Psych. Topic 6:
Cannabis Use Disorder- F12
🚨 รู้ทัน! ภาวะติดกัญชา (Cannabis
Use Disorder - F12) 🚨
💭 “กัญชา” ใช้ไปนานๆ
เสี่ยงติด! ไม่ใช่แค่เรื่องสนุก แต่ส่งผลต่อสมอง อารมณ์ และชีวิตประจำวัน
1.
พยาธิสภาพ
กัญชามีสาร THC ที่ออกฤทธิ์ต่อสมองโดยตรง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ถ้าใช้บ่อย สมองจะปรับตัวและต้องการมากขึ้น เกิดภาวะติด (Cannabis Use Disorder - F12) ซึ่งอาจทำให้มีอาการทางจิต เช่น หลอน หวาดระแวง สมาธิสั้น อารมณ์แปรปรวน 🌀
2.
ปัจจัยที่ทำให้ติดกัญชา
📌 ใช้บ่อยและใช้ต่อเนื่อง
– ยิ่งใช้มาก ยิ่งเสี่ยง
📌 เริ่มใช้ตั้งแต่อายุน้อย
– สมองยังพัฒนาไม่เต็มที่
📌 มีปัญหาทางอารมณ์หรือจิตใจ
– เช่น เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า
📌 สภาพแวดล้อมและเพื่อน
– ถ้าคนรอบข้างใช้ มีโอกาสสูงที่จะใช้ตาม
3.
การรักษา
🛑 หยุดใช้ ค่อยๆ ลด
ไม่เลิกกะทันหัน
👨⚕️ พบแพทย์หรือจิตแพทย์
เพื่อรับคำปรึกษา
💊 อาจได้รับยาช่วยบรรเทาอาการขาดยา
(เช่น นอนไม่หลับ หงุดหงิด)
🧠 ทำจิตบำบัด เพื่อปรับพฤติกรรมและควบคุมอารมณ์
4.
การพยาบาล
✅ ประเมินอาการทางร่างกายและจิตใจ
– เช่น อารมณ์แปรปรวน กระสับกระส่าย
✅ ให้คำปรึกษา – ลดความอยากและสร้างกำลังใจ
✅ แนะนำเทคนิคเลิกใช้
– เช่น การเบี่ยงเบนความสนใจ ฝึกสมาธิ
✅ ดูแลเรื่องโภชนาการและการนอน
– เพื่อฟื้นฟูสมองและร่างกาย
5.
การดูแลสำหรับบุคคลทั่วไป
🚫 หลีกเลี่ยงกัญชา โดยเฉพาะถ้ามีประวัติสุขภาพจิต
👂 พูดคุยและให้กำลังใจ
หากมีคนใกล้ตัวใช้
🏃♂️ หากิจกรรมทดแทน
เช่น ออกกำลังกาย เล่นดนตรี
📞 ขอความช่วยเหลือ จากผู้เชี่ยวชาญหากหยุดใช้เองไม่ได้
🌿 “กัญชา.. ใช้เพลิน อาจติดไม่รู้ตัว! 🌀สมองรวน
อารมณ์แปรปรวน หยุดก่อนสาย!” 🚨
😵💫 เสี่ยงติด!
หวาดระแวง ซึมเศร้า สมาธิสั้น
🛑 เลิกได้
ฟื้นตัวได้ แค่ขอความช่วยเหลือ
📌 แชร์ไว้เตือนตัวเองและคนที่คุณรัก!
💙
📞 ต้องการเลิก?
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้เลย!
#หยุดก่อนสาย #กัญชาใช้มากติดจริง #สุขภาพจิตสำคัญ #รู้ทันกัญชา #เลิกกัญชาเริ่มวันนี้ #แชร์ให้เพื่อนดู
....................................................................
วินิจฉัยการพยาบาลภาวะติดกัญชา (Cannabis Use
Disorder - F12)
- F12F1 มีภาวะซึมเศร้าและเสี่ยงทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น (Depressed mood with risk of self-harm or harm to others)
- F12F2 มีอาการถอนกัญชา เช่น หงุดหงิด นอนไม่หลับ กระวนกระวาย (Cannabis withdrawal symptoms: irritability, insomnia, restlessness)
- F12F3 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตเวช เช่น หวาดระแวง ประสาทหลอน (Risk of psychiatric complications: paranoia, hallucinations)
- F12F4 มีภาวะขาดสารอาหารและน้ำเนื่องจากพฤติกรรมการใช้สารเสพติด (Malnutrition and dehydration due to substance use behavior)
- F12F5 มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือพฤติกรรมไม่ปลอดภัยจากผลของกัญชา (Risk of accidents or unsafe behaviors due to cannabis effects)
- F12F6 มีความต้องการในการบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพจิต (Need for psychological therapy and rehabilitation)
- F12F7 ขาดแรงจูงใจในการเลิกใช้กัญชา และเสี่ยงต่อการกลับไปใช้ซ้ำ (Lack of motivation to quit and risk of relapse)
- F12F8 ขาดความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของกัญชาและแนวทางเลิกใช้ (Knowledge deficit regarding cannabis effects and cessation strategies)
- F12F9 มีความต้องการการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม (Need for family and social support for long-term recovery)
- F12F10 เสี่ยงต่อการกลับไปใช้สารเสพติดเมื่อกลับสู่สังคม (Risk of relapse upon reintegration into society)
................................................................................
