พยาธิสภาพของโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin), นอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine), และโดปามีน (Dopamine) ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมองในส่วนที่ควบคุมอารมณ์ ความจำ และการตัดสินใจ ความเครียดเรื้อรัง พันธุกรรม และปัจจัยทางจิตวิทยา เช่น การสูญเสียหรือความขัดแย้งในชีวิต อาจกระตุ้นให้เกิดโรคนี้ ผู้ป่วยมักมีอาการเศร้า หดหู่ หมดพลังงาน และสูญเสียความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ อาการอาจรุนแรงจนกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
การรักษาโรคซึมเศร้า
การรักษาโรคซึมเศร้าประกอบด้วย การใช้ยา เพื่อลดอาการเศร้าและปรับสมดุลสารเคมีในสมอง จิตบำบัด เช่น การพูดคุยปรับความคิดและพฤติกรรม การดูแลตนเอง เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ การสนับสนุนจากครอบครัว โดยให้กำลังใจและรับฟังอย่างเข้าใจ หากอาการรุนแรง เช่น มีความคิดฆ่าตัวตาย ควรรีบพบแพทย์หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323
การพยาบาลโรคซึมเศร้า
การพยาบาลโรคซึมเศร้าควรให้การดูแลแบบองค์รวม โดย เฝ้าระวังอาการซึมเศร้าและความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง สนับสนุนให้ผู้ป่วยรับประทานยาและเข้ารับการบำบัดตามแผนการรักษา ให้กำลังใจ รับฟังอย่างเข้าใจ ส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย และสนับสนุนครอบครัวในการดูแลผู้ป่วย หากพบอาการรุนแรง ควรรีบแจ้งแพทย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที Nursing
diagnosis
1. F32F1:
มีภาวะซึมเศร้า (Depressed mood)
2. F32F2: ขาดพลังใจหรือความเหนื่อยล้า (Low energy))
3. F32F3:
เสี่ยงต่อความคิดฆ่าตัวตาย (Risk of self-harm
or suicidal ideation)
4. F32F4: เสี่ยงต่อการไม่สามารถดูแลตนเอง (Risk for impaired
self-care)
5. F32F5: เจ็บป่วยทางจิตที่เรื้อรัง (Chronic mental
health risk)
6. F32F6: สูญเสียความรู้สึกสนุกสนาน (Ineffective coping)
7. F32F7: เสี่ยงต่อเกิดซึมเศร้าในอนาคต (Risk for
recurrence of depression)
9. F32F9: ภาวะซึมเศร้าที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาก่อนหน้า (Ineffective
treatment response)
10. F32F10: เสี่ยงต่อการกลับมาซึมเศร้า (Risk for relapse)
11. F32F11: ขาดการประเมินอาการต่อเนื่อง (Failure to assess
ongoing symptoms)
12. F32F12: ส่งเสริมทักษะจัดการกับความเครียดและอารมณ์ (Promote stress and
emotional management skills)
(ตัวเลข F1, I-1, R-1 เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดขึ้นเพื่อให้การจัดลำดับวินิจฉัยการพยาบาลเป็นไปอย่างมีระบบ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)
.........................................................................................................................
F32F1 : มีภาวะซึมเศร้า (Depressed mood)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่า "รู้สึกเศร้า หมดกำลังใจ ไม่มีความสุขในชีวิต"
และมีความรู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตไม่มีความหมาย
O: ผู้ป่วยมีการแสดงออกของอารมณ์ซึมเศร้า เช่น การพูดหรือทำหน้าท่าทางที่เศร้า
ตอบคำถามด้วยเสียงเบา หรือหลีกเลี่ยงการสนทนา และพฤติกรรมช้าลง
Goals
·
ผู้ป่วยจะรายงานความรู้สึกเศร้าลดลงในช่วงเวลา
2 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ด้วยความสะดวกและเพิ่มความสนใจในการทำกิจกรรมที่เคยชื่นชอบ
·
ผู้ป่วยจะพัฒนาความสามารถในการมองโลกในแง่ดีและมีความหวังในอนาคตภายใน
4 สัปดาห์
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถบอกได้ว่าอารมณ์เศร้าลดลงและมีความรู้สึกดีขึ้น
·
ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
เช่น การทำงานหรือพบปะสังคม
·
ผู้ป่วยสามารถแสดงถึงความหวังและความเชื่อมั่นในอนาคต
Intervention
· F32F1I-1 ใช้เทคนิคการให้คำปรึกษาและฟังอย่างใส่ใจเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถระบายความรู้สึกและค้นหาวิธีในการรับมือกับอารมณ์เศร้า
·
F32F1I-2 ส่งเสริมการใช้กิจกรรมทางกายที่ช่วยเพิ่มสารเคมีในสมอง
เช่น การออกกำลังกาย เพื่อปรับปรุงอารมณ์
·
F32F1I-3 แนะนำให้ผู้ป่วยพยายามทำกิจกรรมที่เคยชื่นชอบหรือทำกิจกรรมที่สามารถทำได้แม้จะรู้สึกเศร้า
เช่น การฟังเพลง อ่านหนังสือ
·
F32F1I-4 ใช้เทคนิค Cognitive
Behavioral Therapy (CBT) เพื่อช่วยผู้ป่วยในการปรับเปลี่ยนความคิดลบและเสริมสร้างทัศนคติที่ดี
Response
· F32F1R-1 ผู้ป่วยรายงานว่าอารมณ์เศร้าลดลงและรู้สึกมีความหวังในชีวิตมากขึ้น
·
F32F1R-2 ผู้ป่วยกลับมาทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
เช่น การทำงาน หรือการดูแลตนเอง
·
F32F1R-3 ผู้ป่วยสามารถบอกได้ว่ามีทัศนคติที่ดีขึ้นและรู้สึกมีแรงจูงใจในการดำเนินชีวิต
......................................................................
