เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เมือง, พิษณุโลก, Thailand

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

EP.63 จิตเวชหัวข้อ 23 : โรคความผิดปกติทางจิตที่ไม่สามารถระบุสาเหตุ (Unspecified Mental Disorder) - F99

 

Psych. Topic 23 : Unspecified Mental Disorder - F99

  • 🎭 โรคความผิดปกติทางจิตที่ไม่สามารถระบุสาเหตุ (F99) : ปัญหาทางจิตที่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
  • พบมากในวัยผู้ใหญ่ 18-40 ปี ผู้ที่เผชิญความเครียดจากการทำงาน, การเรียน,ปัญหาส่วนตัว ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดปัญหาจิตใจที่ไม่ชัดเจน ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

📌 อาการที่พบบ่อย

  • 🌀 เหม่อลอย สับสน อารมณ์แปรปรวน
  • 🌀 พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
  • 🌀 เบื่อหน่าย ไม่มีแรงจูงใจ
  • 🌀 อาจพูดไม่รู้เรื่อง หงุดหงิดง่าย

🔍ปัจจัยเสี่ยง

  • 🔥เครียดสะสม พักผ่อนไม่พอ
  • 🔥ปัญหาครอบครัว ความสัมพันธ์
  • 🔥การใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์
  • 🔥ภาวะเจ็บป่วยเรื้อรัง

💊การรักษา

  • พบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยและให้ยาตามอาการ
  • การบำบัดทางจิต เช่น พูดคุยให้คำปรึกษา
  • สนับสนุนจากครอบครัวและสังคม

👩‍⚕️การพยาบาล

  • สังเกตอารมณ์และพฤติกรรมผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด
  • ดูแลให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัยและได้รับความเข้าใจ
  • สนับสนุนให้สื่อสารความรู้สึก
  • ส่งต่อทีมสหวิชาชีพเมื่อจำเป็น

🎯การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป

  • 🤝ถ้ารู้สึกเครียด สับสน เบื่อโลก ไม่มีความสุขต่อเนื่อง อย่ารอช้า! ควรพบผู้เชี่ยวชาญทันที
  • 🤝พักผ่อนให้เพียงพอ เลี่ยงแอลกอฮอล์
  • 🤝พูดคุยกับคนใกล้ชิด อย่าปล่อยให้ใจว่าง
  • 🤝หมั่นออกกำลังกาย เติมพลังใจให้ตัวเอง

....................................................................

🧠 วินิจฉัยการพยาบาลผู้ป่วยโรคความผิดปกติทางจิตที่ไม่สามารถระบุสาเหตุ (Unspecified Mental Disorder)

  1. F99F1 มีความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Risk for self-harm or harm to others)
  2. F99F2 มีความสับสนและการรับรู้ผิดปกติ (Disturbed thought processes and confusion)
  3. F99F3 มีภาวะซึมเศร้า (Depressed mood)
  4. F99F4 มีความผิดปกติในการนอนหลับ (Disturbed sleep pattern)
  5. F99F5 มีความวิตกกังวลและตึงเครียด (Anxiety and tension)
  6. F99F6 การสื่อสารและความสัมพันธ์กับผู้อื่นบกพร่อง (Impaired communication and social interaction)
  7. F99F7 ขาดแรงจูงใจในการทำกิจวัตรประจำวัน (Lack of motivation in daily activities)
  8. F99F8 ขาดความรู้หรือทักษะในการดูแลตนเอง (Deficient knowledge or self-care skills)
  9. F99F9 มีความเสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำเมื่อกลับบ้าน (Risk for relapse after discharge)
  10. F99F10 ต้องการการสนับสนุนต่อเนื่องจากครอบครัวและทีมสุขภาพ (Needs continued support from family and healthcare team)

..............................................................

F99F1: มีความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Risk for self-harm or harm to others)

🩺 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”
  • อยากให้ทุกอย่างจบลง”
  • ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย”

O:

  • ผู้ป่วยมีท่าทีถอนตัว ไม่พูดคุย
  • มีประวัติพยายามทำร้ายตัวเองมาก่อน
  • จ้องมองนิ่ง ผิดปกติ ไม่ตอบสนอง
  • พบวัตถุอันตรายใกล้ตัวผู้ป่วย
  • ปฏิเสธการรับประทานอาหารหลายมื้อ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยปลอดภัยจากการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
  • ผู้ป่วยสามารถบอกความรู้สึกหรืออารมณ์ได้
  • ผู้ป่วยได้รับการดูแลในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
  • ครอบครัวหรือผู้ดูแลสามารถช่วยสังเกตสัญญาณอันตรายได้

