Psych. Topic 1: Major Depressive Disorder (MDD) - F32 Depressive Episode
พยาธิสภาพของโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง
เช่น เซโรโทนิน (Serotonin),
นอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine), และโดปามีน
(Dopamine)
ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมองในส่วนที่ควบคุมอารมณ์ ความจำ และการตัดสินใจ
ความเครียดเรื้อรัง พันธุกรรม และปัจจัยทางจิตวิทยา เช่น
การสูญเสียหรือความขัดแย้งในชีวิต อาจกระตุ้นให้เกิดโรคนี้ ผู้ป่วยมักมีอาการเศร้า
หดหู่ หมดพลังงาน และสูญเสียความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ
อาการอาจรุนแรงจนกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
🌿 เข้าใจ
"โรคซึมเศร้า" ใน 1 นาที! 🌿
🧠 ทำไมถึงเป็นโรคซึมเศร้า?
- โรคซึมเศร้าเกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน นอร์เอพิเนฟริน และโดปามีน ซึ่งมีผลต่ออารมณ์และการตัดสินใจ
- ปัจจัยกระตุ้นอาจมาจาก ความเครียดเรื้อรัง พันธุกรรม หรือเหตุการณ์กระทบจิตใจ เช่น การสูญเสียครั้งใหญ่
💊 รักษาได้อย่างไร?
- ยา ช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง
- จิตบำบัด ฝึกปรับมุมมองและพฤติกรรม
- ดูแลตัวเอง นอนให้พอ ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
- กำลังใจจากครอบครัว รับฟังและอยู่เคียงข้าง
- 🚨 หากมีความคิดทำร้ายตัวเอง โทร สายด่วนสุขภาพจิต 1323
👩⚕️ บทบาทของพยาบาล
- เฝ้าระวังอาการและความเสี่ยง
- กระตุ้นให้ผู้ป่วยรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- ให้กำลังใจ และสนับสนุนครอบครัวในการดูแล
- ช่วยผู้ป่วยหากิจกรรมที่ผ่อนคลายและเติมพลังใจ
💙 โรคซึมเศร้า ไม่ใช่ความอ่อนแอ
แต่เป็นโรคที่รักษาได้ ✨
- คุณไม่ได้อยู่คนเดียว… ขอเพียงก้าวแรกในการขอความช่วยเหลือ 💕
- 💡 การดูแลที่เหมาะสมช่วยให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ากลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ✨
Nursing
Process for Major Depressive Disorder (F32)
- F32F1 มีภาวะซึมเศร้า (Depressed mood)
- F32F2 ขาดพลังใจหรือรู้สึกเหนื่อยล้า (Low energy and fatigue)
- F32F3 เสี่ยงต่อความคิดฆ่าตัวตาย (Risk of self-harm or suicidal ideation)
- F32F4 เสี่ยงต่อการดูแลตนเองบกพร่อง (Risk for impaired self-care)
- F32F5 มีความกังวลสูงเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต (Severe anxiety related to treatment and future concerns)
- F32F6 การตอบสนองต่อการรักษาไม่มีประสิทธิภาพ (Ineffective response to previous treatment)
- F32F7 เสี่ยงต่อการกลับมาเป็นซึมเศร้าอีก (Risk for relapse or recurrence of depression)
- F32F8 เผชิญความเครียดได้ไม่ดีและขาดทักษะจัดการอารมณ์ (Ineffective coping and poor stress management skills)
- F32F9 มีภาวะซึมเศร้าเรื้อรังและต้องการการดูแลต่อเนื่อง (Chronic depression requiring long-term care)
- F32F10 ขาดการประเมินอาการและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง (Failure to assess and monitor ongoing symptoms)
(ตัวเลข
F1,
I-1, R-1 เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดขึ้นเพื่อให้การจัดลำดับวินิจฉัยการพยาบาลเป็นไปอย่างมีระบบ
อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)
........................................................................
F32F1 มีภาวะซึมเศร้า (Depressed mood)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “รู้สึกเศร้า ท้อแท้ ไม่อยากทำอะไรเลย”
- “ไม่มีแรงทำกิจกรรมเหมือนเดิม”
- “นอนไม่หลับ หรือตื่นแล้วไม่สดชื่น”
- “ไม่มีความสุขกับสิ่งที่เคยชอบ”
- “รู้สึกไร้ค่า ไม่มีความหมาย”
🔹 O (Objective Data):
- สีหน้าเศร้า แสดงอารมณ์ซึม
- พูดน้อย น้ำเสียงเบา และแสดงความลังเล
- เคลื่อนไหวช้าลง หรือไม่อยากทำกิจกรรมใดๆ
- อาจร้องไห้หรือมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย
- อาจมีน้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นผิดปกติ
- นอนหลับผิดปกติ (นอนไม่หลับหรือนอนมากผิดปกติ)
- ไม่มีสมาธิ ความสนใจลดลง
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถแสดงอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม
- มีพลังใจเพิ่มขึ้นและสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ดีขึ้น
- สามารถรับประทานอาหารและนอนหลับได้ดีขึ้น
- ลดความคิดในเชิงลบและมองตนเองในแง่บวกมากขึ้น
- สามารถใช้เทคนิคการจัดการความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นและมีแรงจูงใจทำกิจกรรม
- ผู้ป่วยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้
- อารมณ์ของผู้ป่วยดีขึ้น สีหน้าแสดงความผ่อนคลายมากขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารและนอนหลับได้ดีขึ้น
- มีการใช้เทคนิคผ่อนคลายหรือจัดการอารมณ์ได้
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F1I-1: ประเมินความรุนแรงของภาวะซึมเศร้าด้วย PHQ-9 หรือ HAM-D และเฝ้าระวังสัญญาณภาวะซึมเศร้ารุนแรง เช่น การแยกตัวหรือความคิดฆ่าตัวตาย
- F32F1I-2: สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ พฤติกรรม การนอน และการรับประทานอาหารของผู้ป่วย
- F32F1I-3: ใช้เทคนิค Reflective Listening เพื่อให้ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกโดยไม่ตัดสิน
- F32F1I-4: กระตุ้นให้ผู้ป่วยระบุปัจจัยกระตุ้นอารมณ์เศร้าและช่วยวางแผนจัดการ
- F32F1I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง วาดรูป หรือฝึกหายใจลึก
- F32F1I-6: วางแผนกิจกรรมเล็กๆ ที่สามารถทำสำเร็จเพื่อเพิ่มความภาคภูมิใจ
- F32F1I-7: ติดตามการรับประทานอาหารและน้ำหนัก พร้อมสนับสนุนให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- F32F1I-8: จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการพักผ่อน เช่น ลดแสงและเสียง
- F32F1I-9: สนับสนุนให้ผู้ป่วยรับประทานยาตามแผนรักษาและติดตามผลข้างเคียง
- F32F1I-10: ส่งเสริมให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลและสนับสนุนผู้ป่วย
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F1R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกเศร้าน้อยลง สีหน้าและพฤติกรรมแสดงอารมณ์ผ่อนคลายมากขึ้น
- F32F1R-2: ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมที่แนะนำได้และรู้สึกพึงพอใจ มีเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น
- F32F1R-3: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ดีขึ้น น้ำหนักตัวคงที่ และรูปแบบการนอนหลับดีขึ้น ตื่นมาแล้วสดชื่น
- F32F1R-4: ผู้ป่วยรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ และไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง
- F32F1R-5: ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลและให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
............................................................