F12F1 มีภาวะซึมเศร้าและเสี่ยงทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
(Depressed mood with risk of self-harm or harm to others)
Assessment (การประเมิน)
S:
- รู้สึกเศร้า เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร
- ไม่มีคุณค่าในตัวเอง คิดว่าไม่มีทางออก
- มีความคิดทำร้ายตัวเอง หรือผู้อื่น
O:
- สีหน้าเศร้า พูดน้อย ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
- มีบาดแผลที่ร่างกาย (หากมีการทำร้ายตัวเอง)
- คะแนนประเมินภาวะซึมเศร้าสูง (เช่น PHQ-9 ≥ 10)
- มีประวัติพยายามทำร้ายตัวเอง
Goals (เป้าหมาย)
- ลดภาวะซึมเศร้าและควบคุมความคิดทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
- ป้องกันการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
- ฟื้นฟูสุขภาพจิตและส่งเสริมแรงจูงใจในการเลิกใช้กัญชา
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมหรือความคิดทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
- คะแนน PHQ-9 ลดลง (< 10)
- มีการตอบสนองต่อการบำบัดทางจิตใจ
- อารมณ์ดีขึ้น พูดคุยกับผู้อื่นได้มากขึ้น
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F1I-1 เฝ้าระวังผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โดยจัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีสิ่งของที่ใช้ทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น
- F12F1I-2 ประเมินระดับความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นเป็นระยะ โดยใช้แบบประเมินมาตรฐาน (เช่น SAD PERSONS Scale, PHQ-9)
- F12F1I-3 ให้กำลังใจ รับฟังอย่างไม่ตัดสิน และกระตุ้นให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึก
- F12F1I-4 แจ้งแพทย์ทันทีหากพบว่าผู้ป่วยมีความคิดหรือพฤติกรรมเสี่ยงสูง
- F12F1I-5 ให้การบำบัดทางจิตใจ เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) หรือ การให้คำปรึกษาทางจิตเวช
- F12F1I-6 สนับสนุนให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด เช่น วาดภาพ ดนตรีบำบัด สมาธิบำบัด
- F12F1I-7 กระตุ้นให้ครอบครัวและคนใกล้ชิดมีส่วนร่วมในการดูแล ให้ความเข้าใจ และหลีกเลี่ยงการตำหนิ
- F12F1I-8 ติดตามและประเมินผลการรักษาทางจิตเวช พร้อมวางแผนดูแลต่อเนื่องเมื่อจำหน่าย
Response (การตอบสนอง)
- F12F1R-1 ผู้ป่วยไม่มีความคิดหรือพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
- F12F1R-2 ผู้ป่วยแสดงออกถึงความผ่อนคลายมากขึ้น และสามารถระบายความรู้สึกได้
- F12F1R-3 คะแนนประเมินภาวะซึมเศร้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
- F12F1R-4 ครอบครัวสามารถให้การสนับสนุนและดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม
............................................................................