F32F2 ขาดพลังใจ หรือความเหนื่อยล้า (Low
energy)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่า "รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา ไม่มีพลังงานที่จะทำกิจกรรมใดๆ"
และบอกว่า "แม้แต่การทำกิจวัตรประจำวันก็รู้สึกเหนื่อย"
O: ผู้ป่วยแสดงท่าทางช้าๆ เดินช้า มีการตอบสนองช้าในระหว่างการสนทนา
การทำกิจกรรมต่างๆ ต้องใช้ความพยายามมากขึ้น
Goals
·
ผู้ป่วยจะมีระดับพลังงานที่สูงขึ้นและสามารถทำกิจกรรมที่เคยทำได้ภายใน
2 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะรายงานว่าอาการเหนื่อยล้าลดลงและสามารถทำกิจกรรมพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้ภายใน
4 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะมีความสามารถในการจัดการกับอาการเหนื่อยล้าได้ดีขึ้น
และมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
เช่น การทำงาน, ทานอาหาร, และการออกกำลังกาย
·
ผู้ป่วยรายงานว่ามีพลังงานมากขึ้นและสามารถทำกิจกรรมต่างๆ
ได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป
·
ผู้ป่วยสามารถแสดงการมีพลังในการใช้ชีวิตและรู้สึกสนุกกับกิจกรรมที่ทำ
Intervention
·
F32F2I-1 แนะนำให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่ไม่หนักเกินไป
เช่น การเดินเล่นในที่โล่งแจ้ง การออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยกระตุ้นพลังงาน
·
F32F2I-2 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอและนอนหลับเต็มที่เพื่อฟื้นฟูพลังงาน
·
F32F2I-3 ใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรม
เช่น การตั้งเป้าหมายเล็กๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมได้
·
F32F2I-4 สนับสนุนการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล
เพื่อช่วยให้ร่างกายมีพลังงานและฟื้นฟู
Response
·
F32F2R-1 ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกมีพลังงานมากขึ้นและสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป
·
F32F2R-2 ผู้ป่วยเริ่มมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมที่เคยชื่นชอบและเริ่มทำกิจกรรมเบาๆ
ที่ช่วยเพิ่มพลังงาน
·
F32F2R-3 ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้ดีขึ้นและตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น
………………………………………………
F32F3 เสี่ยงต่อความคิดฆ่าตัวตาย (Risk of
self-harm or suicidal ideation))
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่า "มีความคิดอยากตาย" และ
"รู้สึกไม่มีความหมายในชีวิต" บางครั้งรู้สึกว่าชีวิตไม่คุ้มค่าที่จะมีอยู่
O: ผู้ป่วยดูซึมเศร้า น้ำเสียงเบาและไม่แสดงความสนใจในกิจกรรมต่างๆ
มีอารมณ์เศร้าและแสดงอาการท้อแท้ต่อการรักษา
Goals
·
ผู้ป่วยจะรายงานความคิดฆ่าตัวตายลดลงภายใน
1 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะสามารถระบุและแสดงออกถึงวิธีการรับมือกับความคิดฆ่าตัวตายได้ภายใน
2 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะมีความคิดในแง่บวกเกี่ยวกับอนาคตมากขึ้นภายใน
4 สัปดาห์
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยรายงานว่าความคิดฆ่าตัวตายลดลงและไม่มีความคิดที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง
·
ผู้ป่วยสามารถระบุวิธีการรับมือกับความคิดฆ่าตัวตาย
เช่น การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญหรือการใช้วิธีผ่อนคลาย
·
ผู้ป่วยมีการปรับทัศนคติในชีวิตและแสดงท่าทางบวกขึ้น
เช่น การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม
Intervention
·
F32F3I-1 การประเมินความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายอย่างสม่ำเสมอ
เช่น การถามเกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายและการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่อาจเสี่ยง
·
F32F3I-2 สนับสนุนให้ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกและพูดคุยเกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายอย่างเปิดเผย
·
F32F3I-3 แนะนำให้ผู้ป่วยเข้าร่วมการบำบัดทางจิตเวช
เช่น การบำบัดพฤติกรรมทางปัญหาหรือการสนทนากับจิตแพทย์
·
F32F3I-4 ให้การศึกษาที่เกี่ยวกับการรับมือกับความเครียดและวิธีการลดความวิตกกังวล
เช่น การฝึกการหายใจลึกๆ หรือการฝึกสมาธิ
·
F32F3I-5 สร้างเครือข่ายการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนเพื่อให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
Response
·
F32F3R-1 ผู้ป่วยรายงานว่าความคิดฆ่าตัวตายลดลงและไม่มีแผนที่จะทำร้ายตัวเอง
·
F32F3R-2 ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีรับมือกับความเครียดหรือความคิดเชิงลบที่มีและเริ่มมีท่าทางบวกขึ้น
·
F32F3R-3 ผู้ป่วยมีการพูดคุยกับทีมสุขภาพจิตหรือครอบครัวเมื่อเกิดความรู้สึกท้อแท้
หรือมีความคิดฆ่าตัวตาย
………………………………………
F32F4 เสี่ยงต่อการไม่สามารถดูแลตนเอง (Risk for
impaired self-care)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานรู้สึกหมดกำลังใจในการทำกิจวัตรประจำวัน
เช่น การทำความสะอาดตัวเอง หรือการรับประทานอาหาร
O: พบผู้ป่วยมีอาการซึมเศร้า ร่างกายซูบผอม และมีกิจวัตรประจำวันลดลง
เช่น ไม่สามารถทำความสะอาดตัวเอง หรือทานอาหารได้ตามปกติ
Goals
·
ผู้ป่วยจะสามารถดูแลตนเองในกิจวัตรประจำวัน
เช่น การทำความสะอาดตัวเองและการรับประทานอาหารได้ภายใน 1 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะมีระดับพลังงานที่ดีขึ้นและสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ด้วยตนเองภายใน
2 สัปดาห์
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการดูแลตนเองได้
·
ผู้ป่วยสามารถทำความสะอาดตัวเองและรับประทานอาหารโดยไม่มีความช่วยเหลือจากบุคลากร
·
ผู้ป่วยเริ่มแสดงความสนใจในการทำกิจกรรมประจำวันมากขึ้น
Intervention
·
F32F4I-1 ให้การสนับสนุนในการทำกิจกรรมประจำวัน
โดยเริ่มจากกิจกรรมง่ายๆ เช่น การช่วยผู้ป่วยทำความสะอาดตัวเอง
·
F32F4I-2 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและให้ความช่วยเหลือหากจำเป็น
·
F32F4I-3 ให้การประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันและปรับแผนการพยาบาลตามความต้องการ
·
F32F4I-4 จัดให้มีเวลาพักผ่อนที่เหมาะสมเพื่อฟื้นฟูพลังงาน
Response
·
F32F4R-1 ผู้ป่วยเริ่มมีความสนใจในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการดูแลตนเองมากขึ้น
และสามารถทำความสะอาดตัวเองและรับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
·
F32F4R-2 ผู้ป่วยแสดงท่าทีผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากได้รับการสนับสนุนในการดูแลตนเอง
…………………………………………
F32F5 เจ็บป่วยทางจิตที่เรื้อรัง (Chronic mental health risk)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานรู้สึกซึมเศร้าเรื้อรังและมีประวัติการกลับมาเป็นซึมเศร้าหลายครั้งในอดีต
O: พบอาการซึมเศร้ารุนแรงต่อเนื่อง มีการพูดหรือการแสดงออกถึงความรู้สึกหมดกำลังใจในระยะยาว
การแสดงท่าทางและความคิดที่มีแนวโน้มในการลดลงในแง่ของพลังชีวิต
Goals
·
ผู้ป่วยจะสามารถรับรู้และจัดการกับอาการซึมเศร้าได้อย่างเหมาะสม
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกำเริบในอนาคต
·
ผู้ป่วยจะสามารถแสดงท่าทางที่เป็นบวกและมีความหวังในอนาคตภายใน
2 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะเข้าใจเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าและวิธีการป้องกันการกำเริบ
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถอธิบายความเสี่ยงจากภาวะซึมเศร้าและวิธีการจัดการกับมันได้
·
ผู้ป่วยสามารถแสดงอาการที่เป็นบวกหรือสนใจในกิจกรรมในชีวิตประจำวันมากขึ้น
·
ผู้ป่วยมีท่าทีในเชิงบวกและเริ่มแสดงความหวังเกี่ยวกับอนาคต
Intervention
·
F32F5I-1 จัดให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม
ทั้งทางการแพทย์และจิตวิทยา เช่น การใช้ยารักษาซึมเศร้า หรือการบำบัดทางจิต
·
F32F5I-2 ให้การสนับสนุนในเรื่องของการป้องกันการกำเริบและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความสุข
·
F32F5I-3 จัดให้ผู้ป่วยมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
เพื่อประเมินอาการซึมเศร้าและทำการปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม
·
F32F5I-4 ให้คำแนะนำและฝึกทักษะการจัดการความเครียดและอารมณ์อย่างมีประสิทธิภาพ
Response
·
F32F5R-1 ผู้ป่วยเริ่มรับรู้และเข้าใจในอาการซึมเศร้าและมีการใช้ทักษะการจัดการอารมณ์
·
F32F5R-2 ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่มีความหวังและสามารถร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีความสุขได้
·
F32F5R-3 ผู้ป่วยสามารถรับมือกับภาวะซึมเศร้าได้ดีขึ้นและมีการป้องกันการกำเริบในอนาคต
………………………………………………
F32F6 สูญเสียความรู้สึกสนุกสนาน (Ineffective
coping)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานรู้สึกว่าไม่สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมหรือสิ่งที่เคยชอบทำ
เช่น การอ่านหนังสือ, การออกกำลังกาย หรือการพบปะกับเพื่อน
O: พบผู้ป่วยมีท่าทางซึมเศร้า ไม่มีความสนใจในกิจกรรมหรือสิ่งแวดล้อมที่เคยชอบ
และแสดงความรู้สึกหมดกำลังใจในการทำกิจกรรมต่างๆ
Goals
·
ผู้ป่วยจะสามารถระบุและกลับมาทำกิจกรรมที่เคยสนุกได้ภายใน
1 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะสามารถแสดงความสนใจในกิจกรรมที่มีความสุขหรือเพลิดเพลินได้ภายใน
2 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะมีความสามารถในการรับมือกับความเครียดและอารมณ์ได้ดีขึ้น
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถบอกได้ว่าเคยสนุกกับกิจกรรมอะไรบ้าง
·
ผู้ป่วยเริ่มกลับมาทำกิจกรรมที่เคยสนุกหรือแสดงความสนใจในกิจกรรมใหม่
·
ผู้ป่วยมีความสามารถในการระบุและใช้กลไกในการรับมือกับความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ
Intervention
·
F32F6I-1 สนับสนุนให้ผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมที่เคยชอบ
เช่น การอ่านหนังสือ การออกกำลังกาย หรือการทำงานอดิเรกที่มีความสุข
·
F32F6I-2 ส่งเสริมการใช้กลไกการรับมือกับความเครียด
เช่น การฝึกหายใจลึก การทำสมาธิ หรือการบำบัดด้วยการพูดคุย (Cognitive
Behavioral Therapy - CBT)
·
F32F6I-3 แนะนำให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายเล็กๆ
ในการทำกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้สึกสำเร็จ
·
F32F6I-4 กระตุ้นให้ผู้ป่วยสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุน
Response
·
F32F6R-1 ผู้ป่วยเริ่มกลับมาทำกิจกรรมที่เคยสนุก เช่น การพูดคุยกับเพื่อนหรือออกกำลังกาย
·
F32F6R-2 ผู้ป่วยมีการแสดงออกถึงความสนุกและมีท่าทางที่ดีขึ้นในการทำกิจกรรม
·
F32F6R-3 ผู้ป่วยแสดงความสามารถในการจัดการกับความเครียดและแสดงท่าทางที่มีความหวัง
……………………………………………
F32F7 เสี่ยงต่อเกิดซึมเศร้าในอนาคต (Risk for
recurrence of depression)
Assessment
S: ผู้ป่วยมีประวัติซึมเศร้าในอดีตและรายงานว่าเมื่อมีความเครียดหรือปัญหาชีวิต
จะรู้สึกเหมือนกับอาการซึมเศร้าเริ่มกลับมาอีกครั้ง
O: พบว่าอาการซึมเศร้าเริ่มดีขึ้น แต่ยังมีการพูดถึงเหตุการณ์ที่อาจกระตุ้นให้เกิดความเครียดหรือซึมเศร้าในอนาคต
เช่น ปัญหาทางการเงิน, ความสัมพันธ์ หรือการงาน
Goals
·
ผู้ป่วยจะสามารถระบุปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดซึมเศร้าในอนาคตได้ภายใน
1 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะสามารถใช้กลไกการรับมือกับความเครียดและอารมณ์เพื่อป้องกันการกลับมาของซึมเศร้าได้ภายใน
2 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกำเริบของอาการ
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถบอกได้ถึงปัจจัยที่อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าในอนาคต
·
ผู้ป่วยสามารถแสดงการใช้ทักษะในการรับมือกับปัญหาที่อาจกระตุ้นอาการซึมเศร้า
·
ผู้ป่วยมีการปฏิบัติตามแผนการรักษาต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเกิดซึมเศร้า
Intervention
·
F32F7I-1 ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการระบุและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจกระตุ้นอาการซึมเศร้า
เช่น ความเครียดจากการทำงานหรือความสัมพันธ์
·
F32F7I-2 สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องทั้งทางการแพทย์และจิตวิทยา
รวมถึงการใช้ยาและการบำบัด
·
F32F7I-3 สอนทักษะการจัดการความเครียดและอารมณ์ที่เหมาะสม
เช่น การทำสมาธิ, การฝึกหายใจลึก, และการบำบัดด้วยความคิด
·
F32F7I-4 กระตุ้นให้ผู้ป่วยรักษากิจวัตรประจำวันที่มีความหมายและเพิ่มกิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
Response
·