F32F2 ขาดพลังใจหรือรู้สึกเหนื่อยล้า
(Low energy and fatigue)
🔹 S (Subjective Data):
- “รู้สึกหมดแรง ทำอะไรไม่ไหว”
- “ตื่นมาแล้วไม่สดชื่นเหมือนยังไม่ได้นอน”
- “ไม่มีเรี่ยวแรงหรือพลังใจทำงานหรือทำกิจกรรม”
- “ทำอะไรนิดเดียวก็เหนื่อยมาก”
- “รู้สึกว่าร่างกายอ่อนล้า ไม่มีแรงแม้แต่ทำสิ่งที่เคยทำได้”
🔹 O (Objective Data):
- สีหน้าผู้ป่วยดูเหนื่อยล้า ขาดความกระตือรือร้น
- การเคลื่อนไหวช้าลง หรือทำกิจกรรมได้น้อยกว่าปกติ
- ผู้ป่วยใช้เวลานานในการลุกจากที่นอนหรือจากเก้าอี้
- ขาดความสนใจในการทำกิจกรรมที่เคยชอบ
- รูปแบบการนอนเปลี่ยนไป (นอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินไป)
- อาจพบภาวะน้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นผิดปกติ
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ดีขึ้นโดยมีอาการเหนื่อยน้อยลง
- ระดับพลังงานของผู้ป่วยดีขึ้น และมีแรงจูงใจในการทำกิจกรรม
- ผู้ป่วยสามารถพักผ่อนและนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และได้รับพลังงานเพียงพอ
- ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคการจัดการความเหนื่อยล้าได้
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้โดยรู้สึกเหนื่อยน้อยลง
- ระดับพลังงานของผู้ป่วยดีขึ้น และสีหน้าดูสดชื่นขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารและนอนหลับได้อย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยสามารถวางแผนการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวัน
- ผู้ป่วยรายงานว่าสามารถจัดการกับอาการอ่อนล้าได้ดีขึ้น
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F2I-1: ประเมินระดับความอ่อนล้าโดยใช้ Fatigue Severity Scale (FSS) และติดตามพลังงานในแต่ละวัน
- F32F2I-2: ประเมินรูปแบบการนอนและปัญหาที่เกี่ยวข้อง เช่น นอนไม่หลับ และสนับสนุนให้พักผ่อนระหว่างวัน
- F32F2I-3: แนะนำกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดินเล่น, โยคะ, หรือการฝึกหายใจลึก ๆ
- F32F2I-4: วางแผนการใช้พลังงานโดยการจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมในแต่ละวัน
- F32F2I-5: แนะนำอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีน, วิตามิน, ธาตุเหล็ก และดื่มน้ำเพียงพอ
- F32F2I-6: แนะนำให้ลดคาเฟอีนและน้ำตาลเพื่อลดการลดลงของพลังงาน
- F32F2I-7: สนับสนุนให้ผู้ป่วยพูดคุยและรับฟังความรู้สึกอย่างเข้าใจ
- F32F2I-8: กระตุ้นให้ผู้ป่วยระบุปัจจัยที่ทำให้รู้สึกหมดแรงและหาวิธีจัดการ
- F32F2I-9: ติดตามการรับประทานยาและผลข้างเคียง เช่น ยาต้านเศร้าบางชนิด
- F32F2I-10: สนับสนุนให้ครอบครัวร่วมดูแลและประสานงานกับทีมสหวิชาชีพ
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F2R-1: ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกเหนื่อยน้อยลงและสามารถทำกิจกรรมได้มากขึ้น โดยมีระดับพลังงานที่ดีขึ้น
- F32F2R-2: สีหน้าผู้ป่วยดูสดชื่นขึ้น มีความกระตือรือร้น และทัศนคติที่ดีขึ้น
- F32F2R-3: ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำได้เพียงพอ
- F32F2R-4: ผู้ป่วยนอนหลับได้ดีขึ้น และรู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นนอน
- F32F2R-5: ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลและสนับสนุนผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
........................................................................
F32F3 เสี่ยงต่อความคิดฆ่าตัวตาย
(Risk of self-harm or suicidal ideation)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “รู้สึกไม่มีคุณค่า ไม่มีประโยชน์อะไร”
- “อยากหายไปจากโลกนี้”
- “ไม่มีใครเข้าใจ หรือไม่มีใครต้องการฉัน”
- “ฉันเหนื่อยและไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”
- “ฉันอยากหลับไปแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีก”
🔹 O (Objective Data):
- ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมหรือคำพูดที่สื่อถึงการทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
- มีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างรวดเร็ว เช่น จากซึมเศร้าเป็นกระตือรือร้นผิดปกติ
- ขาดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบและหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
- มีประวัติพยายามฆ่าตัวตายมาก่อนหรือเคยทำร้ายตัวเอง
- มีการเตรียมการ เช่น แจกจ่ายของใช้ส่วนตัว หรือเขียนจดหมายลา
- แสดงอาการวิตกกังวลรุนแรง หรือรู้สึกหมดหนทาง
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถพูดคุยและเปิดเผยความรู้สึกโดยไม่เก็บกด
- ผู้ป่วยปลอดภัยจากการทำร้ายตนเองและความคิดฆ่าตัวตาย
- ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนจากครอบครัวและทีมสุขภาพจิต
- ผู้ป่วยสามารถระบุปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดความคิดฆ่าตัวตายและมีแผนรับมือ
- ผู้ป่วยมีความหวังและแรงจูงใจในการใช้ชีวิตต่อไป
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมหรือแผนการทำร้ายตัวเอง
- ผู้ป่วยสามารถแสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึกของตนเองอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยสามารถขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่ไว้ใจเมื่อมีความคิดฆ่าตัวตาย
- ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคการจัดการกับความเครียดและความเศร้าได้
- ผู้ป่วยได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์และครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F3I-1: ประเมินความเสี่ยงการฆ่าตัวตายโดยใช้ C-SSRS และตรวจสอบแผนหรือการเตรียมการทำร้ายตัวเอง
- F32F3I-2: สังเกตสัญญาณเตือน เช่น การแยกตัวจากสังคม และอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง และดูแลใกล้ชิดในบริเวณที่ปลอดภัย
- F32F3I-3: เก็บสิ่งของที่อาจทำร้ายตัวเองออกจากห้อง และสนับสนุนให้มีผู้ดูแลตลอดเวลา (Suicide watch 24/7)
- F32F3I-4: รับฟังผู้ป่วยอย่างตั้งใจและกระตุ้นให้พูดถึงความรู้สึกและปัจจัยกระตุ้นความคิดฆ่าตัวตาย
- F32F3I-5: ใช้ CBT หรือการบำบัดเชิงพฤติกรรมเพื่อช่วยจัดการความคิดลบและเสริมทักษะการรับมือ
- F32F3I-6: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สร้างคุณค่า เช่น งานอดิเรก หรือกิจกรรมกลุ่ม
- F32F3I-7: ประสานงานกับครอบครัวเพื่อให้ความรู้การดูแลและสังเกตสัญญาณอันตราย
- F32F3I-8: ให้เบอร์โทรฉุกเฉิน เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 และแนะนำให้ผู้ป่วยใช้เมื่อต้องการความช่วยเหลือ
- F32F3I-9: ติดตามการรับประทานยา เช่น SSRIs และเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเพิ่มความเสี่ยงการฆ่าตัวตาย
- F32F3I-10: ประสานงานกับทีมสหวิชาชีพเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและติดตามผลต่อเนื่อง
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F3R-1: ผู้ป่วยสามารถเปิดเผยความรู้สึกและขอความช่วยเหลือเมื่อมีความคิดฆ่าตัวตาย
- F32F3R-2: ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมหรือแผนการทำร้ายตัวเอง และสามารถรับมือกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น
- F32F3R-3: ผู้ป่วยมีความรู้สึกมีคุณค่าและแรงจูงใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น
- F32F3R-4: ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคการจัดการอารมณ์ เช่น CBT หรือวิธีการผ่อนคลายเมื่อต้องเผชิญกับภาวะหมดหวัง
- F32F3R-5: ครอบครัวและผู้ดูแลสามารถให้การสนับสนุนผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ส่งเสริมความผูกพันทางสังคม
................................................