F12F2 มีอาการถอนกัญชา เช่น หงุดหงิด นอนไม่หลับ กระวนกระวาย (Cannabis withdrawal symptoms: irritability, insomnia, restlessness)
Assessment (การประเมิน)
S:
- รู้สึกหงุดหงิดง่ายและควบคุมอารมณ์ได้ยาก
- นอนไม่หลับหรือหลับๆ ตื่นๆ
- กระวนกระวาย ไม่สามารถอยู่นิ่งได้
O:
- มีอาการกระสับกระส่าย มือไม้สั่น หรือแสดงออกถึงความหงุดหงิด
- พูดเร็วขึ้น แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวกว่าปกติ
- มีอาการอ่อนเพลียจากการนอนไม่พอ
- อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตอาจสูงขึ้น
Goals (เป้าหมาย)
- ลดอาการถอนกัญชาและช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
- ส่งเสริมให้ผู้ป่วยนอนหลับได้ตามปกติ
- ลดความกระวนกระวายและทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสงบ
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการถอนสาร เช่น วิตกกังวลรุนแรงหรือภาวะซึมเศร้า
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยมีอารมณ์สงบขึ้นและสามารถควบคุมตนเองได้
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้ ≥ 6 ชั่วโมงต่อคืน
- อาการกระวนกระวายลดลง และสามารถนั่งหรือนอนพักได้อย่างสบาย
- สัญญาณชีพกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F2I-1 ประเมินระดับความรุนแรงของอาการถอนกัญชาโดยใช้แบบประเมินมาตรฐาน เช่น Cannabis Withdrawal Scale (CWS)
- F12F2I-2 จัดสภาพแวดล้อมให้สงบ ลดสิ่งกระตุ้น เช่น เสียงดังหรือแสงจ้า เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย
- F12F2I-3 แนะนำเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ หรือการฟังดนตรีเบาๆ เพื่อช่วยลดความเครียดและกระวนกระวาย
- F12F2I-4 กระตุ้นให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมเบาๆ เช่น การเดินเล่น หรือยืดกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยลดอาการกระวนกระวาย
- F12F2I-5 ให้ของเหลวและอาหารที่มีประโยชน์เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและลดความไม่สบายตัว
- F12F2I-6 ประเมินและติดตามคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยทุกคืน พร้อมส่งเสริมการสร้างกิจวัตรก่อนนอนที่ช่วยให้หลับง่ายขึ้น
- F12F2I-7 ให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์ เช่น ยาคลายกังวลหรือยาช่วยให้นอนหลับ หากอาการถอนรุนแรง
- F12F2I-8 ให้การสนับสนุนทางอารมณ์ รับฟังปัญหา และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ป่วยสามารถผ่านพ้นช่วงถอนสารได้
Response (การตอบสนอง)
- F12F2R-1 ผู้ป่วยมีอารมณ์สงบลง หงุดหงิดลดลง และสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
- F12F2R-2 ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้อย่างต่อเนื่อง ≥ 6 ชั่วโมงต่อคืน
- F12F2R-3 อาการกระวนกระวายลดลง ผู้ป่วยสามารถอยู่นิ่งและผ่อนคลายได้มากขึ้น
- F12F2R-4 ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคการผ่อนคลายและจัดการกับความเครียดได้ด้วยตนเอง
..............................................................................
F12F3 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตเวช เช่น หวาดระแวง ประสาทหลอน (Risk of psychiatric complications: paranoia, hallucinations)
Assessment (การประเมิน)
S:
- รู้สึกหวาดระแวง คิดว่ามีคนจะทำร้าย
- ได้ยินเสียงหรือเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
- มีอาการวิตกกังวลมากผิดปกติ
O:
- แสดงพฤติกรรมป้องกันตัว เช่น มองไปรอบๆ ตลอดเวลา หรือแสดงอาการตื่นตระหนก
- พูดคุยกับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หรือมีพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
- มีสีหน้าหวาดกลัว หรือมีอารมณ์แปรปรวนอย่างรวดเร็ว
Goals (เป้าหมาย)
- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะจิตเวชรุนแรง เช่น โรคจิตจากกัญชา
- ให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัยและลดอาการหวาดระแวง
- ป้องกันการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นจากอาการประสาทหลอน
- ให้ผู้ป่วยสามารถรับรู้ความเป็นจริงได้ดีขึ้น
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถรับรู้ความเป็นจริงได้ดีขึ้น อาการหวาดระแวงลดลง
- ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
- มีสีหน้าและอารมณ์สงบขึ้น สามารถโต้ตอบได้อย่างเหมาะสม
- สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้โดยไม่มีความกังวลมากเกินไป
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F3I-1 ประเมินอาการทางจิตอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แบบประเมินอาการโรคจิตเช่น Brief Psychiatric Rating Scale (BPRS)
- F12F3I-2 จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย ลดสิ่งกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดอาการหวาดระแวง เช่น ลดแสงจ้าและเสียงรบกวน
- F12F3I-3 ให้การสื่อสารด้วยน้ำเสียงสงบ ชัดเจน และไม่ขัดแย้งกับความคิดของผู้ป่วยโดยตรง เพื่อลดความวิตกกังวล
- F12F3I-4 กระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงออกถึงความรู้สึกของตนเอง เพื่อช่วยระบายความเครียดและลดอาการหวาดระแวง
- F12F3I-5 ให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่ช่วยลดอาการวิตกกังวล เช่น การวาดภาพ ฟังเพลง หรือออกกำลังกายเบาๆ
- F12F3I-6 เฝ้าระวังอาการทางจิตเวชที่รุนแรงขึ้น เช่น อาการหวาดระแวงรุนแรงขึ้นหรือเริ่มมีความคิดฆ่าตัวตาย
- F12F3I-7 ให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์ เช่น ยาระงับอาการทางจิต หากมีอาการรุนแรง
- F12F3I-8 ประสานงานกับทีมสหสาขาวิชาชีพ เช่น จิตแพทย์และนักจิตวิทยา เพื่อวางแผนการดูแลระยะยาว
Response (การตอบสนอง)
- F12F3R-1 ผู้ป่วยมีอาการหวาดระแวงลดลง สามารถรับรู้ความเป็นจริงได้ดีขึ้น
- F12F3R-2 ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือทำร้ายตนเองและผู้อื่น
- F12F3R-3 ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความวิตกกังวลได้
- F12F3R-4 ผู้ป่วยสามารถพูดคุยกับบุคคลรอบข้างได้อย่างปกติและมีอารมณ์สงบขึ้น
......................................................................................