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ไม่พบพฤติกรรมหรือคำพูดที่สื่อถึงการทำร้ายตนเอง
  • ผู้ป่วยร่วมมือในการรักษาและยอมรับการดูแล
  • ผู้ป่วยสามารถพูดถึงความรู้สึกได้โดยไม่ก้าวร้าว
  • สิ่งแวดล้อมปลอดภัย ไม่มีของมีคมอยู่ใกล้ผู้ป่วย

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F1I-1: ประเมินความเสี่ยงในการทำร้ายตนเองทุกวัน โดยใช้แบบประเมินมาตรฐาน เช่น Columbia-Suicide Severity Rating Scale (C-SSRS)
  • F99F1I-2: สังเกตพฤติกรรม อารมณ์ และคำพูดของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดทุก 15–30 นาที
  • F99F1I-3: จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคม สายไฟ เชือก หรือของที่ใช้ทำร้ายตัวเองได้
  • F99F1I-4: จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องเฝ้าระวังเฉพาะ หรือใกล้พยาบาลเพื่อสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง
  • F99F1I-5: สร้างความไว้วางใจ พูดคุยรับฟังโดยไม่ตัดสิน เพื่อให้ผู้ป่วยเปิดใจพูดถึงความรู้สึก
  • F99F1I-6: ประสานแพทย์เพื่อประเมินและให้ยาอย่างเหมาะสม หากผู้ป่วยมีอารมณ์รุนแรงหรือพฤติกรรมก้าวร้าว
  • F99F1I-7: ให้ความรู้แก่ครอบครัวเกี่ยวกับสัญญาณอันตรายและวิธีป้องกันการทำร้ายตนเอง
  • F99F1I-8: ส่งต่อจิตแพทย์หรือทีมสุขภาพจิตหากมีความเสี่ยงสูง

Response (การตอบสนอง)

  • F99F1R-1: ผู้ป่วยไม่แสดงพฤติกรรมหรือคำพูดที่สื่อถึงการทำร้ายตนเอง
  • F99F1R-2: ผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีสิ่งของที่เสี่ยง
  • F99F1R-3: ผู้ป่วยสามารถพูดคุยความรู้สึกกับทีมพยาบาลหรือครอบครัวได้
  • F99F1R-4: ผู้ป่วยรับประทานยาและดูแลตนเองร่วมกับทีมสุขภาพได้
  • F99F1R-5: ครอบครัวมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและดูแลอย่างใกล้ชิด

................................................................

F99F2: มีความสับสนและการรับรู้ผิดปกติ (Disturbed thought processes and confusion)

🔎 Assessment (การประเมิน)

S:

  • มีคนตามฉันอยู่”
  • ได้ยินเสียงแปลกๆ พูดกับฉัน”
  • ฉันไม่รู้ว่าวันนี้วันอะไร”

O:

  • ตอบสนองช้าหรือไม่ตรงคำถาม
  • มีพฤติกรรมพูดคนเดียว / พูดไม่ปะติดปะต่อ
  • เดินวน ซ้ำ ๆ หรือไม่สามารถทำกิจกรรมให้สำเร็จ
  • ไม่รู้เวลา สถานที่ หรือบุคคลรอบตัว
  • มีภาวะประสาทหลอน (hallucination) หรือหลงผิด (delusion)

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมพื้นฐานได้ถูกต้อง
  • ลดความสับสนทางความคิดและพฤติกรรม
  • ผู้ป่วยมีความปลอดภัยและไม่แสดงพฤติกรรมที่เป็นอันตราย
  • ผู้ป่วยสื่อสารกับผู้อื่นได้ดีขึ้น

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยบอกชื่อ วัน เวลา สถานที่ได้อย่างถูกต้อง
  • ผู้ป่วยลดพฤติกรรมพูดคนเดียวหรือพฤติกรรมผิดปกติ
  • ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
  • ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับพยาบาลหรือคนรอบข้างดีขึ้น

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F2I-1: ประเมินระดับความรู้สึกตัว การรับรู้ เวลา สถานที่ บุคคล อย่างสม่ำเสมอ
  • F99F2I-2: อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยเพื่อช่วยลดความกลัวและสับสน
  • F99F2I-3: พูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน อ่อนโยน และช้า เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจง่าย
  • F99F2I-4: ให้ข้อมูลซ้ำเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่ บุคคลอย่างสม่ำเสมอ เช่น ป้ายชื่อ ปฏิทิน นาฬิกา
  • F99F2I-5: จัดสิ่งแวดล้อมให้นิ่ง ปลอดภัย ลดสิ่งกระตุ้น เช่น เสียงดัง แสงจ้า หรือคนพลุกพล่าน
  • F99F2I-6: หลีกเลี่ยงการโต้เถียงกับผู้ป่วยเมื่อมีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอน
  • F99F2I-7: ประสานแพทย์เพื่อปรับยา หากมีอาการมากขึ้น
  • F99F2I-8: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในช่วงที่มีอาการดีขึ้น
  • F99F2I-9: ให้ครอบครัวมีส่วนร่วมดูแล และให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย
  • F99F2I-10: ส่งต่อจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อประเมินเชิงลึก