F32F4 เสี่ยงต่อการดูแลตนเองบกพร่อง
(Risk for impaired self-care)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “ไม่มีแรงทำอะไรเลย แม้แต่ลุกไปอาบน้ำ”
- “ฉันรู้สึกเหนื่อยเกินไปที่จะดูแลตัวเอง”
- “ฉันไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นอย่างไรแล้ว”
- “ไม่อยากกินข้าว ไม่อยากอาบน้ำ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้า”
🔹 O (Objective Data):
- ผู้ป่วยละเลยกิจวัตรประจำวัน เช่น การอาบน้ำ แปรงฟัน และเปลี่ยนเสื้อผ้า
- รับประทานอาหารไม่เพียงพอ หรือขาดความสนใจในการรับประทานอาหาร
- ขาดแรงจูงใจในการดูแลสุขอนามัยส่วนตัว
- สภาพร่างกายทรุดโทรม เช่น ผิวแห้ง ผมยุ่งเหยิง กลิ่นตัวแรง
- น้ำหนักลดลงเนื่องจากรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
- มีอาการอ่อนเพลีย หรือขาดพลังงานในการทำกิจวัตรประจำวัน
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสมตามกิจวัตรประจำวัน
- ผู้ป่วยมีแรงจูงใจและพลังงานเพียงพอในการดูแลสุขอนามัยและโภชนาการ
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหาร อาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ด้วยตนเอง
- ผู้ป่วยรับรู้ถึงความสำคัญของการดูแลตนเองต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ
- ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและทีมสุขภาพจิตเพื่อช่วยฟื้นฟูการดูแลตนเอง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เอง เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน และรับประทานอาหาร
- ผู้ป่วยมีสุขอนามัยที่ดีขึ้น เช่น ผิวสะอาด ผมเรียบร้อย ไม่มีกลิ่นตัว
- ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้เพียงพอและมีน้ำหนักคงที่
- ผู้ป่วยแสดงออกถึงแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพตนเอง
- ครอบครัวสามารถช่วยสนับสนุนและกระตุ้นให้ผู้ป่วยดูแลตนเองได้
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F4I-1: ประเมินภาวะการละเลยตนเอง สุขอนามัย โภชนาการ และติดตามการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว
- F32F4I-2: กระตุ้นให้ทำกิจวัตรประจำวันทีละขั้นตอน พร้อมใช้การเสริมแรงทางบวก
- F32F4I-3: แนะนำสุขอนามัย โภชนาการ ส่งเสริมการดื่มน้ำ และประสานงานกับนักโภชนาการ
- F32F4I-4: กระตุ้นการรับประทานอาหาร ใช้เทคนิคแบ่งมื้ออาหารเพื่อลดภาวะขาดสารอาหาร
- F32F4I-5: ส่งเสริมกิจกรรมที่เพิ่มแรงจูงใจ เช่น ออกกำลังกาย งานอดิเรก
- F32F4I-6: สนับสนุนการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มหรืองานสังคม ลดความรู้สึกโดดเดี่ยว
- F32F4I-7: ใช้ Cognitive Behavioral Therapy (CBT) ช่วยปรับพฤติกรรมการดูแลตนเอง
- F32F4I-8: ให้คำแนะนำครอบครัวเกี่ยวกับการสนับสนุนและจัดตารางกิจวัตรผู้ป่วย
- F32F4I-9: ติดตามการใช้ยา เช่น SSRIs และเฝ้าระวังผลข้างเคียง
- F32F4I-10: ประเมินอาการซึมเศร้าและผลการรักษา หากจำเป็นให้ปรับแผนร่วมกับจิตแพทย์
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F4R-1: ผู้ป่วยดูแลตนเองได้ดีขึ้น ทั้งสุขอนามัยและโภชนาการ
- F32F4R-2: สุขภาพร่างกายสดชื่นขึ้น น้ำหนักตัวคงที่
- F32F4R-3: มีแรงจูงใจ พลังงาน และสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
- F32F4R-4: ครอบครัวสนับสนุนและช่วยกระตุ้นผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม
- F32F4R-5: ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคม ลดความรู้สึกโดดเดี่ยว
……………………………………………………
F32F5 มีความกังวลสูงเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต
(Severe anxiety related to treatment and future concerns)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “ฉันกลัวว่าการรักษาจะไม่ได้ผล”
- “ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะดีขึ้นหรือเปล่า”
- “ฉันกังวลเกี่ยวกับอนาคตของฉันมาก”
- “ฉันไม่รู้ว่าจะรับมือกับชีวิตต่อไปอย่างไร”
🔹 O (Objective Data):
- ผู้ป่วยมีอาการวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด เช่น กระสับกระส่าย มือสั่น เหงื่อออกมาก
- อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตสูงขึ้นขณะพูดถึงการรักษาหรืออนาคต
- มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการพูดถึงแผนการรักษาหรืออนาคต
- แสดงออกถึงความกลัวหรือไม่มั่นใจเมื่อต้องตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง
- นอนไม่หลับหรือมีปัญหาในการนอนหลับเนื่องจากความวิตกกังวล
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความกังวลเกี่ยวกับการรักษาและอนาคตได้อย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยเข้าใจแผนการรักษาและสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาของตนเอง
- ผู้ป่วยมีความรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต
- อาการวิตกกังวลของผู้ป่วยลดลง และสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถพูดคุยเกี่ยวกับความกังวลของตนเองได้อย่างเปิดเผย
- ระดับความวิตกกังวลลดลง (ประเมินโดยแบบประเมิน GAD-7 หรือเครื่องมืออื่น ๆ)
- ผู้ป่วยสามารถมีส่วนร่วมในการวางแผนการรักษาร่วมกับทีมสุขภาพ
- ผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่แสดงถึงความมั่นใจมากขึ้น เช่น การถามคำถามเกี่ยวกับแผนการรักษา
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับพักผ่อนได้ดีขึ้น
