งกีดขวางในพื้นที่ที่ผู้ป่วยจะต้องเดิน

Response:

  • A90F7R-1: ผู้ป่วยสามารถทรงตัวและเดินได้โดยไม่ล้ม
  • A90F7R-2: ความดันโลหิตกลับสู่ระดับปกติ (>90/60 mmHg)
  • A90F7R-3: ผู้ป่วยไม่มีอาการเวียนศีรษะและสามารถนั่งหรือนอนโดยไม่รู้สึกไม่มั่นคง
  • A90F7R-4: สิ่งแวดล้อมได้รับการปรับปรุงเพื่อความปลอดภัย โดยไม่มีอุบัติเหตุหรือการล้ม

………………………………………………

A90F8: เสี่ยงต่อภาวะสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์เสียไป (Risk for Imbalanced Fluid and Electrolytes) เนื่องจากกระบวนการฟื้นฟูจากพลาสมารั่ว

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยอาจรายงานอาการกระหายน้ำ, ปากแห้ง, อ่อนเพลีย, หายใจเร็ว หรือเวียนศีรษะ

O:

  • การตรวจพบความดันโลหิตต่ำ หรือการเต้นของหัวใจเร็ว
  • การประเมินระดับน้ำในร่างกาย เช่น อาการบวมที่ขา, แขน หรือใบหน้า
  • การตรวจหาปัสสาวะที่มีสีเข้มหรือปริมาณปัสสาวะน้อย
  • การตรวจผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ระดับโซเดียม, โพแทสเซียม, คลอไรด์, และฮีมาโทคริต

Goals:

  • ฟื้นฟูสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย
  • ควบคุมภาวะการขาดน้ำและอิเล็กโทรไลต์ให้กลับสู่ภาวะปกติ
  • ลดอาการกระหายน้ำและความอ่อนเพลีย
  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการขาดน้ำและอิเล็กโทรไลต์

Evaluate Criteria:

  • ผู้ป่วยมีระดับน้ำในร่างกายและอิเล็กโทรไลต์อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ความดันโลหิตกลับสู่ระดับปกติ
  • ผู้ป่วยไม่มีอาการบวมและปัสสาวะออกเพียงพอ
  • ผู้ป่วยไม่มีอาการกระหายน้ำหรือปากแห้ง
  • ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการแสดงค่าระดับอิเล็กโทรไลต์ที่คงที่

Intervention:

  • A90F8I-1: ประเมินระดับน้ำในร่างกายและอาการขาดน้ำของผู้ป่วยทุกวัน (เช่น น้ำหนักตัว, ปัสสาวะ, อาการบวม)
  • A90F8I-2: ให้การดูแลการฟื้นฟูน้ำและอิเล็กโทรไลต์ โดยการให้สารน้ำทางหลอดเลือด (IV fluids) ตามการประเมินทางคลินิก
  • A90F8I-3: ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเกลือแร่ (Oral rehydration solution) หรือเครื่องดื่มที่มีอิเล็กโทรไลต์เป็นประจำ
  • A90F8I-4: เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ เช่น ความดันโลหิต, การเต้นของหัวใจ, อัตราการหายใจ และการประเมินผลการตรวจห้องปฏิบัติการ
  • A90F8I-5: จัดการกับภาวะอาการบวมที่ขาและลดการคั่งน้ำ โดยให้ท่านอนศีรษะสูง (High Fowler’s position) และประเมินการขับปัสสาวะ

Response:

  • A90F8R-1: ระดับน้ำในร่างกายของผู้ป่วยคงที่ หรือไม่แสดงอาการขาดน้ำหรืออิเล็กโทรไลต์
  • A90F8R-2: ความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจกลับสู่ระดับปกติ
  • A90F8R-3: ผู้ป่วยสามารถขับปัสสาวะได้ตามปกติ โดยไม่มีการบวมใหม่
  • A90F8R-4: ผู้ป่วยไม่มีอาการกระหายน้ำหรือปากแห้ง และสามารถทานอาหารและน้ำได้ตามปกติ
  • A90F8R-5: ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการแสดงระดับอิเล็กโทรไลต์ที่คงที่และอยู่ในเกณฑ์ปกติ