F12F4 มีภาวะขาดสารอาหารและน้ำเนื่องจากพฤติกรรมการใช้สารเสพติด (Malnutrition and dehydration due to
substance use behavior)
Assessment (การประเมิน)
S:
- รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง รับประทานอาหารและดื่มน้ำน้อยลง
- ไม่มีความอยากอาหาร น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
- ปากแห้ง วิงเวียนศีรษะ
O:
- ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ริมฝีปากแห้งแตก
- น้ำหนักตัวลดลงมากกว่า 5% ภายใน 1 เดือน
- ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบภาวะขาดสารอาหาร เช่น อัลบูมินต่ำ หรือภาวะขาดอิเล็กโทรไลต์
- ความดันโลหิตต่ำ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น
Goals (เป้าหมาย)
- ฟื้นฟูภาวะโภชนาการและภาวะสมดุลของน้ำในร่างกาย
- ให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารและน้ำในปริมาณที่เพียงพอ
- ลดภาวะอ่อนเพลียและเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการขาดสารอาหารและน้ำ
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือนิ่ง ไม่ลดลงมากกว่า 5% ภายใน 1 เดือน
- มีระดับอิเล็กโทรไลต์และสารอาหารในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ผิวหนังและเยื่อบุปากชุ่มชื้นขึ้น อาการอ่อนเพลียลดลง
- รับประทานอาหารและดื่มน้ำได้มากขึ้น
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F4I-1 ประเมินภาวะโภชนาการของผู้ป่วยโดยใช้เกณฑ์ BMI และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- F12F4I-2 ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษาเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำและอิเล็กโทรไลต์
- F12F4I-3 กระตุ้นให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและย่อยง่าย เช่น อาหารอ่อนที่มีโปรตีนสูง
- F12F4I-4 ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำอย่างเพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร เว้นแต่มีข้อจำกัดทางการแพทย์
- F12F4I-5 เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากการขาดสารอาหาร เช่น ภาวะโปรตีนต่ำและภาวะขาดวิตามิน
- F12F4I-6 สังเกตอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด วิงเวียน คลื่นไส้ หรืออาการขาดน้ำรุนแรง เช่น ชีพจรเบาเร็ว
- F12F4I-7 ประสานงานกับนักโภชนาการเพื่อจัดอาหารที่เหมาะสมสำหรับการฟื้นฟูโภชนาการของผู้ป่วย
- F12F4I-8 ให้คำแนะนำเรื่องการรับประทานอาหารและการดื่มน้ำที่ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะขาดสารอาหารในระยะยาว
Response (การตอบสนอง)
- F12F4R-1 น้ำหนักตัวของผู้ป่วยคงที่หรือเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด
- F12F4R-2 ผู้ป่วยไม่มีอาการอ่อนเพลียหรือวิงเวียนศีรษะจากภาวะขาดสารอาหาร
- F12F4R-3 อาการขาดน้ำลดลง ปากและผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น
- F12F4R-4 ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง
...........................................................................
F12F5 มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือพฤติกรรมไม่ปลอดภัยจากผลของกัญชา
(Risk of accidents or unsafe behaviors due to cannabis effects)
Assessment (การประเมิน)
S:
- มีอาการมึนงง สับสน เคลื่อนไหวช้า หรือการตอบสนองลดลง
- เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุจากการใช้กัญชา เช่น การขับขี่รถโดยประมาท
- มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ปีนป่ายที่สูง ใช้ของมีคมหรือเครื่องจักรขณะมึนเมา
O:
- การทรงตัวไม่ดี เดินเซหรือมีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ตอบสนองต่อสิ่งเร้าช้าลงหรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
- สังเกตพบวัตถุอันตรายรอบตัวผู้ป่วยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
Goals (เป้าหมาย)
- ลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและพฤติกรรมไม่ปลอดภัยของผู้ป่วย
- ให้ผู้ป่วยมีความตระหนักถึงผลกระทบของกัญชาต่อการควบคุมร่างกายและจิตใจ
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยไม่มีอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บระหว่างอยู่ในสถานพยาบาล
- ผู้ป่วยมีการรับรู้ที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงของพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัย
- ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยได้
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F5I-1 ประเมินระดับสติสัมปชัญญะและการรับรู้ของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- F12F5I-2 เฝ้าระวังและป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การหกล้ม การบาดเจ็บจากวัตถุอันตราย หรืออุบัติเหตุทางถนน