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F5I-1: ประเมินระดับความวิตกกังวลโดยใช้ GAD-7 และติดตามอาการทางกาย เช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก
- F32F5I-2: ตรวจสอบผลกระทบของความวิตกกังวลต่อการนอนหลับและกิจวัตรประจำวัน
- F32F5I-3: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการรักษา อัตราความสำเร็จ และแนวทางการฟื้นฟู เพื่อสร้างความมั่นใจ
- F32F5I-4: แนะนำเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก (Deep breathing) สมาธิ (Mindfulness) และการฟังเพลง
- F32F5I-5: กระตุ้นให้ผู้ป่วยเขียนบันทึก พูดคุยกับผู้ให้คำปรึกษา หรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน
- F32F5I-6: สนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลและให้กำลังใจ
- F32F5I-7: จัดกิจกรรมลดความวิตกกังวล เช่น ออกกำลังกายเบา ๆ หรือกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
- F32F5I-8: ประสานงานกับนักจิตวิทยาหรือที่ปรึกษาสุขภาพจิตเพื่อการดูแลอย่างต่อเนื่อง
- F32F5I-9: ประเมินผลข้างเคียงของยา เช่น SSRIs ที่อาจกระตุ้นอาการวิตกกังวล
- F32F5I-10: หากอาการรุนแรงขึ้น ให้ปรับแผนการรักษาร่วมกับแพทย์ เช่น ปรับยา หรือเพิ่ม CBT
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F5R-1: ผู้ป่วยสามารถพูดคุยเกี่ยวกับความกังวลของตนเองได้โดยไม่รู้สึกตื่นตระหนก
- F32F5R-2: ระดับความวิตกกังวลลดลง และสามารถจัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น
- F32F5R-3: ผู้ป่วยเข้าใจแผนการรักษาและแสดงออกถึงความมั่นใจมากขึ้น
- F32F5R-4: ผู้ป่วยนอนหลับดีขึ้น ความเครียดลดลง และสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
- F32F5R-5: ครอบครัวให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม
......................................................
F32F6 การตอบสนองต่อการรักษาไม่มีประสิทธิภาพ
(Ineffective response to previous treatment)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “ฉันรู้สึกเหมือนยาไม่ได้ช่วยอะไรเลย”
- “ฉันยังคงรู้สึกเศร้าและไม่มีแรงเหมือนเดิม”
- “ฉันเคยลองรักษามาหลายวิธีแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น”
- “ฉันเริ่มหมดหวังกับการรักษา”
🔹 O (Objective Data):
- ผู้ป่วยยังคงมีอาการซึมเศร้าแม้ได้รับการรักษาตามแผนที่กำหนด
- มีพฤติกรรมแยกตัว ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
- ระดับพลังงานต่ำ อ่อนเพลีย ไม่มีแรงจูงใจทำกิจกรรม
- คะแนนแบบประเมินภาวะซึมเศร้า (PHQ-9) ยังคงอยู่ในระดับปานกลางถึงรุนแรง
- ไม่ให้ความร่วมมือในการรับประทานยาหรือเข้าร่วมการบำบัด
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถตอบสนองต่อการรักษาได้ดีขึ้นและมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีขึ้น
- ลดความรู้สึกสิ้นหวังและเพิ่มแรงจูงใจในการเข้ารับการรักษา
- ผู้ป่วยมีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการรักษาและสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเอง
- ลดอาการซึมเศร้าและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- อาการซึมเศร้าลดลงเมื่อประเมินด้วย PHQ-9 หรือ GDS (Geriatric Depression Scale)
- ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการรับประทานยาและเข้าร่วมการบำบัด
- ระดับพลังงานและความสนใจในกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกของตนเองและมีความหวังกับการรักษามากขึ้น
- ครอบครัวและทีมสุขภาพรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของผู้ป่วย
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F6I-1: ประเมินระดับอาการซึมเศร้าอย่างสม่ำเสมอด้วย PHQ-9 หรือ GDS และติดตามอาการรุนแรงที่อาจต้องเปลี่ยนแผนการรักษา
- F32F6I-2: ติดตามผลข้างเคียงของยาต้านซึมเศร้าและตรวจสอบความร่วมมือในการรับประทานยา
- F32F6I-3: อธิบายกลไกการออกฤทธิ์ของยา ระยะเวลาที่เห็นผล และแนวทางการจัดการผลข้างเคียง
- F32F6I-4: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทางเลือกการรักษาเพิ่มเติม เช่น ECT, rTMS, CBT หรือ DBT
- F32F6I-5: สนับสนุนให้ผู้ป่วยพูดคุยถึงความรู้สึกของตนเองและแสดงออกโดยไม่มีการตัดสิน
- F32F6I-6: กระตุ้นให้ผู้ป่วยกำหนดเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวันเพื่อสร้างความมั่นใจ
- F32F6I-7: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกิจกรรมฟื้นฟูอารมณ์ เช่น ศิลปะ ดนตรี หรือโยคะ
- F32F6I-8: สนับสนุนให้ครอบครัวมีบทบาทในการดูแลและให้กำลังใจผู้ป่วย
- F32F6I-9: แนะนำกลุ่มสนับสนุนและประสานงานกับนักจิตวิทยาหรือนักบำบัดเพื่อให้คำปรึกษาเพิ่มเติม
- F32F6I-10: ติดตามพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง และปรับแผนการรักษาหากจำเป็น
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F6R-1: ผู้ป่วยให้ความร่วมมือกับแผนการรักษาและรับประทานยาตามคำแนะนำ
- F32F6R-2: ระดับอาการซึมเศร้าลดลงเมื่อประเมินซ้ำด้วย PHQ-9 หรือ GDS
- F32F6R-3: ผู้ป่วยสามารถระบุและใช้วิธีที่ช่วยให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น
- F32F6R-4: ผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่แสดงถึงอารมณ์ดีขึ้นและทำกิจวัตรประจำวันได้มากขึ้น
- F32F6R-5: ครอบครัวให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสมและช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่า
………………………………………………..