…………………………………

A90F9: มีภาวะอ่อนเพลีย (Fatigue) เนื่องจากการสูญเสียพลังงานในระยะของโรค

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยอาจรายงานอาการอ่อนเพลีย, ง่วงนอน, ไม่มีแรงทำกิจกรรมประจำวัน, หรืออาจรู้สึกอ่อนแอจากไข้ที่สูง

O:

  • การสังเกตพบการเคลื่อนไหวที่ช้าลงหรือการพักผ่อนมากกว่าปกติ
  • การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่อาจสูงขึ้น (จากการสูญเสียของเหลว)
  • การประเมินความสามารถของผู้ป่วยในการทำกิจกรรมพื้นฐาน

Goals:

  • ลดภาวะอ่อนเพลียและช่วยฟื้นฟูพลังงานของผู้ป่วย
  • สนับสนุนให้ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมพื้นฐานได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยมาก
  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการอ่อนเพลีย เช่น ภาวะซึมเศร้าหรือการลดการเคลื่อนไหว

Evaluate Criteria:

  • ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลียมาก
  • ผู้ป่วยรายงานการมีพลังงานเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน
  • อัตราการเต้นของหัวใจและสัญญาณชีพกลับสู่ปกติ
  • ผู้ป่วยไม่แสดงอาการอ่อนเพลียมากจนเกินไป และสามารถทำกิจกรรมง่าย ได้

Intervention:

  • A90F9I-1: ส่งเสริมการพักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยการแนะนำให้ผู้ป่วยนอนหลับพักผ่อนในที่ที่เงียบสงบและสบาย
  • A90F9I-2: จัดให้ผู้ป่วยได้ทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังงานและเสริมสร้างความแข็งแรง
  • A90F9I-3: ส่งเสริมการเคลื่อนไหวเบา เช่น การนั่งหรือลุกเดินเล็กน้อย เพื่อป้องกันภาวะการใช้กล้ามเนื้อน้อยเกินไป
  • A90F9I-4: สังเกตระดับพลังงานของผู้ป่วยหลังการพักผ่อนและการทานอาหาร เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการฟื้นฟูพลังงาน

Response:

  • A90F9R-1: ผู้ป่วยรู้สึกพลังงานเพิ่มขึ้นและสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ดีขึ้น
  • A90F9R-2: ผู้ป่วยสามารถเดินหรือนั่งได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยเกินไป
  • A90F9R-3: การวัดสัญญาณชีพแสดงว่าอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตอยู่ในระดับที่คงที่และไม่สูงขึ้นจากอาการอ่อนเพลีย
  • A90F9R-4: ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูความสามารถในการทำกิจกรรมพื้นฐานได้ในแต่ละวัน

……………………………………………………..

A90F10: เสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มเติม (Risk for Infection) เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ 

S:

  • ผู้ป่วยอาจมีอาการเช่นรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้น, ไข้สูง, หรือมีอาการอื่น ที่แสดงถึงการติดเชื้อเพิ่มเติม

O:

  • สังเกตการมีแผลที่ผิวหนัง, แผลที่อาจมีการติดเชื้อหรือไม่หาย
  • การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่อาจสูงขึ้น
  • การสังเกตการเปลี่ยนแปลงในค่าการตรวจเลือด เช่น การเพิ่มจำนวนของเม็ดเลือดขาว

Goals:

  • ป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติมในผู้ป่วย
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยและช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  • ควบคุมการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นจากแผลหรือการสังเกตอาการผิดปกติ

Evaluate Criteria:

  • ผู้ป่วยไม่มีอาการของการติดเชื้อเพิ่มเติม เช่น ไข้สูง, ผื่น, หรือแผลที่บวมแดง
  • การตรวจหาค่าผลเลือดยังคงปกติ โดยไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อเพิ่ม
  • ไม่มีการติดเชื้อจากแผลภายนอกที่เกิดขึ้นในระหว่างการรักษา