F32F7R-1 ผู้ป่วยสามารถรับมือกับปัญหาหรือปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เกิดซึมเศร้าในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
·
F32F7R-2 ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกมั่นคงมากขึ้นและลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการกลับมาของอาการซึมเศร้า
·
F32F7R-3 ผู้ป่วยมีการติดตามแผนการรักษาอย่างต่อเนื่องและแสดงความกระตือรือร้นในการรักษาสุขภาพจิต
………………………………………
F32F8 วิตกกังวลสูงเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต (Severe
anxiety)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต
เช่น กังวลว่าอาการซึมเศร้าจะกลับมา, กังวลเกี่ยวกับการใช้ยา,
หรือกังวลเกี่ยวกับอนาคตในการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว
O: ผู้ป่วยแสดงอาการวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด เช่น การกระสับกระส่าย,
เหงื่อออก, การพูดเร็ว, หรือแสดงท่าทางเครียดเมื่อพูดถึงเรื่องการรักษาหรืออนาคต
Goals
·
ผู้ป่วยจะสามารถระบุแหล่งที่มาของความวิตกกังวลได้ภายใน
2 วัน
·
ผู้ป่วยจะสามารถใช้กลไกการรับมือกับความวิตกกังวลที่มีประสิทธิภาพได้ภายใน
1 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะรู้สึกมั่นใจและสบายใจมากขึ้นเกี่ยวกับการรักษาภายใน
2 สัปดาห์
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถบอกแหล่งที่มาของความวิตกกังวลได้
เช่น ความกลัวว่าการรักษาจะไม่ได้ผล
·
ผู้ป่วยเริ่มใช้เทคนิคการบำบัดหรือวิธีการรับมือกับความวิตกกังวล
เช่น การหายใจลึก หรือการใช้ทักษะการผ่อนคลาย
·
ผู้ป่วยแสดงท่าทางสงบและมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต
Intervention
·
F32F8I-1 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา
เช่น ผลข้างเคียงของยาและขั้นตอนการบำบัด เพื่อให้เข้าใจและลดความวิตกกังวล
·
F32F8I-2 สอนเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น
การฝึกหายใจลึก, การทำสมาธิ, หรือการใช้ภาพจินตนาการเชิงบวก
·
F32F8I-3 ใช้การบำบัดด้วยความคิด
(Cognitive Behavioral Therapy - CBT) เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยระบุและทบทวนความคิดที่เป็นอุปสรรคในการจัดการกับความวิตกกังวล
·
F32F8I-4 กระตุ้นให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายเล็กๆ
และทำตามแผนการรักษาเพื่อเสริมความมั่นใจในกระบวนการบำบัด
Response
·
F32F8R-1 ผู้ป่วยเริ่มใช้เทคนิคการผ่อนคลายเพื่อจัดการกับความวิตกกังวลและรู้สึกสงบขึ้น
·
F32F8R-2 ผู้ป่วยแสดงความมั่นใจมากขึ้นในการรักษาและการฟื้นฟูตัวเอง
·
F32F8R-3 ความวิตกกังวลของผู้ป่วยลดลง โดยสามารถจัดการกับความกังวลเกี่ยวกับการรักษาและอนาคตได้ดีขึ้น
……………………………………………
F32F9 ภาวะซึมเศร้าที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาก่อนหน้า (Ineffective treatment response)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่ามีอาการซึมเศร้ายังคงอยู่ แม้ได้รับการรักษาทั้งยาและการบำบัดในอดีต
ผู้ป่วยรู้สึกว่ายาไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการหรือมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
O: ผู้ป่วยยังคงแสดงอาการซึมเศร้ารุนแรง เช่น รู้สึกหมดหวัง,
เบื่อหน่าย, ไม่มีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ,
และไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
Goals
·
ผู้ป่วยจะสามารถระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่ทำให้การรักษาก่อนหน้ายังไม่ได้ผลภายใน
3 วัน
·
ผู้ป่วยจะสามารถร่วมมือกับแพทย์ในการปรับแผนการรักษาหรือเปลี่ยนแปลงการรักษาภายใน
1 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงการตอบสนองที่ดีขึ้นต่อการรักษาภายใน
2 สัปดาห์ เช่น มีพลังงานเพิ่มขึ้นหรือเริ่มมีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถระบุสาเหตุที่ทำให้การรักษาก่อนหน้ายังไม่สำเร็จ
เช่น ผลข้างเคียงจากยา หรือการไม่ตอบสนองต่อการบำบัด
·
ผู้ป่วยมีความร่วมมือในการปรับแผนการรักษาหรือเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษา
·
อาการซึมเศร้าของผู้ป่วยเริ่มดีขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น
เช่น เริ่มมีกิจกรรมที่สนใจหรือสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น
Intervention
·
F32F9I-1 ประเมินและหารือเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ป่วยกับการรักษาก่อนหน้า
รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากยาและการบำบัด
·
F32F9I-2 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยร่วมมือกับแพทย์ในการปรับยา
หรือเปลี่ยนการบำบัด เช่น การปรับยาใหม่หรือการใช้วิธีบำบัดที่เหมาะสม
·
F32F9I-3 สอนเทคนิคการรับมือกับอาการซึมเศร้าที่มีประสิทธิภาพ
เช่น การฝึกการผ่อนคลายหรือการใช้กลยุทธ์การปรับความคิด
·
F32F9I-4 ส่งเสริมการดูแลตัวเอง เช่น
การนอนหลับที่เพียงพอ, การออกกำลังกายเบาๆ, และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
·
Response
·
F32F9R-1 ผู้ป่วยเริ่มมีการตอบสนองต่อการรักษา เช่น อาการซึมเศร้าลดลงหรือสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ดีขึ้น
·
F32F9R-2 ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับแผนการรักษาที่ปรับใหม่และมีความร่วมมือในการรักษา
·
F32F9R-3 ผู้ป่วยมีพลังงานและความสนใจในการทำกิจกรรมมากขึ้นและสามารถจัดการกับอารมณ์ได้ดีขึ้น
………………………………………
F32F10 เสี่ยงต่อการกลับมาซึมเศร้า (Risk for
relapse)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกดีขึ้นหลังการรักษา แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการละเลยการรักษาในอนาคต
เช่น กลัวว่าจะหยุดยาเองหรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์
O: ผู้ป่วยแสดงท่าทีไม่สนใจการรักษาหรือแสดงท่าทางไม่แน่ใจในการติดตามการรักษาต่อเนื่อง
เช่น การไม่มาหมอในนัดหมาย หรือการข้ามการรับประทานยา
Goals
·
ผู้ป่วยจะมีความเข้าใจและยอมรับถึงความสำคัญของการรักษาต่อเนื่องภายใน
3 วัน
·
ผู้ป่วยจะสามารถทำตามแผนการรักษาและการติดตามผลการรักษาได้ต่อเนื่องภายใน
1 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะสามารถระบุสัญญาณเตือนของอาการซึมเศร้าที่กลับมาได้ภายใน
2 สัปดาห์
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถระบุถึงความสำคัญของการรักษาต่อเนื่องและการติดตามผลกับแพทย์