F32F7 เสี่ยงต่อการกลับมาเป็นซึมเศร้าอีก
(Risk for relapse or recurrence of depression)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “ฉันกลัวว่าฉันจะกลับมารู้สึกเหมือนเดิมอีก”
- “ฉันเคยดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีความกลัวที่จะกลับมาซึมเศร้า”
- “ฉันเครียดจากการทำงานและเรื่องส่วนตัว อาจทำให้ฉันรู้สึกแย่ได้อีก”
- “ฉันกังวลว่าอาการของฉันจะกลับมาและทำให้ชีวิตยุ่งยากอีกครั้ง”
🔹 O (Objective Data):
- ผู้ป่วยมีประวัติการเป็นซึมเศร้าซ้ำๆ หรือการหยุดยา/บำบัดก่อนหน้าที่มีผลกระทบ
- ผู้ป่วยแสดงอาการเครียดหรือวิตกกังวลสูงในสถานการณ์ที่มีความเครียด
- ผู้ป่วยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่จะกระตุ้นอาการซึมเศร้า เช่น สถานการณ์ทางครอบครัวหรือการทำงานที่เครียด
- การรับประทานยาไม่สม่ำเสมอหรือขาดการเข้ารับการบำบัดที่ต่อเนื่อง
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถป้องกันไม่ให้ภาวะซึมเศร้ากลับมา
- ลดความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาของโรคซึมเศร้า
- ผู้ป่วยสามารถรับมือกับสถานการณ์เครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการรักษาต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับมาของโรคซึมเศร้า
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถระบุวิธีการป้องกันอาการซึมเศร้าในอนาคต
- ระดับอารมณ์ของผู้ป่วยยังคงเสถียรและไม่มีการกลับมาของอาการซึมเศร้า
- ผู้ป่วยสามารถจัดการกับสถานการณ์เครียดได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการรับประทานยาและเข้ารับการบำบัดอย่างสม่ำเสมอ
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F7I-1: ติดตามอาการซึมเศร้าของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดโดยใช้เครื่องมือประเมินเช่น PHQ-9
- F32F7I-2: เฝ้าระวังปัจจัยกระตุ้นภาวะซึมเศร้า เช่น ความเครียดในชีวิตประจำวันหรือการหยุดยารักษา
- F32F7I-3: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งและเข้ารับการบำบัดอย่างต่อเนื่อง
- F32F7I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม และเพิ่มคุณภาพชีวิต
- F32F7I-5: กระตุ้นให้ผู้ป่วยใช้กลยุทธ์การจัดการความเครียด เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการผ่อนคลาย
- F32F7I-6: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาณเตือนการกลับมาของอาการซึมเศร้า และวิธีการจัดการเบื้องต้น
- F32F7I-7: สนับสนุนให้ผู้ป่วยบันทึกอารมณ์และกิจกรรมประจำวันเพื่อเฝ้าระวังอาการซึมเศร้า
- F32F7I-8: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยพูดคุยเกี่ยวกับความกลัวและกังวลเกี่ยวกับการกลับมาของโรคซึมเศร้า
- F32F7I-9: สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน (Support groups) สำหรับผู้ที่เคยประสบกับโรคซึมเศร้า
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F7R-1: ผู้ป่วยสามารถระบุวิธีการจัดการกับอาการที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
- F32F7R-2: ผู้ป่วยยังคงให้ความร่วมมือในการรักษาต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ
- F32F7R-3: ผู้ป่วยสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่มีความเครียดได้ดีขึ้นและมีอารมณ์ที่เสถียร
- F32F7R-4: ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจมากขึ้นในการรักษาและการป้องกันอาการซึมเศร้ากลับมา
……………………………………………….
F32F8 เผชิญความเครียดได้ไม่ดีและขาดทักษะจัดการอารมณ์
(Ineffective coping and poor stress management skills)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างเกินกำลังที่จะรับมือได้”
- “ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น”
- “ไม่รู้วิธีจัดการกับอารมณ์ตัวเองเมื่อเครียด”
- “การเผชิญหน้ากับปัญหาทำให้ฉันรู้สึกหมดหวังและหดหู่”
🔹 O (Objective Data):
- ผู้ป่วยมีการตอบสนองที่ไม่เหมาะสมหรือมีความเครียดสูงเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบาก
- ผู้ป่วยมีการหลีกเลี่ยงหรือหนีปัญหาแทนการจัดการกับมัน
- ผู้ป่วยขาดทักษะในการแก้ปัญหาหรือจัดการความเครียดในสถานการณ์ที่เครียด
- การทำกิจวัตรประจำวันได้รับผลกระทบจากอาการเครียด
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถพัฒนาทักษะการจัดการความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้ป่วยมีความสามารถในการรับมือกับปัญหาหรือสถานการณ์เครียดได้ดีขึ้น ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอารมณ์ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
- ผู้ป่วยใช้วิธีการรับมือที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถแสดงวิธีการจัดการกับความเครียดที่ใช้ได้ผล
- ระดับความเครียดของผู้ป่วยลดลงอย่างเห็นได้ชัดในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
- ผู้ป่วยสามารถแก้ปัญหาหรือจัดการสถานการณ์ที่เครียดได้ด้วยตัวเอง
- ผู้ป่วยเริ่มใช้ทักษะในการจัดการอารมณ์และปัญหาที่เหมาะสมในชีวิตประจำวัน
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F8I-1: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ การทำสมาธิ และการออกกำลังกายที่ช่วยลดความเครียด
- F32F8I-2: สอนการรับมือกับอารมณ์ผ่านการจัดการความคิดและพฤติกรรม เช่น การเขียนบันทึกหรือการสะท้อนความรู้สึก
- F32F8I-3: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยใช้ทักษะการตั้งเป้าหมายในชีวิตเพื่อให้สามารถจัดการกับความเครียดได้
- F32F8I-4: จัดให้มีการพบปรึกษาจิตบำบัด เช่น การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT)
- F32F8I-5: ติดตามการพัฒนาทักษะการจัดการความเครียดของผู้ป่วยผ่านการประเมินรายเดือน
- F32F8I-6: กระตุ้นให้ผู้ป่วยบันทึกการตอบสนองต่อสถานการณ์เครียดและวิธีการที่ใช้ในการจัดการ
- F32F8I-7: สนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะการจัดการความเครียดและการให้กำลังใจ
- F32F8I-8: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีการสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มที่สามารถให้ความช่วยเหลือในการจัดการความเครียด
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F8R-1: ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคการผ่อนคลายได้เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เครียด
- F32F8R-2: ผู้ป่วยเริ่มมีความสามารถในการรับมือกับอารมณ์และจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต
- F32F8R-3: ผู้ป่วยรายงานความเครียดลดลงและสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- F32F8R-4: ผู้ป่วยสามารถใช้ทักษะที่ได้เรียนรู้ในการรับมือกับปัญหาและสถานการณ์ที่มีความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
……………………………………………..