Response (การตอบสนอง)

  • F99F2R-1: ผู้ป่วยสามารถบอกวัน เวลา หรือบุคคลใกล้ตัวได้ถูกต้อง
  • F99F2R-2: ผู้ป่วยลดพฤติกรรมพูดคนเดียว หรือการแสดงออกผิดปกติ
  • F99F2R-3: ผู้ป่วยตอบสนองต่อคำพูดและสถานการณ์รอบตัวได้ดีขึ้น
  • F99F2R-4: ผู้ป่วยมีสีหน้าผ่อนคลาย ไม่หวาดระแวง
  • F99F2R-5: ผู้ป่วยเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือพยาบาลอย่างเหมาะสม

.................................................................................

F99F3: มีภาวะซึมเศร้า (Depressed mood)

🔎 Assessment (การประเมิน)

S:

  • รู้สึกไม่มีคุณค่า”
  • ไม่อยากทำอะไรเลย”
  • อยากนอนหลับไปเลยตลอดชีวิต”
  • ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”

O:

  • สีหน้าเศร้า เงียบ ไม่สบตา
  • นั่งนิ่ง ไม่มีสมาธิ พูดช้า ตอบช้า
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • นอนหลับยากหรือนอนมากผิดปกติ
  • หลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยแสดงอารมณ์และพฤติกรรมในเชิงบวกมากขึ้น
  • ลดความคิดหรือพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง
  • ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือพูดคุยกับผู้อื่น
  • รับประทานอาหารและนอนหลับได้ดีขึ้น

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยไม่แสดงความคิดฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตนเอง
  • แสดงความรู้สึกหรืออารมณ์เชิงบวกอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
  • มีพฤติกรรมสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น
  • ร่วมทำกิจกรรมง่าย ๆ กับพยาบาลหรือผู้ดูแลได้
  • นอนหลับได้ตามปกติ (5–8 ชม.) และรับประทานอาหารได้เพียงพอ

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F3I-1: ประเมินความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตนเองเป็นประจำทุกวัน
  • F99F3I-2: อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยในช่วงที่มีอารมณ์ต่ำ เพื่อป้องกันอันตราย
  • F99F3I-3: สร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจ รับฟังโดยไม่ตัดสิน
  • F99F3I-4: พูดคุยให้กำลังใจ สนับสนุนให้ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกอย่างเปิดเผย
  • F99F3I-5: ส่งเสริมกิจกรรมที่ผู้ป่วยสนใจ โดยเริ่มจากงานเล็ก ๆ ที่ทำได้
  • F99F3I-6: จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคมหรือวัตถุอันตราย
  • F99F3I-7: สนับสนุนการดูแลสุขภาพพื้นฐาน เช่น การรับประทานอาหาร อาบน้ำ นอนหลับ
  • F99F3I-8: ให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่ครอบครัวเพื่อเข้าใจและดูแลผู้ป่วยได้เหมาะสม
  • F99F3I-9: ประสานทีมแพทย์เพื่อวางแผนการให้ยา และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
  • F99F3I-10: ส่งเสริมผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือบำบัดจิตใจเมื่อเหมาะสม

Response (การตอบสนอง)

  • F99F3R-1: ผู้ป่วยไม่แสดงความคิดหรือพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง
  • F99F3R-2: ผู้ป่วยเริ่มพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
  • F99F3R-3: ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมง่าย ๆ ได้อย่างสม่ำเสมอ
  • F99F3R-4: อารมณ์ของผู้ป่วยดูดีขึ้น เช่น มีรอยยิ้ม พูดคุยบ้าง
  • F99F3R-5: ผู้ป่วยนอนหลับและรับประทานอาหารได้ตามปกติ

........................................................................