·
ผู้ป่วยทำตามคำแนะนำในการรักษา เช่น รับประทานยาอย่างต่อเนื่องและมาตามนัดกับแพทย์
·
ผู้ป่วยสามารถตรวจจับสัญญาณของอาการซึมเศร้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
และแจ้งแพทย์หรือนักบำบัด
Intervention
·
F32F10I-1 อธิบายถึงความสำคัญของการรักษาต่อเนื่องและการติดตามผลการรักษาเพื่อป้องกันการกลับมาซึมเศร้า
·
F32F10I-2 ช่วยผู้ป่วยสร้างแผนการรักษาที่ชัดเจนและง่ายต่อการปฏิบัติตาม
เช่น การตั้งนาฬิกาปลุกหรือการใช้แอปพลิเคชันสำหรับเตือนความจำในการรับประทานยา
·
F32F10I-3 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีกลยุทธ์การเผชิญหน้ากับความเครียดและอารมณ์เพื่อป้องกันอาการซึมเศร้าในอนาคต
เช่น การฝึกหายใจลึกหรือการทำสมาธิ
·
F32F10I-4 ให้การสนับสนุนจากครอบครัวหรือเพื่อนเพื่อช่วยในการติดตามและสนับสนุนการรักษา
Response
·
F32F10R-1 ผู้ป่วยมีความมุ่งมั่นในการรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง
·
F32F10R-2 ผู้ป่วยเริ่มใช้กลยุทธ์ที่ได้เรียนรู้เพื่อจัดการกับความเครียดและอารมณ์
·
F32F10R-3 ผู้ป่วยสามารถตรวจจับอาการที่อาจกลับมาและแจ้งแพทย์หรือนักบำบัดได้ทันท่วงที
………………………………………………
F32F11 ขาดการประเมินอาการต่อเนื่อง (Failure to
assess ongoing symptoms)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่าอาการซึมเศร้ายังคงมีอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าแย่ลงหรือไม่
เนื่องจากไม่ได้รับการประเมินอาการอย่างต่อเนื่องจากทีมแพทย์
O: ผู้ป่วยมีอาการซึมเศร้า เช่น ความรู้สึกหมดกำลังใจหรือไม่สนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ
พลังงานลดลงและการนอนไม่หลับ แต่ไม่เคยมีการประเมินอาการโดยละเอียดในระยะยาว
Goals
·
ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มาเยี่ยมเพื่อให้การรักษาเหมาะสมและทันท่วงที
·
ผู้ป่วยจะมีการประเมินอาการซึมเศร้าทุกสัปดาห์หรือทุกครั้งที่พบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
·
ผู้ป่วยจะสามารถแจ้งความรู้สึกเกี่ยวกับอาการและพัฒนาการของโรคได้ภายใน
1 สัปดาห์
Evaluate Criteria
·
การประเมินอาการซึมเศร้าของผู้ป่วยดำเนินไปตามแผนการดูแล
·
อาการที่สำคัญ เช่น ความรู้สึกหมดกำลังใจ
หรืออาการด้านอื่นๆ ถูกบันทึกและแจ้งให้แพทย์ทราบ
·
ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกว่ามีการสนับสนุนและการดูแลอย่างเพียงพอในเรื่องการติดตามอาการ
Intervention
·
F32F11I-1 จัดให้มีการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องในการพบแพทย์หรือการนัดหมายถัดไป
โดยใช้เครื่องมือประเมินที่เหมาะสม เช่น GDS (Geriatric Depression Scale) หรือ PHQ-9 (Patient Health Questionnaire-9)
·
F32F11I-2 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยบันทึกอาการประจำวันเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินอาการในครั้งต่อไป
·
F32F11I-3 พูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง
เพื่อการรักษาและปรับเปลี่ยนแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์
Response
· F32F11R-1
ผู้ป่วยได้รับการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องตามแผนการดูแล
·
F32F11R-2 ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจและความร่วมมือในการบันทึกอาการเพื่อให้การประเมินอาการมีความแม่นยำ
·
F32F11R-3 ผู้ป่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้สึกหรืออาการซึมเศร้าของตนเอง
เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
………………………………………
F32F12 ส่งเสริมทักษะจัดการกับความเครียดและอารมณ์ (Promote
stress and emotional management skills)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่าไม่สามารถจัดการกับความเครียดและอารมณ์ได้ดี
โดยมักรู้สึกหงุดหงิดและวิตกกังวลเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่เครียด
O: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่มีความเครียดสูง เช่น การพูดหรือทำการกระทำที่ไม่สามารถควบคุมได้
การแสดงอารมณ์หงุดหงิดหรือไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ผู้ป่วยไม่ได้ใช้ทักษะในการจัดการความเครียดที่เหมาะสม
Goals
·
ผู้ป่วยจะเรียนรู้และฝึกใช้ทักษะในการจัดการกับความเครียดและอารมณ์ในสถานการณ์ที่ท้าทาย
โดยเริ่มจากการฝึกหายใจลึกๆ หรือเทคนิคการผ่อนคลาย
·
ผู้ป่วยจะสามารถแสดงความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม
และมีวิธีการจัดการอารมณ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เครียดได้ภายใน 2 สัปดาห์
·
ผู้ป่วยจะใช้ทักษะในการจัดการอารมณ์เพื่อปรับสภาพจิตใจเมื่อเผชิญกับสถานการณ์กดดัน
Evaluate Criteria
·
ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการที่ใช้ในการจัดการความเครียดและอารมณ์ได้
·
ผู้ป่วยแสดงการใช้ทักษะที่ได้รับการฝึกฝนในการจัดการกับความเครียดในสถานการณ์ที่พบเจอ
·
ผู้ป่วยสามารถลดการแสดงออกของอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมและใช้ทักษะในการควบคุมอารมณ์ในชีวิตประจำวันได้
Intervention
·
F32F12I-1 สอนทักษะการหายใจลึกๆ และการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
เช่น เทคนิคการหายใจแบบลึก ๆ (Deep Breathing Exercises) หรือการฝึกสมาธิ
(Mindfulness) เพื่อช่วยลดความเครียดและอารมณ์
·
F32F12I-2 สอนให้ผู้ป่วยระบุอารมณ์ของตนเอง
และแนะนำวิธีการเปลี่ยนความคิดหรือมุมมองในสถานการณ์ที่เครียด เช่น การใช้ทักษะการคิดเชิงบวก
(Cognitive Behavioral Therapy - CBT)
·
F32F12I-3 แนะนำให้ผู้ป่วยตั้งเป้าหมายเล็ก
ๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อลดความเครียดจากงานหรือปัญหาชีวิต
·
F32F12I-4 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย
เช่น การออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ
Response
·
F32F12R-1 ผู้ป่วยสามารถนำทักษะที่เรียนรู้มาใช้ในการจัดการกับความเครียดและอารมณ์ได้
·
F32F12R-2 ผู้ป่วยแสดงให้เห็นถึงการลดลงของอารมณ์หงุดหงิดและความเครียดในสถานการณ์ที่เครียด
·
F32F12R-3 ผู้ป่วยมีการปรับตัวและรู้สึกมีความมั่นคงในด้านอารมณ์มากขึ้น
และสามารถรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น
...................................................................