F32F9 มีภาวะซึมเศร้าเรื้อรังและต้องการการดูแลต่อเนื่อง
(Chronic depression requiring long-term care)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “ฉันรู้สึกซึมเศร้าเป็นเวลานาน และไม่รู้ว่าจะสามารถฟื้นตัวได้จริงไหม”
- “แม้จะได้รับการรักษามาแล้ว แต่ความรู้สึกซึมเศร้ายังไม่หายไป”
- “ฉันกลัวว่าฉันจะต้องอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ตลอดไป”
- “เคยคิดว่าอาการจะหายไป แต่กลับกลับมาเรื่อยๆ”
🔹 O (Objective Data):
- ผู้ป่วยมีประวัติการรักษาซึมเศร้าต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
- อาการซึมเศร้ายังคงอยู่แม้จะมีการรักษาหรือการบำบัดหลายครั้ง
- ผู้ป่วยมักจะรู้สึกหดหู่ หมดกำลังใจ และไม่สามารถสนุกกับกิจกรรมที่เคยชอบได้
- ผลการทดสอบที่ใช้ประเมินภาวะซึมเศร้ายังอยู่ในระดับสูงหรือไม่ดีขึ้น
- ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงในการพึ่งพาสิ่งเสพติดหรือการใช้ยาหลายประเภทเพื่อลดอาการ
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาซึมเศร้าได้ต่อเนื่องและมีการปรับปรุงอาการในระยะยาว
- ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถจัดการกับอารมณ์และปัญหาที่เกิดขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถรับมือกับความเครียดและอุปสรรคในชีวิตได้โดยไม่กระทบต่อการรักษา
- ผู้ป่วยสามารถรับการบำบัดอย่างสม่ำเสมอและยินยอมที่จะรักษาต่อเนื่อง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- อาการซึมเศร้าของผู้ป่วยมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นและมีการปรับสมดุลของอารมณ์
- ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น
- ผู้ป่วยยังคงให้ความร่วมมือในการรักษาซึมเศร้าและเข้ารับการบำบัดอย่างต่อเนื่อง
- ไม่มีการใช้สิ่งเสพติดหรือวิธีการที่ไม่เหมาะสมเพื่อลดอาการซึมเศร้า
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F9I-1: ประเมินอาการซึมเศร้าอย่างสม่ำเสมอโดยใช้เครื่องมือประเมิน เช่น PHQ-9
- F32F9I-2: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับการบำบัดทางจิต เช่น การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT) หรือการบำบัดทางจิตเวชอื่นๆ
- F32F9I-3: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานยาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เพื่อลดอาการซึมเศร้า
- F32F9I-4: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีการสนทนาและแสดงความรู้สึกกับผู้เชี่ยวชาญหรือกลุ่มสนับสนุน
- F32F9I-5: ให้คำแนะนำในการปรับตัวให้เข้ากับการรักษาและการปรับวิถีชีวิตอย่างยั่งยืน
- F32F9I-6: ตรวจสอบผลการรักษาอย่างต่อเนื่องและประเมินอาการในแต่ละระยะเพื่อให้มั่นใจว่าอาการของผู้ป่วยได้รับการจัดการ
- F32F9I-7: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการดูแลและสนับสนุนผู้ป่วยในระยะยาว
- F32F9I-8: สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น ออกกำลังกาย, ฝึกหายใจ, ทำสมาธิ, นอนหลับที่เพียงพอ
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
- F32F9R-1: ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาและบำบัดได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ปฏิเสธการรักษา
- F32F9R-2: อาการซึมเศร้าของผู้ป่วยลดลงอย่างเห็นได้ชัดในระยะยาว
- F32F9R-3: ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและจัดการกับความเครียดได้ดียิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน
- F32F9R-4: ผู้ป่วยมีความร่วมมือในการรักษาอย่างสม่ำเสมอและมีการใช้วิธีการที่เหมาะสมในการดูแลตนเอง
………………………………………………….
F32F10
ขาดการประเมินอาการและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง (Failure to
assess and monitor ongoing symptoms)
Assessment (การประเมิน)
🔹 S (Subjective Data):
- “ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้รับการตรวจสอบหรือการติดตามอาการจากทีมแพทย์อย่างเพียงพอ”
- “ไม่มีใครประเมินว่าอาการของฉันดีขึ้นหรือแย่ลง”
- “ฉันรู้สึกเหมือนต้องรับมือกับอาการซึมเศร้าคนเดียว”
- “การรักษาไม่ได้ถูกติดตามผลอย่างละเอียดเลย”
🔹 O (Objective Data):
- ไม่มีการบันทึกหรือการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องจากทีมพยาบาลหรือแพทย์
- ไม่มีการติดตามผลหรือปรับแผนการรักษาตามการเปลี่ยนแปลงของอาการ
- การติดตามระดับความรุนแรงของภาวะซึมเศร้าไม่ได้ทำตามระยะเวลาที่เหมาะสม
- ผู้ป่วยไม่ได้รับการประเมินซ้ำเพื่อประเมินความคืบหน้าหรืออาการข้างเคียงจากการรักษา
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยได้รับการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
- ผู้ป่วยได้รับการติดตามผลการรักษาและการตอบสนองต่อการบำบัดอย่างเป็นระบบ
- อาการซึมเศร้าของผู้ป่วยมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและแผนการรักษาถูกปรับตามผลการประเมิน
- ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนจากทีมพยาบาลในการติดตามอาการและการปรับเปลี่ยนแผนการรักษา
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- มีการบันทึกอาการซึมเศร้าและผลการรักษาอย่างละเอียดทุกครั้ง
- ผู้ป่วยได้รับการประเมินตามระยะเวลาที่กำหนด และอาการมีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงตามการรักษา
- ทีมพยาบาลหรือแพทย์มีการปรับแผนการรักษาตามผลการประเมินอาการอย่างต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยมีความพึงพอใจในกระบวนการติดตามผลและการประเมิน
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F32F10I-1: ทำการประเมินอาการซึมเศร้าโดยใช้เครื่องมือประเมิน เช่น PHQ-9 ทุกสัปดาห์หรือตามคำแนะนำของแพทย์
- F32F10I-2: ตรวจสอบอาการซึมเศร้าทุกครั้งที่มีการให้การรักษาหรือการบำบัด เพื่อประเมินประสิทธิภาพของการรักษา
- F32F10I-3: ใช้การสังเกตอาการของผู้ป่วยร่วมกับข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์และการประเมินทางจิตเวช
- F32F10I-4: สื่อสารกับทีมแพทย์และพยาบาลเพื่อให้มีการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ และร่วมกันประเมินผลการรักษา
- F32F10I-5: แจ้งให้ผู้ป่วยทราบเกี่ยวกับผลการประเมินอาการและการปรับแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- F32F10I-6: ให้ผู้ป่วยทราบถึงความสำคัญของการติดตามอาการและการเข้ารับการประเมินอย่างสม่ำเสมอ
- F32F10I-7: ปรับแผนการรักษาตามผลการประเมินอาการซึมเศร้า และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดูแลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- F32F10I-8: ติดตามผลการรักษาในระยะยาวเพื่อให้แน่ใจว่าแผนการรักษายังคงเหมาะสมกับอาการของผู้ป่วย
Response (การตอบสนองของผู้ป่วย)
F32F10R-1: ผู้ป่วยได้รับการประเมินอาการซึมเศร้าทุกครั้งที่มีการรักษาและบันทึกผลการประเมิน
- F32F10R-2: อาการของผู้ป่วยได้รับการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอและมีการปรับแผนการรักษาตามผลการประเมิน
- F32F10R-3: ผู้ป่วยสามารถเห็นพัฒนาการจากการประเมินและรับรู้ถึงการปรับแผนการรักษา
- F32F10R-4: ผู้ป่วยมีความเข้าใจและยินยอมในการรับการประเมินและการปรับแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง
1. เมื่อความเศร้าครอบงำใจ... การดูแลที่เข้าใจช่วยได้!