F99F4: มีความผิดปกติในการนอนหลับ (Disturbed Sleep Pattern)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • นอนไม่ค่อยหลับเลยช่วงนี้”
  • สะดุ้งตื่นบ่อย นอนไม่สนิท”
  • หลับยาก ต้องใช้เวลานานกว่าจะหลับ”
  • ตื่นเช้าเกินไปแล้วนอนไม่หลับอีก”

O:

  • มีอาการง่วงซึม เหนื่อยล้าในเวลากลางวัน
  • ใต้ตาคล้ำ สีหน้าอิดโรย
  • หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน
  • ไม่สามารถมีสมาธิหรือจดจ่อกับสิ่งใดได้

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้อย่างน้อย 5–6 ชั่วโมงต่อคืน
  • ลดความวิตกกังวลก่อนนอน
  • มีพฤติกรรมการนอนหลับที่เหมาะสมและต่อเนื่อง
  • อาการง่วงหรืออ่อนล้าในเวลากลางวันลดลง

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่านอนหลับได้ดีขึ้น โดยไม่มีการตื่นกลางดึกบ่อย
  • มีพฤติกรรมการนอนเป็นเวลาและสม่ำเสมอ
  • สีหน้าสดใสขึ้นในเวลากลางวัน ไม่มีอาการง่วง
  • ความสามารถในการมีสมาธิและทำกิจกรรมในช่วงกลางวันดีขึ้น

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F4I-1: ประเมินรูปแบบการนอนหลับ และพฤติกรรมก่อนนอนของผู้ป่วยทุกวัน
  • F99F4I-2: สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้น่านอน เช่น มืด เงียบ และอุณหภูมิพอเหมาะ
  • F99F4I-3: สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้านอนและตื่นในเวลาเดิมทุกวัน
  • F99F4I-4: แนะนำหลีกเลี่ยงคาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารหนักก่อนนอน
  • F99F4I-5: ส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น หรือฟังเพลงเบาๆ
  • F99F4I-6: ลดการใช้โทรศัพท์หรือหน้าจอก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
  • F99F4I-7: ให้การสนับสนุนด้านอารมณ์ เพื่อคลายความเครียดที่อาจรบกวนการนอน
  • F99F4I-8: หากยังมีอาการเรื้อรัง ประสานแพทย์เพื่อประเมินและให้ยาอย่างเหมาะสม
  • F99F4I-9: แนะนำการเขียน Sleep Diary เพื่อใช้ติดตามและวิเคราะห์ปัญหาการนอน
  • F99F4I-10: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำ เช่น เดินเร็วช่วงเย็น

Response (การตอบสนอง)

  • F99F4R-1: ผู้ป่วยนอนหลับได้อย่างน้อย 5–6 ชั่วโมงต่อคืนโดยไม่ตื่นบ่อย
  • F99F4R-2: รายงานว่านอนหลับสนิทและรู้สึกสดชื่นเมื่อตื่น
  • F99F4R-3: ลดพฤติกรรมง่วงซึมและเหนื่อยล้าระหว่างวัน
  • F99F4R-4: มีอารมณ์ดีขึ้น และมีสมาธิดีในกิจกรรมประจำวัน
  • F99F4R-5: ผู้ป่วยปฏิบัติตามแนวทางการส่งเสริมการนอนได้อย่างต่อเนื่อง

..................................................................

F99F5: มีความวิตกกังวลและตึงเครียด (Anxiety and Tension)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • รู้สึกกังวลตลอดเวลา คิดมาก หยุดคิดไม่ได้”
  • รู้สึกแน่นหน้าอก ใจเต้นแรงตอนเครียด”
  • กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงทั้งที่ไม่มีเหตุผล”

O:

  • สีหน้าเคร่งเครียด ไม่ยิ้ม
  • พฤติกรรมกระสับกระส่าย หายใจเร็ว
  • เหงื่อออกมาก มือเย็น
  • มีการพูดซ้ำ หรือขอความมั่นใจจากผู้อื่นบ่อยครั้ง

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ลดระดับความวิตกกังวลให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย
  • ส่งเสริมการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม
  • ผู้ป่วยสามารถควบคุมความเครียดได้ด้วยตนเอง
  • มีพฤติกรรมการเผชิญปัญหาเชิงบวก

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยรายงานว่าความกังวลลดลง และรู้สึกดีขึ้น
  • สามารถใช้เทคนิคผ่อนคลายเมื่อเกิดความเครียด
  • มีอาการกระสับกระส่ายลดลง
  • พฤติกรรมสื่อสารและแสดงออกทางอารมณ์ดีขึ้น

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F5I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลและอาการที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ
  • F99F5I-2: สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย ให้ความรู้สึกอบอุ่นและไว้วางใจ
  • F99F5I-3: รับฟังผู้ป่วยด้วยความเข้าใจ โดยไม่ตัดสิน
  • F99F5I-4: สอนเทคนิคการหายใจลึกๆ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (Relaxation techniques)
  • F99F5I-5: ส่งเสริมกิจกรรมเบาๆ เช่น วาดภาพ เดินเล่น ฟังเพลง
  • F99F5I-6: หลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่กระตุ้นความวิตกกังวล เช่น ข่าวร้ายหรือเหตุการณ์ที่กระทบใจ
  • F99F5I-7: สนับสนุนการแสดงออกความรู้สึก เช่น เขียนไดอารี่ หรือพูดคุยกับผู้ที่ไว้ใจได้
  • F99F5I-8: ประเมินและเฝ้าระวังอาการทางร่างกายที่อาจเกิดจากความเครียด เช่น นอนไม่หลับ ปวดหัว
  • F99F5I-9: ให้คำแนะนำด้านสุขภาพจิตและส่งต่อทีมจิตแพทย์หากจำเป็น
  • F99F5I-10: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีตารางกิจวัตรประจำวันที่ชัดเจน ลดความสับสนและวิตก