- F12F5I-3 จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น เก็บของมีคมและของหนักให้พ้นมือผู้ป่วย ปิดกั้นพื้นที่เสี่ยงต่อการพลัดตก
- F12F5I-4 ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอันตรายจากการใช้กัญชาก่อนทำกิจกรรมที่ต้องการการควบคุม เช่น การขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานกับเครื่องจักร
- F12F5I-5 กระตุ้นให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยง เช่น การดื่มสุราหรือใช้สารเสพติดร่วมกับกัญชา
- F12F5I-6 ให้การดูแลแบบใกล้ชิดในกรณีที่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยงรุนแรง
- F12F5I-7 ประสานงานกับญาติหรือผู้ดูแลในการกำกับดูแลผู้ป่วย เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน
- F12F5I-8 สอนเทคนิคการควบคุมตนเองและเพิ่มทักษะในการตัดสินใจที่เหมาะสมเพื่อป้องกันพฤติกรรมไม่ปลอดภัย
Response (การตอบสนอง)
- F12F5R-1 ผู้ป่วยไม่มีอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บขณะอยู่ในการดูแลของพยาบาล
- F12F5R-2 ผู้ป่วยสามารถตระหนักถึงความเสี่ยงและปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยได้
- F12F5R-3 พฤติกรรมเสี่ยงลดลง ไม่ขับขี่หรือทำงานกับเครื่องจักรหลังใช้กัญชา
- F12F5R-4 ญาติหรือผู้ดูแลสามารถให้การช่วยเหลือและป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างเหมาะสม
...............................................................................
F12F6 มีความต้องการในการบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพจิต
(Need for psychological therapy and rehabilitation)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยแสดงความต้องการหรือยินยอมเข้ารับการบำบัด
- ผู้ป่วยรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือมีอารมณ์เศร้าหลังจากหยุดใช้กัญชา
- มีปัญหาความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือสังคมจากการใช้กัญชา
O:
- ผู้ป่วยมีอารมณ์แปรปรวนหรือควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้
- แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว วิตกกังวล หรือมีภาวะซึมเศร้า
- ไม่สามารถจัดการกับความเครียดหรือแรงกดดันในชีวิตได้
- มีอาการถอนยา เช่น หงุดหงิด กระวนกระวาย หรือซึมเศร้า
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยได้รับการบำบัดและฟื้นฟูสภาพจิตใจอย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์และจัดการกับความเครียดได้
- ผู้ป่วยมีความสามารถในการปรับตัวและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม
- ลดโอกาสกลับไปใช้กัญชาอีกครั้ง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยเข้าร่วมโปรแกรมบำบัดจิตใจและการฟื้นฟูตามแผน
- ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอารมณ์และภาวะเครียดได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยมีแรงจูงใจในการเลิกใช้กัญชาและลดความเสี่ยงต่อการกลับไปใช้ซ้ำ
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการบำบัดของผู้ป่วย
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F6I-1 ประเมินภาวะสุขภาพจิตและระดับแรงจูงใจของผู้ป่วยในการเข้ารับการบำบัด
- F12F6I-2 ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการบำบัด ฟื้นฟูสุขภาพจิต และผลดีของการเข้ารับการรักษา
- F12F6I-3 สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้าร่วมการบำบัดทางจิต เช่น พฤติกรรมบำบัด (CBT) หรือการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา
- F12F6I-4 สอนเทคนิคการจัดการความเครียด เช่น การฝึกหายใจลึกๆ การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายเพื่อลดความวิตกกังวล
- F12F6I-5 สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มบำบัด เช่น กลุ่มสนับสนุนผู้เลิกใช้สารเสพติด (NA: Narcotics Anonymous)
- F12F6I-6 ประสานงานกับจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อประเมินและให้การรักษาต่อเนื่อง
- F12F6I-7 กระตุ้นให้ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีส่วนร่วมในการให้กำลังใจและสนับสนุนผู้ป่วย
- F12F6I-8 ติดตามผลการบำบัดและฟื้นฟูเป็นระยะ พร้อมปรับแผนการดูแลให้เหมาะสม
Response (การตอบสนอง)
- F12F6R-1 ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอารมณ์และความเครียดได้ดีขึ้น
- F12F6R-2 ผู้ป่วยเข้าร่วมการบำบัดและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง
- F12F6R-3 ผู้ป่วยมีแรงจูงใจในการเลิกใช้กัญชาและปรับตัวเข้าสู่สังคมได้ดีขึ้น
- F12F6R-4 ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการฟื้นฟูของผู้ป่วย
................................................................................