Intervention:

  • A90F10I-1: ทำการทำความสะอาดแผลและติดตามอาการของแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น
  • A90F10I-2: ตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง และจัดการกับไข้โดยการให้ยาลดไข้หรือการประคบเย็นตามความเหมาะสม
  • A90F10I-3: ให้การดูแลการรักษาที่สะอาดและปลอดภัยในระหว่างการฟื้นฟู รวมถึงการจัดห้องที่สะอาดและมีอากาศถ่ายเทดี
  • A90F10I-4: ให้คำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติมจากการสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น การใช้หน้ากากอนามัย หรือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งที่มีเชื้อโรค

Response:

  • A90F10R-1: ไม่มีการติดเชื้อใหม่ที่แผลหรือสัญญาณของการติดเชื้อในร่างกาย
  • A90F10R-2: อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยอยู่ในระดับปกติ (ต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียส)
  • A90F10R-3: ผู้ป่วยไม่แสดงอาการบวม, แดง, หรือการติดเชื้อที่แผล และไม่มีการขยายตัวของแผล
  • A90F10R-4: ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยหรือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยอื่น

……………………………………………………

A90F11: ความรู้ไม่เพียงพอ (Deficient Knowledge) เกี่ยวกับการป้องกันและการดูแลตนเองที่บ้าน

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยอาจแสดงความไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองที่บ้าน เช่น การรักษาอาการไข้, การหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน, หรือวิธีการสังเกตอาการของโรคที่อาจเกิดขึ้น

O:

  • สอบถามเกี่ยวกับการรับข้อมูลจากการรักษาที่โรงพยาบาล
  • สังเกตพฤติกรรมการดูแลตนเอง เช่น การบริโภคยา, การดื่มน้ำ, การดูแลแผล
  • ประเมินความเข้าใจในการดูแลตัวเองจากการให้คำแนะนำในขณะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

Goals:

  • เพิ่มความรู้ของผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลตนเองในระยะหลังการรักษาไข้เลือดออก
  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการไม่เข้าใจวิธีการดูแลตัวเองที่บ้าน
  • ส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสมและมีสุขภาพที่ดีขึ้น

Evaluate Criteria:

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายขั้นตอนการดูแลตนเองได้ถูกต้อง เช่น การใช้ยา, การดื่มน้ำ, การตรวจสอบสัญญาณที่ผิดปกติ
  • ผู้ป่วยแสดงการดูแลตนเองได้ดีตามคำแนะนำ เช่น การพักผ่อนเพียงพอ, การรับประทานอาหารที่เหมาะสม, การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
  • ไม่มีอาการแทรกซ้อนหรือปัญหาในการดูแลตัวเองที่บ้าน เช่น การติดเชื้อจากแผล

Intervention:

  • A90F11I-1: ให้การศึกษาแก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลตนเองที่บ้าน เช่น วิธีการลดไข้, การดื่มน้ำเพียงพอ, การพักผ่อน
  • A90F11I-2: สอนให้ผู้ป่วยรู้จักสังเกตอาการที่อาจบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการเลือดออก, ปวดท้อง, หรืออาการช็อก
  • A90F11I-3: อธิบายถึงการใช้ยาลดไข้และการหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง
  • A90F11I-4: จัดทำคู่มือหรือแผ่นข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลตนเองที่บ้านเพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถศึกษาและทำตามได้

Response:

  • A90F11R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายและทำตามคำแนะนำในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง
  • A90F11R-2: ผู้ป่วยสามารถสังเกตอาการที่ผิดปกติและตอบสนองต่อคำแนะนำได้อย่างรวดเร็ว เช่น การติดต่อแพทย์หากมีอาการเลือดออก
  • A90F11R-3: ผู้ป่วยมีการดำเนินการตามคำแนะนำการดูแลตนเองที่บ้านและไม่พบอาการแทรกซ้อนใหม่ เช่น การติดเชื้อจากแผลหรือไข้สูงอย่างต่อเนื่อง