Response (การตอบสนอง)

  • F99F5R-1: ผู้ป่วยสามารถใช้วิธีผ่อนคลายเพื่อลดความวิตกกังวลได้ด้วยตนเอง
  • F99F5R-2: อาการกระสับกระส่าย เหงื่อออก และหายใจเร็วลดลง
  • F99F5R-3: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นหลังกิจกรรมบำบัด
  • F99F5R-4: มีการสื่อสารทางอารมณ์และความคิดได้อย่างเหมาะสม
  • F99F5R-5: ผู้ป่วยนอนหลับได้ดีขึ้น และรู้สึกสดชื่นในตอนเช้า

...............................................................................
F99F6: การสื่อสารและความสัมพันธ์กับผู้อื่นบกพร่อง (Impaired communication and social interaction)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยมักมีอาการพูดช้า หรือใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม
  • มีความยากลำบากในการแสดงอารมณ์หรือความรู้สึก
  • หลีกเลี่ยงการติดต่อหรือมีท่าทีไม่สนใจต่อผู้อื่น

O:

  • การสบตาน้อย
  • พูดน้อยหรือไม่ตอบสนองต่อคำถาม
  • การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าหรือท่าทางไม่เหมาะสมกับสถานการณ์
  • ไม่ตอบสนองเมื่อผู้อื่นพูดกับเขา

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม
  • ส่งเสริมให้ผู้ป่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
  • เพิ่มพูนความมั่นใจในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถสื่อสารหรือพูดคุยได้ชัดเจนและตรงประเด็นมากขึ้น
  • มีการสบตาและการตอบสนองต่อคำถามที่เหมาะสม
  • ผู้ป่วยสามารถแสดงออกทางอารมณ์หรือความรู้สึกอย่างเหมาะสม
  • ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้น โดยไม่หลีกเลี่ยงการพูดคุย

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F6I-1: สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและให้ความรู้สึกปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย
  • F99F6I-2: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกของตนเองอย่างเปิดเผย
  • F99F6I-3: ใช้ทักษะการฟังอย่างตั้งใจและตอบสนองในทางที่เป็นบวก
  • F99F6I-4: สนับสนุนการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือกิจกรรมสังคมที่ไม่กดดัน
  • F99F6I-5: ใช้การสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูด เช่น สัญญาณมือหรือภาพช่วยในการแสดงออก
  • F99F6I-6: แนะนำให้ผู้ป่วยฝึกฝนทักษะการสื่อสารผ่านบทสนทนาง่ายๆ กับพยาบาลหรือสมาชิกในครอบครัว
  • F99F6I-7: ส่งเสริมการใช้กิจกรรมที่ช่วยฝึกฝนทักษะทางสังคม เช่น การเล่าเรื่องหรือการแชร์ประสบการณ์

Response (การตอบสนอง)

  • F99F6R-1: ผู้ป่วยสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้นและไม่หลีกเลี่ยงการพูดคุย
  • F99F6R-2: ผู้ป่วยเริ่มแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์
  • F99F6R-3: ผู้ป่วยสามารถใช้ทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้นกับพยาบาลหรือคนใกล้ตัว
  • F99F6R-4: การสบตาและการตอบสนองต่อคำถามเพิ่มขึ้น
  • F99F6R-5: ผู้ป่วยมีการตอบสนองต่อกิจกรรมสังคมได้ดีกว่าเดิม

..........................................................
F99F7: ขาดแรงจูงใจในการทำกิจวัตรประจำวัน (Lack of motivation in daily activities)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยแสดงอาการขาดความสนใจหรือไม่อยากทำกิจกรรมที่เคยชอบ
  • ปฏิเสธหรือไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันที่จำเป็นได้ เช่น การทำความสะอาดหรือรับประทานอาหาร
  • แสดงท่าทางเฉยเมย หลีกเลี่ยงกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องมีส่วนร่วม
  • มีความรู้สึกเหนื่อยล้าหรือท้อแท้ในการทำกิจกรรม

O:

  • ผู้ป่วยใช้เวลาในการทำกิจกรรมประจำวันมากกว่าปกติ
  • การเคลื่อนไหวหรือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนช้าลง
  • ไม่เริ่มต้นทำกิจกรรมโดยไม่มีการกระตุ้นจากบุคคลอื่น
  • หลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมหรือกลุ่ม

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • กระตุ้นให้ผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมประจำวันอย่างน้อย 1 กิจกรรมในแต่ละวัน
  • เพิ่มความสนใจและความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมพื้นฐาน
  • สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีกิจวัตรประจำวันที่สม่ำเสมอและมีวินัย
  • ช่วยให้ผู้ป่วยพัฒนาความรู้สึกถึงความสำเร็จเมื่อทำกิจกรรมเสร็จสิ้น

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมประจำวันได้ด้วยตัวเอง เช่น การรับประทานอาหารหรืออาบน้ำ
  • ความสนใจในกิจกรรมเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน
  • ความร่วมมือในการทำกิจกรรมสังคมมีมากขึ้น
  • ผู้ป่วยสามารถตั้งเป้าหมายในการทำกิจกรรมได้เองและทำสำเร็จ

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F7I-1: สร้างแผนการดูแลที่มีลำดับขั้นตอนกิจกรรมง่ายๆ เพื่อกระตุ้นผู้ป่วย
  • F99F7I-2: ตั้งเป้าหมายระยะสั้นและสามารถทำได้จริงในแต่ละวัน เช่น การทำความสะอาดห้องหรือเดินเล่น
  • F99F7I-3: ใช้การเสริมแรงเชิงบวกเมื่อผู้ป่วยทำกิจกรรมสำเร็จ เช่น การชมเชยหรือรางวัลเล็กๆ
  • F99F7I-4: ช่วยผู้ป่วยทำกิจกรรมทีละขั้นตอน โดยให้การสนับสนุนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • F99F7I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม เช่น การออกกำลังกาย หรือการพูดคุยกับคนอื่น
  • F99F7I-6: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายกิจกรรมเล็กๆ ที่ทำได้ในแต่ละวัน

Response (การตอบสนอง)

  • F99F7R-1: ผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมประจำวันได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
  • F99F7R-2: ผู้ป่วยมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมมากขึ้น
  • F99F7R-3: ผู้ป่วยมีความรู้สึกพึงพอใจและสำเร็จเมื่อทำกิจกรรมสำเร็จ
  • F99F7R-4: ความร่วมมือในการทำกิจกรรมสังคมดีขึ้นและไม่หลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์
  • F99F7R-5: ผู้ป่วยสามารถตั้งเป้าหมายกิจกรรมในวันถัดไปได้ด้วยตัวเอง

...................................................
F99F8: ขาดความรู้หรือทักษะในการดูแลตนเอง (Deficient knowledge or self-care skills)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การรับประทานอาหาร การรักษาความสะอาด
  • แสดงท่าทางไม่มั่นใจในการทำกิจกรรมที่ต้องดูแลตนเอง
  • แสดงความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการทำกิจกรรมพื้นฐาน
  • ไม่เข้าใจถึงวิธีการดูแลตนเองที่เหมาะสมสำหรับสุขภาพ

O:

  • ผู้ป่วยไม่สามารถอธิบายขั้นตอนการทำกิจกรรมที่จำเป็น เช่น การแปรงฟันหรือการรับประทานอาหารที่สมดุล
  • การดูแลตนเองไม่เป็นระเบียบหรือทำไม่ได้ตามปกติ
  • ไม่เข้าใจหรือปฏิเสธคำแนะนำในการดูแลตัวเองจากพยาบาล

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมดูแลตนเองพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มความมั่นใจในการดูแลตนเอง เช่น การแปรงฟัน การทำอาหาร การรักษาความสะอาด
  • ผู้ป่วยเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลสุขภาพได้
  • ผู้ป่วยรู้วิธีการจัดการสุขภาพพื้นฐาน เช่น การออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมการดูแลตนเองได้ตามขั้นตอนที่ได้รับการแนะนำ
  • ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการดูแลตนเองและไม่แสดงความวิตกกังวลเมื่อทำกิจกรรม
  • ผู้ป่วยสามารถทำความสะอาดร่างกายและทานอาหารได้ด้วยตัวเอง
  • ผู้ป่วยสามารถจัดการกับกิจกรรมประจำวันได้ดีขึ้นและมีความสม่ำเสมอในการดูแลตนเอง