F12F7 ขาดแรงจูงใจในการเลิกใช้กัญชา
และเสี่ยงต่อการกลับไปใช้ซ้ำ (Lack of motivation to quit and risk of
relapse)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยแสดงท่าทีไม่สนใจหรือปฏิเสธความจำเป็นในการเลิกใช้กัญชา
- ผู้ป่วยมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการบำบัดหรือการรักษา
- ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกผิดหวังหรือความกังวลเกี่ยวกับการเลิกใช้กัญชา
O:
- ผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามแผนการรักษาหรือการบำบัดอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการกลับไปใช้กัญชา เช่น ติดต่อกลุ่มเพื่อนที่ใช้กัญชา
- ไม่มีแรงจูงใจในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์หรือสนับสนุนการเลิกใช้กัญชา
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยมีแรงจูงใจในการเลิกใช้กัญชาและทำตามแผนการรักษา
- ลดความเสี่ยงในการกลับไปใช้กัญชาอีกครั้ง
- ผู้ป่วยสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันได้
- ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในโปรแกรมบำบัดและการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยแสดงความสนใจและร่วมมือในการทำตามแผนการรักษา
- ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความเครียดและความกังวลได้ดีขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจได้ดีในการเลือกกิจกรรมที่ส่งเสริมการเลิกใช้กัญชา
- ผู้ป่วยมีการติดตามการบำบัดอย่างต่อเนื่องและลดพฤติกรรมเสี่ยง
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลสนับสนุนการรักษาอย่างเต็มที่
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F7I-1 สนับสนุนให้ผู้ป่วยพูดถึงความรู้สึกและประสบการณ์ในการเลิกใช้กัญชา เพื่อช่วยให้เข้าใจแรงจูงใจภายใน
- F12F7I-2 ใช้เทคนิคการเสริมสร้างแรงจูงใจ เช่น การสนับสนุนทางบวกและการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในการเลิกใช้กัญชา
- F12F7I-3 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในกลุ่มสนับสนุน เช่น กลุ่มบำบัดผู้เลิกใช้สารเสพติด หรือการให้คำปรึกษา
- F12F7I-4 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลดีของการเลิกใช้กัญชา และการปรับทัศนคติในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
- F12F7I-5 ช่วยตั้งเป้าหมายในการเลิกใช้กัญชาโดยการแบ่งออกเป็นขั้นตอนเล็กๆ และทำให้สามารถติดตามความสำเร็จได้
- F12F7I-6 สอนเทคนิคการจัดการกับความเครียดและการตัดสินใจเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจทำให้กลับไปใช้กัญชา
- F12F7I-7 กระตุ้นให้ผู้ป่วยมีแรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติด
- F12F7I-8 ประสานงานกับครอบครัวหรือผู้ดูแลในการสนับสนุนการรักษาและการบำบัดของผู้ป่วย
Response (การตอบสนอง)
- F12F7R-1 ผู้ป่วยเริ่มแสดงความสนใจและยินยอมเข้าร่วมในการบำบัดและการรักษา
- F12F7R-2 ผู้ป่วยสามารถกำหนดเป้าหมายในการเลิกใช้กัญชาได้ และทำตามแผนอย่างสม่ำเสมอ
- F12F7R-3 ผู้ป่วยสามารถจัดการกับแรงกดดันและความเครียดได้ดีขึ้นโดยไม่กลับไปใช้กัญชา
- F12F7R-4 ผู้ป่วยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ และลดการเสี่ยงต่อการกลับไปใช้กัญชาอีกครั้ง
........................................................................................
F12F8 ขาดความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของกัญชาและแนวทางเลิกใช้
(Knowledge deficit regarding cannabis effects and cessation strategies)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยไม่เข้าใจถึงผลกระทบของการใช้กัญชาในระยะยาว
- ผู้ป่วยไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลิกใช้กัญชา
- ผู้ป่วยแสดงความลังเลในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเลิกใช้กัญชา
O:
- ผู้ป่วยไม่สามารถอธิบายผลกระทบของกัญชาต่อร่างกายและจิตใจได้
- ผู้ป่วยไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลิกใช้กัญชา
- ไม่มีการวางแผนหรือการเตรียมตัวในการเลิกใช้กัญชา
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถเข้าใจผลกระทบของกัญชาต่อสุขภาพในระยะยาว
- ผู้ป่วยรู้จักวิธีการเลิกใช้กัญชาและสามารถนำไปปฏิบัติได้
- ผู้ป่วยแสดงความเต็มใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเลิกใช้กัญชาและผลดีของการเลิก
- ผู้ป่วยสามารถสร้างแผนการเลิกใช้กัญชาและเริ่มปฏิบัติได้จริง
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายผลกระทบของการใช้กัญชาต่อสุขภาพได้
- ผู้ป่วยมีความเข้าใจในการเลือกใช้วิธีการเลิกใช้กัญชาที่เหมาะสมกับตัวเอง
- ผู้ป่วยเริ่มมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโปรแกรมการบำบัดเพื่อเลิกใช้กัญชา
- ผู้ป่วยมีการติดตามผลการเลิกใช้กัญชาและสามารถแสดงความรู้ความเข้าใจในการรักษา
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลสนับสนุนและส่งเสริมการเลิกใช้กัญชา