………………………………………………

A90F12: เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำ (Risk for Recurrence) เนื่องจากขาดการป้องกันยุงลาย

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยอาจไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันยุงลายหรือการปฏิบัติการที่บ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้เลือดออกซ้ำ

O:

  • สอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในการป้องกันยุงลาย เช่น การใช้ยากันยุง, การปิดมุ้ง, การกำจัดแหล่งน้ำขัง
  • สังเกตการเตรียมสภาพแวดล้อมที่บ้าน เช่น การตั้งมุ้งกันยุงหรือการใช้เครื่องกำจัดยุง

Goals:

  • ลดความเสี่ยงในการกลับเป็นซ้ำของไข้เลือดออกโดยการป้องกันการถูกยุงลายกัด
  • ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีความรู้ในการป้องกันยุงลายและเข้าใจวิธีการปฏิบัติที่บ้าน
  • ลดอัตราการกลับเป็นซ้ำของโรคไข้เลือดออกในผู้ป่วย

Evaluate Criteria:

  • ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการป้องกันยุงลายได้ เช่น การใช้มุ้ง, ยากันยุง, การปิดน้ำขัง
  • ผู้ป่วยดำเนินการตามคำแนะนำในการป้องกันยุงลายที่บ้าน เช่น ใช้มุ้งนอน, ใช้ยากันยุง, กำจัดแหล่งน้ำขัง
  • ไม่มีรายงานเกี่ยวกับการกลับเป็นซ้ำของโรคไข้เลือดออก

Intervention:

  • A90F12I-1: ให้การศึกษาแก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับการป้องกันยุงลาย เช่น การใช้มุ้งนอน, การทายากันยุง, การหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัดในช่วงที่มียุงออกหากิน
  • A90F12I-2: แนะนำให้ผู้ป่วยกำจัดแหล่งน้ำขังที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น การไม่ทิ้งขยะที่สามารถกักเก็บน้ำได้
  • A90F12I-3: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตรวจสอบการเกิดโรคไข้เลือดออกซ้ำและการติดต่อแพทย์หากมีอาการผิดปกติ
  • A90F12I-4: สอนให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงอันตรายของการกลับเป็นซ้ำและผลกระทบต่อสุขภาพ

Response:

  • A90F12R-1: ผู้ป่วยสามารถอธิบายและดำเนินการตามคำแนะนำในการป้องกันยุงลายได้อย่างถูกต้อง
  • A90F12R-2: ผู้ป่วยมีการปฏิบัติตามคำแนะนำในการกำจัดแหล่งน้ำขังและการใช้มุ้งหรือยากันยุง
  • A90F12R-3: ไม่มีการกลับเป็นซ้ำของโรคไข้เลือดออกในช่วงระยะเวลาติดตามผล

…………………………………………………….

A90F13: ความวิตกกังวลของครอบครัว (Anxiety in Family Members) เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน

Assessment

S:

  • ครอบครัวของผู้ป่วยแสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน เช่น ความกังวลเกี่ยวกับการเฝ้าระวังอาการ, การจัดการกับการรักษา, และการป้องกันภาวะแทรกซ้อน

O:

  • ครอบครัวมีการถามคำถามเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน เช่น วิธีการรับประทานยาหรือการสังเกตอาการ
  • ครอบครัวแสดงสัญญาณของความเครียดหรือวิตกกังวล เช่น การหายใจไม่สะดวก, กังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วย

Goals:

  • ลดความวิตกกังวลของครอบครัวเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
  • เสริมสร้างความมั่นใจให้กับครอบครัวในการดูแลผู้ป่วย
  • ปรับการสื่อสารกับครอบครัวเพื่อให้ข้อมูลการดูแลที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย

Evaluate Criteria:

  • ครอบครัวสามารถบอกได้ว่ามีความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
  • ครอบครัวสามารถบอกได้ว่ามีความมั่นใจในการสังเกตและรับมือกับอาการของผู้ป่วย
  • ครอบครัวไม่แสดงสัญญาณของความวิตกกังวลในช่วงการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน

Intervention:

  • A90F13I-1: ให้การศึกษาครอบครัวเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก, อาการที่ต้องเฝ้าระวัง, และการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน เช่น การให้สารน้ำ, การจัดการกับไข้, และการป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  • A90F13I-2: จัดทำแผนการดูแลผู้ป่วยที่บ้านที่ชัดเจน โดยรวมถึงวิธีการติดตามอาการ, การจัดเตรียมยาที่บ้าน, และวิธีการรับมือกับภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
  • A90F13I-3: สนับสนุนให้ครอบครัวสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือจากทีมแพทย์หรือพยาบาลได้หากมีคำถามหรือความกังวล
  • A90F13I-4: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการผ่อนคลายความเครียด เช่น การฝึกหายใจลึกๆ หรือการพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกของครอบครัว

Response:

  • A90F13R-1: ครอบครัวสามารถอธิบายวิธีการดูแลผู้ป่วยที่บ้านและมีความมั่นใจในการดูแล
  • A90F13R-2: ครอบครัวไม่แสดงความวิตกกังวลหรือเครียดในระหว่างการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
  • A90F13R-3: ครอบครัวมีการติดตามอาการของผู้ป่วยและสามารถติดต่อทีมแพทย์หรือพยาบาลเมื่อมีความจำเป็น

…………………………………………….

A90F14: ความพร้อมในการจัดการดูแลที่บ้าน (Readiness for Enhanced Self-Health Management) เนื่องจากได้รับคำแนะนำจากทีมสุขภาพ

Assessment

S:

  • ผู้ป่วยหรือครอบครัวแสดงความสนใจและความตั้งใจในการปฏิบัติตามคำแนะนำจากทีมสุขภาพ เช่น การรับประทานยา, การเฝ้าระวังอาการ, การปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลที่บ้าน

O:

  • ผู้ป่วยหรือครอบครัวสามารถอธิบายวิธีการดูแลที่บ้านได้อย่างถูกต้อง
  • ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแผนการดูแลที่บ้าน เช่น การติดตามอาการ, การจัดการกับไข้, และการสังเกตอาการ

Goals:

  • ผู้ป่วยและครอบครัวมีความเข้าใจที่ชัดเจนในการดูแลตนเองที่บ้าน
  • ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถปฏิบัติตามแผนการดูแลได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
  • เพิ่มความสามารถของผู้ป่วยและครอบครัวในการจัดการสุขภาพของผู้ป่วยที่บ้าน

Evaluate Criteria:

  • ผู้ป่วยหรือครอบครัวสามารถแสดงความเข้าใจในขั้นตอนการดูแลที่บ้าน
  • ผู้ป่วยหรือครอบครัวสามารถปฏิบัติตามแผนการดูแลที่บ้านได้อย่างถูกต้อง
  • ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการดูแลที่บ้านที่อาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดหรือการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง

Intervention:

  • A90F14I-1: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลที่บ้าน เช่น การติดตามอาการ, การปฏิบัติตามแผนการให้ยา, การเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
  • A90F14I-2: สอนวิธีการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการดูแลที่บ้าน เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ, อุปกรณ์วัดความดัน
  • A90F14I-3: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิต เช่น การให้กำลังใจ, การช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
  • A90F14I-4: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ครอบครัวหรือผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการสนับสนุนจากทีมสุขภาพ หากเกิดปัญหาหรือมีคำถามเพิ่มเติม

Response:

  • A90F14R-1: ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถอธิบายขั้นตอนการดูแลที่บ้านและสามารถติดตามอาการได้อย่างถูกต้อง
  • A90F14R-2: ผู้ป่วยและครอบครัวแสดงความมั่นใจในการปฏิบัติตามคำแนะนำจากทีมสุขภาพและปฏิบัติตามแผนการดูแลที่บ้าน
  • A90F14R-3: ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการดูแลที่บ้านและผู้ป่วยมีการฟื้นตัวตามแผนการดูแล

……………………………………………………….

อำภัย  อินดี