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F8I-1: สอนทักษะพื้นฐานในการดูแลตนเอง เช่น การแปรงฟัน การอาบน้ำ การรับประทานอาหารที่เหมาะสม
  • F99F8I-2: ใช้การสาธิตเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเห็นขั้นตอนการทำกิจกรรมต่างๆ ชัดเจนขึ้น
  • F99F8I-3: ให้คำแนะนำในการจัดระเบียบตารางเวลาสำหรับกิจกรรมประจำวัน
  • F99F8I-4: ตรวจสอบการทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ และให้คำปรึกษาเพิ่มเติมเมื่อจำเป็น
  • F99F8I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทักษะการดูแลตนเองด้วยวิธีที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์
  • F99F8I-6: สร้างบรรยากาศที่ไม่ตึงเครียดและส่งเสริมการเปิดใจเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ

Response (การตอบสนอง)

  • F99F8R-1: ผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมการดูแลตนเองได้ด้วยตัวเอง เช่น การแปรงฟัน หรือการอาบน้ำ
  • F99F8R-2: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการทำกิจกรรมพื้นฐาน และไม่แสดงความวิตกกังวล
  • F99F8R-3: ผู้ป่วยสามารถจัดตารางการทำกิจกรรมประจำวันได้ด้วยตัวเอง
  • F99F8R-4: ผู้ป่วยรู้วิธีดูแลตนเองได้ดีขึ้นและทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • F99F8R-5: ผู้ป่วยเข้าใจและทำตามคำแนะนำในการดูแลตนเองที่ได้รับจากพยาบาลอย่างถูกต้อง

...................................................................................
F99F9: ความเสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำเมื่อกลับบ้าน (Risk for relapse after discharge)

🔍 Assessment (การประเมิน)

S:

  • ผู้ป่วยแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการกลับไปอยู่บ้านและการรับมือกับสภาวะทางจิตที่ไม่ดี
  • ผู้ป่วยไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวหรือสภาพแวดล้อมที่ดี
  • ผู้ป่วยไม่เข้าใจหรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพจิตของตัวเองหลังออกจากโรงพยาบาล
  • ผู้ป่วยมีประวัติการกลับเป็นซ้ำจากภาวะทางจิตในอดีต

O:

  • ผู้ป่วยแสดงอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หรือขาดความมั่นใจในตัวเองเมื่อคิดถึงการกลับบ้าน
  • ผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหรือแนวทางการดูแลสุขภาพจิตที่ได้รับจากทีมพยาบาลหรือแพทย์
  • ผู้ป่วยไม่ทำกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตหรือไม่รักษากิจวัตรที่ช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำ

🎯 Goals (เป้าหมาย)

  • ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและดูแลสุขภาพจิตได้ดีหลังจากกลับบ้าน
  • ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมดูแลสุขภาพจิตในชีวิตประจำวันได้อย่างสม่ำเสมอ
  • ผู้ป่วยมีการรับการสนับสนุนจากครอบครัวหรือผู้ที่ใกล้ชิดในการดูแลสุขภาพจิต
  • ลดความเสี่ยงในการกลับเป็นซ้ำจากภาวะทางจิตหลังออกจากโรงพยาบาล

📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

  • ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้โดยไม่แสดงอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวล
  • ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลสุขภาพจิตหลังออกจากโรงพยาบาล
  • ผู้ป่วยมีการสนับสนุนจากครอบครัวหรือชุมชนในการดูแลสุขภาพจิต
  • ผู้ป่วยไม่กลับเป็นซ้ำจากภาวะทางจิตในระยะยาวหลังจากการรักษา

🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

  • F99F9I-1: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพจิตและการป้องกันการกลับเป็นซ้ำหลังออกจากโรงพยาบาล
  • F99F9I-2: สอนวิธีการผ่อนคลายและจัดการกับความเครียด เช่น การฝึกหายใจลึกหรือการฝึกสมาธิ
  • F99F9I-3: จัดทำแผนการติดตามผลหลังการจำหน่าย เพื่อประเมินการปรับตัวและสุขภาพจิตของผู้ป่วย
  • F99F9I-4: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีการเข้าร่วมกิจกรรมสนับสนุน เช่น การเข้ากลุ่มสนับสนุนสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางจิต
  • F99F9I-5: จัดให้มีการพบแพทย์หรือพยาบาลอย่างสม่ำเสมอหลังจากการจำหน่าย
  • F99F9I-6: ให้คำแนะนำในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยสนับสนุนสุขภาพจิตที่บ้าน เช่น การจัดการความเครียดหรือการพูดคุยกับครอบครัว

Response (การตอบสนอง)

  • F99F9R-1: ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความวิตกกังวลและอารมณ์ได้ดีขึ้นหลังการจำหน่าย
  • F99F9R-2: ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามแผนการดูแลสุขภาพจิตที่ได้รับคำแนะนำได้
  • F99F9R-3: ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวหรือกลุ่มสนับสนุนที่ช่วยในการปรับตัว
  • F99F9R-4: ผู้ป่วยไม่แสดงอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลที่รุนแรงหลังจากออกจากโรงพยาบาล
  • F99F9R-5: ผู้ป่วยไม่มีการกลับเป็นซ้ำจากภาวะทางจิตหลังออกจากโรงพยาบาล

.............................................................