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F8I-1 อธิบายผลกระทบของการใช้กัญชาต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจให้ผู้ป่วยเข้าใจ
- F12F8I-2 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลิกใช้กัญชา เช่น เทคนิคการเสริมสร้างแรงจูงใจและการบำบัด
- F12F8I-3 ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มสนับสนุนและโปรแกรมบำบัดการเลิกใช้กัญชา
- F12F8I-4 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายในการเลิกใช้กัญชาและสร้างแผนการเลิกที่เหมาะสม
- F12F8I-5 ใช้เทคนิคการเสริมสร้างแรงจูงใจ เช่น การกระตุ้นให้ผู้ป่วยเห็นผลดีของการเลิกใช้กัญชา
- F12F8I-6 สอนทักษะการจัดการกับความเครียดและสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการกลับไปใช้กัญชา
- F12F8I-7 กระตุ้นให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้ที่เคยเลิกใช้กัญชา
- F12F8I-8 กระตุ้นให้ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีบทบาทในการสนับสนุนและช่วยเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของกัญชา
Response (การตอบสนอง)
- F12F8R-1 ผู้ป่วยสามารถอธิบายผลกระทบของกัญชาต่อสุขภาพได้อย่างชัดเจน
- F12F8R-2 ผู้ป่วยสามารถสร้างแผนการเลิกใช้กัญชาและเริ่มปฏิบัติตามแผนได้
- F12F8R-3 ผู้ป่วยแสดงความเต็มใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเลิกใช้กัญชาและมีความรู้ในการจัดการกับความเครียด
- F12F8R-4 ผู้ป่วยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมหรือโปรแกรมการบำบัดเพื่อการเลิกใช้กัญชาได้อย่างสม่ำเสมอ
.........................................................................
F12F9 ความต้องการการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม
(Need for family and social support for long-term recovery)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยแสดงความต้องการการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมในการฟื้นฟู
- ผู้ป่วยอาจรู้สึกโดดเดี่ยวหรือขาดแรงสนับสนุนจากคนใกล้ชิด
- ผู้ป่วยไม่เคยมีประสบการณ์ในการขอรับการช่วยเหลือจากครอบครัวหรือสังคม
O:
- ผู้ป่วยไม่มีสมาชิกในครอบครัวที่สามารถให้การสนับสนุนในกระบวนการฟื้นฟู
- ผู้ป่วยไม่ค่อยแสดงออกหรือขอการสนับสนุนจากคนรอบข้าง
- ผู้ป่วยอาจไม่มีความรู้เกี่ยวกับแหล่งช่วยเหลือในชุมชนหรือกลุ่มสนับสนุน
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถระบุแหล่งการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมได้
- ผู้ป่วยมีการติดต่อและสร้างเครือข่ายการสนับสนุนในระยะยาว
- ผู้ป่วยรับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนในกระบวนการฟื้นฟู
- ผู้ป่วยสามารถเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือการบำบัดที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงในการฟื้นฟู
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยแสดงการติดต่อกับครอบครัวหรือสมาชิกในชุมชนเพื่อขอการสนับสนุน
- ผู้ป่วยมีการเข้าร่วมกิจกรรมหรือกลุ่มสนับสนุนการฟื้นฟูในระดับที่เหมาะสม
- ครอบครัวหรือผู้ดูแลแสดงความสนใจและมีบทบาทในการสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟู
- ผู้ป่วยแสดงทักษะในการขอรับการสนับสนุนจากคนรอบข้างและการเข้าร่วมกิจกรรม
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F9I-1 แนะนำให้ผู้ป่วยระบุและสร้างแหล่งการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน
- F12F9I-2 กระตุ้นให้ผู้ป่วยติดต่อกับสมาชิกในครอบครัวที่พร้อมให้การสนับสนุน
- F12F9I-3 แนะนำกลุ่มสนับสนุนที่มีผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการเลิกใช้กัญชา
- F12F9I-4 ช่วยเหลือผู้ป่วยในการติดต่อกับองค์กรสังคมและกลุ่มช่วยเหลือในชุมชน
- F12F9I-5 ส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ป่วยและครอบครัวเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟู
- F12F9I-6 จัดให้มีการประชุมหรือการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยกับครอบครัวเพื่อสร้างความเข้าใจและสนับสนุนกัน
- F12F9I-7 จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
- F12F9I-8 ติดตามความคืบหน้าในการสนับสนุนจากครอบครัวและเครือข่ายสังคมเพื่อช่วยในการฟื้นฟู
Response (การตอบสนอง)
- F12F9R-1 ผู้ป่วยสามารถระบุแหล่งการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมได้
- F12F9R-2 ผู้ป่วยเริ่มแสดงความเต็มใจในการขอรับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน
- F12F9R-3 ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มหรือกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างการฟื้นฟูในระยะยาว
- F12F9R-4 ครอบครัวหรือผู้ดูแลมีบทบาทในการสนับสนุนการฟื้นฟูของผู้ป่วย
- F12F9R-5 ผู้ป่วยสามารถพัฒนาทักษะในการสร้างเครือข่ายการสนับสนุนในระยะยาวได้
............................................................................