พยาธิสภาพของโรคซึมเศร้า
การรักษาโรคซึมเศร้าประกอบด้วย การใช้ยา เพื่อลดอาการเศร้าและปรับสมดุลสารเคมีในสมอง จิตบำบัด เช่น การพูดคุยปรับความคิดและพฤติกรรม การดูแลตนเอง เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ การสนับสนุนจากครอบครัว โดยให้กำลังใจและรับฟังอย่างเข้าใจ หากอาการรุนแรง เช่น มีความคิดฆ่าตัวตาย ควรรีบพบแพทย์หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323
การพยาบาลโรคซึมเศร้าควรให้การดูแลแบบองค์รวม โดย เฝ้าระวังอาการซึมเศร้าและความเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง สนับสนุนให้ผู้ป่วยรับประทานยาและเข้ารับการบำบัดตามแผนการรักษา ให้กำลังใจ รับฟังอย่างเข้าใจ ส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย และสนับสนุนครอบครัวในการดูแลผู้ป่วย หากพบอาการรุนแรง ควรรีบแจ้งแพทย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
Nursing
diagnosis
1. F32F1:
มีภาวะซึมเศร้า (Depressed mood)
2. F32F2: ขาดพลังใจหรือความเหนื่อยล้า (Low energy))
3. F32F3:
เสี่ยงต่อความคิดฆ่าตัวตาย (Risk of self-harm
or suicidal ideation)
4. F32F4: เสี่ยงต่อการไม่สามารถดูแลตนเอง (Risk for impaired
self-care)
5. F32F5: เจ็บป่วยทางจิตที่เรื้อรัง (Chronic mental
health risk)
6. F32F6: สูญเสียความรู้สึกสนุกสนาน (Ineffective coping)
7. F32F7: เสี่ยงต่อเกิดซึมเศร้าในอนาคต (Risk for
recurrence of depression)
9. F32F9: ภาวะซึมเศร้าที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาก่อนหน้า (Ineffective
treatment response)
10. F32F10: เสี่ยงต่อการกลับมาซึมเศร้า (Risk for relapse)
11. F32F11: ขาดการประเมินอาการต่อเนื่อง (Failure to assess
ongoing symptoms)
12. F32F12: ส่งเสริมทักษะจัดการกับความเครียดและอารมณ์ (Promote stress and
emotional management skills)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่า "รู้สึกเศร้า หมดกำลังใจ ไม่มีความสุขในชีวิต" และมีความรู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตไม่มีความหมาย
O: ผู้ป่วยมีการแสดงออกของอารมณ์ซึมเศร้า เช่น การพูดหรือทำหน้าท่าทางที่เศร้า ตอบคำถามด้วยเสียงเบา หรือหลีกเลี่ยงการสนทนา และพฤติกรรมช้าลง
Goals
· ผู้ป่วยจะรายงานความรู้สึกเศร้าลดลงในช่วงเวลา 2 สัปดาห์
· ผู้ป่วยจะพัฒนาความสามารถในการมองโลกในแง่ดีและมีความหวังในอนาคตภายใน 4 สัปดาห์
· ผู้ป่วยสามารถบอกได้ว่าอารมณ์เศร้าลดลงและมีความรู้สึกดีขึ้น
· ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การทำงานหรือพบปะสังคม
· ผู้ป่วยสามารถแสดงถึงความหวังและความเชื่อมั่นในอนาคต
Intervention
· F32F1I-1 ใช้เทคนิคการให้คำปรึกษาและฟังอย่างใส่ใจเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถระบายความรู้สึกและค้นหาวิธีในการรับมือกับอารมณ์เศร้า
· F32F1I-2 ส่งเสริมการใช้กิจกรรมทางกายที่ช่วยเพิ่มสารเคมีในสมอง เช่น การออกกำลังกาย เพื่อปรับปรุงอารมณ์
· F32F1R-1 ผู้ป่วยรายงานว่าอารมณ์เศร้าลดลงและรู้สึกมีความหวังในชีวิตมากขึ้น
· F32F1R-2 ผู้ป่วยกลับมาทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น การทำงาน หรือการดูแลตนเอง
F32F2 ขาดพลังใจ หรือความเหนื่อยล้า (Low energy)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่า "รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา ไม่มีพลังงานที่จะทำกิจกรรมใดๆ" และบอกว่า "แม้แต่การทำกิจวัตรประจำวันก็รู้สึกเหนื่อย"
O: ผู้ป่วยแสดงท่าทางช้าๆ เดินช้า มีการตอบสนองช้าในระหว่างการสนทนา การทำกิจกรรมต่างๆ ต้องใช้ความพยายามมากขึ้น
Goals
· ผู้ป่วยจะมีระดับพลังงานที่สูงขึ้นและสามารถทำกิจกรรมที่เคยทำได้ภายใน 2 สัปดาห์
Evaluate Criteria
· ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น การทำงาน, ทานอาหาร, และการออกกำลังกาย
· ผู้ป่วยสามารถแสดงการมีพลังในการใช้ชีวิตและรู้สึกสนุกกับกิจกรรมที่ทำ
Intervention
· F32F2I-1 แนะนำให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่ไม่หนักเกินไป เช่น การเดินเล่นในที่โล่งแจ้ง การออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยกระตุ้นพลังงาน
· F32F2R-1 ผู้ป่วยรายงานว่ารู้สึกมีพลังงานมากขึ้นและสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป
F32F3 เสี่ยงต่อความคิดฆ่าตัวตาย (Risk of self-harm or suicidal ideation))
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่า "มีความคิดอยากตาย" และ "รู้สึกไม่มีความหมายในชีวิต" บางครั้งรู้สึกว่าชีวิตไม่คุ้มค่าที่จะมีอยู่
O: ผู้ป่วยดูซึมเศร้า น้ำเสียงเบาและไม่แสดงความสนใจในกิจกรรมต่างๆ มีอารมณ์เศร้าและแสดงอาการท้อแท้ต่อการรักษา
Goals
· ผู้ป่วยจะรายงานความคิดฆ่าตัวตายลดลงภายใน 1 สัปดาห์
· ผู้ป่วยรายงานว่าความคิดฆ่าตัวตายลดลงและไม่มีความคิดที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง
· ผู้ป่วยสามารถระบุวิธีการรับมือกับความคิดฆ่าตัวตาย เช่น การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญหรือการใช้วิธีผ่อนคลาย
· ผู้ป่วยมีการปรับทัศนคติในชีวิตและแสดงท่าทางบวกขึ้น เช่น การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม
Intervention
· F32F3I-1 การประเมินความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การถามเกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายและการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่อาจเสี่ยง
· F32F3R-1 ผู้ป่วยรายงานว่าความคิดฆ่าตัวตายลดลงและไม่มีแผนที่จะทำร้ายตัวเอง
F32F4 เสี่ยงต่อการไม่สามารถดูแลตนเอง (Risk for impaired self-care)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานรู้สึกหมดกำลังใจในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การทำความสะอาดตัวเอง หรือการรับประทานอาหาร
O: พบผู้ป่วยมีอาการซึมเศร้า ร่างกายซูบผอม และมีกิจวัตรประจำวันลดลง เช่น ไม่สามารถทำความสะอาดตัวเอง หรือทานอาหารได้ตามปกติ