F99F10 ต้องการการสนับสนุนต่อเนื่องจากครอบครัวและทีมสุขภาพ (Needs continued support from family and healthcare team)

    🔍 Assessment (การประเมิน)

    S:

    • ผู้ป่วยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหลังออกจากโรงพยาบาล
    • ผู้ป่วยมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวหรือทีมสุขภาพ
    • ผู้ป่วยมีประวัติการกลับมาเข้ารับการรักษาซ้ำหรือการขาดการสนับสนุนจากครอบครัวในอดีต
    • ผู้ป่วยรู้สึกว่าไม่สามารถรับมือกับความเครียดและปัญหาทางจิตได้ด้วยตัวเอง

    O:

    • ผู้ป่วยไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ
    • ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่ต้องการการสนับสนุนจากผู้อื่น เช่น การขอคำแนะนำจากพยาบาลหรือครอบครัว
    • ผู้ป่วยมีความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
    • ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะประสบปัญหาด้านสุขภาพจิตหากไม่ได้รับการสนับสนุนต่อเนื่องจากครอบครัวและทีมสุขภาพ

    🎯 Goals (เป้าหมาย)

    • ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากครอบครัวและทีมสุขภาพตลอดระยะเวลา
    • ผู้ป่วยสามารถรับมือกับปัญหาทางจิตได้ด้วยความมั่นใจและสามารถดูแลตัวเองได้
    • ครอบครัวและทีมสุขภาพสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
    • ลดความวิตกกังวลและเพิ่มความมั่นใจในตัวเองของผู้ป่วย

    📏 Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)

    • ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากผู้อื่นมากเกินไป
    • ผู้ป่วยแสดงความพึงพอใจในระดับความสนับสนุนที่ได้รับจากครอบครัวและทีมสุขภาพ
    • ผู้ป่วยสามารถขอความช่วยเหลือจากครอบครัวหรือทีมสุขภาพเมื่อจำเป็น
    • ผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่มั่นคงและไม่แสดงอาการวิตกกังวลหรือเครียดเกินไป

    🩺 Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)

    • F99F10I-1: ประเมินความต้องการของผู้ป่วยในการรับการสนับสนุนจากครอบครัวและทีมสุขภาพ
    • F99F10I-2: ส่งเสริมให้ครอบครัวมีบทบาทในการช่วยดูแลและสนับสนุนการฟื้นฟูของผู้ป่วย
    • F99F10I-3: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลผู้ป่วยในครอบครัว เช่น การพูดคุยเพื่อให้กำลังใจ การส่งเสริมการทำกิจกรรมร่วมกัน
    • F99F10I-4: สร้างแผนการติดตามผลการดูแลผู้ป่วยโดยครอบครัวและทีมสุขภาพ
    • F99F10I-5: จัดให้มีการประชุมหรือพบปะระหว่างผู้ป่วย ครอบครัว และทีมสุขภาพเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนการดูแล
    • F99F10I-6: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีการเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน หรือกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและทีมสุขภาพ

    Response (การตอบสนอง)

    • F99F10R-1: ผู้ป่วยสามารถรับการสนับสนุนจากครอบครัวและทีมสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง
    • F99F10R-2: ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการดูแลตัวเองและสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
    • F99F10R-3: ครอบครัวและทีมสุขภาพมีการสนับสนุนและดูแลผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
    • F99F10R-4: ผู้ป่วยแสดงการพัฒนาในการรับมือกับปัญหาทางจิตได้ดีขึ้น
    • F99F10R-5: ผู้ป่วยไม่แสดงอาการวิตกกังวลหรือเครียดจากการขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือทีมสุขภาพ

    ................................................................

    เอกสารอ้างอิง

    • กรมสุขภาพจิต. (2557). แนวทางการดูแลผู้ป่วยจิตเวชในสถานพยาบาล. กระทรวงสาธารณสุข.
    • ภาควิชาจิตเวชศาสตร์, คณะแพทยศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2561). แนวทางการประเมินและการรักษาผู้ป่วยทางจิต. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
    • American Psychiatric Association. (2013). Diagnostic and statistical manual of mental disorders (5th ed.). American Psychiatric Publishing.
    • World Health Organization. (2019). International Classification of Diseases 11th edition (ICD-11). World Health Organization. https://www.who.int/classifications/icd/en/

    .................................................................................