F12F10 เสี่ยงต่อการกลับไปใช้สารเสพติดเมื่อกลับสู่สังคม
(Risk of relapse upon reintegration into society)
Assessment (การประเมิน)
S:
- ผู้ป่วยกังวลเกี่ยวกับการกลับไปใช้สารเสพติดหลังออกจากการรักษา
- ผู้ป่วยมีความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันจากสังคมและสิ่งแวดล้อมที่อาจกระตุ้นให้กลับไปใช้กัญชา
- ผู้ป่วยยังคงมีความสัมพันธ์กับบุคคลหรือสถานการณ์ที่มีการใช้สารเสพติด
- ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าไม่มีทางเลือกอื่นในการจัดการกับความเครียดหรือปัญหาชีวิต
O:
- ผู้ป่วยแสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดหลังกลับสู่สังคม
- ผู้ป่วยยังไม่สามารถสร้างกลยุทธ์ในการป้องกันการกลับไปใช้สารเสพติดในสังคมภายนอก
- สังคมและสิ่งแวดล้อมอาจมีการกระตุ้นให้ผู้ป่วยกลับไปใช้สารเสพติด
Goals (เป้าหมาย)
- ผู้ป่วยสามารถระบุสัญญาณเตือนของการกลับไปใช้สารเสพติดและเรียนรู้วิธีป้องกัน
- ผู้ป่วยสามารถสร้างกลยุทธ์ในการป้องกันการกลับไปใช้สารเสพติดเมื่อกลับสู่สังคม
- ผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวหรือกลุ่มสังคมในการรักษาความสะอาดจากสารเสพติด
- ผู้ป่วยมีทักษะในการจัดการกับสถานการณ์ที่อาจกระตุ้นให้กลับไปใช้สารเสพติด
- ผู้ป่วยสามารถเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนและบำบัดเพื่อเสริมสร้างการฟื้นฟูในระยะยาว
Evaluate Criteria (เกณฑ์การประเมิน)
- ผู้ป่วยสามารถอธิบายกลยุทธ์ในการหลีกเลี่ยงการกลับไปใช้สารเสพติดในสถานการณ์ต่างๆ
- ผู้ป่วยแสดงความพร้อมในการยึดติดกับแผนการฟื้นฟูระยะยาวและมีทักษะในการรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทาย
- ผู้ป่วยมีการติดตามหรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือการบำบัดอย่างต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยสามารถรับรู้สัญญาณเตือนการกลับไปใช้สารเสพติดและรายงานสภาพจิตใจอย่างตรงไปตรงมา
Intervention (การปฏิบัติการพยาบาล)
- F12F10I-1: สอนและสนับสนุนผู้ป่วยให้ระบุสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมที่อาจกระตุ้นให้กลับไปใช้สารเสพติด
- F12F10I-2: ช่วยผู้ป่วยวางแผนและพัฒนากลยุทธ์ในการหลีกเลี่ยงการกลับไปใช้สารเสพติดเมื่อกลับสู่สังคม
- F12F10I-3: แนะนำให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือโปรแกรมบำบัดเพื่อการฟื้นฟูระยะยาว
- F12F10I-4: ให้การสนับสนุนทางจิตใจในการจัดการกับแรงกดดันจากสังคมและปัญหาชีวิต
- F12F10I-5: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยสร้างเครือข่ายการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสารเสพติด
- F12F10I-6: จัดการเรียนรู้ทักษะการจัดการความเครียดและอารมณ์ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
- F12F10I-7: กระตุ้นให้ผู้ป่วยติดตามผลและทบทวนแผนการฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ
- F12F10I-8: สอนทักษะในการรับมือกับความกดดันจากสังคมและสัญญาณกระตุ้นต่างๆ
Response (การตอบสนอง)
- F12F10R-1: ผู้ป่วยสามารถระบุสัญญาณเตือนการกลับไปใช้สารเสพติดได้
- F12F10R-2: ผู้ป่วยเริ่มใช้กลยุทธ์ในการหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดในสังคม
- F12F10R-3: ผู้ป่วยมีการเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือโปรแกรมบำบัดอย่างต่อเนื่อง
- F12F10R-4: ผู้ป่วยสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่กระตุ้นให้กลับไปใช้สารเสพติดได้
- F12F10R-5: ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจในการฟื้นฟูและไม่กลับไปใช้สารเสพติดในระยะยาว
.................................................................................