Goals
· ผู้ป่วยจะสามารถดูแลตนเองในกิจวัตรประจำวัน เช่น การทำความสะอาดตัวเองและการรับประทานอาหารได้ภายใน 1 สัปดาห์
· ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการดูแลตนเองได้
· ผู้ป่วยสามารถทำความสะอาดตัวเองและรับประทานอาหารโดยไม่มีความช่วยเหลือจากบุคลากร
· ผู้ป่วยเริ่มแสดงความสนใจในการทำกิจกรรมประจำวันมากขึ้น
Intervention
· F32F4I-1 ให้การสนับสนุนในการทำกิจกรรมประจำวัน โดยเริ่มจากกิจกรรมง่ายๆ เช่น การช่วยผู้ป่วยทำความสะอาดตัวเอง
· F32F4R-1 ผู้ป่วยเริ่มมีความสนใจในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการดูแลตนเองมากขึ้น และสามารถทำความสะอาดตัวเองและรับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
F32F5 เจ็บป่วยทางจิตที่เรื้อรัง (Chronic mental health risk)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานรู้สึกซึมเศร้าเรื้อรังและมีประวัติการกลับมาเป็นซึมเศร้าหลายครั้งในอดีต
O: พบอาการซึมเศร้ารุนแรงต่อเนื่อง มีการพูดหรือการแสดงออกถึงความรู้สึกหมดกำลังใจในระยะยาว การแสดงท่าทางและความคิดที่มีแนวโน้มในการลดลงในแง่ของพลังชีวิต
Goals
· ผู้ป่วยจะสามารถรับรู้และจัดการกับอาการซึมเศร้าได้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกำเริบในอนาคต
· ผู้ป่วยจะสามารถแสดงท่าทางที่เป็นบวกและมีความหวังในอนาคตภายใน 2 สัปดาห์
Evaluate Criteria
· ผู้ป่วยสามารถอธิบายความเสี่ยงจากภาวะซึมเศร้าและวิธีการจัดการกับมันได้
· ผู้ป่วยสามารถแสดงอาการที่เป็นบวกหรือสนใจในกิจกรรมในชีวิตประจำวันมากขึ้น
· ผู้ป่วยมีท่าทีในเชิงบวกและเริ่มแสดงความหวังเกี่ยวกับอนาคต
Intervention
· F32F5I-1 จัดให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม ทั้งทางการแพทย์และจิตวิทยา เช่น การใช้ยารักษาซึมเศร้า หรือการบำบัดทางจิต
· F32F5R-1 ผู้ป่วยเริ่มรับรู้และเข้าใจในอาการซึมเศร้าและมีการใช้ทักษะการจัดการอารมณ์
F32F6 สูญเสียความรู้สึกสนุกสนาน (Ineffective coping)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานรู้สึกว่าไม่สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมหรือสิ่งที่เคยชอบทำ เช่น การอ่านหนังสือ, การออกกำลังกาย หรือการพบปะกับเพื่อน
O: พบผู้ป่วยมีท่าทางซึมเศร้า ไม่มีความสนใจในกิจกรรมหรือสิ่งแวดล้อมที่เคยชอบ และแสดงความรู้สึกหมดกำลังใจในการทำกิจกรรมต่างๆ
Goals
· ผู้ป่วยจะสามารถระบุและกลับมาทำกิจกรรมที่เคยสนุกได้ภายใน 1 สัปดาห์
Evaluate Criteria
· ผู้ป่วยสามารถบอกได้ว่าเคยสนุกกับกิจกรรมอะไรบ้าง
· ผู้ป่วยเริ่มกลับมาทำกิจกรรมที่เคยสนุกหรือแสดงความสนใจในกิจกรรมใหม่
· ผู้ป่วยมีความสามารถในการระบุและใช้กลไกในการรับมือกับความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ
Intervention
· F32F6I-1 สนับสนุนให้ผู้ป่วยเริ่มทำกิจกรรมที่เคยชอบ เช่น การอ่านหนังสือ การออกกำลังกาย หรือการทำงานอดิเรกที่มีความสุข
· F32F6R-1 ผู้ป่วยเริ่มกลับมาทำกิจกรรมที่เคยสนุก เช่น การพูดคุยกับเพื่อนหรือออกกำลังกาย
F32F7 เสี่ยงต่อเกิดซึมเศร้าในอนาคต (Risk for recurrence of depression)
Assessment
S: ผู้ป่วยมีประวัติซึมเศร้าในอดีตและรายงานว่าเมื่อมีความเครียดหรือปัญหาชีวิต จะรู้สึกเหมือนกับอาการซึมเศร้าเริ่มกลับมาอีกครั้ง
O: พบว่าอาการซึมเศร้าเริ่มดีขึ้น แต่ยังมีการพูดถึงเหตุการณ์ที่อาจกระตุ้นให้เกิดความเครียดหรือซึมเศร้าในอนาคต เช่น ปัญหาทางการเงิน, ความสัมพันธ์ หรือการงาน
Goals
· ผู้ป่วยจะสามารถระบุปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดซึมเศร้าในอนาคตได้ภายใน 1 สัปดาห์
Evaluate Criteria
· ผู้ป่วยสามารถบอกได้ถึงปัจจัยที่อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าในอนาคต
· ผู้ป่วยสามารถแสดงการใช้ทักษะในการรับมือกับปัญหาที่อาจกระตุ้นอาการซึมเศร้า
· ผู้ป่วยมีการปฏิบัติตามแผนการรักษาต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเกิดซึมเศร้า
Intervention
· F32F7I-1 ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการระบุและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจกระตุ้นอาการซึมเศร้า เช่น ความเครียดจากการทำงานหรือความสัมพันธ์
· F32F7R-1 ผู้ป่วยสามารถรับมือกับปัญหาหรือปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เกิดซึมเศร้าในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
F32F8 วิตกกังวลสูงเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต (Severe anxiety)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต เช่น กังวลว่าอาการซึมเศร้าจะกลับมา, กังวลเกี่ยวกับการใช้ยา, หรือกังวลเกี่ยวกับอนาคตในการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว
O: ผู้ป่วยแสดงอาการวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด เช่น การกระสับกระส่าย, เหงื่อออก, การพูดเร็ว, หรือแสดงท่าทางเครียดเมื่อพูดถึงเรื่องการรักษาหรืออนาคต
Goals
· ผู้ป่วยจะสามารถระบุแหล่งที่มาของความวิตกกังวลได้ภายใน 2 วัน
· ผู้ป่วยสามารถบอกแหล่งที่มาของความวิตกกังวลได้ เช่น ความกลัวว่าการรักษาจะไม่ได้ผล
· ผู้ป่วยเริ่มใช้เทคนิคการบำบัดหรือวิธีการรับมือกับความวิตกกังวล เช่น การหายใจลึก หรือการใช้ทักษะการผ่อนคลาย
· ผู้ป่วยแสดงท่าทางสงบและมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการรักษาและอนาคต
Intervention
· F32F8I-1 ส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา เช่น ผลข้างเคียงของยาและขั้นตอนการบำบัด เพื่อให้เข้าใจและลดความวิตกกังวล
· F32F8R-1 ผู้ป่วยเริ่มใช้เทคนิคการผ่อนคลายเพื่อจัดการกับความวิตกกังวลและรู้สึกสงบขึ้น
F32F9 ภาวะซึมเศร้าที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาก่อนหน้า (Ineffective treatment response)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่ามีอาการซึมเศร้ายังคงอยู่ แม้ได้รับการรักษาทั้งยาและการบำบัดในอดีต ผู้ป่วยรู้สึกว่ายาไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการหรือมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