การดูแล
✅ ประเมินภาวะซึมเศร้า ด้วยแบบทดสอบมาตรฐาน พร้อมเฝ้าระวังสัญญาณอันตราย
✅ ฟังอย่างเข้าใจ ให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึก โดยไม่ตัดสิน
✅ กระตุ้นกิจกรรมสร้างพลังใจ เช่น ออกกำลังกายเบาๆ ฟังเพลง วาดรูป
✅ ดูแลสุขภาพกาย-ใจ สนับสนุนการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ
✅ ติดตามการใช้ยา ช่วยให้รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ และเฝ้าระวังผลข้างเคียง
✅ เสริมพลังใจจากครอบครัว ให้คนใกล้ชิดมีส่วนร่วมในการดูแล
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
💡 ความเศร้าน้อยลง จัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น
😊 สีหน้าและพฤติกรรมดีขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้น
🎯 กลับมาสนใจทำกิจกรรม และรู้สึกมีเป้าหมายในชีวิต
🍎 รับประทานอาหารและพักผ่อนได้ดีขึ้น
💊 รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ปลอดภัยจากผลข้างเคียง
💙 ภาวะซึมเศร้า...ไม่ต้องเผชิญเพียงลำพัง! การดูแลที่ถูกต้องช่วยให้ก้าวผ่านไปได้ 💙
………………………………………………..
2.หมดแรง เหนื่อยล้า... กู้คืนพลังใจได้!
การดูแล
✅ ประเมินอาการอ่อนล้า ติดตามระดับพลังงาน และหาปัจจัยที่กระตุ้นให้เหนื่อยล้า
✅ ฟื้นพลังด้วยกิจกรรมเบาๆ เช่น เดินเล่น ยืดเหยียด หรือออกกำลังกายเบาๆ
✅ ปรับสมดุลการพักผ่อน วางแผนกิจกรรมและจัดตารางพักผ่อนให้เหมาะสม
✅ บำรุงร่างกาย สนับสนุนให้รับประทานอาหารที่ให้พลังงานและดื่มน้ำเพียงพอ
✅ ลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้หมดแรง ลดคาเฟอีน น้ำตาล และเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา
✅ เสริมพลังใจ ส่งเสริมการพูดคุย แบ่งปันความรู้สึก และให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแล
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
💡 รู้สึกเหนื่อยน้อยลง มีพลังในการใช้ชีวิตมากขึ้น
😊 สีหน้าสดชื่นขึ้น กระตือรือร้นมากกว่าเดิม
🎯 ทำกิจกรรมประจำวันได้โดยไม่รู้สึกหมดแรง
🍎 รับประทานอาหารและดื่มน้ำเพียงพอ
💤 นอนหลับดีขึ้น ตื่นมาแล้วสดชื่น
💙 หมดแรง... ไม่ใช่จุดจบ! ฟื้นพลังใจ แล้วไปต่อด้วยกัน 💙
……………………………………………………………………
3.ชีวิตมีค่า... เราอยู่ข้างคุณเสมอ
การดูแล
🚨 เฝ้าระวังความเสี่ยง ประเมินระดับความคิดฆ่าตัวตาย และสังเกตสัญญาณเตือน
🔒 สร้างพื้นที่ปลอดภัย ดูแลใกล้ชิด เก็บสิ่งของอันตราย และจัดการสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย
🗣️ รับฟังอย่างเข้าใจ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยพูดถึงความรู้สึกโดยไม่ตัดสิน
🛠️ ฝึกทักษะรับมือ ใช้เทคนิค CBT และวางแผนจัดการความคิดด้านลบ
💙 เชื่อมโยงเครือข่ายช่วยเหลือ ประสานงานกับครอบครัว ทีมสุขภาพจิต และให้เบอร์สายด่วนช่วยเหลือ
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
💬 เปิดใจพูดถึงความรู้สึกและขอความช่วยเหลือได้
🚫 ไม่มีพฤติกรรมหรือแผนการทำร้ายตัวเอง
🌱 มีแรงจูงใจในการใช้ชีวิตและรู้สึกมีคุณค่า
🛠️ ใช้เทคนิคจัดการอารมณ์เมื่อรู้สึกหมดหวัง
👨👩👧👦 ครอบครัวมีส่วนร่วมและให้กำลังใจ
💙 คุณไม่ได้อยู่คนเดียว... มีกำลังใจรออยู่เสมอ 💙
……………………………………………………………..
4.ส่งเสริมการดูแลตนเอง เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
การดูแล
🩺 ประเมินสุขภาพ ตรวจสอบพฤติกรรมการดูแลตนเอง เช่น สุขอนามัยและโภชนาการ
🍽 ส่งเสริมโภชนาการ จัดอาหารที่เหมาะสมและกระตุ้นให้รับประทานให้เพียงพอ
🚿 สร้างกิจวัตรประจำวัน ช่วยผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น ล้างหน้า อาบน้ำ
💪 กระตุ้นแรงจูงใจ ใช้เทคนิคเสริมแรงทางบวก เช่น การให้คำชม
🤝 เชื่อมโยงเครือข่ายช่วยเหลือ สนับสนุนครอบครัวและประสานงานกับนักจิตวิทยา
✅ ดูแลสุขอนามัยและรับประทานอาหารได้ดีขึ้น
✨ สุขภาพร่างกายและจิตใจสดชื่นขึ้น
🏃♂️ มีพลังงานและแรงจูงใจในการทำกิจวัตรประจำวัน
👨👩👧👦 ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลและสนับสนุน
💙 คุณค่าของตัวเองเริ่มต้นจากการดูแลตนเอง 💙
……………………………………………………………….
5.รับมือกับความกังวล เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
การดูแล
🩺 ประเมินระดับความวิตกกังวล ด้วย GAD-7 และสังเกตอาการทางกายภาพ
🗣 ให้ข้อมูลที่ชัดเจน อธิบายแผนการรักษาและแนวทางฟื้นฟูอย่างเข้าใจง่าย
🧘 แนะนำเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก สมาธิ และการเขียนบันทึกความรู้สึก
🎶 ส่งเสริมกิจกรรมคลายเครียด เช่น ฟังเพลง ออกกำลังกายเบา ๆ และพูดคุยกับผู้ให้คำปรึกษา
🤝 สร้างเครือข่ายสนับสนุน ประสานกับครอบครัว นักจิตวิทยา และกลุ่มช่วยเหลือ
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
✅ รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับแผนการรักษา
🌙 นอนหลับพักผ่อนได้ดีขึ้น ลดอาการเครียด
🧘♂️ ใช้เทคนิคจัดการความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
👨👩👧👦 ครอบครัวให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
💙 การรับมือกับความวิตกกังวลเริ่มต้นจากความเข้าใจและการดูแลที่เหมาะสม 💙
…………………………………………………..