O: ผู้ป่วยยังคงแสดงอาการซึมเศร้ารุนแรง เช่น รู้สึกหมดหวัง, เบื่อหน่าย, ไม่มีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ, และไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
Goals
· ผู้ป่วยจะสามารถระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่ทำให้การรักษาก่อนหน้ายังไม่ได้ผลภายใน 3 วัน
· ผู้ป่วยสามารถระบุสาเหตุที่ทำให้การรักษาก่อนหน้ายังไม่สำเร็จ เช่น ผลข้างเคียงจากยา หรือการไม่ตอบสนองต่อการบำบัด
· ผู้ป่วยมีความร่วมมือในการปรับแผนการรักษาหรือเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษา
· อาการซึมเศร้าของผู้ป่วยเริ่มดีขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น เริ่มมีกิจกรรมที่สนใจหรือสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น
Intervention
· F32F9I-1 ประเมินและหารือเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ป่วยกับการรักษาก่อนหน้า รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากยาและการบำบัด
F32F10 เสี่ยงต่อการกลับมาซึมเศร้า (Risk for relapse)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานความรู้สึกดีขึ้นหลังการรักษา แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการละเลยการรักษาในอนาคต เช่น กลัวว่าจะหยุดยาเองหรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์
O: ผู้ป่วยแสดงท่าทีไม่สนใจการรักษาหรือแสดงท่าทางไม่แน่ใจในการติดตามการรักษาต่อเนื่อง เช่น การไม่มาหมอในนัดหมาย หรือการข้ามการรับประทานยา
Goals
· ผู้ป่วยจะมีความเข้าใจและยอมรับถึงความสำคัญของการรักษาต่อเนื่องภายใน 3 วัน
· ผู้ป่วยสามารถระบุถึงความสำคัญของการรักษาต่อเนื่องและการติดตามผลกับแพทย์
· ผู้ป่วยทำตามคำแนะนำในการรักษา เช่น รับประทานยาอย่างต่อเนื่องและมาตามนัดกับแพทย์
· ผู้ป่วยสามารถตรวจจับสัญญาณของอาการซึมเศร้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และแจ้งแพทย์หรือนักบำบัด
Intervention
· F32F10I-1 อธิบายถึงความสำคัญของการรักษาต่อเนื่องและการติดตามผลการรักษาเพื่อป้องกันการกลับมาซึมเศร้า
· F32F10R-1 ผู้ป่วยมีความมุ่งมั่นในการรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง
F32F11 ขาดการประเมินอาการต่อเนื่อง (Failure to assess ongoing symptoms)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่าอาการซึมเศร้ายังคงมีอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าแย่ลงหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้รับการประเมินอาการอย่างต่อเนื่องจากทีมแพทย์
O: ผู้ป่วยมีอาการซึมเศร้า เช่น ความรู้สึกหมดกำลังใจหรือไม่สนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ พลังงานลดลงและการนอนไม่หลับ แต่ไม่เคยมีการประเมินอาการโดยละเอียดในระยะยาว
Goals
· ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มาเยี่ยมเพื่อให้การรักษาเหมาะสมและทันท่วงที
· ผู้ป่วยจะมีการประเมินอาการซึมเศร้าทุกสัปดาห์หรือทุกครั้งที่พบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
· ผู้ป่วยจะสามารถแจ้งความรู้สึกเกี่ยวกับอาการและพัฒนาการของโรคได้ภายใน 1 สัปดาห์
· การประเมินอาการซึมเศร้าของผู้ป่วยดำเนินไปตามแผนการดูแล
· อาการที่สำคัญ เช่น ความรู้สึกหมดกำลังใจ หรืออาการด้านอื่นๆ ถูกบันทึกและแจ้งให้แพทย์ทราบ
· ผู้ป่วยแสดงความรู้สึกว่ามีการสนับสนุนและการดูแลอย่างเพียงพอในเรื่องการติดตามอาการ
Intervention
· F32F11I-1 จัดให้มีการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องในการพบแพทย์หรือการนัดหมายถัดไป โดยใช้เครื่องมือประเมินที่เหมาะสม เช่น GDS (Geriatric Depression Scale) หรือ PHQ-9 (Patient Health Questionnaire-9)
· F32F11R-1 ผู้ป่วยได้รับการประเมินอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องตามแผนการดูแล
· F32F11R-2 ผู้ป่วยแสดงความเข้าใจและความร่วมมือในการบันทึกอาการเพื่อให้การประเมินอาการมีความแม่นยำ
F32F12 ส่งเสริมทักษะจัดการกับความเครียดและอารมณ์ (Promote stress and emotional management skills)
Assessment
S: ผู้ป่วยรายงานว่าไม่สามารถจัดการกับความเครียดและอารมณ์ได้ดี โดยมักรู้สึกหงุดหงิดและวิตกกังวลเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่เครียด
O: ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่มีความเครียดสูง เช่น การพูดหรือทำการกระทำที่ไม่สามารถควบคุมได้ การแสดงอารมณ์หงุดหงิดหรือไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ผู้ป่วยไม่ได้ใช้ทักษะในการจัดการความเครียดที่เหมาะสม
Goals
· ผู้ป่วยจะเรียนรู้และฝึกใช้ทักษะในการจัดการกับความเครียดและอารมณ์ในสถานการณ์ที่ท้าทาย โดยเริ่มจากการฝึกหายใจลึกๆ หรือเทคนิคการผ่อนคลาย
· ผู้ป่วยจะสามารถแสดงความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม และมีวิธีการจัดการอารมณ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เครียดได้ภายใน 2 สัปดาห์
Evaluate Criteria
· ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการที่ใช้ในการจัดการความเครียดและอารมณ์ได้
· ผู้ป่วยแสดงการใช้ทักษะที่ได้รับการฝึกฝนในการจัดการกับความเครียดในสถานการณ์ที่พบเจอ
· ผู้ป่วยสามารถลดการแสดงออกของอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมและใช้ทักษะในการควบคุมอารมณ์ในชีวิตประจำวันได้
Intervention
· F32F12I-1 สอนทักษะการหายใจลึกๆ และการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น เทคนิคการหายใจแบบลึก ๆ (Deep Breathing Exercises) หรือการฝึกสมาธิ (Mindfulness) เพื่อช่วยลดความเครียดและอารมณ์
· F32F12R-1 ผู้ป่วยสามารถนำทักษะที่เรียนรู้มาใช้ในการจัดการกับความเครียดและอารมณ์ได้