6. ซึมเศร้า...ช่วยได้ แค่เข้าใจและเข้าถึง!
การดูแล
✅ ติดตามอาการ – ประเมินระดับซึมเศร้าด้วย PHQ-9/GDS และเฝ้าระวังภาวะรุนแรง
💊 ดูแลการใช้ยา – ตรวจสอบผลข้างเคียง แนะนำวิธีรับมือ และให้ข้อมูลทางเลือกการรักษา
🗣️ สร้างพื้นที่ปลอดภัย – เปิดใจรับฟัง กระตุ้นให้ผู้ป่วยพูดถึงความรู้สึกโดยไม่ตัดสิน
🎨 ฟื้นฟูจิตใจ – ส่งเสริมกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ศิลปะ ดนตรี โยคะ เพื่อเพิ่มพลังบวก
👨👩👧👦 เสริมพลังครอบครัว – ให้ความรู้ สนับสนุนบทบาทของครอบครัวในการดูแล
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
✔️ อาการซึมเศร้าลดลง ให้ความร่วมมือกับการรักษา
✔️ ผู้ป่วยเริ่มทำกิจวัตรประจำวันได้มากขึ้น
✔️ สามารถจัดการอารมณ์และหาวิธีดูแลตนเอง
✔️ ครอบครัวมีส่วนร่วม สนับสนุนอย่างเหมาะสม
✔️ ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าและอยากใช้ชีวิตต่อไป
✨ "เข้าใจซึมเศร้า = ช่วยชีวิต" 💙
……………………………………………………...
7.ป้องกันซึมเศร้ากลับมา... ดูแลใจให้แข็งแรง!
การดูแล
✅ ติดตามอาการ – ประเมินซึมเศร้าด้วย PHQ-9 และสังเกตสัญญาณเตือน
💊 รักษาต่อเนื่อง – กระตุ้นให้ผู้ป่วยรับประทานยาและเข้ารับบำบัดตามแผน
🧘♂️ จัดการความเครียด – แนะนำสมาธิ ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมผ่อนคลาย
👨👩👧👦 สร้างเครือข่ายสนับสนุน – ส่งเสริมการเข้าสังคมและเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน
📖 บันทึกอารมณ์ – ให้ผู้ป่วยจดบันทึกความรู้สึกและแนวทางรับมือเมื่ออาการเริ่มกลับมา
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
✔️ ผู้ป่วยรู้จักวิธีรับมือกับอาการซึมเศร้าที่อาจเกิดขึ้น
✔️ มีวินัยในการรักษาและให้ความร่วมมือต่อเนื่อง
✔️ จัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น อารมณ์มั่นคงขึ้น
✔️ รู้สึกมั่นใจในการป้องกันซึมเศร้ากลับมา
✨ "ซึมเศร้ากลับมาไม่ได้ ถ้าใจเราพร้อม!" 💙
…………………………………………………………
8.รับมือความเครียดให้ดีขึ้น … ดูแลใจให้แข็งแรง!
การดูแล
💡 แนวทางการดูแล (Intervention) - 5 ข้อ กระชับ เข้าใจง่าย
🧘 ฝึกผ่อนคลาย – แนะนำการหายใจลึก สมาธิ และออกกำลังกายลดเครียด
📝 จัดการอารมณ์ – ฝึกเขียนบันทึกความรู้สึกและฝึกคิดเชิงบวก
🎯 สร้างเป้าหมาย – ช่วยตั้งเป้าหมายชีวิตเพื่อเสริมความมั่นใจ
💬 บำบัดทางใจ – แนะนำให้พบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตบำบัด (CBT)
👨👩👧👦 เสริมพลังใจ – สนับสนุนให้ครอบครัวและเพื่อนช่วยให้กำลังใจ
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
✔️ ผู้ป่วยใช้เทคนิคผ่อนคลายเมื่อต้องเจอสถานการณ์เครียด
✔️ จัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น รับมือกับปัญหาในชีวิตได้
✔️ รู้สึกเครียดน้อยลงและกลับมาทำกิจวัตรปกติ
✔️ มีทักษะจัดการความเครียดและปรับตัวต่อปัญหาได้ดีขึ้น
✨ "ความเครียดมีทางออก… เริ่มเปลี่ยนที่ใจเรา!" 💙
……………………………………..
9.ดูแลใจในระยะยาว … ก้าวข้ามภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง!
การดูแล
📊 ติดตามอาการต่อเนื่อง – ใช้ PHQ-9 หรือเครื่องมือประเมินอาการซึมเศร้า
💊 เน้นยากับบำบัด – ให้ความรู้เรื่องยา และสนับสนุนการเข้ารับจิตบำบัด (CBT)
🗣 เปิดใจ พูดคุย – กระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกกับผู้เชี่ยวชาญหรือกลุ่มสนับสนุน
🏃 ดูแลสุขภาพกายใจ – แนะนำการออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ และปรับพฤติกรรมการนอน
👨👩👧👦 เสริมพลังจากครอบครัว – สนับสนุนบทบาทของครอบครัวในกระบวนการรักษา
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
✔️ ผู้ป่วยรับการรักษาอย่างต่อเนื่องและไม่ปฏิเสธการดูแล
✔️ อาการซึมเศร้าลดลง และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น
✔️ จัดการกับความเครียดได้ดีขึ้นและมีความหวังต่ออนาคต
✔️ ให้ความร่วมมือในการรักษาและดูแลตนเองอย่างเหมาะสม
✨ "ซึมเศร้าเรื้อรังมีทางออก… ดูแลต่อเนื่อง ใจแข็งแรงขึ้นได้!" 💙
………………………………………………………..
10. เช็กให้ชัวร์… ติดตามอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง!
การดูแล
📊 ประเมินอาการสม่ำเสมอ – ใช้ PHQ-9 หรือเครื่องมือที่เหมาะสมตามแนวทางแพทย์
🔍 ติดตามทุกครั้งที่รักษา – ตรวจอาการก่อน-หลังการรักษา เพื่อปรับแผนให้เหมาะสม
📝 บันทึกและแจ้งผล – สื่อสารกับผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการและแนวทางรักษาต่อเนื่อง
👩⚕️ ทำงานร่วมกับทีมแพทย์ – อัปเดตผลการรักษาและปรับแผนดูแลร่วมกัน
📢 ให้ความรู้ความสำคัญของการติดตามอาการ – กระตุ้นให้ผู้ป่วยรับการประเมินสม่ำเสมอ
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
✔️ ผู้ป่วยได้รับการประเมินอาการอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
✔️ การรักษามีประสิทธิภาพขึ้นจากการติดตามผลและปรับแผนที่เหมาะสม
✔️ ผู้ป่วยรับรู้พัฒนาการของตนเองและมีส่วนร่วมในแผนการรักษา
✔️ มีความเข้าใจและให้ความร่วมมือในการติดตามอาการเพื่อป้องกันภาวะทรุด
✨ "ติดตามต่อเนื่อง … ป้องกันอาการแย่ลง เพิ่มโอกาสฟื้นตัว!" 💙
..................................................................................